รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 499 อยากมีชีวิตต่อ
ใช่แล้ว เธอหึง!
เขารู้สึกได้ถึงบทสนทนาที่มายมิ้นท์ส่งมาในตอนนั้น แฝงไปด้วยความหึงเล็กน้อย
และสิ่งที่ทำให้การคาดเดาของเขาน่าเชื่อถือมากขึ้นนั่นก็คือ หลังจากที่เธอส่งมาถามแล้วเธอก็ยกเลิกข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว
การกระทำนี้ บ่งบอกว่าหลังจากที่เธอส่งข้อความมาแล้วเธอรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม และกลัวที่เขาจะมาเห็น
ดังนั้น นี่หมายความว่าเธอเริ่มสนใจเขาแล้วใช่ไหม?
เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามายมิ้นท์เริ่มรู้สึกสนใจตัวเอง เปปเปอร์ไม่ได้รู้สึกดีใจในทางตรงกันข้ามเขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น กล้ามเนื้อบนใบหน้าตึงเครียด ลมหายใจของเขาดูหนักอึ้ง
มายมิ้นท์เริ่มหันมาสนใจเขาแล้ว จากเหตุผลเขาควรจะดีใจจึงจะถูก
แต่สวรรค์มักไม่ทำให้คนเราสมปรารถนา เธอรู้สึกสนใจในตัวเขาขึ้นมาตอนที่เขานั้นมีอายุอยู่ได้อีกไม่นาน
เปปเปอร์ก้มหน้ามองไปยังหัวใจที่อ่อนแอของตน ดวงตาของเขามีความโศกเศร้าเข้ามาเล็กน้อย
เขาต้องยอมรับว่าหัวใจของเขาที่เดิมทีค่อนข้างนิ่งเฉย บัดนี้เมื่อรู้ว่ามายมิ้นท์เริ่มมีความสนใจในตัวเขา มันก็กลับคืนฟื้นชีพขึ้นมาเล็กน้อย
และความมีชีวิตชีวานี้ ทำให้เขามีความคิดอยากจะมีชีวิตต่อไป อยู่กับมายมิ้นท์ใช้ชีวิตร่วมกันตลอดกาล
ในตอนแรกเขารู้สึกล่องลอยเรื่องการค้นหาหัวใจ เพราะเขารู้ว่ามันคงหาไม่พบ รู้ว่าในที่สุดเขาก็ต้องตาย รู้ว่ามายมิ้นท์ไม่ได้รู้สึกอย่างไรกับเขา ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจปล่อยมือจากมายมิ้นท์ แล้วยอมรับความตายที่ต้องเผชิญอย่างสงบ
แต่ว่าตอนนี้มายมิ้นท์เริ่มมีความสนใจในตัวเขาขึ้นมาแล้ว เธอรู้สึกดีกับเขา เขาไม่อยากตาย เขาจะต้องหาหัวใจให้พบ เขาอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
เพียงแต่ว่าการหาหัวใจนั้น มันยากเหลือเกิน……
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เปปเปอร์ระงับอารมณ์ที่ปั่นป่วนอยู่ในจิตใจของเขาลง จากนั้นรับสายพูดว่า “ว่ามา”
“ประธานเปปเปอร์ครับ ตอนนี้ข่าวทางโลกออนไลน์เราจัดการเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้สามวันฝ่ายกฎหมายของทางบริษัทจะขึ้นศาลกับสื่อมีเดียเหล่านั้น” ผู้ช่วยเหมันตร์รายงาน
เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “อืม”
“อีกอย่าง ปาปารัสซี่คนนั้นเราหาตัวเจอแล้วครับ เขา ไม่ได้ เป็นปาปารัสซี่จากสื่อมีเดียแห่งไหน แต่เขาทำงานของเขาคนเดียว” ผู้ช่วยเหมันตร์ขยับแว่นตาแล้วกล่าวขึ้น
เปปเปอร์หรี่ตาลง “แล้วในตอนแรกเขาขายรูปภาพให้สื่อมีเดียบริษัทไหน?”
