รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 361 หนี้ของพ่อลูกต้องชดใช
“ใช่ แต่ว่าสิ่งนี้ถือเป็นหลักฐานที่จะบ่งชี้ความจริง อย่างแรกก็คือสัญญาการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม มีตำรวจและสถานสงเคราะห์เป็นผู้พิสูจน์ อีกทั้งยังมีการประทับตรา นี่เป็นไปไม่ได้ว่าจะเป็นของปลอม มิฉะนั้นก็คงจะผิดกฎหมาย ผมเยี่ยมบุญคงไม่โง่ที่จะทำผิดกฎหมายต่อหน้าสาธารณชนหรอก ?”เยี่ยมบุญมองไปยังกลุ่มนักข่าว พลางพูดขึ้นอย่างเย็นชา
พวกนักข่าวและผู้ชมที่ชมผ่านการถ่ายทอดสดต่างหมดคำพูด
เพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นความจริง
เพราะหากเป็นเรื่องโกหก เยี่ยมบุญคงไม่กล้าบอกต่อหน้าสาธารณชนว่ามีตราประทับอย่างเป็นทางการของตำรวจและสถานสงเคราะห์ หากตำรวจและสถานสงเคราะห์ออกมาบอกว่าไม่มี ถ้าอย่างนั้นเยี่ยมบุญก็เท่ากับว่าส่งตัวเองลงหลุมไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้นส้มเปรี้ยวไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเยี่ยมบุญ งั้นก็เป็นความจริงล่ะสิ?
จากนั้นเยี่ยมบุญก็พูดขึ้นอีก:“อีกอย่างในส่วนของกรุ๊ปเลือดของส้มเปรี้ยว ผมสามารถขอให้ตำรวจดีเอ็นเอมีการตรวจสอบดีเอ็นเอต่อหน้าสาธารณะ!”
แม้แต่การตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกจากดีเอ็นเอเขาก็ยังกล้า ดูเหมือนว่าส้มเปรี้ยวจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขาจริงๆ
เหล่านักข่าวต่างรีบพูดว่า:“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ประธานเยี่ยมบุญ พวกเราเชื่อคุณแล้ว”
ส้มเปรี้ยวเห็นเยี่ยมบุญทั้งหยิบหลักฐานใบรับรองการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมออกมา ทั้งยังต้องการที่จะตรวจดีเอ็นเอ ทำให้หัวสมองของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ในเวลานี้ หล่อนไม่สามารถโกหกตัวเองได้อีกแล้วว่าตนเป็นลูกแท้ๆของเยี่ยมบุญ
“อ่า อ่า อ่า อ่า!”ส้มเปรี้ยวตะโกนร้องคำรามออกมาด้วยความบ้าคลั่ง ทำให้ตำรวจที่อยู่ข้างนอกต่างตกอกตกใจ รีบเปิดประตูเข้ามาถาม“คุณเป็นอะไรเหรอครับ?”
ส้มเปรี้ยวไม่ได้สนใจในความเป็นห่วงของตำรวจ หล่อนจ้องเขม็งไปที่โทรทัศน์ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม!
ทำไม?
ทำไมหล่อนถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆ!
แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เยี่ยมบุญจะพูดออกมาทำไม อีกทั้งยังทำลายศักดิ์ศรีของหล่อนในที่สาธารณะ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของหล่อน!
หล่อนไม่ยอม หล่อนไม่ยอม!
ส้มเปรี้ยวสั่นไปทั้งตัว ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ราวกับคนบ้า
ตำรวจเหลือบมองทีวีครู่หนึ่งและพอเดาออกว่าทำไมหล่อนถึงเป็นเช่นนี้ พลางมองดูหล่อนด้วยความเห็นอกเห็นใจ จากนั้นก็ปิดประตูแล้วเดินจากไป
สถานที่แถลงข่าว พวกนักข่าวต่างก็เห็นอกเห็นใจเยี่ยมบุญ
เพราะถึงยังไงก็เป็นเพราะลูกบุญธรรมที่ทำให้ตระกูลภักดีพิศุทธิ์และเอสซีกรุ๊ปถูกทำลายจนกลายเป็นแบบนี้ น่าสงสารจริงๆ
สำหรับกลุ่มคนที่ไม่พอใจที่เยี่ยมบุญตัดขาดความสัมพันธ์กับลูกสาวในตอนนี้ และในเวลานี้พวกเขาต่างไม่หลงเหลือความรู้สึกไม่พอใจนี้อีกแล้ว เหลือเพียงความรู้สึกปลงเท่านั้น
หากเป็นลูกสาวแท้ๆ และเยี่ยมบุญตัดขาดความสัมพันธ์ในตอนนี้ พวกเขาจะต้องก่นด่าเขาแน่ว่าเลือดเย็นไร้ความรู้สึก ไม่มีความเป็นพ่อ
แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็พิสูจน์ได้ว่าส้มเปรี้ยวไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ และแน่นอนว่าผลที่ออกมาก็คงไม่เหมือนกัน
ไม่ใช่ลูกแท้ๆ เลี้ยงมาจนโตขนาดนี้ ให้ชีวิตที่หรูหรากับหล่อนมาถึงยี่สิบปี อีกทั้งก่อนหน้านี้ตอนที่หล่อนทำผิด ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ไม่เคยทอดทิ้งหล่อน กระทั่งครั้งนี้ถึงได้ทอดทิ้งหล่อน ดังนั้นตระกูลภักดีพิศุทธิ์ทำได้ดีมากแล้ว กระทำอย่างเป็นธรรมแล้ว
ดังนั้นในเวลานี้เยี่ยมบุญทอดทิ้งส้มเปรี้ยว ผู้คนต่างเข้าใจได้
เพราะถึงยังไงคนที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆคนหนึ่ง แต่กลับทำลายครอบครัวจนกลายเป็นแบบนี้ ไม่สามารถนำสิ่งที่คุณเคยมีกลับคืนมาได้ ทำเพียงแค่ตัดความสัมพันธ์กับคุณ คุณควรที่จะรู้สึกโชคดี
และเช่นเดียวกัน บรรดาพวกนักธุรกิจที่ชมการแถลงข่าวนี้อยู่ เดิมทีเมื่อเห็นว่าเยี่ยมบุญต้องการตัดขาดความสัมพันธ์กับส้มเปรี้ยวและรู้สึกว่าเยี่ยมบุญคนคนนี้เลือดเย็นเกินไป เป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้
แต่ว่าตอนนี้ พวกเขาต่างเปลี่ยนความคิดแล้ว สามารถเลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่มาจากสถานสงเคราะห์จนเติบใหญ่ขนาดนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเยี่ยมบุญไม่ได้เป็นคนเลวอะไร จึงไม่ได้ยกเลิกความร่วมมือเหล่านั้น
โรงพยาบาล ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูเปปเปอร์“ที่แท้นี่ก็คือไพ่ใบสุดท้ายของเยี่ยมบุญ เปิดเผยสถานะของส้มเปรี้ยว ผลักส้มเปรี้ยวออกมา ทำให้ตระกูลภักดีพิศุทธิ์และเอสซีกรุ๊ปหลุดพ้น ไม่พูดคงไม่ได้ว่า จิ้งจอกเฒ่าคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆมีความสามารถจริงๆ”
เปปเปอร์ยิ้มอย่างเย็นชา“ทำลายคุณค่าสุดท้ายของส้มเปรี้ยว เขานั้นมีความสามารถจริงๆ แต่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาตระกูลภักดีพิศุทธิ์และส้มเปรี้ยวก็จะเป็นศัตรูกันอย่างแท้จริงแล้ว จากนิสัยของส้มเปรี้ยวที่เจ้าคิดเจ้าแค้น เมื่อออกมาแล้วจะต้องไม่ยอมปล่อยตระกูลภักดีพิศุทธิ์เป็นแน่”
“ใช่แล้ว”ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า จากนั้นพูดขึ้นว่า:“แต่ว่าความเจ้าเล่ห์ของเยี่ยมบุญ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคิดไม่ถึงเรื่องนี้ หรือว่าเขาจะไม่ยอมให้ส้มเปรี้ยวออกมา?”
นิ้วมือของเปปเปอร์เคาะที่ข้างเตียง“ถ้าหากเป็นเช่นนี้ งั้นก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ?”
ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้ม“ใช่”
ทั้งสองคิดเรื่องนี้ได้ แน่นอนว่ามายมิ้นท์ก็คิดได้เช่นเดียวกัน
ความคิดของเธอเป็นเช่นเดียวกับเปปเปอร์ หากเยี่ยมบุญกลัวว่าส้มเปรี้ยวจะออกมาแก้แค้น ก็เคยพยายามทำให้ส้มเปรี้ยวไม่สามารถออกมาจากคุกได้ และนั้นก็คือสิ่งที่เธอคิดได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอก็สามารถลดคนที่ต้องต่อกรลงไปหนึ่งคน เหลือเพียงต่อกรกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์เท่านั้น ซึ่งก็ดีแล้ว
มายมิ้นท์คิดพลางหรี่ตาเล็กน้อย
สถานที่จริง พวกนักข่าวยังคงถามต่อไป
“ประธานเยี่ยมบุญ ขอถามหน่อยนะคะว่าทำไมคุณกับภรรยาจึงได้รับเลี้ยง ส้มเปรี้ยว?”
เยี่ยมบุญตอบกลับว่า:“ช่วงก่อนหน้านี้ ข่าวที่ลูกสาวคนโตของผมกลับมาพวกคุณทราบใช่ไหมครับ?”
