รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 492 เรด้า
เมื่อนึกถึงคำเชิญของลาเต้ให้ไปร่วมงานเลี้ยงเมื่อครู่ มายมิ้นท์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
โชคดีเหลือเกินที่เธอปฏิเสธไป ไม่อย่างนั้นถ้าพรุ่งนี้เปปเปอร์เห็นกับเธอเขาเข้า คงจะคิดว่าเธอจงใจปรากฏตัวต่อหน้าเขาแน่ๆ
เหอะๆ เธอจะไม่ยอมให้เปปเปอร์มีโอกาสดูถูกเธอเด็ดขาด
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อนึกถึงเปปเปอร์เชิญเรด้า มาเป็นคู่ควงออกงานเลี้ยง หัวใจของมายมิ้นท์ก็ตึงเครียดขึ้นมา
เธอลากเก้าอี้ออกมานั่งลงจากนั้นใช้มือจับไปที่เมาส์ คลิกดูหน้าโซเชียลส่วนตัวของเรด้า
เมื่อเห็น เรด้า ใช้กระเป๋าแบรนด์เนม รถ รองเท้าเครื่องสำอางและของอื่นที่มีมูลค่าสูง คิ้วอันได้รูปงดงามของเธอก็ขมวดเข้าหากัน
โปรไฟล์หน้าแรกของเรด้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมั่งคั่ง ทำให้รู้สึกว่าเธอกำลังอวดรวย
สรุปแล้วก็คือการกระทำเช่นนี้ของเรด้าไม่เหมาะสมกับเปปเปอร์เอาเสียเลย
ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก ภูมิหลังของครอบครัวหรือความชื่นชอบส่วนตัว ล้วนไม่เหมาะสมกันทั้งสิ้น
สองคนนี้ไม่เข้ากันเลยสักนิด
หากท้ายที่สุดแล้วเปปเปอร์จะเลือกที่จะแต่งงานกับเรด้า เธอคงจะสงสัยในความสามารถด้านการมองคนของเขา
“ประธานมายมิ้นท์คะ จู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น”
มายมิ้นท์ตกตะลึงก่อนจะปิดหน้าเว็บเพจอย่างรวดเร็วแล้วหันไปมองซินดี้ที่เดินเข้ามาอยู่ตรงประตูอย่างรวดเร็ว เธอพยายามยิ้มขึ้นท่ามกลางอารมณ์หงุดหงิด “มีอะไรเหรอคะ?”
ให้ตายสิ เธอจะรู้สึกผิดทำไม!
ก็แค่ดูหน้าโปรไฟล์ไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงทำตัวเหมือนว่าทำผิดอย่างนี้เล่า
เลขาซินดี้ไม่เข้าใจว่ามายมิ้นท์กำลังตื่นตระหนกเรื่องอะไรอยู่ แต่เธอก็ไม่ได้คิดมาก รีบปล่อยมือจากประตูแล้วพูดว่า “ผู้ช่วยของประธานเตชิตให้ดิฉันมารายงานว่า เชิญคุณไปประชุมที่ห้องทำงานค่ะ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” มายมิ้นท์พยักหน้าตอบรับ
จากนั้นเลขาซินดี้ก็หันหลังจากไป
มายมิ้นท์จัดการเก็บโต๊ะทำงาน จากนั้นหยิบแล็ปท็อปของเธอขึ้นมาเดินไปที่ประตู
หลังสิ้นสุดการประชุมเป็นเวลายาวนานถึงสองชั่วโมง
เมื่อเธอเดินกลับมาที่ห้องทำงาน ก็ได้รับสายจากลาเต้
“ที่รักครับ ผมไม่มีคู่ควงออกงานจริงๆ ยืมตัวเลขาซินดี้ของคุณหน่อยได้ไหม?” ลาเต้เอ่ยถาม
มายมิ้นท์เงยหน้ามองดูฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทำงานเธอ และพบเลขาซินดี้ที่กำลังจัดเก็บเอกสารอยู่บนโต๊ะ เธอยิ้มขึ้นแล้วตอบว่า “ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ เดิมทีซินดี้ก็เป็นเลขาของคุณที่ส่งมาช่วยฉัน เดี๋ยวฉันจะลองถามเลขาซินดี้ดูนะคะว่าเธอยินดีไปหรือเปล่า”
เมื่อเห็นว่ามายมิ้นท์พูดถึงตน เลขาซินดี้จึงหยุดการเคลื่อนไหวของเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “ประธานมายมิ้นท์คะ ประธานลาเต้เหรอคะ?”
