รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 448 ราเม็งเปลี่ยนไป
การันต์ก็หันหน้ากลับมา
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากซีดขาว มองไปที่เขาด้วยความไม่พอใจ “คุณหมอการันต์ คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้”
แว่นตาของการันต์สะท้อนแสง “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมก็แค่ขู่เขา ไม่ได้จะทำอะไรจริงๆ”
“จริงเหรอ?” มายมิ้นท์หรี่ตาลงด้วยความไม่เชื่อ
คนคนนี้ บอกว่าเขาเป็นหมอ แต่ความจริงแล้วเขาเป็นเหมือนปีศาจมากกว่า เมื่อก่อนตอนที่คิดว่าส้มเปรี้ยวคือเธอ แม้แต่ฆ่าคนแทนส้มเปรี้ยวเขายังกล้าทำ
ดังนั้นถ้าเขาจะทำอะไรกับเปปเปอร์ เธอเชื่อว่าเขาทำได้ และกล้าทำแน่นอน
“แน่นอน ถึงแม้ว่าผมจะทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่ไม่มีทางทำให้คุณผิดหวัง” การันต์ตบไหล่เธอเบาๆ “เอาล่ะ คุณอยากเยี่ยมเขาก็เยี่ยมเถอะ ผมขอตัวก่อน”
พูดจบ เขาก็ดึงมือกลับไปสอดในกระเป๋าชุดกาวน์สีขาวแล้วเดินออกไป
มายมิ้นท์มองดูเปปเปอร์ “เต้ ผู้ช่วยเหมันตร์ พวกคุณออกไปก่อนได้ไหม? ฉันอยากอยู่กับเขาตามลำพังแป๊บหนึ่ง”
ผู้ช่วยเหมันตร์ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาเดินออกไปข้างนอกทันที
แต่ลาเต้กลับไม่ยอมออกไป “ที่รัก เขายังไม่ฟื้นเลย คุณจะอยู่กับเขาตามลำพังทำไม พูดอะไรไปเขาก็ไม่ได้ยิน”
“ฉันรู้ ฉันมีความคิดของตัวเอง คุณออกไปเถอะเต้” มายมิ้นท์หันหน้ากลับไปมองเปปเปอร์อย่างไม่สนใจ
ลาเต้ไม่มีทางเลือก จึงต้องยอม เขาหันหลังแล้วเดินออกไปที่ประตู
นอกห้องผู้ป่วย ลาเต้กำลังจะไปพูดอะไรกับผู้ช่วยเหมันตร์ แต่จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
หยิบออกมาดู ราเม็งโทรมา
ผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่ข้างๆเขา แน่นอนว่าเขามองเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของเขา เห็นคำว่าราเม็ง เขาก็พูดอย่างเย็นชา “ในที่สุดหัวโจกก็ยอมโผล่หน้าออกมาแล้ว ผมคิดว่าเขารู้ว่าเขาทำให้ประธานเปปเปอร์และคุณมายมิ้นท์เป็นแบบนี้แล้ว เขาจะหลบซ่อนตัวไม่กล้าโผล่หน้าออกมาซะอีก”
สามวันก่อน ก็คือวันที่ประธานเปปเปอร์และคุณมายมิ้นท์ตกหน้าผา
หลังจากที่ประธานเปปเปอร์และคุณมายมิ้นท์ตกลงไปแล้ว เขายุ่งอยู่กับการหาทีมกู้ภัย หาวิธีลงไปตามหาพวกเขา
แต่ราเม็ง กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่ตอนที่เขาเจอประธานเปปเปอร์และคุณมายมิ้นท์แล้ว ราเม็งก็ไม่โผล่หน้าออกมา
ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจว่าสามวันที่ราเม็งหายตัวไปเขาไปทำอะไร เขาจึงคิดว่าราเม็งรู้ว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้อง เลยไปหลบซ่อนตัว
ลาเต้เบิกตาใส่ผู้ช่วยเหมันตร์ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจที่ผู้ช่วยเหมันตร์พูดแบบนี้ แต่เขาก็ตอบโต้ไม่ได้
เพราะว่าตั้งแต่เกิดเรื่องกับเปปเปอร์และมายมิ้นท์ ราเม็งก็ไม่โผล่หน้ามาจริงๆ
นวดขมับของตัวเอง ลาเต้รับสายโทรศัพท์
“พี่มายมิ้นท์ฟื้นแล้วใช่ไหม?” น้ำเสียงที่แหบแห้งของราเม็งดังขึ้นมา มันทำให้คนรู้สึกแปลกๆอย่างบรรยายไม่ได้
