รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 535 คนหนีไปได
นี่เป็นไปไม่ได้
ถ้าส้มเปรี้ยวไม่เคยรักเปปเปอร์เลย งั้นความปรารถนาที่อยากจะครอบครองเปปเปอร์อย่างเด็ดเดี่ยวของส้มเปรี้ยวล่ะจะอธิบายยังไง?
มองออกถึงความคิดของมายมิ้นท์ เปปเปอร์จึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา: “สิ่งที่เธอรัก ก็แค่ฐานะทางสังคมของผม! ก่อนหน้านี้หลังจากที่ผมตื่นขึ้นมาจากอุบัติเหตุรถชน ผมก็เคยให้เหมันตร์ตรวจสอบส้มเปรี้ยวแล้ว จึงได้พบเบาะแสหนึ่งที่สำคัญมาก”
“คืออะไร?” มายมิ้นท์ถาม
ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบ “คือก่อนหน้านี้นานมากๆแล้วที่ส้มเปรี้ยว รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเยี่ยมบุญ”
“ใช่ ตอนที่ส้มเปรี้ยวอายุสิบแปด ก็รู้แล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเยี่ยมบุญ เยี่ยมบุญอาจจะไม่ยกเอสซีกรุ๊ปให้เธอรับช่วงต่อ แม้เยี่ยมบุญจะยกเอสซีกรุ๊ปให้เธอ แต่เธอไม่มีพรสวรรค์ด้านการทำธุรกิจ รู้อยู่แล้วว่าในวันข้างหน้าตนเองคงหมดหนทางที่จะแบกเอสซีกรุ๊ปเอาไว้ได้ เอสซีกรุ๊ปที่อยู่ในมือของเธอถ้าไม่ล้มละลาย ก็ต้องโดนหุ้นส่วนคนอื่นๆแย่งไป ดังนั้นเพื่อทำให้ตัวเธอเองเพียงพอที่จะได้เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองไปตลอดชีวิต จึงจับจ้องผู้ชายในแวดวงธุรกิจอยู่หลายคน”
ได้ยินเปปเปอร์พูด มายมิ้นท์ก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง “ไม่ใช่มั้ง?”
“คุณมายมิ้นท์ครับ นี่เป็นเรื่องจริง เพราะผมสืบเจอตัวเลือกเหล่านั้นที่เธอจับตามองอยู่ในเวลานั้น ทุกคนล้วนแต่อยู่ในกลุ่มของคนที่มีพื้นฐานทางครอบครัวไม่เลวเลย ทั้งยังเป็นทายาทเศรษฐีที่โสดด้วย และคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในนั้นก็คือประธานเปปเปอร์ของพวกเรา เพียงแต่ตอนนั้นตระกูลภักดีพิศุทธิ์กับตระกูลนวบดินทร์ห่างไกลกันเกินไป ส้มเปรี้ยวหาโอกาสสานสัมพันธ์กับประธานเปปเปอร์ไม่ได้ จนกระทั่งส้มเปรี้ยวได้รู้ว่าคุณกับประธานเปปเปอร์เป็นเพื่อนทางจดหมายกัน”
“เพื่อนทางจดหมาย……” มายมิ้นท์สีหน้าหม่นหมอง คิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที
ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!
เธอกับส้มเปรี้ยวเป็นเพื่อนกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยังอยู่ห้องเดียวกันด้วย
ตอนอยู่ปีหนึ่ง ส้มเปรี้ยวบังเอิญเห็นเธอกำลังเขียนจดหมาย ยังหัวเราะเยาะเธออยู่เลยว่านี่มันสมัยไหนแล้ว ไม่นึกว่าจะยังติดต่อกันทางจดหมายเหมือนคนบ้านนอกอีก
ด้วยเหตุนี้ ส้มเปรี้ยวยังผนึกกำลังกับเพื่อนคนอื่นๆในสาขาพากันมาหัวเราะเยาะเธอด้วย
แต่ทว่าจู่ๆวันหนึ่ง ส้มเปรี้ยวที่เอาแต่ดูถูกที่เธอติดต่อกับคนอื่นผ่านทางจดหมายมาโดยตลอด กลับมาถามถึงเพื่อนทางจดหมายของเธอ ยังบอกอีกว่าอยากติดต่อกับเพื่อนทางจดหมายสักคน
คาดว่าคงจะเป็นตอนนั้นแหละ ไม่รู้ส้มเปรี้ยวรู้ได้ยังไงว่าคนที่เธอติดต่อกันทางจดหมาย คือเปปเปอร์ จากนั้นจึงคิดแผนการสวมรอยเป็นเธอ อย่างนี้ ส้มเปรี้ยวก็มีโอกาสได้ติดต่อกับเปปเปอร์แล้วไม่ใช่เหรอ?
