รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 540 ความในใจที่แท้จริงของพิศมัย
“เลียนแบบ?” เปปเปอร์สีหน้าอึมครึม รอบๆกายแพร่กระจายกลิ่นอายของความไม่พอใจออกมา
ส่วนผู้ช่วยเหมันตร์กลับเบะปากยิ่งกว่า พูดไม่ออกเลย
ดวงใจสีครามมีสินค้าเลียนแบบคุณภาพดีด้วยงั้นเหรอ?
นี่ไม่ได้กำลังโกหกอย่างโจ่งแจ้งอยู่หรือไง!
พิศมัยไม่รู้ว่าเปปเปอร์กับผู้ช่วยเหมันตร์ รู้แล้วว่าเธอกำลังโกหก ยังคิดว่าคำโกหกของตนเองทำให้พวกเขาเชื่ออีก พยักหน้าอย่างต่อเนื่องพูดขึ้น: “ใช่น่ะสิ สินค้าเลียนแบบคุณภาพดี แม่ไปซื้อมาจากที่ห้างโดยเฉพาะเลย เส้นนึงไม่กี่พันเอง”
“แม่ คิดว่ามีคนสามารถเลียนแบบดวงใจสีครามได้จริงๆเหรอ?” เปปเปอร์มองเธอด้วยใบหน้านิ่งเฉย
พิศมัยได้ยินคำพูดนี้ของเขา ในใจก็เต้นตึกตัก ความกระวนกระวายใจพุ่งสูงขึ้น “หมาย……หมายความว่าไง?”
“หมายความว่า ดวงใจสีครามที่ได้ทำการผลิตออกมา ก็เข้าไปอยู่ในงานประมูลทันที ไม่มีรูปภาพใดๆที่เล็ดลอดออกไปสู่ภายนอกเลย ดังนั้นคนภายนอกจึงรู้แค่ว่าดวงใจสีครามชิ้นนี้เป็นเครื่องประดับที่มีมูลค่ามากมาย แต่กลับไม่รู้ว่าดวงใจสีครามหน้าตาเป็นยังไง ดังนั้นแม่บอกผมมาเถอะว่า แม่ไปเห็นดวงใจสีครามแล้วซื้อมาจากที่ห้างไหน ทั้งยังทำเลียนแบบออกมาอีกต่างหาก?” เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเย็นชา
สีหน้าของพิศมัยเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด “นี่……แม่……”
เธออึดอัดจนถึงขีดสุด พูดได้ไม่ชัดเจนแล้ว
เปปเปอร์นวดๆหว่างคิ้ว “ตอนนี้บอกผมได้หรือยัง ทำไมดวงใจสีครามถึงมาอยู่กับแม่ที่นี่?”
พิศมัยลูบสร้อยที่อยู่บนคอ แล้วมองสายตาที่ดุดันของเขา รู้ว่าทุกอย่างปิดบังเอาไว้ไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงพูดความจริงเท่านั้น “มายมิ้นท์เป็นคนให้มา”
“เป็นไปไม่ได้!” เปปเปอร์ขมวดคิ้ว โต้แย้งทันที
พิศมัยรีบพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง “เธอเป็นคนให้มาจริงๆ คราวก่อนที่แกเข้าโรงพยาบาล มายมิ้นท์ก็นำสิ่งนี้มาหาแก ตอนนั้นแม่เป็นคนเปิดประตู เธอจึงเอาสร้อยให้แม่ ให้แม่เอาให้แกด้วย เพียงแต่……”
“เพียงแต่แม่เห็นว่าเป็นดวงใจสีคราม จึงซ่อนเอาไว้ส่วนตัวลับหลังผม?” เปปเปอร์หรี่สายตาที่ดุดันขึ้นมา
พิศมัยก้มหน้าด้วยความหวั่นใจ ยอมรับแล้ว
เปปเปอร์สูดหายใจเข้าลึกๆ ควบคุมความเดือดดาลในใจ จากนั้นจึงยื่นมือออกไปทางเธอ “เอาสร้อยคืนมาให้ผม”
“ไม่เอา” แค่พิศมัยได้ยิน ก็รีบกุมดวงใจสีครามเอาไว้แน่น ส่ายหัวไม่หยุด สีหน้าไม่ยินยอม “เปปเปอร์ ดวงใจสีครามนี่แกเป็นคนซื้อมาอยู่แล้ว ตอนแรกที่ให้มายมิ้นท์นัง……”
“ห๊ะ?” เปปเปอร์สีหน้าเย็นชา
พิศมัยรู้ความรู้สึกที่เขามีต่อมายมิ้นท์ในตอนนี้ อ้าๆปาก รู้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว จึงรีบพูดใหม่ “อะไรล่ะ ตอนแรกที่มายมิ้นท์แย่งดวงใจสีครามไป เดิมทีก็เป็นเธอนั่นแหละที่ทำไม่ถูก ตอนนี้เธอรู้ตัวดีแล้วไงถึงได้คืนดวงใจสีครามกลับมา ถึงยังไงแกก็คงวางเอาไว้เฉยๆ เอาให้แม่จะเป็นไรไปล่ะ?”
