รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 523 ความสุขของเปปเปอร
เดิมทีแล้วเปปเปอร์เห็นลาเต้โทรมา ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย
แต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเธอ อารมณ์ก็ดีขึ้นทันที
เธอบอกเขาก่อนว่าคนที่โทรมาคือใคร ก็คือไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดอะไรใช่ไหมล่ะ
ถึงแม้ว่าตัวเธอเองจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ตาม
“รับสิ” เปปเปอร์ลดฝีเท้าลง “คงเห็นข่าวส้มเปรี้ยวฆ่าตัวตาย เลยโทรมาหาคุณโดยเฉพาะ”
“ฉันก็คิดแบบนี้” มายมิ้นท์พยักหน้า รับสายแล้วเปิดลำโพง
อย่างที่คิดไว้ เสียงดังของเต้ก็ดังขึ้น “มิ้นท์ เธอเห็นข่าวในเน็ตแล้วใช่ไหม ส้มเปรี้ยวฆ่าตัวตาย มันเรื่องจริงหรือไม่จริง?”
“เรื่องจริง!” มายมิ้นท์เอ่ยปากตอบกลับ “ตำรวจโทรหาฉันแล้ว ส้มเปรี้ยวกระโดดตึกฆ่าตัวตายจริงๆ ตอนนี้ฉันอยู่ที่เกิดเหตุ”
“ซี้ด……” ลาเต้ตกใจมาก “จริงเหรอเนี่ย! ฉันนึกว่าสื่อข่าวจงใจปล่อยข่าวปลอม เพื่อทำให้มันเป็นประเด็นร้อน ไม่คิดว่าส้มเปรี้ยวจะฆ่าตัวตายจริงๆ!”
“นั่นสิ ใครก็คาดไม่ถึงจริงๆ” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
ลาเต้ถามอีก “มิ้นท์ สถานการณ์ที่เกิดเหตุเป็นยังไงบ้าง?”
ได้ยินเสียงเขาเรียกมิ้นท์ คิ้วเปปเปอร์ก็ขมวดเป็นปมทันที
ดูท่าแล้วต้องหาโอกาสให้ลาเต้เปลี่ยนวิธีการเรียกใหม่
มายมิ้นท์ไม่เห็นว่าชายข้างกายไม่พอใจ ตอบกลับเสียงเรียบ “ตำรวจกำลังตรวจสอบสาเหตุส้มเปรี้ยวกระโดดตึกฆ่าตัวตายอยู่ เรื่องอื่นยังไม่แน่ชัด”
“งั้นเหรอ งั้นฉันไปอยู่กับเธอได้ไหม” ลาเต้พูด
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง
ตอนนี้มายมิ้นท์เห็นแล้ว ส่ายหน้าให้กับปลายสาย “ไม่ต้องหรอกเต้ เปปเปอร์อยู่กับฉัน นายไม่ต้องมา”
ได้ยินดังนั้น ริมฝีปากบางเปปเปอร์จากเม้มเป็นเส้นตรง ก็วาดโค้งขึ้นทันที
เห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด มายมิ้นท์ไม่รู้ทำไม รู้สึกน่าขำเล็กน้อย ในดวงตาก็เผยรอยยิ้มออกมา
แต่ลาเต้ไม่พอใจ เสียงกลายเป็นแหลมคมนิดหน่อย “ว่าไงนะ? เปปเปอร์ก็อยู่กับเธอ? ดึกป่านนี้แล้ว ทำไมเธอไปอยู่กับมัน?”
“ท่านย่าให้เขาไปส่งฉัน ตอนเย็นฉันดื่มเหล้า ขับรถไม่ได้ก็เลยตกลง ต่อมาฉันได้รับโทรศัพท์ว่าส้มเปรี้ยวฆ่าตัวตาย ฉันก็เลยมากับเขา”
พูดถึงตรงนี้ มายมิ้นท์ก็เห็นลิฟต์ตรงหน้า จึงพูดขึ้นอีกครั้ง “เอาล่ะเต้ ฉันต้องเข้าลิฟต์แล้ว มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
สิ้นคำพูด เธอก็วางสาย จากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์
เห็นเธอเข้ามา เปปเปอร์ก็ปล่อยมือที่ขวางประตูลิฟต์เอาไว้ “ทำไมไม่บอกเขาว่าคนที่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ส้มเปรี้ยวตัวจริงล่ะ?”