มายมิ้นท์ยิ้ม “ใช่แล้ว พรุ่งนี้เขาจะไปงานเลี้ยง แต่จะต้องมีคู่ควงออกงานผู้หญิงไปด้วย เลยอยากจะให้คุณไปเป็นเพื่อนเขาหน่อยน่ะ”
“ฉัน?” เลขาซินดี้ชี้ไปที่ตน นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ
มายมิ้นท์พยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“ไม่ค่ะ ฉันทำไม่ได้!” เลขาซินดี้ตกใจกลัวแล้วรีบลุกขึ้นยืนทันที เธอโบกไม้โบกมือเป็นความหมายว่าตนเองไม่เหมาะสม
จะให้เธอไปเป็นคู่ควงออกงานยิงของประธานลาเต้ได้อย่างไร?
เพราะว่าคนที่เป็นคู่ควงหากไม่ใช่แฟนก็จะต้องเป็นผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งต่อกัน
ส่วนเธอไม่ได้เป็นทั้งแฟนของประธานลาเต้ และไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานลาเต้ขนาดนั้น จะไปเป็นคู่ควงออกงานของประธานลาเต้ได้อย่างไร?
“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ?” มายมิ้นท์มองไปทางเลขาซินดี้ด้วยความงุนงง
“ฉัน…… ฉัน……” เลขาซินดี้ก้มหน้า มือของเธอจิกกระโปรงทรงเอทำงานสีดำเอาไว้แล้วพูดตะกุกตะกัก
จะให้เธอพูดว่า เธอกลัวว่าหลังจากได้เป็นคู่ควงออกงานของประธานลาเต้แล้ว เธอจะต้องการครอบครองประธานลาเต้มากขึ้นกว่าเดิมออกมาได้เหรอ?
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าภายในใจของเลขาซินดี้คิดอะไรอยู่ เธอคิดว่าซินดี้คงจะเพียงแค่ประมาท เนื่องจากไม่เคยเป็นคู่ควงออกงานของใครมาก่อน จึงได้ยิ้มขึ้นแล้วปลอบเธอว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ไปกินข้าวกับลาเต้เท่านั้นเอง แล้วก็พบกับแขกนิดหน่อย ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”
“แล้วทำไมประธานมายมิ้นท์ถึงไม่ไปล่ะค่ะ?” จู่ๆ เลขาซินดี้ก็เอ่ยถามเธอ คนที่ประธานลาเต้องการจะเชิญไปมากที่สุดน่าจะเป็นคุณประธานมายมิ้นท์ต่างหากนี่?
มายมิ้นท์ยิ้มขึ้นแล้วไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด เธอตอบไปว่า “ฉันไปไม่ได้หรอก เพราะว่าพรุ่งนี้เปปเปอร์ก็คงไป”
เมื่อได้ยินคำนี้เลขาซินดี้จึงไม่ได้พูดอะไรอีก
มิน่าล่ะ ประธานมายมิ้นท์ไปเองไม่ได้ เป็นเพราะประธานเปปเปอร์ก็ไปด้วยนี่เอง
ก็จริงอยู่ อดีตสามีภรรยาต้องเจอหน้ากันก็คงจะทำตัวไม่ถูก
“ดังนั้น ช่วยไปเป็นเพื่อนลาเต้ทีนะ เพราะหากว่าเธอไม่ไปละก็ ลาเต้คงจะไปคนเดียว เขาคงไม่อยากจะไปหาคนที่ไม่สนิทไปด้วย เพราะว่านอกจากฉันแล้ว คุณก็เป็นคนที่เขาสนิทมากที่สุดที่เป็นผู้หญิง” มายมิ้นท์มองไปทางเลขาซินดี้แล้วพูดด้วยความจริงจัง
เลขาซินดี้ถูกประโยคเธอเมื่อครู่ที่ว่า ‘นอกจากฉัน เธอเป็นผู้หญิงที่เขาคุ้นเคยที่สุด’ ทำให้รู้สึกประทับใจขึ้นมา
นั่นหมายความว่าในใจประธานลาเต้ เธอเองก็พอจะสำคัญอยู่บ้างใช่ไหม?