“ไม่ได้!” เปปเปอร์ปฏิเสธ ยื่นมือออกไปอีกครั้ง “คืนสร้อยมาให้ผม”
“เปปเปอร์……”
พิศมัยยังคิดจะพยายามยื้อแย่งมาเป็นของตนเอง
เปปเปอร์ตอบกลับอย่างแน่วแน่: “คืนผมมา!”
ฟังออกถึงความหงุดหงิดในน้ำเสียงของเขา พิศมัยจึงไม่กล้ายั่วโมโหเขาแล้ว กัดฟันถอดสร้อยออก แล้วส่งไปบนมือเขาอย่างไม่เต็มใจ
เปปเปอร์รวบสร้อยที่อยู่ในมือ จะถือเข้ามาใกล้ๆ
แต่แค่จะดึง กลับดึงเข้ามาไม่ได้
เขาขมวดคิ้วมอง ถึงพบว่าหลังจากพิศมัยส่งสร้อยคอมาถึงบนมือเขา กลับไม่ยอมปล่อยสร้อยออก จับสร้อยอีกด้านหนึ่งเอาไว้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
“……” เปปเปอร์ถอนหายใจ “เหมันตร์”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์เอ่ยปากขานรับ
“พรุ่งนี้ไปจองเครื่องประดับชุดหนึ่งให้คุณนายด้วย”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าตอบกลับ
เปปเปอร์มองไปทางพิศมัย “แม่ ได้ยินแล้วนะ ผมสั่งเหมันตร์ ให้เขาไปจองเครื่องประดับล้ำค่าให้แม่แล้ว งั้นตอนนี้แม่ปล่อยดวงใจสีครามได้หรือยัง?”
เขาไม่สามารถฝืนดึงสร้อยเข้ามา
ไม่งั้นสร้อยอาจจะถูกดึงจนขาดได้
พิศมัยมองดวงใจสีครามที่อยู่ในมือ ไม่ดีใจสักนิดที่กำลังจะได้เครื่องประดับชุดใหม่
เพราะเธอรู้ดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับใหม่แบบไหน ก็ไม่ได้มีมูลค่ามากมายอย่างดวงใจสีครามเลย
ดังนั้น เธอจึงยิ่งอยากได้ดวงใจสีคราม
“เปปเปอร์เอ้ย แม่พูดอะไรกับแกหน่อยได้ไหม?” ใบหน้าอวบอ้วนของพิศมัยยิ้มออกมา “ดวงใจสีครามนี่มายมิ้นท์เป็นคนคืนกลับมาเอง ในเมื่อเธอคืนกลับมา นั่นก็แสดงว่าเธอไม่ต้องการแล้ว แก……”
“ไม่ได้” เปปเปอร์ปฏิเสธเธอด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวอีกครั้ง “ไม่ว่าเธอจะคืนกลับมาด้วยเหตุผลที่ไม่ต้องการหรือเปล่า แต่สำหรับผม ดวงใจสีครามนี่เป็นของเธอเท่านั้น”
“แต่ว่า……”
“ไม่มีแต่ ปล่อยสร้อยด้วยครับ” คราวนี้เปปเปอร์หมดความอดทนแล้ว ริมฝีปากบางๆพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ในที่สุดพิศมัยก็ยอมปล่อยดวงใจสีครามสักที
เพราะเธอไม่กล้าต่อต้านเขา
แม้เธอจะเป็นคนที่เลี้ยงดูเขาจนเติบโต
แต่พลังที่แสดงออกมาจากทั้งร่างกายของเขา กลับสืบทอดมาจากท่านย่า การเผชิญหน้ากับเขาทำให้เธอหวาดกลัว
เอาดวงใจสีครามกลับมาแล้ว สีหน้าที่เคร่งขรึมเด็ดขาดของเปปเปอร์จึงอ่อนโยนลงได้
เขาเก็บสร้อยลงในกระเป๋าสูทด้วยความระมัดระวัง แล้วมองไปที่พิศมัย แววตาเปลี่ยนไปเคร่งขรึมอีกครั้ง “แม่ คราวก่อนท่านย่าน่าจะเคยบอกแม่ไปแล้ว เรื่องที่ในอนาคตผมกับมายมิ้นท์จะแต่งงานกันอีกครั้ง และคงบอกกับแม่แล้วว่าอย่าสร้างความลำบากให้มายมิ้นท์อีกใช่ไหมครับ?”