นึกถึงตรงนี้ มายมิ้นท์หลับตาลง พยายามอดกลั้นความโมโหเอาไว้พูดขึ้น: “เป็นความผิดของฉันเอง เป็นฉันเองที่ไม่รู้ถึงแผนการร้ายของส้มเปรี้ยวตั้งแต่แรก”
ถ้าเธอรู้เร็วกว่าส้มเปรี้ยวสักหน่อยว่า ข้าวก้องที่เขียนจดหมายคุยกับเธอ ก็คือเปปเปอร์ที่เธอรักสุดหัวใจในตอนนั้น
เธอกับเปปเปอร์คงไม่เดินมาจนถึงขั้นนี้อย่างในวันนี้แน่ๆ
ระหว่างพวกเขา ก็จะไม่มีเรื่องของส้มเปรี้ยวอย่างเด็ดขาด
เปปเปอร์ดึงมือที่กำลังสั่นไหวเล็กน้อยของมายมิ้นท์ เข้ามาในอ้อมอก
มายมิ้นท์ไม่ได้ยืนอย่างมั่นคง ชั่วพริบตาก็ถลาเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
เขากอดเธอเอาไว้ ลูบผมของเธอเบาๆ “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมคือคนที่ผิดที่สุด ผมไม่ได้บอกตัวตนของผม ให้คุณรู้”
จริงๆแล้วปีนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดจะบอกเธอ ว่าเขาเป็นใครกันแน่
แต่เนื่องจากยังหาหัวใจไม่ได้ เขาถึงได้อดกลั้นเอาไว้ไม่ได้บอกออกไป
ดังนั้นส้มเปรี้ยวจึงถือโอกาสสอดแทรกเข้ามาระหว่างพวกเขา มันเป็นเหตุมาจากพวกเขาสองคน
ไม่ใช่สาเหตุที่มาจากเธอคนเดียว
แต่ทว่าไม่เป็นไร พวกเขาคลาดกันไปหกปีแล้ว ต่อไปจะไม่คลาดกันอีกแล้ว!
ถึงมายมิ้นท์จะตกตะลึงที่จู่ๆเปปเปอร์ก็กอดเธอ แต่เธอกลับไม่อยากผลักเขาออกไปอย่างบอกไม่ถูก
เธอรู้สึกว่า อ้อมกอดของเขา ราวกับพอที่จะทำให้เธอสบายใจลงได้
ก็อย่างนี้ หน้าผากของมายมิ้นท์ จึงซุกอยู่บนไหล่ของเปปเปอร์อย่างสงบ พูดขึ้น: “ดังนั้นความหมายของคุณคือ ส้มเปรี้ยวไม่เคยรักคุณ แค่รักความภูมิฐานของคุณเงินของคุณ แล้วก็สถานภาพทางสังคมของคุณ? เพราะคุณสามารถทำให้เธอได้ใช้ชีวิตหรูหราอย่างที่เธอต้องการที่สุด”
“ใช่” เปปเปอร์เอียงหัวเล็กน้อย ดมผมหอมๆของเธอ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
มายมิ้นท์มองต่ำลง “จริงๆแล้ว ฉันรู้สึกได้นะว่าเธอมีความรู้สึกต่อคุณอยู่บ้าง ฉันมองออก”
สายตาที่อิจฉาเธอของส้มเปรี้ยว ไม่ได้แสร้งทำ
ดังนั้นถ้าส้มเปรี้ยวไม่ได้รักเปปเปอร์ คงไม่อิจฉาเธอเช่นนี้หรอก
เปปเปอร์ขมวดคิ้วแน่น “ไม่ว่าเธอจะมีความรู้สึกให้ผมหรือเปล่า ผมก็ไม่ต้องการทั้งนั้น มันน่าสะอิดสะเอียนเกินไป!”
ได้ฟังอย่างนี้ มายมิ้นท์รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ฉันว่า ฉันรู้แล้วว่าทำไมส้มเปรี้ยวถึงต้องการฆ่าคุณด้วย คงจะเป็นเพราะรักถึงได้เกลียดแน่ๆเลย”
“ผมไม่สนใจหรอก เธออยากจะฆ่า งั้นเธอก็ฆ่าให้ได้แล้วกัน” เปปเปอร์หรี่ตา แววตาเปล่งแสงเย็นยะเยือกออกมาเล็กน้อย แต่ทว่าก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เขาปล่อยมายมิ้นท์ออกเบาๆ มองดวงตาของเธอ “ดังนั้นตอนนี้ไม่ใช่แค่ความแค้นของคุณกับส้มเปรี้ยว แต่เป็นของเราสามคนต่างหาก คุณไม่ต้องบอกให้ผมอย่าเข้ามายุ่งอีกแล้วนะ ต่อให้ผมไม่ยุ่ง ส้มเปรี้ยวก็ไม่ปล่อยผมไปหรอก เข้าใจไหม?”
