รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 368 ถุงสีดำ
เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก พยายามกดทับความรู้สึกที่ไม่สบายไว้ในใจ โบกมือ บอกเป็นนัยให้ผู้ช่วยเหมันตร์เคาะประตู
ผู้ช่วยเหมันตร์เคาะประตูอย่างรู้ทัน
เสียงเคาะประตูขัดจังหว่ะการพูดคุยของลาเต้กับการันต์
ทั้งสองต่างหันศีรษะมาดู และมองเห็นเปปเปอร์
นอกจากการันต์จะรู้สึกประหลาดใจแล้ว ก็ไม่ได้มีการตอบสนองอะไร
เพียงแต่จู่ๆสีหน้าของลาเต้ก็บึ้งตึง“คุณมาได้ยังไง?ใครให้คุณมา?”
เปปเปอร์ไม่ได้ตอบคำถามเขา ให้ผู้ช่วยเหมันตร์เข็นเขาเข้าไป
ลาเต้เห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็แสดงท่าทีที่โมโหเป็นอย่างมาก“ เฮ้ ผมไม่ได้ให้คุณเข้ามาสักหน่อย คุณเข้ามาทำไม ไม่มีมารยาทเลย?”
“นี่คือห้องพักผู้ป่วยของมายมิ้นท์ ไม่จำเป็นต้องให้คุณอนุญาต!”เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นเหลือบมองเขา พลางพูดขึ้นอย่างราบเรียบ
แม้ว่าลาเต้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางได้ ทำได้เพียงฮึออกมาด้วยความเย็นชา:“คุณก็แค่ใช้โอกาสที่ที่รักยังไม่ตื่น ก็เลยกล้าพูดแบบนี้ ถ้าที่รักได้สติตื่นขึ้นมาแล้ว เธอต้องไม่ให้คุณเข้ามาอย่างแน่นอน”
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว ไม่ได้ใส่ใจเขา
ในสายตาของเปปเปอร์ คนอย่างลาเต้ ยิ่งคุณสนใจเขามากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งได้ใจ
หากไม่สนใจ สักพักก็จะหยุดเอง
เมื่อลาเต้เห็นเปปเปอร์ไม่พูดไม่จา ก็ยิ้มที่มุมปากอย่างภาคภูมิใจ“คุณไม่พูด แสดงว่าคุณยอมรับใช่ไหมว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกต้อง”
เปปเปอร์แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น มองไปยังมายมิ้นท์ที่อยู่บนเตียง จับที่เท้าแขนของรถเข็นพลางถามขึ้นว่า“มายมิ้นท์เป็นอะไรกันแน่?”
เขาหันไปมองยังการันต์
เดิมทีการันต์ยังคงดูละครฉากนี้อยู่
ฉากการแข่งขันของศัตรูด้านความรักนี้ เขาดูอย่างเพลิดเพลิน คิดไม่ถึงเลยว่าวินาทีต่อมา เปปเปอร์จะเป็นคนจบละครฉากนี้เสียเอง และถามคำถามเขา
ในเมื่อเขาถาม ก็ต้องตอบกลับอย่างตั้งใจ
การันต์ขยับแว่นตาของตนเองเล็กน้อย:“ศีรษะด้านหลังของเธอถูกคนจงใจทุบตี ก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนในระดับปานกลาง อีกทั้งยังมีข้อมือก็ถูกคนกรีดเนื้อไปส่วนหนึ่ง”
เมื่อพูดถึงข้อมือ การันต์หรี่สายตา
เมื่อวานนี้หลังจากที่เขาออกจากห้องผ่าตัด ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลนี้ได้บอกกับเขาว่า ลาเต้ได้พาผู้ป่วยที่ชื่อมายมิ้นท์มารักษาตัว ทำให้เขารู้ในทันทีว่าเลือดที่ตัวของลาเต้เป็นของมายมิ้นท์ จากนั้นจึงรีบหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการของมายมิ้นท์ เมื่อทราบข้อมูลแล้ว เขาจึงรีบดูวิดีโอการรักษาของมายมิ้นท์ และได้เห็นบาดแผลบริเวณศีรษะส่วนหลังและข้อมือของมายมิ้นท์
เพราะว่าในเวลานั้น มายมิ้นท์ได้รับความช่วยเหลือแล้ว บาดแผลที่ร่างกายพันแผลเรียบร้อยแล้ว เขาคงไม่สามารถเปิดออกได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงดูจากวิธีการนี้
บาดแผลที่ศีรษะส่วนหลัง เขายังพอเข้าใจได้ เพราะต้องการตีให้มายมิ้นท์สลบ
แต่ว่าบาดแผลที่ข้อมือของมายมิ้นท์ เข้านั้นไม่สามารถเข้าใจได้
หากคนที่ตีจนทำให้มายมิ้นท์สลบ ต้องการที่จะทำเพื่อการโจรกรรม หรืออยากทำอย่างอื่น ทุบตีให้สลบก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทำไมยังจะต้องกรีดเนื้อที่ข้อมือของมายมิ้นท์ด้วย อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งของไฝแดงนั้นด้วย
เมื่อดูจากวิดีโอนั้นพบว่าไฝแดงไม่มีแล้ว ซึ่งก็หมายความว่า คนที่ทำร้ายมายมิ้นท์จนสลบ มีจุดประสงค์ที่จะทำลายไฝแดงนั้น
“คุณว่ายังไงนะ?ถูกโจมตีอย่างมุ่งร้าย ใคร?”จู่ๆเปปเปอร์ก็ลุกขึ้นพลางกำหมัดแน่น
ลาเต้ประหลาดใจ“ แม่ง ที่แท้ไม่ได้พิการ”
เปปเปอร์เหลือบมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา พลางมองไปที่การันต์
การันต์ส่ายศีรษะ“ไม่ทราบครับ คุณควรถามเขา เพราะเขากำลังตรวจสอบอยู่”
“ผลการตรวจสอบล่ะ?”เปปเปอร์จ้องมองไปที่ลาเต้
ลาเต้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย?นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับที่รัก คุณไม่จำเป็นต้องแทรกแซง!”
สีหน้าของเปปเปอร์เย็นชา ความเย็นชาแผ่ไปทั่วร่างกาย
ลาเต้มองดูเขาอย่างระแวดระวัง“ทำไม!?อยากโมโหเหรอ อยากโมโหก็ไม่……”
เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเด็ก“คุณอาเปปเปอร์ ให้หนูพูดดีกว่าครับคุณอาลาเต้ยังจับคนที่ทำร้ายอาสะใภ้ไม่ได้ครับ !”
“เด็กน้อย……”ลาเต้มองดูไมโลที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ไม่ไกลนักอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เจ้าเด็กนี่ กล้าหักหลังเขา!
เปปเปอร์มองดูไมโล แววตาเผยความประหลาดใจออกมา
เจ้าเด็กคนนี้มาที่นี่ได้ยังไง?
อีกทั้งเขายังไม่ได้สังเกตเห็นมาโดยตลอด
แต่ว่าไม่นานเปปเปอร์ก็พอจะเข้าใจ พอเขาเข้ามา สายตาของเขาก็จับจ้องอยู่ที่เตียงผู้ป่วย ไม่ได้มองไปที่โซฟาเลยแม้แต่น้อย การที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นก็เป็นเรื่องปกติ
“ไมโล หนูบอกว่าเขายังจับไม่ได้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ?”เปปเปอร์มองไปยังไมโล พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงเล็กน้อย
ไมโลพยักหน้า“เป็นเรื่องจริงครับ ผมอยู่กับคุณอาลาเต้มาโดยตลอด ยืนยันได้ว่าเป็นความจริง”
“เจ้าหมอนี่ คันก้นนักใช่ไหม?”ลาเต้เดินมาอย่างใจจดใจจ่อ
ไมโลรีบกระโดดลงจากโซฟา แล้ววิ่งมาทางเปปเปอร์ หลังจากที่หลบซ่อนตัวอยู่ที่ข้างหลังเปปเปอร์แล้ว แล้วค่อยๆโผล่ศีรษะน้อยๆออกมา:“คุณอาลาเต้ อย่าโทษหนูเลยครับ หนูรู้จักกับคุณอาเปปเปอร์ เขามีอำนาจมาก คุณอากับตำรวจช่วยกันหามาทั้งคืนแล้ว ยังไม่รู้ตัวคนร้ายเลย ให้คุณอาเปปเปอร์จัดการ จะต้องรู้อย่างรวดเร็วแน่นอน”
“……”ลาเต้เม้มที่มุมปาก กังวลเล็กน้อย
แต่เขาก็ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่า คำพูดของไมโลนั้นก็มีเหตุผล
บริษัทตระกูลนวบดินทร์ของเปปเปอร์ ถือเป็นบริษัทแนวหน้าของเมืองเดอะซี ในเรื่องของอำนาจแน่นอนว่าเขาสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเปปเปอร์ แต่ว่าเห็นแก่ที่เปปเปอร์ก็ทำเพื่อที่รัก อดทนสักหน่อยเถอะ รีบจับคนเลวนั้นมาให้ได้ถึงจะถูก
มองดูลาเต้ที่เสียเปรียบ และมองดูไมโลที่ที่นับถือตนเป็นอย่างมาก ริมฝีปากของเปปเปอร์เผยมุมโค้งออกมาเล็กน้อย รังสีเย็นยะเยือกรอบกายจางหายไปไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดี
เขานั่งกลับไปยังรถเข็นอีกครั้ง พลางหันศีรษะมายังผู้ช่วยเหมันตร์“ไปตรวจสอบ แล้วจับคนเลวนั้นมาให้ได้!”
