รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 444 รอยแผลเป็นเต็มตัว
ต่อมา เขาก็มองเห็นอะไรอีก นั่นก็คือถ้ำนี้ รวมไปถึงของที่อยู่ในถ้ำ มันคืออะไร?
“ของพวกนี้…มาจากไหน?” เปปเปอร์ถือป้าห่มขึ้นมาแล้วถาม
มายมิ้นท์นั่งลงแล้วอธิบาย “มันอยู่ในถ้ำอยู่แล้ว”
“อยู่ในถ้ำอยู่แล้ว” เปปเปอร์เลิกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจกับคำตอบนี้
มายมิ้นท์พยักหน้า “ใช่แล้ว ฉันกำลังแบกคุณออกไปจากป่านี้ ไปดูว่าข้างนอกมีคนรึเปล่า ถ้ามีคน เราก็รอดแล้ว สุดท้ายยังไม่ได้ออกไป จู่ๆฝนก็จะตก จากนั้นฉันก็เห็นถ้ำนี้ เลยพาคุณเข้ามาหลบฝนในถ้ำ พอเข้ามา ก็เห็นข้าวของพวกนี้”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้” เปปเปอร์พยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ถ้ำนี้ เป็นที่อยู่ของนักโทษรึเปล่า”
นักโทษบางคนที่กำลังหลบหนี มักจะมาซ่อนตัวอยู่ในภูเขาลึกแบบนี้
ดังนั้นในถ้ำมีของพวกนี้ จึงทำให้คนคิดว่ามันคือของนักโทษ
“ไม่ใช่” มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ตอนแรกฉันก็สงสัยว่าเป็นที่อยู่ของนักโทษรึเปล่า แต่ว่าฉันเจออันนี้”
เธอชี้ไปที่กระเป๋าหน้าอกข้างซ้ายของชุดพรางที่ตัวเองใส่อยู่
เปปเปอร์มองลงมา เห็นคำว่าเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้ เขาก็โล่งอกทันที “เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้ก็ดี”
เขาเคยได้ยินว่าเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้บางคนมักจะสร้างกระท่อมหรือบ้านไม้ไว้บนภูเขา เพื่อที่เวลาพวกเขาสำรวจป่าไม้ตอนดึก จะได้มีที่พักอยู่บนภูเขา
ดังนั้นถ้ำธรรมชาติแห่งนี้ จึงถูกเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้ใช้งาน มันก็สมเหตุสมผล
“ใช่แล้ว ฉันก็เลยวางใจที่จะพาคุณมาที่นี่” มายมิ้นท์ยิ้ม “จะว่าไปแล้ว เราควรขอบคุณเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้สองคนนี้ ที่ทิ้งเสื้อผ้าและผ้าห่มไว้ที่นี่ ที่สำคัญก็คือ ยังทิ้งกล่องยาและของกินไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นวันนี้ ถึงแม้ว่าเราจะมีกองไฟแต่ก็คงจะลำบาก”
พูดถึงตรงนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอมองไปที่ใบหน้าที่ซีดขาวของเขาแล้วถามว่า “เอ่อใช่ประธานเปปเปอร์ ตอนนี้หัวของคุณเป็นยังไงบ้าง? แล้วก็แขนกับหลัง เจ็บอยู่ไหม?”
เปปเปอร์ยิ้มอย่างแผ่วเบาแล้วตอบว่า “ยังเวียนหัวอยู่นิดหน่อย แขนไม่รู้สึกอะไร หลังก็ไม่ได้เจ็บเหมือนตอนแรก คุณทายาให้ผมใช่ไหม?”
เขาจำได้ว่าเมื่อกี้เธอพูดถึงกล่องยา
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะทายาให้เขา
มายมิ้นท์ตอบรับอืมแล้วพยักหน้า “ใช่ แผลที่หลังของคุณฉีก ถ้าไม่ทายามันจะอักเสบ แล้วจะเป็นไข้เอาได้ ฉันก็เลยทายาให้คุณ”
“ขอบคุณนะ” เปปเปอร์มองเธอ
มายมิ้นท์สะบัดมือ “คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน คนที่ควรจะขอบคุณคือฉันมากกว่า คุณต้องมาเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน”
“ผมสมัครใจ คุณไม่ต้องคิดมาก” เปปเปอร์ปลอบใจเธอ
มายมิ้นท์ถอนหายใจ “เอาล่ะประธานเปปเปอร์ เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า คุณหิวไหม?”
เปปเปอร์พยักหน้าเบาๆ “นิดหน่อย”
“คุณรอแป๊บหนึ่งนะ”
เธอลุกขึ้นเดินไปตรงที่หยิบคุกกี้และน้ำเมื่อกี้ จากนั้นก็หยิบคุกกี้และน้ำกลับมา
“ที่นี่มีแค่ของกินพวกนี้ คุณทนเอาหน่อยนะ” มายมิ้นท์พูดพร้อมกับแกะถุงและเปิดขวดน้ำให้เขา
เปปเปอร์เห็นเธอทำแบบนี้ให้ตัวเอง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ไม่เป็นไร สถานการณ์แบบนี้ มีของกินก็ดีมากแล้ว”
“ใช่แล้ว” มายมิ้นท์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ดังนั้นเราควรขอบคุณเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้ที่ทิ้งของพวกนี้ไว้ที่นี่ แต่ว่าฉันไม่มีโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน ไม่รู้ว่าควรทำยังไง…”
“กระเป๋าเงินในกระเป๋าของผมน่าจะยังอยู่” เปปเปอร์ชี้ไปที่กางเกงข้างกองไฟ
มายมิ้นท์เดินไปดู “ก็ว่าเมื่อกี้ตอนที่ฉันถอดกางเกงให้คุณ รู้สึกว่ามีบางอะไรอย่างอยู่ข้างใน ที่แท้ก็คือกระเป๋าเงินนี่เอง”
เปปเปอร์เลิกคิ้ว “ถอดกางเกง?”
มายมิ้นท์มองดูสายตาที่ลึกซึ้งของเขา เธอถึงตระหนักได้ว่าตัวเองพูดไม่รอบคอบ ทำให้เขาเข้าใจผิด จู่ๆเธอก็หน้าแดงขึ้นมา “เอ่อ… คุณสลบไป ฉันก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ แต่ว่าคุณไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณทั้งนั้น แล้วก็ไม่ได้มองอะไร”
“จริงเหรอ?” เปปเปอร์มองเธอด้วยสายตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
มายมิ้นท์มองดูสายตาที่มีรอยยิ้มของเขา เธอหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม และในขณะเดียวกันเธอก็หลบสายตาด้วยความรู้สึกผิด “แน่…แน่นอนอยู่แล้ว”
เธอไม่ได้ทำอะไรเขาจริงๆ และก็ไม่มีทางทำอะไรเขาแน่นอน
แต่เธอแค่เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นก็แค่นั้น
“โอเค ผมเชื่อคุณ” เห็นเธอหน้าแดงขนาดนั้น เปปเปอร์ก็ก้มหน้าลงแล้วหัวเราะเบาๆ ไม่ล้อเธอแล้ว
ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเธอโมโหขึ้นมาจะทำอย่างไร?
“เอ่อใช่” มายมิ้นท์หันหน้ากลับมา “ทำไมคุณถึงมีรอยแผลผ่าตัดที่หน้าอก?”
เปปเปอร์ที่กำลังดื่มน้ำได้ยินเธอถามแบบนี้ เขาก็หยุดชะงัก
แต่ไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ วางขวดน้ำลงแล้วตอบเบาๆ “ผมเคยปลูกถ่ายหัวใจ”
“ปลูกถ่ายหัวใจ?” มายมิ้นท์ตกใจจนเบิกตากว้าง
การผ่าตัดที่หน้าอก เธอคิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับหัวใจ อย่างเช่น ต่อสายเชื่อมเข้าที่หัวใจหรือเติมหัวใจ
แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะปลูกถ่ายหัวใจ
ปลูกถ่ายหัวใจก็หมายความว่าหัวใจตอนนี้ของเปปเปอร์ ไม่ใช่ของเขาเอง แต่เป็นของคนอื่น
“ทำไมถึงต้องปลูกถ่ายหัวใจ?” มายมิ้นท์มองดูเขาด้วยความตกใจ
เขากัดคุกกี้คำหนึ่งแล้วเคี้ยวช้าๆ “ผมเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิด หัวใจเป็นรูแบบที่ไม่สามารถเติมได้ตั้งแต่เด็ก ตอนที่ผมคลอดออกมา คุณหมอก็บอกว่าผมจะมีชีวิตอยู่ไม่เกินยี่สิบปี แต่เพราะว่าตระกูลนวบดินทร์มีเงิน พวกเขาหาทุกวิถีทางรักษาผม ผมก็เลยมีชีวิตจนถึงอายุยี่สิบสี่ ถึงได้ผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ”
“อายุยี่สิบสี่ปี…” มายมิ้นท์อ้าปากค้าง “นั่นก็คือเมื่อหกปีก่อนเหรอ?”
“อืม” เปปเปอร์พยักหน้า จากนั้นก็สบตาเธอ “หกปีก่อน ผมส่งจดหมายไปนัดเจอคุณ ก็เพราะว่าอยากบอกคุณว่า ผมรักคุณ คุณตกลงที่จะเจอกับผม แล้วยังโทรมาหาผม ถามผมว่าเราจะเจอกันวันไหน ต่อมาผมบอกว่าอีกหนึ่งเดือน”
“ฉันรู้” มายมิ้นท์ตอบ
เปปเปอร์กลืนคุกกี้ในปากลงไป “วันที่คุณโทรหาผม เป็นวันที่ผมผ่าตัด ผมเลยนัดเจอคุณหลังจากนั้นหนึ่งเดือน เพราะว่าการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ ผมต้องนอนบนเตียงหนึ่งเดือน”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้” มายมิ้นท์รู้สึกเสียใจ เธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว
ไม่แปลกใจที่เธอได้ยินเสียงเขาในวันนั้น มันช่างอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรง ที่แท้เขาไม่สบาย ต้องผ่าตัด
ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะฟังออก เขาคือคนที่เธอรักมาตลอด รุ่นพี่นิสัยอ่อนโยนที่ชอบใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและชอบยิ้มคนนั้น
แต่น่าเสียดาย ที่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว
มายมิ้นท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับความเสียใจในใจเอาไว้แล้วถามว่า “ฉันจำได้ โรคหัวใจตั้งแต่เกิดเป็นโรคทางพันธุกรรม คุณได้รับพันธุรรมมาจากใคร?”
“แม่ของผม” เปปเปอร์ตอบ
จากนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาพูดเสริมว่า “ไม่ใช่พิศมัย พิศมัยไม่ใช่แม่แท้ๆของผม เธอเป็นแม่เลี้ยง ผมได้รับพันธุกรรมมาจากแม่แท้ๆของผม”
“ฉันรู้ว่าพิศมัยเป็นแม่เลี้ยงของคุณ คุณย่าเคยบอกฉัน” มายมิ้นท์ได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอไม่ได้ตกใจอะไรกับคำพูดของเขา
“แต่ฉันสงสัยมาตลอดว่า ทำไมพิศมัยถึงดีกับคุณขนาดนี้ เธอดูไม่เหมือนคนที่จะเป็นแม่เลี้ยงที่ดีได้” มายมิ้นท์สงสัย
เปปเปอร์ยิ้ม “เป็นแบบนั้นจริงๆ เธอเป็นคนธรรมดา แล้วยังชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่ยอมคน ดูยังไงก็ไม่เหมือนแม่เลี้ยงที่ดี เธอควรเป็นแม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย แต่คนอย่างเธอ กลับไม่ใช่คนเลว เธอดีกับผม อาจจะเป็นเพราะว่ารู้สึกผิด”
“รู้สึกผิด?” มายมิ้นท์เลิกคิ้ว “หรือว่า เธอเป็นเมียน้อยของพ่อคุณ ถึงได้รู้สึกผิดต่อคุณที่ทำลายความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่คุณ? แต่ก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยนิสัยของคุณแล้ว คุณไม่มีทางยอมเธอแน่นอน ทำไมถึงทำเหมือนเธอเป็นแม่แท้ๆของคุณ?”