รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 487 อย่าปรากฏตัวต่อหน้าผม
“ไปทำงานของคุณเถอะ”เปปเปอร์พูดพร้อมกับนวดบริเวณขมับเล็กน้อย
ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูเขามีสีหน้าที่ซีดขาว และยังคงไม่ไว้วางใจ ยืนอยู่ที่เดิมไม่ออกไป“ประธานเปปเปอร์ครับ คุณไม่เป็นอะไรจริงๆหรือครับ?หรือว่าเราไปหาหมอตอนนี้ดูก่อนดีกว่าไหมครับ?เดิมทีคุณหมอการันต์บอกว่าคุณสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ก็ต้องพักผ่อน แต่คุณกลับไม่ยอม ออกจากโรงพยาบาลก็มาทำงานที่บริษัททันทีเลย ผมเป็นห่วงว่าหัวใจของคุณจะทำงานหนักเกินไป ดังนั้น ……”
“ไม่เป็นไร ผมมีขอบเขตของตัวเอง”เปปเปอร์ได้ยกแก้วน้ำขึ้นและดื่ม ขัดจังหวะคำพูดของเขาไป“ถ้าหากผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมจะไปโรงพยาบาลเอง”
“ถ้าเช่นนั้นก็ได้ครับ งั้นผมออกไปก่อนนะครับ มีเรื่องอะไรก็เรียกผมได้ทันทีเลยครับ”ผู้ช่วยเหมันตร์ถอนหายใจ และก้าวถอยหลังอยู่สองก้าว จากนั้นก็หันกลับเดินออกไปทางประตูออฟฟิศ
หลังจากที่เขาเดินออกไปนั้น เปปเปอร์ก็ได้วางแก้วน้ำลง ยื่นมือออกไปเปิดลิ้นชักออก หยิบขวดยาออกมาแล้วเปิดมัน เทยาสองเม็ดเข้าปากของเขา และกลืนมันเข้าไปโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ
พอกลืนเข้าไปแล้ว เขาก็ปิดฝาขวด จากนั้นมือที่เย็นเยือกนั้นก็หยิบขวดยาเล่น ด้วยสายตาที่เยาะเย้ย
ยาตัวนี้ เป็นยาที่รักษาโรคหัวใจโดยเฉพาะ
ครั้งหนึ่งเขาเคยกินมันมานานกว่ายี่สิบปี และคิดว่าเขาจะไม่มีวันต้องกินมันอีกเลยในชีวิตนี้
แต่กลับคาดไม่ถึง นี่เป็นเพียงแค่ระยะเวลาหกปี เขาก็ต้องกลับมากินยาประเภทนี้อีกครั้งหนึ่ง
แต่เปปเปอร์ไม่รู้สึกเสียใจใดๆ หากได้เลือกใหม่อีกครั้ง เขาก็ยังคงทำเพื่อมายมิ้นท์ โดดลงหน้าผาโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เปปเปอร์ก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วโยนขวดยากลับเข้าไปในลิ้นชัก ปิดลิ้นชักหยิบปากกาขึ้นมา และทำงานต่อไป
ในตอนบ่าย ทางโรงพยาบาลโทรมา ขอให้เขาไปทำการตรวจอีกครั้ง
เปปเปอร์ได้เลื่อนกำหนดการเดินทางที่ไม่สำคัญในตอนบ่ายออก และออกเดินทางไปพร้อมกับผู้ช่วยเหมันตร์
ทั้งสองคนได้มาถึงที่จอดรถของบริษัทตระกูลนวบดินทร์ พอมาถึงหน้ารถเปปเปอร์ก็หยุดกะทันหัน มองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ตกตะลึงและประหลาดใจ
ผู้ช่วยเหมันตร์ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นเขาหยุดเดิน ก็หยุดเดินตามกัน จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า:“ประธานเปปเปอร์ครับ เป็นอะไรไปครับ?”
“มายมิ้นท์มา”เปปเปอร์มองไปตรงหน้า ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆรถของตัวเองนั้น และตอบกลับด้วยริมฝีปากอันบาง
พอผู้ช่วยเหมันตร์ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็รีบเดินออกมาจากหลังของเขาแล้วมองไปด้วยความตกตะลึง และก็เจอมายมิ้นท์จริงๆด้วย
“เป็นคุณมายมิ้นท์จริงๆด้วยครับ เธอมาทำอะไรหรือครับ?”ผู้ช่วยเหมันตร์เต็มไปด้วยความสงสัย
เปปเปอร์หรี่ตาลง และไม่ได้พูดอะไร ยกเท้าขึ้นและก้าวตรงไปข้างหน้า
มายมิ้นท์ที่กำลังก้มหน้าลงดูโทรศัพท์นั้นได้ยินเสียงเท้าที่เดินมา ก็เงยหน้าขึ้นมาดู เห็นเปปเปอร์และผู้ช่วยเหมันตร์เดินเข้ามา ก็รีบยืนตัวตรง หันมาทางขวาเล็กน้อย ยืนอยู่ตรงหน้าของเปปเปอร์“ประธานเปปเปอร์”
“คุณมีเรื่องอะไร?”เปปเปอร์มองดูเธอ ถามด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
มายมิ้นท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขายังคงเย็นชาเหมือนสองวันก่อน
“ฉันมาที่นี่ เพื่อมาหาคำตอบ”มายมิ้นท์มองดูเขา
เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก ในสายตามีความสงสัยเล็กน้อย“คำตอบอะไร?”
