รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 431 เปปเปอร์ร่วมมือกับราเม็ง
ในดวงตาเปปเปอร์ส่องแสงออกมา จากนั้นก็หมุนพวงมาลัยทันที รถสปอร์ตกระโดดออกไปเหมือนเสือชีตาห์ ขับเข้าไปบนทางลาดทางด่วน
ในเวลาเดียวกัน รถสองสามคันก็ตามเขามาอย่างรวดเร็ว
เพิ่มความเร็วตลอดทาง จากนั้นก็ขับไปประมาณครึ่งชั่วโมง จู่ๆ เปปเปอร์ก็เบรกแล้วหยุดกะทันหัน
เพราะด้านหน้ามันมีทางแยก!
เห็นทางแยกนี้ มือเปปเปอร์ที่จับพวงมาลัยก็กระชับแน่นขึ้นมา ข้อต่อขาวซีดเนื่องจากออกแรงมากเกินไป เส้นเลือดหลังมือแต่ละเส้นปูดขึ้นมา แสดงถึงความโกรธภายในใจเขาขณะนี้
บัดซบ!
ถึงทางแยกเร็วขนาดนี้
พอเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าคนที่จับตัวมายมิ้นท์ไป จะขับไปทางไหน
ถึงแม้ในมือเขาจะมีแผนที่เส้นทางสถานที่ที่ทางแยกนี้นำไป มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เพราะถ้าไปผิดทาง ไปยังถนนคนละเส้นของคนพวกนั้น เขาก็จะพลาดโอกาสเวลาที่ดีที่สุดในการช่วยมายมิ้นท์กลับมา
คิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็หายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับคลื่นโหมกระหน่ำในใจ ให้ตัวเองใจเย็นก่อน จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาผู้ช่วยเหมันตร์
“ประธานเปปเปอร์” ผู้ช่วยเหมันตร์รู้ว่าหลังจากนี้เปปเปอร์ต้องติดต่อเขาบ่อยๆ จึงเฝ้าโทรศัพท์อยู่ตลอด แค่เปปเปอร์โทรมา เขาก็สามารถรับสายได้ทันที
“นายสืบได้ไหมว่าถนนที่คนกลุ่มนั้นไปเป็นทางแยกตอนใต้ของเมืองหรือเปล่า?” ลูกกระเดือกเปปเปอร์เคลื่อนไหว ถามเสียงเข้ม
ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้า “ขอโทษครับประธานเปปเปอร์ สำหรับเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ผมไตร่ตรองถึงมัน เลยติดต่อแผนกควบคุมการจราจรล่วงหน้า หวังว่าทางนั้นจะล็อกกล้องวงจรปิดทางแยกไว้ แต่แผนกตรวจสอบบอกผมว่า ทางแยกเส้นนั้นไม่มีกล้องวงจรผิดครับ”
“ไม่มีกล้องวงจรปิด……” เปปเปอร์กำโทรศัพท์แน่น ราวกับจะบีบมันให้แตกเป็นชิ้นๆ
ไม่มีกล้องวงจรปิด ก็หมายความว่าพลาดร่องรอยของคนพวกนั้น
ถ้างั้นต้องการช่วยมายมิ้นท์กลับมา ก็ยิ่งยากแล้ว
เห็นได้ชัดว่าผู้ช่วยเหมันตร์ก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน หลังจากไตร่ตรองสักพัก ก็เอ่ยปากอีกครั้ง “ไม่งั้นเอางี้ไหมครับ ประธานเปปเปอร์ คุณแบ่งบอดี้การ์ดเป็นสามทีม แยกกันไล่ตามทางแยกทั้งสามเส้นดีไหม? ถึงแม้สุดท้ายทางที่คุณเลือก มันอาจจะไม่ใช่ถนนเส้นที่คุณมายมิ้นท์อยู่ แต่อย่างน้อยตอนคุณไม่อยู่ คนของเราก็ยังช่วยคุณมายมิ้นท์กลับมาได้”
เปปเปอร์หลับตาลง เมื่อลืมตาอีกครั้ง ในดวงตาเหลือแค่ความมุ่งมั่น “รู้แล้วล่ะ”
เขาวางสายไป เปิดประตูรถลงจากรถ เดินไปหารถบอดี้การ์ดคันแรกด้านหลัง
คนในรถเห็นเขาเดินมา ก็ลงจากรถทันที “ครับประธานเปปเปอร์”
“นายเตรียมคนของนาย ให้พวกเขาแบ่งเป็นสามทีม สองทีมตามถนนสองเส้นไป ที่เหลือมากับฉัน ไปถนนเส้นนี้” เขาชี้ไปที่เลนทางซ้ายแล้วพูดขึ้น
เพราะถนนเส้นนั้น จำกัดความเร็วที่หนึ่งร้อยกิโลเมตร ซึ่งสูงกว่าอีกสองเลนอื่น มันเป็นเลนที่รวดเร็ว
ดังนั้นเขากำลังคิดว่า ถ้าคนพวกนั้นอยากพามายมิ้นท์ออกไปจากเมืองเดอะซีให้เร็ว การไปเลนที่รวดเร็วนั้นมีความเป็นไปได้มากที่สุด
ไม่มีอะไรแน่นอนอย่างแท้จริง แต่เขาอยากเดิมพันสักครั้ง
หัวหน้าบอดี้การ์ดพยักหน้า “ผมทราบแล้วครับประธานเปปเปอร์ ผมจะไปเตรียมการ”
“เร็วหน่อยนะ” เปปเปอร์ตอบอืม แล้วพูดเร่ง
หัวหน้าบอดี้การ์ดตอบรับ แล้วเริ่มไปเตรียมการ
ประมาณสิบนาทีต่อมา รถเจ็ดคันแบ่งออกเป็นสามทีม รถสองคันเข้าเลนกลางและเลนขวาสุดตามลำดับ ที่เหลืออีกสามคันตามเปปเปอร์ไป
ยังไงแล้วเปปเปอร์ก็เป็นหัวหน้าใหญ่ ต้องมีคนไปปกป้องมากหน่อย
ขณะที่เปปเปอร์กลับไปที่รถสปอร์ต เตรียมจะออกเดินทางอีกครั้ง จู่ๆ ด้านหลังก็มีเสียงแตรดังขึ้นมาอย่างเร่งรีบ เร่งให้เขาหลีกทาง
เปปเปอร์หรี่ตามองไปทางกระจกหน้าด้านซ้าย เห็นรถรถG-Classสีดำคันหนึ่ง
และรถG-Classคันนั้น ทำให้เขามองแวบเดียวก็จำได้เลยว่าเป็นของราเม็ง
ก่อนหน้านี้ เขาเคยเห็นที่คอนโดพราวฟ้า เห็นราเม็งขึ้นรถคันนี้ ป้ายทะเบียนก็เหมือนกัน
ดังนั้นในสถานการณ์ตอนนี้ ราเม็งก็รู้แล้วว่ามายมิ้นท์ถูกลักพาตัว ก็เลยตามมา?
และราเม็งตามมาถึงที่นี่ได้ นั่นก็แสดงว่าราเม็งคงมีเบาะแสอะไรบางอย่างเกี่ยวกับที่อยู่ของมายมิ้นท์
คิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็เม้มริมฝีปากบาง สตาร์ตเครื่องอีกครั้งแล้วขับไปข้างหน้าเว้นระยะห่าง จากนั้นก็หมุนพวงมาลัยไปทางซ้าย ลำรถลอยขึ้นมา ขวางแนวนอนด้านหน้ารถG-Classที่กำลังขับเข้ามา
เอี๊ยด!
รถG-Classเบรกกะทันหัน ล้อรถเสียดสีกับพื้นจนเกิดเสียงแสบแก้วหู
เลื่อนหน้าต่างรถลงมา ราเม็งชะโงกศีรษะออกมา ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ตะโกนใส่รถสปอร์ตตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ “รีบหลีกทางให้ฉันซะ ไม่งั้นฉันจะขับชน!”
ตอนนี้เขาแค่อยากช่วยมายมิ้นท์ไวๆ แต่ตอนนี้กลับมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาขวางหน้ารถเขา
ถ้าไอ้หมอนี่มันไม่ฟังเขา ไม่หลีกทางให้เขาดีๆ เขาขับชนตามที่พูดแน่นอน
เขาไม่ยอมให้ใครมาถ่วงเวลาเขาช่วยเธอเด็ดขาด!
เปปเปอร์ได้ยินคำพูดคุกคามน่ากลัวของราเม็งอยู่แล้ว แต่เขาไม่กลัวสักนิด แค่ขมวดคิ้ว เปิดประตูลงจากรถ เดินไปหารถราเม็ง
ราเม็งก็เห็นเขาแล้วเช่นกัน ความโหดเหี้ยมในดวงตาจางลง มีความประหลาดใจเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงเลยว่าคนที่มาขวางรถเขาจะเป็นเปปเปอร์
ตึกๆๆ!
เปปเปอร์เคาะกระจกประตูรถG-Class
ราเม็งเลื่อนกระจกรถลง “เปปเปอร์!”
“นายมาช่วยมายมิ้นท์เหรอ?” เปปเปอร์มองเขาแล้วถามขึ้น
ราเม็งหรี่ตา ไม่พูดอะไร
เปปเปอร์เชิดหน้าขึ้น “ได้ ฉันถือว่านายยอมรับ ฉันก็มาช่วยเธอเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันมีทางแยก ฉันไม่รู้ว่าคนที่เอาตัวมายมิ้นท์ไปมันไปทางไหน ฉันเลยอยากถามนาย นายรู้หรือเปล่า? ในเมื่อนายตามมาถึงที่นี่ได้ น่าจะรู้เส้นทางที่คนพวกนั้นลักพาตัวมายมิ้นท์ไปมาจากแหล่งอื่น”
“ฉันรู้แล้วยังไง? ไม่รู้แล้วยังไง?” ราเม็งขบฟันพูด
ดวงตาเปปเปอร์ฉายแววประกาย แล้วหายไปทันที จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง “นายรู้ก็เป็นเรื่องที่ดี เราจะได้ช่วยมายมิ้นท์ออกมาได้ไวๆ แล้วดูจากคำพูดนาย นายรู้จริงๆ ด้วยสินะว่าคนพวกนั้นมันไปเส้นทางไหน ถูกไหม ราเม็ง เราร่วมมือกันเถอะ”
“ทำไมฉันต้องร่วมมือกับนาย?” ราเม็งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องมองเปปเปอร์อย่างเย่อหยิ่ง
เปปเปอร์ไม่ได้โกรธที่เขาจ้องมองตนอย่างดูถูกในขณะนี้ เพราะตอนนี้เขาแค่อยากตามหามายมิ้นท์ เรื่องพวกนี้เขาจึงยินยอมให้อภัย
“ทำไม?” เปปเปอร์ชี้ไปที่รถบอดี้การ์ดสามคันด้านหลัง “เพราะคนของฉันมีเยอะ แต่นายมีคนเดียว คนที่เอาตัวมายมิ้นท์ไป ใครจะรู้ว่ามันมีกี่คน นายคิดว่านายคนเดียวจะช่วยมายมิ้นท์ออกมาได้สำเร็จเหรอ?”
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าราเม็งเปลี่ยนไป ไม่มีอะไรใจพูดแล้ว
ก็จริง ใครจะไปรู้ว่าองอาจพาคนมากี่คน ถ้าคนเยอะ เขาตัวคนเดียว ก็ไม่มีโอกาสชนะเลยสักนิด
ตอนนั้นเขาแค่ร้อนใจอยากตามไปช่วยมายมิ้นท์ออกมา เพิกเฉยประเด็นสำคัญนี้ไป
มองไปด้านหลังผ่านกระจกมองหลัง เห็นรถบอดี้การ์ดเจ็ดที่นั่งสามคนนั้น ราเม็งก็ผลุบเปลือกตาลง เหมือนกำลังลังเล
เปปเปอร์ก็ไม่เร่งเขา แค่มองเขาอย่างเย็นชา
เพราะเปปเปอร์รู้ สุดท้ายเขาก็จะเห็นด้วย
อย่างที่คิดไว้ สิบกว่าวินาทีต่อมา ราเม็งกำพวงมาลัยแน่น สุดท้ายก็เอ่ยปากตกลง “ได้ ฉันจะร่วมมือกับนาย หวังว่าคนของนายจะช่วยพี่ออกมาได้อย่างราบรื่น”
“แน่นอน” เปปเปอร์พยักหน้ายืนยัน “งั้นตอนนี้นายบอกฉันสิ พวกมายมิ้นท์ไปเส้นทางไหน?”
“ถนนเส้นซ้ายสุด พวกมันไปเขาคาวน์มิด” ราเม็งมองไปที่ถนนเลนซ้ายสุด แล้วตอบกลับด้วยเสียงมืดมนเย็นชา