ลาเต้ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกแปลกๆ เขามักจะรู้สึกว่าราเม็งเปลี่ยนไป แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเปลี่ยนไปอย่างไร เขาจึงพยักหน้าและตอบว่า “ใช่”
“งั้นก็ดี” เสียงของราเม็งดังขึ้นอีกครั้ง
ลาเต้เม้มปากแล้วถามว่า “ราเม็ง นายบอกฉันมายมิ้นท์าตามตรง หลังจากที่ที่รักและเปปเปอร์ตกหน้าผา นายหายไปไหน? ทำไมไม่ไปตามหาพวกเขากับผู้ช่วยเหมันตร์? แล้วสองวันนี้ ทำไมนายไม่โผลหน้าออกมาเลย?”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ราเม็งที่นั่งอยู่ในห้องมืดๆก็เงยหน้าขึ้น สายตาของเขาเป็นประกาย “เพราะฉันกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่”
“เรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้นายไม่ไปตามหาพวกเขา?” ลาเต้พูดด้วยความโมโห
สีหน้าของราเม็งยิ่งแปลกไป “ไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณบอกพี่มายมิ้นท์ด้วยว่า สายหน่อยผมจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล”
พูดเสร็จ เขาก็วางสายไป
ลาเต้กระทืบเท้าด้วยความโมโห “ไอ้สารเวร!”
“เกิดอะไรขึ้นเต้?” มายมิ้นท์ออกมาจากห้องของเปปเปอร์ ออกมาได้ยินลาเต้กำลังด่าคนพอดี เธอจึงถามเขา
ลาเต้วางโทรศัพท์ลง “ก็ราเม็งนะสิ ผมถามเขาว่าทำไมสองสามวันนี้ไม่ยอมโผลหน้าออกมา เขาไม่ยอมพูดความจริง”
พูดถึงราเม็ง มายมิ้นท์ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอถาม “เอ่อใช่ ราเม็งเป็นยังไงบ้าง?”
“เขา?” ลาเต้เบะปาก “เขาไม่ได้เป็นอะไร”
“ไม่เป็นไรก็ดี” มายมิ้นท์โล่งใจ
ลาเต้มองดูเธอ “ที่รัก เรื่องนี้เป็นเรื่องความแค้นของราเม็งและองอาจ คุณถูกองอาจลักพาตัวไปก็เพราะราเม็ง คุณไม่โทษราเม็ง แล้วยังเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอะไร”
“เอาน่าเต้ ฉันรู้เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เป็นเพราะราเม็งจริงๆ แต่ราเม็งไม่รู้ว่ามันจะกระทบกับฉัน ถ้าเขารู้ เขาก็คงจะทำอะไรบางอย่าง ไม่มีทางปล่อยให้องอาจมีโอกาสทำอะไรฉันแน่นอน นี่มันคือเรื่องที่ไม่คาดคิด จะโทษราเม็งทั้งหมดไม่ได้ เรากลับกันเถอะ ฉันปวดเอวกับหลังมาก ยืนไม่ไหวแล้ว” มายมิ้นท์จับเอวของตัวเอง
ลาเต้เห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาก็สงสาร “ผมประคองคุณ”
มายมิ้นท์อืม จากนั้นก็มองไปที่ผู้ช่วยเหมันตร์ “เดี๋ยวฉันค่อยมาเยี่ยมเขา”
ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่พูดอะไร ราวกับไม่ได้ยินที่เธอพูด เปิดประตูห้องของเปปเปอร์แล้วเดินเข้าไปทันที
เห็นแบบนี้ ลาเต้ก็กัดฟันด้วยความโมโห “อะไรของเขา เมื่อก่อนยังเป็นคนเข้าหาง่าย ทำไมตอนนี้…”
“ฉันเข้าใจเขา” มายมิ้นท์หลับตาลงแล้วพูดเบาๆ “เปปเปอร์ไม่ใช่แค่เจ้านายเขา แล้วยังเป็นเพื่อนของเขา เปปเปอร์ต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน ไม่มีทางที่เขาจะไม่โกรธฉัน เรากลับกันเถอะ “
กลับมาที่ห้อง หลังจากไปเข้าห้องน้ำแล้วลาเต้ก็ประคองเธอไปที่เตียง ยกของกินมาให้เธอ จากนั้นก็บอกให้เธอนอนหลับ
ตอนบ่าย ราเม็งมาที่โรงพยาบาล เขายิ้มให้มายมิ้นท์อย่างน่าขนลุก “พี่มายมิ้นท์”
ทันทีที่เห็นเขา มายมิ้นท์ก็ตกใจ จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วแล้วมองในดวงตาของเขา มีความรู้แปลกๆที่อธิบายไม่ได้
ราเม็งเปลี่ยนไป!
นี่เป็นสี่คำแรกที่ผุดขึ้นในหัวของมายมิ้นท์ ทันทีที่เธอเจอกับราเม็ง
อย่างแรกคือการแต่งตัวเขาเปลี่ยนไป
เมื่อก่อนราเม็งมักจะใส่เสื้อผ้าสีขาว แต่ราเม็งในตอนนี้ กลับใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทรงผมก็เปลี่ยนไป ผมที่ห้อยลงมาปิดหน้าผากเมื่อก่อน ทำให้เขาดูอ่อนโยนและสดใส
ตอนนี้เขาหวีผมขึ้นไปข้างบน เปิดหน้าผากออก ตัดผมสั้นลงกว่าเดิม ดูไม่มีความอ่อนโยน แต่กลับมีความดื้อรั้น
สรุปก็คือ ราเม็งในตอนนี้ไม่เหมือนกับราเม็งเมื่อก่อนเลยแม้แต่น้อย
ไม่ต้องพูดถึงมายมิ้นท์ แม้แต่ลาเต้ก็ตกใจกับราเม็งที่เป็นแบบนี้
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมคุยโทรศัพท์กับเขาตอนเช้ามันถึงรู้สึกแปลกๆ เพราะว่าราเม็งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ราเม็งที่เขาเคยรู้จักและคุ้นเคยคนนั้น แต่กลายเป็นราเม็งที่เขาไม่รู้จัก
ใช่ ไม่รู้จัก!
“เฮ้ ราเม็ง สามวันที่ผ่านมานายผ่านอะไรมากันแน่? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?” ลาเต้มองราเม็งตั้งแต่หัวจรดเท้า
ราเม็งไม่สนใจเขา เขาเดินไปที่เตียงแล้วกอดมายมิ้นท์ที่นั่งอยู่บนหัวเตียง มุดหัวเข้าไปบนไหล่ของมายมิ้นท์ ท่าทีราวกับไม่ได้เจอกันนาน “พี่มายมิ้นท์ ในที่สุดเราก็เจอกันแล้ว”
“ในที่สุด?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วแน่น
จากนั้น เธอก็ผลักเขาออก
ราเม็งถูกเธอผลักจนเซ เขาจับขอบเตียงเอาไว้ จากนั้นก็ยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย “พี่มายมิ้นท์ ผลักผมทำไม”
“นายเป็นใคร?” มายมิ้นท์กำมือแน่น เธอมองไปที่เขาด้วยความหวาดระแวง
ลาเต้กะพริบตา “ที่รัก ทำไมคุณถึงถามเขาแบบนี้?”
“ใช่สิพี่มายมิ้นท์” ราเม็งหัวเราะเบาๆ “ผมคือราเม็งไง”
“ไม่ นายไม่ใช่ราเม็ง” มายมิ้นท์ส่ายหน้าด้วยความมั่นใจ “ต้องบอกว่า นายไม่ใช่ราเม็งที่ฉันรู้จัก นายคือด้านมืดของราเม็ง”
“อะไรนะ?” ลาเต้ตกใจเขามองไปที่ราเม็งอย่างไม่เชื่อ “ด้านมืดของราเม็ง?”
ราเม็งคิดไม่ถึงว่ามายมิ้นท์จะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาทันทีแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแข็งทื่อ
แต่ไม่นาน เขาก็แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “คิดไม่ถึงว่าพี่มายมิ้นท์จะมองออก แต่ว่าพี่มายมิ้นท์มองออกได้ยังไง?”
“นายคือด้านมืดจริงๆเหรอ?” ลาเต้พูดเสียงดัง