รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 497 คำถามของท่านย่า
“แกบอกว่าใครจะหมั้นนะ?” วันนี้เปปเปอร์ไม่ได้เดินทางไปที่นวบดินทร์กรุ๊ป แต่เขากลับพักผ่อนอยู่ที่คอนโดขนาดใหญ่ของตน
ในตอนนี้เขาสวมชุดนอนสีดำกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในระเบียงห้องนั่งเล่นอ่านนิตยสารการเงิน เมื่อได้ยินทามทอยพูดแบบนั้นความสงบสบายเมื่อครู่ที่มีก็จางหายไปจนสิ้น เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
ทามทอยกำลังนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่เขารีบพูดขึ้นว่า “ก็คุณน่ะสิ คุณกับเรด้าคนนั้น”
“ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องว่าผมจะหมั้น?” ใบหน้าของเปปเปอร์ดูมืดมนไม่น่ามอง บรรยากาศรอบข้างถูกกดดันลงทันที
คนคนนี้เป็นอะไรกัน ไม่เพียงแต่บอกว่าเขาจะหมั้น อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงคนเมื่อคืนนี้
สายตาของเขาย่ำแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอ?
เมื่อทามทอยได้ยินประโยคนั้นของเปปเปอร์ เขาก็ชะงักลงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงแล้วพูดขึ้นว่า “เปปเปอร์ คุณหมายความว่าคุณไม่ได้จะแต่งงาน กับตระกูลจักรีศานส์เพื่อธุรกิจ และข่าวที่จะหมั้นหมายก็เป็นเรื่องเท็จ?”
“ผมไม่เคยบอกว่าผมจะแต่งงานกับตระกูลจักรีศานส์ ดังนั้นจะมีงานหมั้นหมายได้ยังไง?” น้ำเสียงของเปปเปอร์เอ่ยถามขึ้นอย่างเย็นชา “ได้ยินมาจากไหนว่าผมจะหมั้น”
“ในอินเทอร์เน็ตไง!” ทามทอยตอบ “ตอนนี้ในโลกอินเทอร์เน็ตส่งต่อกันไปทั่วแล้ว บอกว่าคุณกับเรด้าจะหมั้นกัน ผมเห็นข่าวนี้เข้าก็เลยรีบโทรมาถามไงล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวปลอม ให้ตายสิ สื่อเหล่านั้นใจกล้าจริงๆ กล้าส่งข่าวลือโดยไม่คิดว่าจริงหรือปลอม”
เมื่อได้ยินการบ่นออกมาอย่างต่อเนื่องของเขา เปปเปอร์ก็หรี่ตาลง ดวงตาของเขามีแสงเย็นวาบผ่านเข้ามา
ในอินเทอร์เน็ตบอกว่าเขาจะแต่งงาน กับตระกูลจักรีศานส์?
ข่าวปลอมนี้เผยแพร่ไปทางอินเทอร์เน็ตได้ยังไง?
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเปปเปอร์ดูมืดมน ก่อนจะตัดสายของทามถอยแล้วลุกออกจากตรงระเบียงไปยังห้องหนังสือ
เขาเปิดคอมพิวเตอร์ออกแล้วเริ่มเสิร์ชหาข่าวจากอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการหมั้นของเขา
เมื่อกดค้นหาไปก็พบว่ามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องจำนวนมากขึ้นมา เขาเลื่อนเมาส์ลงไปข้างล่างพบว่าข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับการหมั้นของเขาและตระกูลจักรีศานส์ล้วนมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายหลายหมื่นข้อความ ความนิยมไม่น้อยไปกว่าข่าวของวงการบันเทิงเลย
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นรอยย่น ร่างกายของเขาแผ่อากาศหนาวเหน็บออกมา
เขาไม่ใช่คนที่ชอบความโลดโผนอะไรแบบนี้ ดังนั้นหลังจากที่เห็นคอมเม้นท์ถึงตัวเองของชาวเน็ต จึงทำให้เขารู้สึกเบื่อ
แต่ประเด็นร้อนและการเป็นที่นิยมของหัวข้อในตอนนี้ไม่อาจจะทำให้สงบลงได้ในทันควัน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงอดทนเอาไว้