“ครับ!”ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า ออกไปโทรศัพท์
แน่นอนว่าเขาต้องสั่งให้ลูกน้องไปจัดการ
ประธานเปปเปอร์อยู่ที่นี่ คงไม่สามารถทิ้งประธานเปปเปอร์แล้วจากไปได้
ลาเต้มองไปยังผู้ช่วยเหมันตร์ที่อยู่ข้างนอก ทั้งยังมองเปปเปอร์ที่อยู่ตรงข้าม พลางทำปากมุ่ยและพูดขึ้นว่า:“เชอะ ผมอยากจะรู้นักว่าคุณจะหาพบเมื่อไหร่ อย่าให้เมื่อถึงเวลานั้นแล้วหาไม่พบนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงหน้าแตกไม่น้อย”
เปปเปอร์ยังคงไม่แยแสเขาเหมือนเดิม มองไปยังมายมิ้นท์ ด้วยสายตาเป็นห่วงและสงสาร
ตระกูลภักดีพิศุทธิ์
ชวนชมหิ้วถุงพลาสติกสีดำลงมาข้างล่างตึก
เยี่ยมบุญกำลังเตรียมออกจากบ้าน เห็นว่าในมือของชวนชมถือของอยู่ ถึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า“ชวนชม ลูกหิ้วอะไรมา?”
แววตาของชวนชมเป็นประกายพลางตอบกลับว่า:“เป็นเสื้อผ้าเก่าที่ลูกนำมาจากบ้านหลังนั้นค่ะ ตอนนี้กำลังจะเอาไปทิ้ง”
เยี่ยมบุญพยักหน้า“ลูกควรที่จะทิ้งไปตั้งนานแล้ว สิ่งเหล่านั้นไม่ดี ลูกเป็นลูกสาวของเยี่ยมบุญ ตอนที่ลูกเกิดมาพ่อเคยพูดว่าจะให้ลูกเป็นองค์หญิงไปตลอดชีวิต ดื่มด่ำกับของที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิต ใช้ชีวิตอย่างไร้ซึ่งความกังวลไปทั้งชีวิต ดังนั้นต่อไปลูกสามารถซื้อของที่ดีที่สุด อีกทั้งขอเพียงแค่ลูกอยากได้ พ่อก็จะหามาให้”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ชวนชมก็ตอบกลับอย่างดีอกดีใจว่า:“ขอบคุณค่ะพ่อ”
จากนั้นในใจของหล่อนนอกจากความดีใจแล้วก็หลงเหลือเพียงความอิจฉาเท่านั้น
ที่แท้ตอนที่คุณมายมิ้นท์เกิด ก็ได้รับคำสัญญาที่ทำให้คนต้องอิจฉาขนาดนี้เลยเหรอ?
น่าเสียดาย ที่คุณมายมิ้นท์ยังไม่เคยได้ดื่มด่ำกับมันแม้แต่วันเดียว
แต่ว่าแม้ว่าคุณมายมิ้นท์จะไม่ได้ดื่มด่ำกับความรักของพ่อ แต่ว่าหลังจากที่คุณมายมิ้นท์เข้าไปอยู่ในตระกูลกิตติภัคโสภณ ตระกูลกิตติภัคโสภณก็ทำให้คุณมายมิ้นท์ได้ใช้ชีวิตของหรูหราสุขสบาย
ดังนั้นหล่อนไม่เข้าใจเลยว่า ทุกคนต่างก็เป็นคน ทำไมคนบางคนเกิดมาก็มีทุกอย่าง แต่บางคนเกิดมากลับกินไม่อิ่มนอนไม่หลับไม่มีเสื้อผ้าจะใส่
แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้หล่อนคือชวนชม เป็นลูกสาวของพ่อก็น่าจะเพียงพอแล้ว หล่อนจะรักษาสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ให้ดีที่สุด ใครก็แย่งไปไม่ได้!
สายตาของชวนชมเผยความโหดดเหี้ยมออกมา ไม่นานก็มองดูเยี่ยมบุญในชุดสูท:“พ่อ จะไปข้างนอกเหรอคะ?”
“อึม จะไปบริษัท”เยี่ยมบุญตอบกลับ
เขาต้องการไปที่เอสซีกรุ๊ป เพื่อต่อกรกับพวกของประธานวศิน และมุ่งมั่นรักษาตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทไว้
เพราะว่าการประชุมลงคะแนนเสียง พรุ่งนี้ถึงเริ่มต้น เขายังมีโอกาส
“แบบนี้นี่เอง งั้นลูกออกไปข้างนอกพร้อมพ่อนะคะ ลูกจะไปทิ้งขยะ”ชวนชมหิ้วถุงขยะสีดำ