“ไม่จำเป็น” มายมิ้นท์ส่ายหน้า “คนที่กระโดดตึกไม่ใช่ส้มเปรี้ยว เรื่องนี้มีแค่เราสามคน แล้วก็คุณหมอการันต์เท่านั้นที่รู้ ตอนนี้ตำรวจก็ไม่รู้ คนยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี และเดี๋ยวการันต์ทำการตรวจสอบเสร็จ แน่ใจแล้วว่าศพไม่ใช่ส้มเปรี้ยวจริงๆ ตำรวจก็จะรู้ ถึงตอนนั้นตำรวจก็จะแบนข่าว ไม่ให้เราเปิดเผยกับคนนอก ดังนั้นบอกเต้ไปก็ไม่มีความหมาย”
“คุณคิดรอบคอบมากเลย” เปปเปอร์ชม
มายมิ้นท์ยิ้ม “ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร” เปปเปอร์ตอบกลับ จากนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “แล้วก็ เมื่อกี้ฉันดีใจมาก”
“ฮะ?” มายมิ้นท์ตกตะลึง “ดีใจอะไร?”
เปปเปอร์ยิ้ม ไม่พูดอะไร
มายมิ้นท์เอียงศีรษะ รู้สึกเขาแปลกประหลาด
แต่ในเมื่อเขาไม่ยอมบอก เธอก็ไม่ตื้ออยู่แล้ว
ไม่นาน ก็มาถึงห้องตรวจสอบแล้ว
ตอนนี้การันต์ยังอยู่ในห้องตรวจสอบ ยังไม่ออกมา
เมื่อมายมิ้นท์และเปปเปอร์มาถึง ด้านนอกมีแค่พลตำรวจภูทิศเพียงคนเดียว กำลังเดินไปเดินมาด้วยความกังวล
“พลตำรวจภูทิศ” มายมิ้นท์เอ่ยปากเรียก
พลตำรวจภูทิศหยุดลง “พวกคุณมาแล้วเหรอ”
“พลตำรวจภูทิศ คุณเป็นอะไรคะ?” มายมิ้นท์เอ่ยปากถาม
ตอนแรกพลตำรวจภูทิศค่อนข้างลังเล แต่ต่อมานึกขึ้นได้ว่ามายมิ้นท์คือโจทก์ของส้มเปรี้ยว จึงไม่ปิดบังอีกต่อไป พูดเรื่องที่ทำให้ตัวเองปวดหัวออกมา “คืองี้ครับ เมื่อกี้ตอนคุณหมอการันต์เข้าห้องตรวจสอบไป ได้บอกเรื่องที่ทำให้ฉันตกใจและโมโหมาก”
“คนที่ฆ่าตัวตายไม่ใช่ส้มเปรี้ยว” ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ค่อยๆ พูดขึ้น
“ใช่ๆๆ” พลตำรวจภูทิศรีบพยักหน้า จากนั้นก็มองเขาและมายมิ้นท์ด้วยความประหลาดใจ “พวกคุณรู้ได้ยังไง?”
“ตอนการันต์ชันสูตรศพเบื้องต้น ก็รู้สึกว่าผิดปกติแล้ว” เปปเปอร์อธิบายเสียงเรียบ
“งี้นี่เอง” พลตำรวจภูทิศเข้าใจทันที คลายความสงสัยในใจ ถอนหายใจด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ตอนนี้คุณหมอการันต์กำลังเทียบDNAอยู่ ถ้าผลสรุปออกมา คนที่ฆ่าตัวตายไม่ใช่ส้มเปรี้ยวจริงๆ เรื่องนี้ก็จะร้ายแรง ส้มเปรี้ยวหนีไปแล้ว ต้องการตามหาเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เธอเกลียดชังคุณมายมิ้นท์ เกรงว่าจะแก้แค้นคุณมายมิ้นท์ ในขณะเดียวกันก็เหมือนตบหน้าตำรวจอย่างเรา!”
มันไม่ใช่การตบหน้าหรือไง
ส้มเปรี้ยวสามารถหนีออกไปจากการสอดส่องของตำรวจได้ แถมยังหาตัวแทน โดยที่ตำรวจอย่างพวกเขาไม่รู้เรื่องเลย ถ้าข้อมูลนี้แพร่ออกไป คนภายนอกจะต้องบอกว่าตำรวจอย่างพวกเขาไร้ความสามารถ
ชื่อเสียงของตำรวจสำหรับคนภายนอก รวมถึงความน่าเชื่อถือความพึ่งพาได้ในหัวใจของประชาชน จะได้รับผลกระทบครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
และเบื้องบน จะยิ่งไม่ปล่อยพวกเขาไป
“ดังนั้น ถ้าศพไม่ใช่ส้มเปรี้ยวจริงๆ เราต้องรีบตามหาส้มเปรี้ยว แล้วควบคุมเธอให้ได้” พลตำรวจภูทิศกำหมัดแน่น พูดด้วยสีหน้ามืดมน
มายมิ้นท์พยักหน้า “จริงค่ะ”
ถ้าไม่รีบจับตัวส้มเปรี้ยว ถ้าอยากจะจับในภายหลัง จะยิ่งยากแล้ว
และส้มเปรี้ยวจะต้องแก้แค้นเธอแน่ และเนื่องจากส้มเปรี้ยวซ่อนตัวในความมืด ต้องการลงมือกับเธอ เธอต้องเอาไม่อยู่แน่
มองออกถึงความกังวลใจของมายมิ้นท์ เปปเปอร์ยื่นมือออกไปคลายคิ้วเธอที่ขมวดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่จริงจัง “ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะปกป้องคุณ ไม่ให้เธอมีโอกาสทำอะไรคุณ”
มายมิ้นท์มองเขา หน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็รีบเบือนหน้าหนี ไม่พูดอะไร
เธอกดหน้าอกตัวเองที่หัวใจเต้นเร็วมาก ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความเหม่อลอย
แปลกจัง ก็แค่ประโยคธรรมดาเองไม่ใช่เหรอ ตัวเองจะใจเต้นเร็วขนาดนี้ทำไม?
อีกอย่าง ตอนตัวเองมองเขา กำลังกระวนกระวายอะไรอยู่กันแน่นะ?
เปปเปอร์เห็นปลายหูมายมิ้นท์สีแดง ก็ยกยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่พลตำรวจภูทิศ แล้วเปลี่ยนหัวข้อ
เขารู้ ถ้าไม่รีบเปลี่ยนหัวข้อ ไม่รู้เธอจะหดอยู่ในกระดองอีกนานแค่ไหน
“พลตำรวจภูทิศ เกี่ยวกับการบันทึกเข้าเยี่ยมส้มเปรี้ยวเดือนนี้ รวมถึงกล้องวงจรปิด พวกคุณมีหมดใช่ไหม?” เปปเปอร์หรี่ตามถาม
พลตำรวจภูทิศพยักหน้า “มีแน่นอนครับ ตอนที่รู้ว่าศพอาจจะไม่ใช่ส้มเปรี้ยว ฉันก็คิดว่ามีคนช่วยส้มเปรี้ยว เลยให้คนไปจัดการข้อมูลพวกนี้ทันที เชื่อว่าอีกไม่นานจะนำมา”
“ดีครับ” เปปเปอร์ตอบกลับอย่างพึงพอใจ
มายมิ้นท์ก็มองพลตำรวจภูทิศอย่างประหลาดใจเช่นกัน
เป็นตำรวจเก่าแก่มาสิบกว่าปี จึงมีความสามารถต่อการปรับตัวแข็งแกร่งขนาดนี้
ระหว่างที่คุยกัน ประตูห้องตรวจสอบก็เปิดออก การันต์ถือผลสรุปเดินออกมาจากด้านใน
ทั้งสามคนเห็นเขา ก็เดินไปทันที
“เป็นยังไงบ้าง?” เปปเปอร์เอ่ยถามก่อน
พลตำรวจภูทิศและมายมิ้นท์ก็จ้องมองการันต์
การันต์ยื่นเอกสารในมือออกไป ดันแว่นแล้วพูดเสียงเข้ม “เหมือนที่ฉันพูดตอนแรกสุด ศพไม่ใช่ส้มเปรี้ยว”
ถึงจะรู้ผลนานแล้ว และทำใจไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อได้ยินจริงๆ ว่าไม่ใช่ส้มเปรี้ยว ก็ทำให้ยากที่จะยอมรับอยู่ดี
โดยเฉพาะพลตำรวจภูทิศคิ้วขมวดจนดักยุงได้แล้ว
เพราะส้มเปรี้ยวใช้กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบหลบหนีภายใต้การสอดส่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจลูกน้องเขา เขาในฐานะหัวหน้า จะต้องรับผิดชอบมันโดยตรง
ถ้าสุดท้ายแล้วหาส้มเปรี้ยวไม่เจอ ชุดเครื่องแบบตำรวจของเขา ก็ต้องถอดมันออก