ฝูงชนพยักหน้า
แน่นอนว่าพวกเขาต่างรู้กัน เพราะใครๆก็รู้ว่าตระกูลภักดีพิศุทธิ์มีลูกสาวเพียงคนเดียว นั้นก็คือส้มเปรี้ยว ใครจะคิดว่าต่อมาตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่าลูกสาวคนโตกลับมาแล้ว ทั้งยังเป็นลูกแท้ๆของพวกเขาอีกด้วย
ตอนนั้นทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจ ในเมื่อเป็นลูกแท้ๆแล้วทำไมต้องปกปิดและเพิ่งจะมาเปิดเผยล่ะ
ดังนั้นตอนนี้สามารถรู้คำตอบแล้วใช่ไหม?
สายตาของฝูงชนมองไปยังเยี่ยมบุญ
เยี่ยมบุญเอ่ยปากพลางพูดขึ้นว่า“ยี่สิบหกปีก่อน ลูกสาวคนโตของผมถูกลักพาตัวไปแล้วโยนทิ้งลงน้ำ ผมคิดว่าลูกของผมตายไปแล้ว เรื่องนี้ทำให้จิตใจของภรรยาของผมเศร้าหมองมาโดยตลอด เพื่อปลอบใจภรรยาของผม ผมก็เลยไปรับส้มเปรี้ยวจากสถานสงเคราะห์มาเลี้ยง และก่อนหน้านี้ผมกับภรรยาทราบว่าลูกสาวคนโตของผมในตอนนั้นยังไม่ตาย ดังนั้นจึงรับกลับมา”
“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”ฝูงชนรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน
จากนั้น นักข่าวก็ไล่ถามว่า“ถ้าอย่างนั้นประธานเยี่ยมบุญ ใครเป็นคนลักพาตัวลูกสาวคนโตของคุณ และโยนลูกสาวของคุณลงน้ำ?”
คำถามนี้ เป็นคำถามที่นักข่าวคนอื่นและผู้ชมที่ชมการถ่ายทอดสดอยู่อยากรู้พอดี
เพราะถึงยังไงเรื่องซุบซิบนินทาของตระกูลเศรษฐี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวพันกับการกระทำผิด พวกเขาสนใจเป็นที่สุด
โรงพยาบาล ผู้ช่วยเหมันตร์ขมวดคิ้ว“ประธานเปปเปอร์ เยี่ยมบุญจะบอกว่าเป็นพ่อของคุณมายมิ้นท์หรือเปล่าครับ?”
เปปเปอร์พยักหน้า“ใช่”
“งั้นเขาจะประกาศไหมครับ?หากเป็นเช่นนี้ คุณมายมิ้นท์คงจะต้องเผชิญกับการปะทุในโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง”ผู้ช่วยเหมันตร์มองไปยังเปปเปอร์อย่างเป็นกังวล
เพราะถึงยังไงพ่อก็เป็นคนลักพาตัวคนอื่น ทั้งยังโยนลงน้ำโดยมีเจตนาฆ่าด้วย พฤติกรรมที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ จะต้องปลุกความโกรธแค้นของชาวเน็ตอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ไตรภูมิไม่อยู่แล้ว ดังนั้นความโกรธแค้นของชาวเน็ตก็จะมาลงที่คุณมายมิ้นท์ เพราะในสายตาของชาวเน็ต หนี้ของพ่อลูกสาวก็ต้องชดใช้
เมื่อถึงเวลานั้น สถานการณ์ที่คุณมายมิ้นท์ถูกโลกอินเทอร์เน็ตถล่ม จะต้องรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน
เปปเปอร์กำสองมัดแน่น สายตาทั้งคู่จ้องหน้าทีวีอย่างเคร่งขรึม“เขาไม่พูดหรอก และไม่กล้าพูดด้วย”
“ทำไมเหรอครับ?”ผู้ช่วยเหมันตร์ตะลึงงัน
มุมโค้งบริเวณริมฝีปากของเปปเปอร์เผยความเย็นชาออกมา“หากเขาพูด ตำรวจจะต้องตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ในเวลานั้นเพื่อที่จะขยายเอสซีกรุ๊ป เขาจึงใช้วิธีการขโมยเพื่อพัฒนางานวิจัยล่าสุดของเทนเดอร์กรุ๊ป อีกทั้งเรื่องที่บีบให้นักวิจัยคนหนึ่งต้องตาย แน่นอนว่าจะต้องถูกขุดคุ้ยอีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเขาก็คงตกที่นั่งลำบาก ในสายตาของคนนอกชวนชมไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่นักวิจัยนั้นได้ตายไปแล้วจริงๆ”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า
ที่แท้ก็เป็นอย่างที่เปปเปอร์พูด นอกจากเผยความโกรธแค้นออกมาแล้ว ก็ไม่ได้ตอบออกมาตามความจริง
เขาพูดอย่างเป็นนัยว่า:“ช่างเถอะ เรื่องราวก็ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหรอก เพราะถึงยังไงคนที่คิดฆ่าลูกสาวคนโตของผมในตอนนั้นก็ได้ตายไปแล้ว”
“ที่แท้ก็ตายไปแล้ว!”พวกนักข่าวต่างตะลึงงัน