“ไม่ครับ เขาไม่ได้เอารูปภาพขายให้แก่สื่อมีเดียบริษัทไหนทั้งสิ้น แต่กลับขายให้คุณเรด้า”
“เรด้า?” เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก “ทำไมถึงขายให้เธอ?”
“เพราะว่าภาพนั้นเรด้าจ้างวานปาปารัสซี่ให้ไปถ่าย” น้ำเสียงของผู้ช่วยเหมันตร์ดูเย็นชา “จากคำให้การของปาปารัสซี่คนนั้น บอกว่าเรด้าไปติดต่อเขาก่อนจะมีงานเลี้ยงในวันนั้น บอกให้เขาซ่อนตัวอยู่ที่ด้านนอกโรงแรมแล้วคอยถ่ายรูปเวลาที่เธอกับท่านใกล้ชิดกัน หลังจากที่ถ่ายภาพเหล่านั้นได้แล้วเธอจะให้เงินเข้าจำนวนหนึ่งแสนหยวน ดังนั้นเมื่อคืนนี้ตอนกลางดึก เขาจึงได้นำรูปภาพไปให้เรด้า ส่วนเรด้าก็นำรูปภาพนั้นไปให้สื่อมีเดีย เธอตั้งใจบอกกับสื่อเหล่านั้นว่าเธอจะหมั้นกับท่าน”
เปปเปอร์กำโทรศัพท์เอาไว้แน่นดูเหมือนว่ามันจะระเบิดได้อย่างไรอย่างนั้น ดวงตาของเขาเป็นเต็มไปด้วยความโมโห เป็นอย่างนี้นี่เอง
เขาคิดว่าภาพนั้นถูกถ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจเสียอีก
คิดไม่ถึงว่าจะมีคนต้องการจะจัดฉากนั้นขึ้นมา
ยอดเยี่ยมจริงๆ ตระกูลจักรีศานส์ ไม่เลวเลยนี่!
จากนั้นผู้ช่วยเหมันตร์ก็ได้เอ่ยขึ้นอีกว่า “ดังนั้นประธานเปปเปอร์ครับ ผมคาดเดาว่าเรด้าจะใช้โอกาสนี้ ดึงตลาดหุ้นของจักรีศานส์กรุ๊ปด้วยความสัมพันธ์ของเธอกับท่าน เนื่องจากท่านไม่ชอบติดตามข่าวบันเทิง เพียงแค่ไม่มีใครเอาเรื่องนี้มาบอกท่าน ท่านก็จะไม่รู้เรื่องราวการหมั้นหมายระหว่างท่านกับเธอ ดังนั้นก็จะไม่ออกมาชี้แจงอย่างแน่นอน เมื่อสถานการณ์เป็นไปดังนี้ชาวเน็ตก็จะเชื่อว่าเรื่องเหล่านั้นคือเรื่องจริงว่าทั้งสองคนได้หมั้นหมายกันแล้ว หุ้นของจักรีศานส์กรุ๊ปก็จะได้พึ่งพิงเรือขนาดใหญ่ของตระกูลนวบดินทร์ เมื่อน้ำขึ้น ความร่วมมือต่างๆ ก็จะมาเองอย่างไม่หยุดหย่อน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “แต่ในที่สุดแล้วคงคิดไม่ถึงว่าท่านจะออกมาชี้แจงเรื่องท่านและเรด้าไม่ได้มีการหมั้นหมายกัน และตระกูลจักรีศานส์ กับบริษัทตระกูลนวบดินทร์ไม่ได้วางแผนจะแต่งงานกันเพื่อธุรกิจ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตลาดหุ้นของตระกูลจักรีศานส์ก็ไม่อาจจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ ถึงอย่างไรตระกูลจักรีศานส์ก็ไม่ขาดทุน เพราะท่านพาเรด้าไปร่วมงานด้วย จากนั้นก็ถูกถ่ายภาพ และถูกสื่อมีเดียสร้างข่าวปลอมว่าจะหมั้นหมายกัน บัดนี้ท่านออกมาชี้แจงว่าทั้งสองคนไม่ได้มีการหมั้นหมายกัน บรรดาชาวเน็ตทั้งหลายก็จะออกมาหัวเราะเยาะเรด้า จากนั้นชนศักดิ์ก็คงจะมาร้องขอให้ท่านชดเชยค่าเสียหายให้แก่เรด้า เนื่องจากทำให้เรด้าต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง”
“เข้าใจแล้ว” เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูมืดมน “ถ้าผมไม่ได้สั่งให้คุณไปสืบหาความจริงเหล่านี้มา คาดว่า ชนศักดิ์ก็คงจะสำเร็จแผนของเขาไปแล้ว”
“ใช่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า “หากว่าพวกเราไม่รู้เบื้องหลังเรื่องอื้อฉาวนี้ว่าเป็นแผนการของตระกูลจักรีศานส์ ท่านก็คงจะชดเชยเงินให้แก่เรด้า เมื่อชนศักดิ์ยื่นข้อเสนอขอทำความร่วมมืออีกครั้งคาดว่าท่านก็คงต้องตกลง ดังนั้นหมากของตระกูลจักรีศานส์เดินได้ไม่เลวเลย ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหน สุดท้ายล้วนชนะ น่าเสียดายเหลือเกินว่าในครั้งนี้ตระกูลจักรีศานส์เผชิญหน้ากับท่านประธานเปปเปอร์”
เมื่อประธานเปปเปอร์รู้ความจริงถึงเรื่องนี้แล้ว แน่นอนว่าแผนการของชนศักดิ์คงจะล้มเหลว
แต่ในทางกลับกัน หากประธานเปปเปอร์ไม่รู้ ชนศักดิ์ก็จะประสบผลสำเร็จ
ทว่าในความคิดของเขา เป็นไปไม่ได้ที่เปปเปอร์จะไม่รู้ เพราะไม่ว่าประธานเปปเปอร์จะตรวจสอบสิ่งใดก็มักจะตรวจสอบจนถึงที่สุด ไม่เคยตรวจสอบเพียงผิวเผิน
ดังนั้นไม่ว่าชนศักดิ์จะเดินไปในทิศทางใดก็คงไม่ประสบความสำเร็จแน่ๆ
“เรื่องของตระกูลจักรีศานส์ รบกวนช่วยจัดการให้หน่อย คุณทำมันได้ใช่ไหม?” เปปเปอร์ใช้นิ้วเคาะไปที่โต๊ะเบาๆ
เขาเคาะมันอย่างช้าๆ เสียงดังกังวานไปทั่วห้องหนังสือ หนึ่งครั้ง สองครั้ง…… ดูเหมือนกับกำลังเคาะใจของใครบางคน ทำให้คนคนนั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด
ผู้ช่วยเหมันตร์ขยับแว่นตาแล้วยิ้มขึ้น “แน่นอนครับประธานเปปเปอร์ ผมจะให้คำตอบอันน่าพึงพอใจแก่ท่าน”
“ดีมาก” เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “แล้วก็ส่งคนไปโรงแรมเมื่อคืนนี้ ขอคัดสำเนากล้องวงจรปิดตรงประตู เพื่อชี้แจงว่าความผิดพลาดของรูปนั้นอยู่ที่มุมกล้อง”
เขาต้องการที่จะให้มายมิ้นท์รู้ว่ารูปภาพของเขากับเรด้าที่จริงแล้วไม่ได้ดูสนิทสนมกันขนาดนั้น
รูปภาพใบนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด
“ครับประธานเปปเปอร์” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าตอบรับแล้ววางสายลง
ดูเหมือนเปปเปอร์จะนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจึงรีบตะโกนขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน!”
“ครับประธานเปปเปอร์มีเรื่องอะไรกำชับเพิ่มเติมครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูอีกครั้ง
เปปเปอร์บีบไปที่จมูกของตนเบาๆ “เรื่องหัวใจ หาไปถึงไหนแล้ว?”