เปปเปอร์หลับตาลงด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ ก่อนจะลืมตาขึ้นกลับสู่สภาพปกติแล้วเข้าไปดูคอมเมนต์เหล่านั้น จากนั้นจึงเข้าใจว่าทำไมโลกอินเทอร์เน็ตจึงได้บอกว่าเขากับตระกูลจักรีศานส์จะแต่งงานกัน
เพราะภาพภาพนั้นจากมุมที่ดูแปลก มองออกมาราวกับว่าเขากำลังกอดกับเรด้า และมองดูเรด้าด้วยสายตาอบอุ่น ภาพนี้ถูกปาปารัซซี่แอบถ่ายไว้ จากนั้นปาปารัซซี่จึงเข้าใจว่าความสัมพันธ์กับเขาและเรด้าไม่ธรรมดา ด้วยความคิดเช่นนี้จึงได้เผยถึงเรื่องเขากับเรด้าจะหมั้นหมายกันออกมา
เมื่อคิดได้ดังนั้นดวงตาของเปปเปอร์ก็ดูมีความโมโหเล็กน้อย เขาจดชื่อของสื่อบันเทิงเหล่านั้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตั้งใจจะโทรหาผู้ช่วยเหมันตร์
แต่ยังไม่ทันจะโทรออกไป กลับมีโทรศัพท์อีกสายหนึ่งโทรเข้ามาเสียก่อน
เป็นสายจากท่านย่า
น้ำเสียงของท่านย่าเอ่ยถามด้วยความจริงจังว่า “เปปเปอร์ เรื่องทางอินเทอร์เน็ตที่มีคนพูดว่าเราจะหมั้นกับตระกูลจักรีศานส์ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
ไม่รอให้เปปเปอร์ตอบคำใดออกมา น้ำเสียงของพิศมัยก็ดังขึ้นด้วยความกระตือรือร้นว่า “เปปเปอร์นี่ไม่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? แม่จะบอกกับลูกให้ว่าลูกจะแต่งงานกับตระกูลจักรีศานส์ไม่ได้นะตระกูลจักรีศานส์นับว่าเป็นตระกูลที่ถดถอย ถ้าลูกแต่งงานกับตระกูลจักรีศานส์ละก็เกรงว่า……”
เธอยังไม่ทันพูดจบก็ถูกนำเสียงหนึ่งพูดขัดขึ้น
น้ำเสียงของท่านย่าดังขึ้นอีกครั้ง “เปปเปอร์อย่าไปสนใจหล่อน บอกกับย่ามาตามตรงว่ามันเรื่องราวเป็นยังไงกัน?”
“เป็นข่าวปลอมครับ” เปปเปอร์ยกมือขึ้นกุมขมับ
ที่ปลายสาย สีหน้าของท่านย่ายังไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เธอยังคงดูสงบนิ่งทำสีหน้าจริงจัง แต่มือที่จับไม้เท้ารูปมังกรเอาไว้ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เห็นได้ชัดเมื่อเธอรู้ว่าข่าวบนโลกอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องปลอม เธอก็วางใจลงมากทีเดียว
“หมายความว่า หลานจะไม่ได้คิดแต่งงานกับตระกูลจักรีศานส์ใช่ไหม?” น้ำเสียงของท่านย่าดูไม่ได้หนักอึ้งเหมือนเมื่อครู่ บัดนี้เธอผ่อนคลายลงมาก
เปปเปอร์ตอบรับว่า “ใช่ครับ”
ท่านยาจึงได้ยิ้มออกมาในที่สุด “ดีแล้ว”
เธอก็ว่าอยู่แล้วเชียว หลานชายคนโตของเธอจะไปชื่นชอบบุตรสาวของตระกูลจักรีศานส์ได้อย่างไร?
แม้ว่าตระกูลจักรีศานส์จะไม่ได้ย่ำแย่เท่ากับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าตระกูลภักดีพิศุทธิ์สักเท่าไหร่
ดังนั้นหากว่าเปปเปอร์จะแต่งงานกับตระกูลจักรีศานส์จริงๆ เธอเองก็ยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมองของเขา
พิศมัยที่พยายามแอบฟังอยู่ข้างๆ ท่านย่า ได้ยินคำตอบว่าเปปเปอร์ไม่ได้คิดจะแต่งงานกับตระกูลจักรีศานส์จริงๆ เธอเองก็วางใจลงไม่น้อย แล้วเอามือตบไปที่หน้าอกเบาๆ พูดว่า “ดีจริง โชคดีที่เป็นข่าวปลอม ถ้าหากว่าตระกูลจักรีศานส์จะแต่งงานกับตระกูลนวบดินทร์ของเราล่ะก็ พวกเราจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ท่านย่าก็เหลือบมองดูเธอด้วยความโมโห ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ในสมองของเธอคงมีแต่ผลประโยชน์สินะ ไปไกลๆ ฉันเลย!”