พิศมัยพยักหน้าไปก่อน แล้วจึงถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ “เปปเปอร์ แกคิดจะแต่งงานกับเธออีกครั้งจริงๆเหรอ?”
“ครับ” เปปเปอร์พยักหน้า
พิศมัยไม่พอใจขึ้นมาทันที “เธอมีอะไรดีนักนะ? ทำไมแกถึงปล่อยเธอไปไม่ได้?”
“งั้นแม่บอกผมมา ว่าเธอมีอะไรไม่ดี ที่ทำให้แม่เอาแต่ไม่พอใจเธอขนาดนั้น?” เปปเปอร์ไม่ตอบแต่ย้อนถามกลับ
พิศมัยคำรามออกมา “ตรงไหนเธอก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ เธอ……”
เธอกำลังจะยกตัวอย่างจุดที่ไม่ดีของมายมิ้นท์ขึ้นมาพูด แต่ทว่าแค่เอ่ยปาก เธอถึงพบว่าตนเองพูดอะไรไม่ออกเลย
นี่ทำให้พิศมัยรู้สึกประหลาดใจและไม่เข้าใจมากๆ
ทำไมเธอถึงพูดข้อเสียของมายมิ้นท์ไม่ออกเลยล่ะ?
ราวกับมองออกว่าในใจของพิศมัยกำลังคิดอะไรอยู่ เปปเปอร์จึงกดๆขมับด้วยความอ่อนเพลีย “แม่ แม่รู้ไหมว่าทำไมแม่ถึงพูดไม่ออก เพราะในใจของแม่รู้ว่า จริงๆแล้วเธอไม่มีตรงไหนไม่ดีเลย หกปีก่อน เธอเคารพแม่ ไม่ว่าแม่จะทำยังไงกับเธอ เธอก็ไม่เคยแสดงความไม่เคารพแม่เลย เธอดูแลปีโป้ ถึงปีโป้จะรังแกเธอ เธอก็ไม่เก็บมาใส่ใจ เพราะเธอไม่เคยล้ำเส้น แม่ถึงบอกไม่ได้ว่าเธอไม่ดีตรงไหน ดังนั้นผมไม่เข้าใจเลย ทำไมแม่ถึงไม่ชอบเธอขนาดนั้น?”
เพราอะไร?
พิศมัยหลบตาลง “เพราะภูมิหลังของครอบครัวเธอไม่ดี ซึ่งมันจะทำให้แกเดือดร้อน ดังนั้นลูกสะใภ้อย่างนี้ ทำไมแม่ถึงต้องชอบด้วย?”
“ภูมิหลังของครอบครัวไม่ดี?” เปปเปอร์เริ่มโมโหแล้ว “นี่ถือเป็นเหตุผลอะไรน่ะ?”
ผู้ช่วยเหมันตร์ก็พยักหน้าตามไปด้วย
เขาแสดงให้รู้ว่าไม่เข้าใจ
แม้ในแวดวงสังคมจะมีแม่สามี ที่ไม่ชอบลูกสะใภ้ที่ภูมิหลังของครอบครัวไม่ดีมากมายจริงๆ แต่แม่สามีพวกนั้นไม่เหมือนกับพิศมัย
แม่สามีพวกนั้นเกิดมาร่ำรวย ภูมิหลังของครอบครัวดีมาก ดังนั้นถ้าพวกเธอจะดูถูกลูกสะใภ้ที่ภูมิหลังครอบครัวไม่ดี เขาสามารถเข้าใจได้
แต่ชาติกำเนิดของพิศมัย ไม่ดีกว่าคุณมายมิ้นท์อีกนะ
อย่างน้อยคุณมายมิ้นท์ก็มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล แม้จะเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลเพียงชั่วคราวเท่านั้น
แต่พิศมัยกลับมาจากครอบครัวคนจนธรรมดาๆ ดังนั้นการที่เธอดูถูกภูมิหลังครอบครัวของคุณมายมิ้นท์ มันทำให้เขาไม่เข้าใจมากๆ
“ทำไมนี่จะไม่ถือเป็นเหตุผลล่ะ!” พิศมัยเท้าเอว “แม่ไม่อยากให้แกแต่งงานกับผู้หญิงที่ภูมิหลังของครอบครัวเทียบกับตระกูลนวบดินทร์ของเราไม่ติด ทั้งยังไม่สามารถช่วยเหลืออะไรแกได้ด้วย แต่งผู้หญิงอย่างนั้นเข้าบ้าน แกจะโดนคนในแวดวงสังคมหัวเราะเยาะ แกจะไม่เป็นที่นับหน้าถือตา เปปเปอร์ แม่คิดว่าแกเป็นลูกชายแท้ๆของแม่นะ แม่จึงไม่อยากให้แกต้องประสบพบเจอกับทุกเรื่องที่พ่อของแกได้เจอมาในปีนั้น”