“ขออภัยครับประธานเปปเปอร์ ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่มีข่าวคราวอะไรคืบหน้า” ผู้ช่วยเหมันตร์ก้มหน้าลงแล้วตอบอย่างละอายใจ
เปปเปอร์ไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับคำตอบ เขาเพียงตอบรับเบาๆ เป็นความหมายว่าเข้าใจแล้ว “ส่งคนไปหลายประเทศหน่อย ไปคอยดู คลังอวัยวะเหล่านั้น”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของผู้ช่วยเหมันตร์ก็เป็นประกาย ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้นอย่างประหลาดใจ “ประธานเปปเปอร์ครับ ท่าน……ท่านมีความหวัง ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่หรือไม่?”
แม้ว่าประธานเปปเปอร์จะสั่งให้เขาไปตามหาหัวใจ แต่ประธานเปปเปอร์ก็ไม่เคยเอ่ยถามเขามาก่อนเลยว่าหาเจอหรือไม่ เป็นอย่างไรบ้าง ดูเหมือนตัวเขาไม่เคยกังวลสักเล็กน้อยถึงเรื่องนี้
ดังนั้นเขาจึงมองออกว่าประธานเปปเปอร์ไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่แม้แต่สักเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงใช้ชีวิตไปวันๆ
ด้วยเหตุนี้ เขาเองก็รู้สึกลำบากใจ แม้อยากจะเกลี้ยกล่อมประธานเปปเปอร์อย่างไร แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
คิดไม่ถึงจริงว่า จู่ๆ ตอนนี้ประธานเปปเปอร์จะเริ่มสนใจเรื่องการหาหัวใจของเขาขึ้นมา เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก
ส่วนเรื่องคำถามของผู้ช่วยเหมันตร์ เปปเปอร์ไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไป ไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงตอบว่า “ไปทำตามที่ผมบอกเถอะ”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบรับด้วยท่าทางดีอกดีใจ “ผมจะให้พวกเขาเดินทางไปหลายประเภทหน่อย ประธานเปปเปอร์วางใจได้ผมจะต้องหาหัวใจให้ทานได้อย่างแน่นอน!”
ไม่ว่าจะเป็นกี่ประเทศ เพียงแค่ประธานเปปเปอร์มีความตั้งใจที่จะอยู่ต่อ
ต่อให้เขาส่งคนไปค้นหาทั่วทุกมุมโลกจากคลังอวัยวะ ในทุกโรงพยาบาลเขาก็ทำ
แม้แต่ให้เข้าไปในเผ่าต่างๆ เขาก็จะทำ
หลังจากวางสายลงแล้วเปปเปอร์ ก็วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วลุกขึ้นยืน รินไวน์มาแก้วหนึ่งเดินไปที่ระเบียงของห้องหนังสือ สายตามองทอดยาวออกไปที่ด้านนอก ดูเหม่อลอยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ในไม่ช้า เว็บไซต์ทางการของนวบดินทร์กรุ๊ปก็โพสต์เนื้อหาใหม่ออกมาอีกครั้ง ในครั้งนี้ไม่มีตัวอักษรใด มีเพียงคลิปวิดีโอหนึ่งเท่านั้น
ชาวเน็ตล้วนสงสัยกับคลิปวิดีโอนี้จึงได้กดเข้าไปดู และเข้าใจถึงเหตุผลในการดำเนินการครั้งนี้ของนวบดินทร์กรุ๊ปได้ทันที
นั่นก็คือต้องการจะบอกกับทุกคนว่าภาพถ่ายนั้นไม่ได้ดูสนิทสนมอย่างที่ทุกคนเห็นมันเป็นเพียงเรื่องของมุมกล้อง
ในความเป็นจริงนั้น เรด้า เอนกายเข้าไปหาเปปเปอร์ และเปปเปอร์มองเธอด้วยสายตารังเกียจ