รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 422 วางแผนเพื่อมายมิ้นท
ไม่ใช่ว่าเธอนั้นไม่เคยคิดเกี่ยวกับปัญหานี้เลย และไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยหาบางบริษัทที่เป็นอุตสาหกรรมเดียวกับเทนเดอร์กรุ๊ปเลย เพียงแต่บริษัทเหล่านี้ไม่ใหญ่และไม่คุ้มค่าในการร่วมมือด้วย อีกฝ่ายก็ไม่เต็มใจที่จะร่วมมือกับบริษัทที่ไม่สามารถพัฒนาความก้าวหน้าได้ ดังนั้นเทนเดอร์กรุ๊ปจึงไม่มีความคืบหน้าในการพัฒนาพันธมิตรใหม่ที่สามารถร่วมมือได้มาโดยตลอด
ณ ปัจจุบันยังดีอยู่ ที่เทนเดอร์กรุ๊ปยังพอสามารถดำเนินการได้ แต่หากว่าไม่มีพันธมิตรใหม่ที่สามารถร่วมมือได้เป็นเวลานาน เทนเดอร์กรุ๊ปก็จะเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่อีกครั้ง เนื่องด้วยความร่วมมือจากบริษัทในเครือหลายแห่งของบริษัทตระกูลนวบดินทร์แล้ว เงินที่ได้รับจึงไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนการดำเนินงานด้านเงินทุนของเทนเดอร์กรุ๊ปเลย แม้แต่เงินกู้ยืมมากกว่าหนึ่งพันล้านของ เปปเปอร์ก็ไม่สามารถชำระคืนได้
เวลาไม่คอยท่า ฉะนั้นแล้วต้องหาพันธมิตรใหม่เพื่อร่วมมือด้วย
นอกจากนี้ เปปเปอร์ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในกรุ๊ป เธอควรเปิดหูเปิดตาให้กว้างขึ้น และทำความรู้จักให้มีเส้นสายที่กว้างขึ้น ซึ่งเธอก็เห็นด้วยในจุดนี้
สังคมแห่งธุรกิจนั้นเป็นสังคมที่ซับซ้อนและหวังผลประโยชน์เป็นอย่างมาก ผู้คนในนั้นมีทั้งลุยการเป็นกลุ่ม หรือลุยอยู่คนเดียว แต่สุดท้ายก็จะถูกกำจัด
มีเพียงแค่การทำความรู้จักให้มีเส้นสาย และเปิดหูเปิดตาเท่านั้น เมื่อนั้นถึงจะรู้ข้อบกพร่องของตัวเอง และรับผลประโยชน์ที่มากขึ้น มิฉะนั้นคุณจะถูกกีดกันจากผู้คนในสังคมธุรกิจร่วมกัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ มายมิ้นท์ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมท่านย่าจึงส่งชุดเครื่องประดับดังกล่าวมาให้
เธอหายใจเข้าลึกๆ กับนัยน์ตาที่แลดูไร้วิญญาณนั้น ‘มองดู’ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “ประธานเปปเปอร์ ท่านย่าต้องการให้ฉันไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ ไปทำความรู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่เหล่านั้นถูกไหม?”
เมื่อเห็นว่าเธอเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ในดวงตาของเปปเปอร์นั้นมีความชื่นชมปนอยู่ พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย“ใช่แล้ว นั่นคือวัตถุประสงค์ของท่านย่าเอง ต้องทำความรู้จักกับผู้คนเหล่านี้ พร้อมได้รับโอกาสความร่วมมือกับคนเหล่านี้ด้วย คุณก็ต้องทำให้ตัวเองดูมีคุณค่าพอที่เขาจะอยากร่วมมือด้วยกับคุณ แต่หากว่าชุดที่สวมใส่และเครื่องประดับของคุณนั้นเป็นชุดที่แสนจะธรรมดา ผู้คนเหล่านั้นรู้ดีว่าการทำความรู้จักและร่วมมือกับคุณจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ดังนั้นไม่ต้องรอว่าคุณจะมีโอกาสได้ไปทำความรู้จักเลย แม้แต่โอกาสที่จะได้ทักทายก็ไม่มีให้คุณเลย เข้าใจไหม?”