ท่านย่าใช้ไม้เท้าเคาะไปที่พื้นเสียงดังสนั่น
พิศมัยค่อนข้างจะกลัวแม่สามีอยู่แล้ว เมื่อพบว่าแม่สามีโมโหจึงได้รีบหดคอกลับมาแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อท่านย่าเห็นว่าเธอเดินไปแล้วจึงได้หันมาสนใจกับคนในโทรศัพท์อีกครั้ง “ถ้าเป็นข่าวปลอมแล้วรูปนั้นมันมาจากที่ไหน ไปโอบลูกสาวเขาทำไม?”
“รูปภาพไม่ได้ปลอมแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงอย่างที่เห็น เป็นเพราะมุมกล้องที่แตกต่างกันจากความเป็นจริง จึงทำให้เห็นเป็นภาพแบบนั้น แต่ที่จริงแล้วเพราะเรด้ากำลังจะล้มลงและก็เข้ามาดึงผมเอาไว้ ผมไม่ได้แตะต้องตัวเธอสักหน่อย” ดวงตาอันเยือกเย็นของเปปเปอร์พูดพลางจ้องไปที่รูปภาพนั้น
ท่านย่าพยักหน้า “อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็รีบออกมาชี้แจงเถอะ ปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเข้า คนอื่นจะคิดว่านี่เป็นเรื่องจริง เราจะตามง้อมายมิ้นท์ไม่ใช่หรือไง ถ้าข่าวนี้มายมิ้นท์เห็นเข้าคงยากแล้วล่ะที่จะขอคืนดีกับเธอ”
เมื่อได้ยินท่านย่าพูดถึงมายมิ้นท์ เปปเปอร์ก็ชะงักลง
นั่นสิ มายมิ้นท์
ตอนนี้มายมิ้นท์น่าจะเห็นข่าวอื้อฉาวของเขาบนอินเทอร์เน็ตแล้ว?
เธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรนะ?
ดีใจ?
อึดอัดใจ?
คงจะไม่ใช่
เธอน่าจะดีใจถึงจะถูก ในที่สุดเขาก็จะแต่งงานสักที ในที่สุด ก็สามารถกำจัดเขาทิ้งไปได้สักที?
“เปปเปอร์? เปปเปอร์?” เมื่อพบว่าอีกฝ่ายหนึ่งเงียบไปไม่มีเสียง ท่านย่าจึงได้เอ่ยเรียกเขา “ยังอยู่หรือเปล่า?”
ดวงตาของเปปเปอร์ดูเลื่อนลอยก่อนจะได้สติกลับคืนมาแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ครับ ผมยังอยู่ในสาย”
“จำคำพูดของย่าเอาไว้นะ รีบออกไปชี้แจงแถลงข่าวได้แล้ว” ท่านย่าย้ำอีกครั้ง
เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “เข้าใจแล้วครับ”
“เอาล่ะ ไม่มีเรื่องอะไรแล้วแค่นี้ก่อน คืนนี้กลับมาที่คฤหาสน์หน่อยนะ ย่าได้ยินพิศมัยบอกว่าเราไม่ได้กลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์เกือบครึ่งเดือนแล้ว เอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก วันนี้กลับมารวมตัวกันสักหน่อย กินข้าวเป็นเพื่อนคนแก่อย่างย่าสักมื้อ” ท่านย่าพูด
เปปเปอร์ตอบรับ
หลังจากจบการสนทนาเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกจากหูแล้วตั้งใจจะโทรหาผู้ช่วยเหมันตร์ กลับพบว่ามีข้อความส่งเข้ามาข้อความหนึ่งจากปีโป้ เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นข้อความเสียง ประมาณความยาวยี่สิบกว่าวินาทีเห็นจะได้
เปปเปอร์พยายามอดทนอดกลั้นไม่อยากจะฟัง แต่ในที่สุดเขาก็เปิดมันแล้วได้ยินน้ำเสียงของปีโป้ดังขึ้นอย่างรีบร้อน “พระเจ้า ให้ตายสิพี่ เป็นอะไรของพี่เนี่ย? ทำไมอยู่ๆ ก็จะไปหมั้นกับเรด้าอะไรนั่น พี่ไม่รักพี่มายมิ้นท์แล้วเหรอ? พี่อยากจะตามง้อพี่มายมิ้นท์ไม่ใช่หรือไง? พี่คงไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ แบบนี้หรอกใช่ไหม?”