มายมิ้นท์เอ่ยปากตอบกลับ:“ก็คือเหตุผลที่ทำไมจู่ๆคุณถึงไม่ให้ฉันมาดูแลคุณ ประธานเปปเปอร์ ฉันอยากรู้ว่าเพราะอะไร?”
เขาที่ปล่อยมือเธอ เธอไม่ได้สนใจ และก็ไม่อยากรู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร
แต่ว่าเรื่องที่เขาที่ไม่อยากให้เธอมาดูแลนั้น เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เพราะว่าทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้น ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อเขาหรือเปล่า ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้เธอดูแล
และเขาที่ไม่อยากให้เธอมาดูแล ก็กลายเป็นว่ากำลังขัดขวางการตอบแทนบุญคุณของเธอ
ถึงแม้ว่าผู้ช่วยเหมันตร์ได้พูดแล้ว ว่าไม่ต้องการให้เธอมาตอบแทนบุญคุณใดๆ แต่เธอก็จะไม่ตอบแทนจริงๆอย่างนั้นหรือ?
ถ้าเช่นนั้นแล้วเธอกลายเป็นคนอะไรแล้วล่ะ?คนหนึ่งที่รู้แค่ยอมรับในสิ่งที่คนอื่นให้ แต่กลับไม่รู้จักตอบแทนเช่นคนต่ำทรามหรือ
ไม่ว่ายังไง เธอจะไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นคนเช่นนั้นแน่นอน
เธอก็เป็นคนอย่างนี้ เธอต้องตอบแทนความช่วยเหลือและเสียสละที่ผู้อื่นมอบให้เธอ มิเช่นนั้น เธอจะรู้สึกละอายใจและไม่สบายใจ
เปปเปอร์ที่ฟังคำพูดของมายมิ้นท์ ก็มีแสงแวบเข้ามาในดวงตาของเขาด้วยความมึนงง
เห็นได้ชัดว่า เขานึกไม่ถึงเลย สิ่งที่เธอจะถาม กลับเป็นสิ่งนี้เอง แล้วยังมารั้งเขาไว้โดยเฉพาะ
มันก็จริง หากเธอไม่รออยู่ที่นี่ แต่ไปรอที่หน้าเคาน์เตอร์เอาล่ะก็ เธอก็จะไม่ได้เจอเขาเลย
“ไม่มีเหตุผลอะไร”เปปเปอร์ตอบกลับด้วยริมฝีปากอันบาง จากนั้นก็เดินผ่านตัวเธอจะจากไป
มายมิ้นท์กางแขนออก และได้ปิดกั้นทางของเขา “ไม่มีเหตุผลอะไร?ประธานเปปเปอร์คะ คุณคิดว่าฉันจะเชื่อหรือคะ?”
ไม่มีเหตุผลอะไร ก็คือสาเหตุที่ใหญ่ที่สุด
เพราะว่าก่อนหน้าหนึ่งวันเขายังยอมรับการดูแลของเธออยู่ แต่ว่าวันที่สองจู่ๆก็เปลี่ยนและไม่ต้องการความดูแลจากเธอแล้ว มันเปลี่ยนได้รวดเร็วเกินไป บอกว่าไม่มีเหตุผล ใครจะไปเชื่อ?
“แล้วคุณต้องการอะไรล่ะ?”เปปเปอร์ขมวดคิ้ว ใบหน้าแสดงความรำคาญใจออกมา
พอมายมิ้นท์เห็นท่าทีของเขาเช่นนี้ ภายในใจมีความไม่สบายใจเล็กน้อย ได้เม้มปากที่แดงก่ำพร้อมพูดว่า:“ฉันแค่ต้องการเหตุผลก็เท่านั้น และดูแลคุณต่อไป จนกระทั่งคุณหายดีแล้ว ประธานเปปเปอร์คะ คุณก็น่าจะรู้ ฉันอยากตอบแทนบุญคุณ ดังนั้น……”
“เหมันตร์น่าจะเคยบอกกับคุณแล้ว ว่าผมไม่ต้องการให้คุณมาตอบแทนบุญคุณ”เปปเปอร์ขัดจังหวะพูดของเธอด้วยเสียงแผ่วเบา
ผู้ช่วยเหมันตร์ได้ดันแว่นตา แล้วก้าวไปข้างหน้า“ผมได้แจ้งให้กับคุณมายมิ้นท์แล้วจริงๆครับ”
“ใช่ค่ะ ผู้ช่วยเหมันตร์เคยบอกแล้วจริงๆ แต่ฉันไม่ยอมรับมัน คุณเคยช่วยฉันไว้ คุณไม่ต้องการให้ฉันตอบแทนบุญคุณ แต่ฉันก็ไม่ตอบแทนคุณจริงๆได้ยังไงล่ะ นี่เป็นหลักการของฉัน”มายมิ้นท์มองดูดวงตาของเปปเปอร์ บอกให้เขาด้วยความจริงจังอย่างมาก
ถ้าหากว่าคนอื่นมาช่วยเหลือเธอ ไม่ต้องการให้เธอตอบแทน และเธอก็ไม่ตอบแทนจริงๆ เป็นอย่างนี้หลายครั้งในระยะเวลานานไป จะยังมีใครที่ยังมาช่วยเหลือเธออีกล่ะ?