นี่ก็คือความโหดร้ายของความเป็นจริง!
ถึงแม้ว่าเขาอยากจะพาเธอไปทำความรู้จักผู้มีอำนาจเหล่านั้นด้วยตัวเขาเอง แต่เขารู้ดี ว่าต่อให้เธอต้องการ เธอก็จะปฏิเสธ
เพราะว่าเธอไม่อยากพึ่งพาเขา ดังนั้นเขาทำได้เพียงเลือกทางอ้อม โดยคิดวิธีนี้มา และใช้ชื่อของท่านย่า เพื่อเป็นทางผ่านในการได้ทำความรู้จักให้มีเส้นสาย นอกเหนือจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเองที่จะต้องไปช่วงชิงมาเอง
พอดีเลย ให้เธอได้ฝึกฝนๆ
แน่นอน ว่าเขาจะจับตาดูเธออยู่เสมอ และหากเธอล้มเหลวแล้ว เขาจะคอยช่วงชิงโอกาสให้เธออย่างลับๆเอง
เขาหวังว่าเธอจะดีขึ้นกว่าเดิม และธุรกิจของเธอก็ยิ่งอยู่ยิ่งเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันเข้าใจแล้ว”มายมิ้นท์พยักหน้า ในใจนั้นซาบซึ้งเป็นอย่างมาก “เครื่องประดับฉันรับมันไว้แล้ว ช่วยขอบคุณท่านย่าแทนฉันด้วย รบกวนท่านย่ามากเลย อายุปูนนี้แล้วยังต้องมาคิดแทนฉันอีก”
พูดตามจริง ว่าที่อยู่ในตระกูลนวบดินทร์มาเป็นระยะเวลาหกปีนั้น มีแต่ท่านย่าที่ดีกับเธอที่สุด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็นึกถึงเธออยู่ตลอด
แต่เพราะว่าในสายตาเธอนั้นมีแต่เปปเปอร์เพียงผู้เดียว ไม่อยากจากเปปเปอร์ไป ดังนั้นจึงได้ปฏิเสธท่านย่าที่จะให้เธอไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าอยู่หลายครั้ง ในข้อเสนอของพวกเขาหนีห่างจากพิศมัยนั้น แต่ทว่าเธอได้ปฏิเสธไปหมด และยังคงยืนหยัดที่จะอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์ และเพราะเหตุนี้ เธอจึงมีโอกาสน้อยที่จะกตัญญูต่อท่านย่า
แต่ ณ ตอนนี้ เธอก็ไม่ใช่หลานสะใภ้ของตระกูลนวบดินทร์อีกแล้ว และท่านย่ายังคงทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเธออีก เธอไม่รู้จริงๆ ว่าจะตอบแทนท่านย่าได้อย่างไร
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก มันควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”เปปเปอร์ตอบด้วยรอยยิ้ม
“หือ?”มายมิ้นท์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“ฉันให้คุณช่วยฉันขอบคุณท่านย่า ไม่ได้จะขอบคุณคุณสักหน่อย คุณพูดว่าไม่ต้องขอบคุณอะไร?”