ต่อให้ตำแหน่งนั้นไม่ใช่คนรักหรือความรัก เเต่อย่างร้อยก็คงมีความรู้สึกอื่นอยู่บ้าง
ในที่สุดแล้ว เลขาซินดี้ก็ตกลงว่า “ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะเดินทางไปเป็นเพื่อนประธานลาเต้เอง”
มือทั้งสองข้างของเธอกุมกระโปรงเอาไว้แน่นเสียจนฝ่ามือเหงื่อออกด้วยความประหม่า
ไม่เพียงเท่านั้น หัวใจของเธอยังเต้นโครมคราม
เพราะว่าในที่สุดเธอก็มีโอกาสจะใกล้ชิดกับประธานลาเต้สักที
แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แต่ก็ทำให้เธอมีความสุขมาก เพียงพอที่จะหวนคิดถึงไปชั่วชีวิต
เมื่อคิดได้ดังนั้นเลขาซินดี้ก็ก้มหน้าลงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
มายมิ้นท์หันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหูแล้วบอกถึงคำตกลงของเลขาซินดี้ต่อลาเต้
ไม่รู้ว่าลาเต้คุยอะไรกับเธออีกก่อนจะวางสายไป
มายมิ้นท์วางโทรศัพท์ลงแล้วพูดกับเลขาซินดี้ว่า “วันพรุ่งนี้เช้า เขาจะพาคุณไปแต่งหน้าทำผม”
“ค่ะ” เลขาซินดี้ตอบรับเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าจัดการเอกสารต่อ
แต่หากพิจารณาดูแล้วมือของเธอสั่นคลอนเล็กน้อย เป็นความหมายว่าในใจของเธอตอนนี้ยังไม่อาจสงบลงได้
ก็จริงอยู่ การที่สามารถออกงานเป็นคู่ควงกับคนที่แอบรักได้ ใครบ้างที่จะสงบจิตสงบใจลง
ขณะเดียวกัน ณ นวบดินทร์กรุ๊ป
เปปเปอร์ฟังรายงานของผู้ช่วยเหมันตร์ ดวงตาของเขาหรี่ลงเอ่ยถามว่า “คุณบอกว่าพรุ่งนี้ลาเต้จะไปงานด้วยเหรอ?”
“ใช่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ขยับแว่นตาเล็กน้อย “เมื่อสักครู่ผมพบรายชื่อของลาเต้ในคนที่จะไปร่วมงาน ดังนั้นวันพรุ่งนี้คาดว่าคุณลาเต้คงจะพาคุณมายมิ้นท์ไป”
ลาเต้ชอบมายมิ้นท์ แน่นอนว่าเขาจะต้องไปเชิญคุณมายมิ้นท์มาเป็นคู่ควงออกงาน
เรื่องนี้ไม่ต้องคิดมากเลย
เมื่อเปปเปอร์ได้ยินว่าวันพรุ่งนี้ลาเต้จะพามายมิ้นท์ไปร่วมงานด้วย เขาก็เม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจ แต่คำที่เขาพูดออกมานั้นกลับตรงกันข้ามกับปฏิกิริยา “ถ้าเขาจะพาไปก็ให้ไปเถอะ”
เขาเคยบอกแล้วว่าจะไม่เข้าไปขวางทางทามทอยจะตามจีบมายมิ้นท์
ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไม่ขัดขวางลาเต้ด้วย
เขาอยากจะเห็นจริงๆ ว่าทั้งสองคนนี้ใครจะเหมาะสมกับมายมิ้นท์มากกว่ากัน
เขาจะเป็นผู้ช่วยเลือกให้กับมายมิ้นท์เอง ในช่วงเวลาสามปีที่ยังมีชีวิตอยู่
ส่วนราเม็ง……
ใบหน้าของเปปเปอร์หยุดนิ่งลง
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ เขาไม่เคยคิดว่าราเม็งเหมาะสมกับมายมิ้นท์เลย
ราเม็ง ชายหนุ่มคนนั้นมีดวงใจที่มืดมนและมีอาการป่วยทางจิตขั้นรุนแรง ตอนนี้เขายังมีปัญหาเรื่องบุคลิกภาพเป็นคนสองบุคลิก
คนแบบนี้อันตรายมาก
ถ้ามายมิ้นท์อยู่กับคนแบบนี้ ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาไม่อาจจินตนาการได้เลย
……
เช้าวันต่อมา
เปปเปอร์ได้พาบุตรสาวของตระกูลจักรีศานส์ มายังห้องรับรองวีไอพีในงานเลี้ยง
เมื่อตอนที่เดินเข้าไป เขาพบว่าด้านในนั้นคนอื่นๆ มากันเกือบครบแล้ว
เปปเปอร์กวาดตามองไปยังทุกคนในห้อง ท้ายที่สุดแล้วสายตาไปหยุดอยู่ที่ลาเต้ และคู่ควงข้างกายเขา
เมื่อพบว่าคู่ควงของลาเต้ไม่ใช่มายมิ้นท์ แต่เป็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง เปปเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้น?
คู่ควงออกงานของลาเต้ไม่ใช่มายมิ้นท์?
เมื่อพบว่าเปปเปอร์ยืนหยุดอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน เรด้าที่โอบแขนของเขาไว้ก็หน้าแดงเรื่อ มองไปด้วยสายตาแวววาว น้ำเสียงออดอ้อนว่า “ประธานเปปเปอร์คะ เป็นอะไรเหรอคะ?”
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้นกว่าเดิม ดวงตาของเขาเผยถึงความรังเกียจเล็กน้อย ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ไม่มีอะไร”
จากนั้นเขาก็ก้าวขาเดินไปข้างหน้า
เรด้าโอบแขนของเขาเอาไว้แน่น อีกทั้งยังแสร้งเบียดหน้าอกอันอวบอิ่มของเธอไปเสียดสีกับแขนของเขา ดูเหมือนไม่ตั้งใจแต่เต็มไปด้วยความยั่วยวน