ริมฝีปากแดงๆของมายมิ้นท์ขยับๆ แต่พูดอะไรไม่ออก ท้ายที่สุดก็พยักหน้า “อืม”
ในทันที หมอที่กำลังใส่ยาอยู่บนเท้าของเปปเปอร์ ทั้งยังโดนโชว์หวานใส่ไปเต็มๆด้วยก็ยืนขึ้นมา “เรียบร้อยแล้วครับประธานเปปเปอร์ เท้าของคุณทำแผลเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งโดนน้ำอีกสิบสองชั่วโมงนะครับ แต่สามารถใช้ผ้าขนหนูเช็ดๆเอาได้ เรื่องอื่นๆแค่ระวังอย่าให้เท้าไปกระทบหรือชนอะไรอีกก็พอครับ”
เปปเปอร์อืมออกมา “ผมทราบแล้ว ตรวจให้เธอด้วย”
“ครับ” หมอพยักหน้า แล้วมองไปที่มายมิ้นท์ “คุณผู้หญิง เชิญนั่งที่ด้านนี้ครับ”
มายมิ้นท์ตอบรับ เดินไปที่ด้านข้างแล้วนั่งลงไป ดึงแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นรอยถลอกที่แขนของตนเอง แล้วให้หมอเป็นคนจัดการ
และในตอนนี้ มือถือของผู้ช่วยเหมันตร์ก็ดังขึ้น “ประธานเปปเปอร์ครับ รปภ.ที่ผมส่งออกไปไล่ตามส้มเปรี้ยวโทรมาแล้วครับ”
สายตาของเปปเปอร์จ้องเขม็ง “รับ!”
มายมิ้นท์ก็หันหน้าไป จ้องอยู่ที่ผู้ช่วยเหมันตร์
ผู้ช่วยเหมันตร์ที่อยู่ภายใต้การจดจ้องของทั้งสองคน จึงเปิดลำโพงมือถือ “ฉันเอง ตามไปถึงไหนแล้ว?”
“ขอโทษด้วยครับผู้ช่วยเหมันตร์ เธอหนีไปได้……” น้ำเสียงอ่อยๆของรปภ.ที่ปลายสาย
สีหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์แย่ขึ้นมาทันที “อะไรนะ? หนีไปได้? ผู้ชายตัวใหญ่อย่างนายสองคน ขับรถที่เจ๋งขนาดนั้น ไม่นึกว่าจะปล่อยให้รถพังๆคันหนึ่งหนีไปได้?”
พูดออกมาอย่างนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
สีหน้าของเปปเปอร์ก็แย่มากเช่นกัน ความดันอากาศรอบๆกายลดลงอย่างชัดเจน
ฝ่ามือของมายมิ้นท์ก็กำแน่นมากขึ้น บนใบหน้าปรากฏสีหน้า ‘เป็นแบบนี้ได้ยังไง’ ออกมา
เท่าที่เธอเห็น รปภ.สองคนนั้นต้องจับส้มเปรี้ยวได้แน่นอน
แต่ทว่าท้ายที่สุดกลับเกินความคาดหมาย ทำให้ส้มเปรี้ยวหนีไปได้
ก็เหมือนกับที่เธอพูดกับเปปเปอร์ไปเมื่อกี้ ถ้าจับส้มเปรี้ยวไม่ได้ ปล่อยให้ส้มเปรี้ยวหนีไป งั้นคิดจะจับส้มเปรี้ยวอีกครั้งก็ยากแล้ว
ส้มเปรี้ยวซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ เป็นระเบิดเวลาขนาดใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่แน่นอนเลยว่าเมื่อไหร่ ที่จะพุ่งออกมาต่อกรกับพวกเขา
และผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด ก็ปรากฏออกมาอย่างนี้แล้ว
ปลายสายด้านนั้น รปภ.สองคนได้ฟังคำตำหนิของผู้ช่วยเหมันตร์ ก็คอตกกันทั้งคู่
“ขอโทษจริงๆครับผู้ช่วยเหมันตร์ ไม่ใช่ว่าพวกผมอยากปล่อยให้เธอหนีไป ตอนแรกพวกผมก็ไล่ตามอยู่ดีๆ เห็นๆอยู่ว่าจะขวางไว้ได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจู่ๆรถสองคันนั้นขับมาจากไหน ตั้งใจเบียดรถของพวกผมเข้ามา”
“ตั้งใจขับรถเบียดเข้ามา!” มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก “เป็นผู้ช่วยของส้มเปรี้ยวงั้นเหรอ?”
“ต้องใช่แน่ๆ” เปปเปอร์พยักหน้า
มายมิ้นท์ตบโซฟาด้วยความโมโห “ไม่นึกว่าเธอจะยังมีผู้ช่วย? ใครจะช่วยเธอได้อีก? ขนมผิงเหรอ? หรือว่าเยี่ยมบุญสองสามีภรรยานั่น?”
เกศวดีเป็นไปไม่ได้แล้ว
เกศวดีเข้าคุกไปแล้ว ตัวเองก็ยากที่จะปกป้องไว้ได้ จะจัดการผู้ช่วยให้ส้มเปรี้ยวอีกได้ยังไง
ดังนั้นสองตัวเลือกที่เป็นไปได้ ก็คือสามคนนั้น
แน่นอนว่า อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ แต่ความเป็นไปได้น่าจะไม่มากเท่าไหร่
ถึงยังไงส้มเปรี้ยวในตอนนี้ ก็ไม่ใช่ส้มเปรี้ยวอย่างแต่ก่อนแล้ว ดังนั้นพวกคนในอดีตที่เคยประจบสอพลอส้มเปรี้ยวเพราะเปปเปอร์ คงหนีออกไปห่างๆแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยเหลือหรอก