รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 399 จะให้เธอรู้ไม่ได้เด็ดขาด
“ความลับเรื่องชาติกำเนิดของมายมิ้นท์!” เรียวปากของเปปเปอร์ขยับขึ้น แล้วตอบกลับมาทีละคำทีละประโยค
ผู้ช่วยเหมันตร์มีใบหน้ามึนงง “ความลับเรื่องชาติกำเนิดเหรอครับ? ประธานเปปเปอร์ ชาติกำเนิดของคุณมายมิ้นท์มีปัญหาเหรอครับ?”
เปปเปอร์พยักหน้า “ใช่ เธอไม่ได้เป็นคนของตระกูลกิตติภัคโสภณ”
“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!” ผู้ช่วยเหมันตร์ร้องขึ้นอย่างตกใจ “คุณมายมิ้นท์จะไม่ใช่คนของตระกูลกิตติภัคโสภณได้ยังไง คนในแวดวงต่างก็รู้ ว่าเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน คุณนายตระกูลกิตติภัคโสภณได้คลอดคุณมายมิ้นท์ที่南江医院 แล้วเมื่อวานคุณมายมิ้นท์ก็ได้ไปโรงพยาบาลนั้นมาแล้ว เพื่อยืนยันว่าเธอเป็นลูกที่คุณนายตระกูลกิตติภัคโสภณคลอดมา”
“ใช่ เมื่อยี่สิบปีก่อน คุณนายตระกูลกิตติภัคโสภณได้มาคลอดมายมิ้นท์ที่เมืองน้ำรุ้งจริง ๆ แต่ว่ามายมิ้นท์คนนี้ เป็นมายมิ้นท์ตัวจริง ไม่ใช่คนที่เราเห็นกันในทุกวันนี้” เปปเปอร์หรี่ตาลง
ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ่งรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น “ประธานเปปเปอร์ครับ คุณหมายความว่าไงครับ คุณมายมิ้นท์ในตอนนี้ เป็นคนที่มาแทนที่มายมิ้นท์ตัวจริงเหรอครับ?”
“ก็ใกล้เคียงนะ มายมิ้นท์ตัวจริง อาจจะตายไปตั้งแต่เมื่อยี่สิบหกปีก่อนแล้ว ในไฟล์ที่มายมิ้นท์เห็นเมื่อวาน มันมีผลการตรวจร่างกายของเด็กทารกหญิงอยู่มากมายเลยไม่ใช่เหรอ? ผลการตรวจร่างกายในนั้นล้วนแสดงไว้ว่า เด็กทารกคนนั้นร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง จะเติบโตขึ้นไปได้นั้นยากมาก เพราะฉะนั้นฉันจึงเดาว่า เด็กทารกคนนั้นน่าจะอยู่ไม่ถึงอายุครึ่งขวบด้วยซ้ำ” เปปเปอร์บีบนวดนิ้วมือไปแล้วพูดขึ้น
ผู้ช่วยเหมันตร์จ้องมองเขา “ประธานเปปเปอร์ ทำไมคุณถึงคาดเดาแบบนี้ล่ะครับ?”
“เพราะว่าไฝแดงของมายมิ้นท์!” เรียวปากของเปปเปอร์เม้มเข้าหากันแน่น “เมื่อยี่สิบหกปีก่อน ชวนชมเพิ่งจะครบเดือนได้มานาน ก็โดนไตรภูมิลักพาตัวไป จากนั้นก็โยนลงไปในทะเลสาบจนจมน้ำตายต่อหน้าต่อตาสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญ แต่ว่าตอนหลังไม่ว่าจะเป็นทีมกู้ภัยหรือว่าทีมนักประดาน้ำ ต่างก็ไม่มีใครงมหาศพของชวนชมเจอ มีคนบอกว่า ชวนชมไม่ได้ตาย แล้วก็มีคนบอกว่า ชวนชมโดนน้ำในทะเลสาบซัดไปตั้งนานแล้ว ถึงได้หาไม่เจอ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็คิดไปทางที่ชวนชมไม่ได้ตาย”
“แน่นอนซิ ในเมื่อเป็นแค่เด็กทารก โดนโยนเข้าไปในทะเลสาบ ก็คงจะต้องตายแน่ ๆ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าขึ้น “แต่ว่า แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับคุณมายมิ้นท์ครับ?”
เปปเปอร์เหล่ตามองเขาทีหนึ่ง “เกี่ยวแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว จากคำพูดของมายมิ้นท์ พวกเราก็ได้แน่ใจแล้วว่า ชวนชมไม่ได้ตาย ตอนนั้นเด็กที่โดนโยนเข้าไปในทะเลสาบ อาจจะเป็นแค่ตุ๊กตา หรืออาจจะเป็นแค่ผ้าอ้อมเปล่า ๆ”
“ใช่มีเรื่องแบบนี้ งั้นตอนนี้ชวนชมก็น่าจะอยู่ดีมีสุขอยู่ที่ไหนสักแห่ง” ผู้ช่วยเหมันตร์พูดขึ้น
เปปเปอร์หรี่ตาลงเล็กน้อย “งั้นถ้าสมมุติว่าที่แห่งนั้น คือบ้านตระกูลกิตติภัคโสภณล่ะ?”
“บ้านตระกูลกิตติภัคโสภณเหรอครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง แล้วก็อ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ประธานเปปเปอร์ครับ คุณคงไม่ได้อยากจะพูดว่า คุณมายมิ้นท์ก็คือชวนชมตัวจริงหรอกนะครับ?”
“ใช่” เปปเปอร์พยักหน้ายอมรับ “ก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันอยู่ที่ลานจอดรถในโรงพยาบาลนั้น ได้บังเอิญได้ยินคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์จับมือเจินเจินไว้ แล้วถามว่าไฝแดงตรงข้อมือของเจินเจินทำไมถึงหายไปแล้ว คำตอบของเจินเจินคือไฝแดงโดนก้นบุหรี่จี้หายไปแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนั้นฉันก็เข้าใจแล้วว่า ที่ข้อมือของชวนชมตัวจริงนั้นมีไฝแดงอยู่ พอนายมาบอกว่า ข้อมือของมายมิ้นท์มีไผแดงอยู่ เพราะฉะนั้นสถานะของมายมิ้นท์ ก็ชัดเจนมากแล้ว ว่าตัวเธอก็คือชวนชม”
“ชูว์……” ผู้ช่วยเหมันตร์สูดลมเย็นเข้าไปทีหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะสงบสติลงได้ “โอ้สวรรค์ ทำไมเรื่องมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ ไตรภูมิไม่ได้ทำให้ชวนชมจมน้ำตาย แต่กลับอุ้มชวนชมกลับบ้านไปเลี้ยงดูเป็นลูกแท้ ๆ จนเติบใหญ่”
เปปเปอร์หลับตาลงช้า ๆ “เพราะฉะนั้นฉันถึงพูดว่า มายมิ้นท์ตัวจริงมีอายุอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งขวบ ในตอนที่ไตรภูมิอุ้มชวนชมหนีไปนั้นมายมิ้นท์ตัวจริงแค่อายุห้าเดือน แต่ว่าในตอนนั้น บ้านตระกูลกิตติภัคโสภณไม่ได้มีเด็กทารกหญิงปรากฏตัวขึ้นมาสองคน เพราะฉะนั้นฉันคิดว่า ในตอนนั้น มายมิ้นท์ตัวจริงคงจะตายไปแล้ว และชวนชมก็มาแทนที่มายมิ้นท์ตัวจริงพอดี กลายเป็นมายมิ้นท์คนที่เราเห็นอยู่ในตอนนี้”
ผู้ช่วยเหมันตร์นวดใบหน้าเล็กน้อย พยายามให้ตัวเองสงบสติลงมา “ถึงว่าเจินเจินถึงต้องมาทำลายไฝแดงที่ข้อมือของคุณมายมิ้นท์ไป เพราะว่าเจินเจินได้รู้แล้ว ว่าคุณมายมิ้นท์ก็คือชวนชมตัวจริง เจินเจินจึงกลัวว่าไฝแดงที่ข้อมือของคุณมายมิ้นท์จะถูกคนของตระกูลภักดีพิศุทธิ์มาเห็นเข้า ก็เลย……”
คำพูดในช่วงหลัง ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว
ในห้องหนังสือเข้าสู่ความเงียบงัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้ช่วยเหมันตร์ก็จ้องมองดูเปปเปอร์ แล้วถึงเปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง “ประธานเปปเปอร์ครับ เรื่องนี้ จะบอกคุณมายมิ้นท์ไหมครับ?”