ยังจะมีใครที่คบหาเธออยู่อีก?
เปปเปอร์คาดไม่ถึงว่ามายมิ้นท์จะดื้อรั้งได้เช่นนี้ และถอนหายใจเล็กน้อย“ในเมื่อคุณยืนหยัดที่จะตอบแทนบุญคุณ งั้นคุณก็ใช้วิธีอื่นเถอะ สรุปแล้วผมไม่ต้องการให้คุณมาดูแล การดูแลของคุณทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมาก”
“อึดอัดหรือ?”มายมิ้นท์ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“อึดอัดในด้านไหนคะ?”
คือด้านหญิงชายมิควรถูกเนื้อต้องตัวกันหรือ?
แต่เพราะขาของเขาก็ยังดีอยู่ ดังนั้นตอนที่เขาอาบน้ำเข้าห้องน้ำ ก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอเลย ก็เลยไม่น่าจะมีด้านหญิงชายมิควรถูกเนื้อต้องตัวกันนี่
เมื่อมายมิ้นท์ที่สับสนอยู่นั้น เปปเปอร์ก็กำมือของเขาไว้ในกระเป๋ากางเกง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่แยแส:“ด้านไหนก็อึดอัดไปหมด การดูแลของคุณ ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย ไม่คุ้นเคยและไม่ทั่วถึงอีก ดังนั้นผมยอมที่จะจ้างพยาบาล ก็ไม่ยอมให้คุณมาดูแล เหตุผลนี้ คุณพอใจหรือยัง ?”
“……”มายมิ้นท์อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกเลย ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอแดงก่ำ มีความเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
ใช่ เธอก็รู้ว่าตัวเองดูแลคนได้ไม่ทั่วถึง
เนื่องจากเธอก็ไม่ได้ดูแลผู้คนโดยเฉพาะแต่แรกอยู่แล้ว และก็ยังไม่เคยดูแลผู้ป่วยอีกต่างหาก ดังนั้นในตอนที่เธอดูแลเขา ก็ต้องมีข้อบกพร่องมากมายอยู่แล้ว
เพียงแต่นึกไม่ถึง ว่าเขาจะพูดออกมาโดยตรงขนาดนี้
ระหว่างที่คิด มายมิ้นท์ก็ได้สูบหายใจเข้าลึกๆ ปรับอารมณ์ของตัวเอง และเธอก็สงบสติอารมณ์อีกครั้ง จากนั้นจึงมองไปที่เปปเปอร์แล้วพูดว่า:“ฉันเข้าใจแล้วค่ะประธานเปปเปอร์ ฉันจะไม่คิดที่จะมาดูแลคุณอีกแล้ว การดูแลในก่อนหน้าสองวันนั้น ไม่ทั่วถึงตรงไหน ก็โปรดยกโทษให้ฉันด้วย”
เธอโค้งคำนับเขา
เปปเปอร์ทนความอยากที่จะดึงเธอขึ้นมา และมองที่เธอโดยไม่พูด
มายมิ้นท์ยืนตัวตรงและพูดว่า“สิ่งที่คุณทำถูกแล้ว หากฉันดูแลได้ไม่ทั่วถึงนัก และคุณไม่ต้องการให้ฉันดูแล มันก็สมเหตุสมผลอยู่แล้ว หลังจากนี้ ฉันจะคิดหาวิธีอื่น มาตอบแทนบุญคุณของคุณที่ช่วยชีวิตฉัน”
“แล้วแต่คุณเลย”เปปเปอร์หลับตาลงเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ:“แต่ว่าผมไม่อยากเจอหน้าคุณ ดังนั้นหากคุณต้องการตอบแทนล่ะก็ จะให้ดีที่สุดก็คืออย่าปรากฏตัวต่อหน้าผม ”
รูม่านตาของมายมิ้นท์หดตัว และหัวใจของเธอก็รู้สึกปวดอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอได้กัดริมฝีปากเบาๆ มีน้ำเสียงที่น้อยใจ และมีความโกรธที่ไม่สามารถบรรยายได้เล็กน้อยอีกด้วย แล้วได้ตอบกลับ“ได้ ฉันรับปาก”
ไม่ปรากฏก็ไม่ปรากฏ อย่างกับใครสน
ไม่ปรากฏต่อหน้าเขายิ่งดี เธอก็ไม่อยากเจอเขาด้วยเช่นกัน
ระหว่างที่คิด มายมิ้นท์ก็หันศีรษะกลับไป ไม่อยากมองเปปเปอร์