ริมฝีปากอันบางของเปปเปอร์นั้นได้ขยับ พูดอะไรไม่ออก ในใจเปรี้ยวจี๊ดเล็กน้อย
เรื่องราวทั้งหมดนี้ ท่านย่าไม่ได้เป็นคนทำแต่แรกอยู่แล้ว แต่เป็นเขาที่เป็นคนทำ แน่นอนว่าเขาสามารถพูดได้ว่าไม่ต้องขอบคุณน่ะสิ
เพียงแต่ว่าความจริงทั้งหมดนี้ เขากลับไม่สามารถพูดมันออกมาได้ มิเช่นนั้นเธอคงคืนเครื่องประดับกลับไปให้เขาแน่ๆ
“ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยโทรไปขอบคุณท่านย่าด้วยตัวฉันเอง ไม่ฝากคุณบอกเธอแล้ว”มายมิ้นท์เบะปากและพูด
พร้อมบอกท่านย่าว่า เธอจะไม่ทำให้ท่านย่าผิดหวัง จะต้องได้รับความร่วมมือบ้าง ในงานเลี้ยงวันเกิดอย่างแน่นอน
ในเวลาเดียวกัน ก็จะบอกท่านย่าเช่นกันว่า เครื่องประดับนั้นเธอจะดูแลรักษาอย่างดีเลย พอจบงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อไหร่ ก็จะคืนกลับไป
“ได้เลย ถ้างั้นคุณก็บอกกับท่านย่าด้วยตัวเธอเองเถอะ เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ผมก็ควรไปละ คุณพักผ่อนดีๆ แล้วกัน”เปปเปอร์มองดูนาฬิกาของเขาแล้วลุกขึ้นยืน
ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีการประชุมสำคัญที่จะมาถึงนี้ เขาจะไม่มีวันเป็นคนริเริ่มที่จะขอตัวจากไปก่อนแน่นอน
มายมิ้นท์พยักหน้าตอบตกลง แล้วก็ได้ลุกขึ้นยืนเช่นกัน“เดินทางปลอดภัยค่ะประธานเปปเปอร์ ป้าทิพย์คะ ส่งประธานเปปเปอร์หน่อยค่ะ”
“ได้ค่ะคุณมายมิ้นท์” ป้าทิพย์ตอบกลับ จากนั้นก็ทำท่าทางเชิญให้เปปเปอร์ไปก่อน
เปปเปอร์มองดูที่มายมิ้นท์“ผมไปแล้วนะ”
มายมิ้นท์ได้ตอบกลับไป
สายตาของเปปเปอร์นั้นได้จ้องมองที่ใบหน้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดึงกลับด้วยความลังเลเล็กน้อย ยกขาขึ้นแล้วเดินไปที่โถงทางเดิน
ป้าทิพย์ได้เดินตามหลังของเขาไป และส่งเขาออกไปที่ประตู“คุณชายใหญ่ เดินทางปลอดภัยค่ะ”
“อือ ดูแลเธอให้ดีละ และอีกอย่างเรื่องของเครื่องประดับนั้นไม่ใช่ของท่านย่า แต่เป็นของแม่ผมเองนั้น อย่าให้เธอรู้”เปปเปอร์กำชับ
หากมายมิ้นท์รู้แล้ว จะไม่สวมใส่อย่างแน่นอนเลย
ก่อนที่แม่จะฆ่าตัวตาย เธอเคยเขียนไว้ในจดหมายลาตาย ว่าเครื่องประดับที่เธอทิ้งไว้นั้นมอบให้แก่ลูกสะใภ้ในอนาคตของเธอ
ในช่วงหกปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ให้มายมิ้นท์ในสิ่งที่เขาควรจะให้แก่มายมิ้นท์เลย และในอนาคต เขาจะให้เธอทีละอย่าง ทีละอย่าง
ในใจของเขานั้น ไม่ว่าจะหย่าร้างกันแล้วหรือไม่ มายมิ้นท์ก็คือภรรยาของเขามาโดยตลอด และต้องเป็นภรรยาของเขาเท่านั้น
ดังนั้นถึงแม้ว่าทั้งชีวิตนี้มายมิ้นท์จะไม่มีวันยกโทษให้เขาก็ตาม เขาก็จะจับเธอไว้ให้อยู่ข้างๆเขา เอาเป็นว่า เขาจะไม่มีวันยอมให้เธออยู่กับผู้ชายคนอื่นแน่นอน เพียงแค่คิดเช่นนั้น เขาก็จะโกรธแล้ว
“ไว้ใจได้เลยค่ะคุณชายใหญ่ฉันเข้าใจแล้ว” ป้าทิพย์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“กลับไปเถอะ เธอมองไม่เห็น อย่าทิ้งเธอนานเกินไป เธอต้องการใครสักคน”เปปเปอร์สะบัดมือ
ป้าทิพย์พยักหน้า และปิดประตู
เปปเปอร์ได้ยินเสียงล็อกประตูแล้ว จึงจะหันหลังและเดินไปที่ลิฟต์
พอเดินได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หยิบออกมาดู เป็นท่านย่าเองที่โทรมา และได้รับสายทันที“ครับท่านย่า”
“เปปเปอร์ หญิงชราอย่างย่าทำไมไม่รู้ว่าย่าจะจัดงานเลี้ยงครบรอบแปดสิบปี?ย่าจำได้ว่าเคยบอกไว้เมื่อต้นปีแล้ว ว่าจะไม่มีงานเลี้ยงครบรอบแปดสิบปีอะไรนั่น ร่วมทานข้าวด้วยกันทั้งครอบครัวก็พอแล้ว หลานก็เห็นด้วยไม่ใช่หรือ ทำไมจู่ๆ ตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนใจแล้วละ และอีกอย่างยังไม่ให้หญิงชราอย่างย่ารับรู้อีก?”
เสียงพูดด้วยความยิ้มเยาะของท่านย่าลอยมา“และอีกอย่างเพื่อนของย่านั้นรู้กันหมดว่าย่าจะจัดงานเลี้ยงวันเกิด ก็มีแต่ย่าเท่านั้นที่มารู้ทีหลัง หลานช่างเป็นหลานชายคนโตที่รักของย่าซะจริงๆเลยนะ”
เปปเปอร์เข้าใจว่าท่านย่านั้นไม่ค่อยพอใจมากนัก ไอเสียงเบา แล้วก็ไม่ปิดบังอะไรอีก พูดออกมาตรงๆว่า:“ขอโทษด้วยครับท่านย่า ที่ไม่ได้แจ้งให้ท่านย่าทราบล่วงหน้า ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
“เห้อ ช่างเถอะๆ คำเชิญของหลานก็ถูกส่งออกไปอย่างต่อเนื่องแล้ว งานเลี้ยงนี้เนี่ย ไม่จัดก็ต้องจัดแล้วล่ะ ย่าจะโทษหลานมันก็สายเกินไปแล้ว ไม่พูดหลานละ หลานลองพูดสิ ว่าทำไมจู่ๆ ถึงมาเปลี่ยนใจ อยากจะจัดงานเลี้ยงให้หญิงชราอย่างย่าล่ะ?”ท่านย่าถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีมากนัก
เปปเปอร์หันไปเหลือบมองที่ประตูอพาร์ตเมนต์ของมายมิ้นท์“เพื่อมายมิ้นท์”
“มิ้นท์?”ท่านย่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
เปปเปอร์พยักหน้า“ใช่ครับ ในปัจจุบันของเทนเดอร์กรุ๊ปนั้นไม่ทางไหนที่จะสามารถพัฒนาต่อได้เลย ถ้านานไปก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรนัก และอีกอย่างในตัวเธอเองนั้นก็มีความทะเยอทะยานอยู่แล้ว อยากทำให้เทนเดอร์กรู๊ปนั้นเจริญเติบโตขึ้นไปอีก แต่ไม่มีทางแก้เลย ฉะนั้น……”
“ฉะนั้นหลานจึงยืมงานเลี้ยงวันเกิดย่าเอง เพื่อปูทางให้มิ้นท์?”หลังจากที่ท่านย่าฟังแล้วก็ถอนหายใจ
เปปเปอร์หลับตาและก้มหัวลง“ขอโทษครับท่านย่า”
ที่จริงแล้วก่อนหน้านั้นเขาก็อยากจะมีแพลตฟอร์มให้มายมิ้นท์ได้มีโอกาสพัฒนาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่พบโอกาสที่เหมาะสมพอ
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้เพ่งเล็งงานเลี้ยงครบรอบแปดสิบปีของท่านย่า โดยใช้งานเลี้ยงวันเกิดในการเป็นแพลตฟอร์มให้เธอ จากนั้นใช้ท่านย่าเป็นโล่ เพื่อที่มายมิ้นท์จะได้ไม่สงสัย ว่างานเลี้ยงวันเกิดนี้แท้จริงแล้วจัดขึ้นเพื่อเธอจริงๆ
ท่านย่าสามารถจินตนาการได้ว่าหลานชายคนโตของเธอ คงจะเป็นใบหน้าที่รู้สึกผิดมากในตอนนี้ นึกว่าใช้งานเลี้ยงวันเกิดของย่าปูทางให้กับผู้หญิงที่รัก คงจะรู้สึกผิดต่อเธอ พยักหน้าด้วยความจำใจ“เจ้าเด็กโง่!”