นิ้วมือของเปปเปอร์เคาะเบา ๆ อยู่บนโต๊ะ ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความยุ่งเหยิงเสี้ยวหนึ่ง ไม่มีจังหวะเลยสักนิด
เห็นได้ชัด ว่าคำถามนี้ถามจนเขาสะดุดไปเลย
พอผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงนวดหัวคิ้วเล็กน้อยแล้วก็พูดขึ้นว่า “บอกไม่ได้”
“ทำไมครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์สงสัยว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร
เปปเปอร์พูดขึ้นด้วยแววตามืดครึ้มว่า “เธอต้องรับไม่ได้แน่ ในการรับรู้ของเธอ เธอเป็นคนของตระกูลกิตติภัคโสภณ มีความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์อยู่ เธอเกลียดตระกูลภักดีพิศุทธิ์อย่างลึกซึ้ง แต่ถ้าหาก นายมาบอกเธอในตอนนี้ ว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นคนตระกูลกิตติภัคโสภณ แต่ว่าเป็นคนของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่มีความแค้นกับเธอ แล้วเธอจะคิดยังไง? ถ้าเปลี่ยนเป็นนาย นายจะคิดยังไงล่ะ?”
ผู้ช่วยเหมันตร์หรี่ตาลง แล้วนำพาตัวเองเข้าสู่การครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ผมคงจะเป็นบ้า ถ้าผมเป็นคุณมายมิ้นท์ ผมพยายามที่จะแก้แค้นเพื่อตระกูลกิตติภัคโสภณมาตลอด จากนั้นอยู่มาวันหนึ่ง ผมก็พบว่าศัตรูของผมคือพ่อแม่ที่แท้จริงของผม ผมคงจะรับไม่ไหวแน่นอน”
“ใช่ นี่คือปัญหาที่แก้ไม่ได้อย่างหนึ่ง ถ้ามายมิ้นท์รู้สถานะของตัวเองจริง ๆ เธอก็จะต้องเผชิญกับการตัดสินใจเลือกครั้งหนึ่ง จะเลือกแก้แค้นให้ตระกูลกิตติภัคโสภณต่อไป หรือยอมรับสองสามีภรรยาตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แต่ตัวเลือกทั้งสองตัวนี้ ล้วนจะนำความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่มาให้เธอทั้งนั้น”
“ใช่” ผู้ช่วยเหมันตร์ทอดถอนใจ “ถ้าคุณมายมิ้นท์เลือกที่จะแก้แค้นต่อ งั้นก็ไม่ใช่การต่อสู้กับศัตรูธรรมดา แต่เป็นการต่อสู้กับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรมหรือว่าจริยธรรม คุณมายมิ้นท์ก็ต้องไปแปดเปื้อนด้วย แค่การซุบซิบนินทาของคนภายนอก ก็สามารถกดดันให้คุณมายมิ้นท์ล้มลงได้ แต่ถ้าเลือกยอมรับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ งั้นคุณมายมิ้นท์ก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูในสายตาของคนทั่วไป ไม่สำนึกในบุญคุณที่เลี้ยงดูมาของตระกูลกิตติภัคโสภณ สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเลือกเดินทางไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้น”
“จากนิสัยของคุณมายมิ้นท์ ถ้ารู้ว่าสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญ เป็นพ่อแม่แท้ ๆ ของเธอละก็ ความแค้นนี้ เธอคงจะแกแค้นต่อไปไม่ได้แล้ว ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่อยากปล่อยความอยุติธรรมของตระกูลกิตติภัคโสภณไปเปล่า ๆ อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้จบสิ้นเรื่องบุญคุณความแค้นของตระกูลกิตติภัคโสภณและตระกูลภักดีพิศุทธิ์ทั้งสองตระกูล เธอมีโอกาสที่จะยอมเสียสละตัวเองไปเลย” พูดมาถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็กำมืออย่างแน่นขึ้นมาทันที
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า “มีความเป็นไปได้จริง ๆ เพราะฉะนั้นบอกคุณมายมิ้นท์ เรื่องสถานะที่แท้จริงของเธอไม่ได้จริง ๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว เรื่องราวมันก็จะยุ่งยากมาก ถ้าคุณมายมิ้นท์ไม่รู้ว่าสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ เธอก็จะแก้แค้นตามแผนการเดิม จะทำให้สองสามีภรรยาเยี่ยมบุญชดใช้ชีวิตให้ไตรภูมิและพนักงานทางเทคนิคคนนั้นในตอนนั้น”
เปปเปอร์ทอดถอนใจ “เรื่องนี้มันเป็นปัญหาอย่างหนึ่งจริง ๆ ในฐานะที่เป็นลูกหลาน มายมิ้นท์จะต้องห้ามทำร้ายสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญเด็ดขาด เอาแบบนี้ละกัน นายให้คนคอยไปเฝ้าสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญเอาไว้ ถ้าเกิดมายมิ้นท์ลงมือกับสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญแล้ว ถ้าเป็นอันตรายต่อชีวิตของสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญ ก็รีบยื่นมือเข้าไปช่วยสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญ สองสามีภรรยาเยี่ยมบุญสามารถตายได้ แต่จะต้องไม่ตายด้วยมือมายมิ้นท์เด็ดขาด”
“ผมรู้แล้วครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม
“นอกจากนี้ ช่วยจัดเฮลิคอปเตอร์มาให้ด้วย ฉันจะกลับเมืองเดอะซีเดี๋ยวนี้ จะไปเจอกับเจินเจินสักหน่อย พวกมายมิ้นท์รู้ว่าเจินเจินทรยศแล้ว ก็คงจะไม่มีทางให้เจินเจินอยู่ในเมืองเดอะซีต่อไปแน่ จะต้องเปิดเผยสถานะของเจินเจินกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์แน่ แต่พอเจินเจินโดนเปิดโปงขึ้นมา ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็จะต้องสืบหาชวนชมตัวจริงต่อไป ถึงข่าวเรื่องไฝแดงที่ข้อมือมายมิ้นท์โดนทำลายไปจะมีคนรู้ไม่เยอะ แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่า มันจะลอยไปถึงหูสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญเมื่อไหร่”
ดวงตาของเปปเปอร์หรี่ลงเล็กน้อย “เพราะว่าเพื่อความหวังดีต่อตัวมายมิ้นท์แล้ว ก็ยังต้องให้เจินเจินเป็นชวนชมต่อไปก่อน”
ถ้าต่อไปหาโอกาสที่เหมาะสมได้ ค่อยบอกให้มายมิ้นท์รู้เรื่องสถานะที่แท้จริงของเธอ
แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า “เดี๋ยวผมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ”
“ไปเถอะ” เปปเปอร์สะบัดมือเล็กน้อย