รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 67 ส้มเปรี้ยวหายตัวไป
มายมิ้นท์เลิกคิ้วขึ้น “ทำไมนายมาหาคุณส้มเปรี้ยวที่นี่ล่ะ เธออยู่กับนายไม่ใช่เหรอ”
“ใช่” ลาเต้เอามือกอดอก พูดเสริม
เปปเปอร์หลุบตาลง “เธอไม่ได้อยู่กับผม”
“ไม่อยู่เหรอ” ลาเต้อึ้งไป จากนั้นก็หัวเราะอย่างสะใจ “อะไรกัน เธอหายไปเหรอ”
เปปเปอร์ไม่ได้ตอบ
ลาเต้หัวเราะไม่ออก เขาถามอย่างตกใจและสงสัย “หายไปจริงเหรอ”
มายมิ้นท์มองเปปเปอร์ “คุณส้มเปรี้ยวหายตัวไป นายมาหาที่นี่ ประธานเปปเปอร์ คิดว่าเราซ่อนตัวคุณส้มเปรี้ยวเอาไว้เหรอ”
“ส้มเปรี้ยวออกไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ไม่กลับมาอีก ที่นี่มีแค่พวกคุณที่ขัดแย้งกับเธอ” เปปเปอร์สบตาเธอ
ลาเต้โมโหและหัวเราะออกมา “เราขัดแย้งกับเธอ แล้วต้องซ่อนตัวเธอไว้เหรอ นายไปเอาความคิดนี่มาจากไหน ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ ทุกคนต้องสงสัยเราเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว เราไม่โง่ทำแบบนั้นหรอก”
เปปเปอร์เม้มปากไม่พูดอะไร
จริงๆ เขารู้ว่าน้อยมากที่ส้มเปรี้ยวจะอยู่ที่นี่
การที่เขามา เผื่อว่าจะโชคดีเท่านั้น
“ประธานเปปเปอร์” มายมิ้นท์จับปลายสูทของลาเต้ และดึงเขามาอีกด้าน เธอก้าวขึ้นมามองหน้าเปปเปอร์ “ฉันยอมรับว่าฉันเจอคุณส้มเปรี้ยวในห้องน้ำ แต่ฉันออกมาก่อน ดังนั้นฉันจึงไม่รู้ว่าหลังจากนั้น เธอไปไหน นายดูกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นได้”
“ผมดูแล้ว ในกล้องวงจรปิด ไม่มีเบาะแสของส้มเปรี้ยวเลย” เปปเปอร์กำหมัดทั้งสองข้าง และพูดออกมา
ตอนที่ส้มเปรี้ยวยังไม่กลับมาห้องอาหาร เขาโทรหาเธอ แต่โทรไม่ติด และให้ผู้จัดการร้านอาหาร ส่งคนไปหา หาอยู่รอบหนึ่ง ก็หาไม่เจอ
ที่แปลกไปกว่านั้น กล้องวงจรปิดในร้านอาหารทำงานตามปกติ แต่ไม่สามารถจับภาพของส้มเปรี้ยวได้เลย นี่มันผิดปกติเป็นอย่างมาก
ลาเต้เบะปาก “กล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพเธอได้ งั้นแสดงว่าเธอพยายามหลบเลี่ยง แล้วก็ไปซ่อนตัว ไม่แน่เธออาจจะจงใจก็ได้ อยากให้นายร้อนใจไง ลองเชิงว่าตัวเธอสำคัญกับนายไหม เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างส้มเปรี้ยว จะทำไม่ได้”
สีหน้าของเปปเปอร์เคร่งขรึมทันที ความเย็นชาแผ่ออกจากตัวเขา
มายมิ้นท์ส่งสายตาให้ลาเต้ บอกให้เขาหยุดพูด
พูดว่าเธอเจ้าเล่ห์ ต่อหน้าเขาอย่างนี้ นี่รนหาที่ตายชัดๆ
“ขอโทษนะประธานเปปเปอร์ ลาเต้แค่พลั้งปากพูด นายอย่าถือสาเลยนะ” มายมิ้นท์พูดขอโทษอย่างไม่ค่อยจริงใจ จากนั้นจึงยกนาฬิกาตรงข้อมือขึ้นดู “นี่ก็ดึกแล้ว ฉันกับลาเต้ขอตัวก่อน ประธานเปปเปอร์ค่อยๆ หาคุณส้มเปรี้ยวแล้วกัน ขอให้หาเจอเร็วๆ ไว้เจอกัน!”
พูดจบ เธอก็ยิ้มให้เปปเปอร์ จากนั้นก็เป็นฝ่ายควงแขนลาเต้ เดินออกไป
เห็นท่าทีมีความสุขของทั้งสองคน แววตาของเปปเปอร์นิ่งงัน เขาหงุดหงิดใจ
หกปีมานี้ เธอมีท่าทีซังกะตายกับเขา แต่พอหย่ากัน ก็มีหนุ่มๆ ข้างกายหลายคน แถมยังยิ้มให้พวกหนุ่มๆ อย่างสดใส ผู้หญิงที่รักคนง่ายแบบนี้ จะเทียบกับส้มเปรี้ยวได้ยังไง
คิดถึงช่วงที่ยายไม่ชอบส้มเปรี้ยว รวมไปถึงที่บอกว่าอย่าเสียใจที่หย่ากับมายมิ้นท์ เขารู้สึกตลกชะมัด
เสียใจงั้นเหรอ
ไม่มีทาง!
เขาสลัดมายมิ้นท์ออกจากความคิด เปปเปอร์หยิบมือถือขึ้นมาโทรออกด้วยสีหน้าเย็นชา “ยังหาไม่เจอเหรอ”
“ยังเลยครับ ผมพาคนมาหาแถวร้านอาหารแล้ว แต่ก็ไม่เจอคุณส้มเปรี้ยวเลย ประธานเปปเปอร์ เราแจ้งตำรวจดีไหมครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่หน้าประตูร้านอาหาร และทึ้งผมพูดเสนอออกมา
เปปเปอร์กำมือถือแน่น เขากดเสียงต่ำพูดว่า “ไม่ได้ผลหรอก ตอนนี้ไม่รู้ว่าการหายตัวไปของส้มเปรี้ยว คืออุบัติเหตุหรือเปล่า ดังนั้นทางตำรวจคงไม่รับเรื่อง ต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงก่อน”
“งั้นตอนนี้เราจะทำยังไงดีครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์มองซ้ายมองขวา เขาหนาวจนตัวสั่น
เปปเปอร์เงียบไปครู่หนึ่ง “นายพาคนไปสอบถามบริเวณรอบๆ ต่อไปเรื่อยๆ ดูว่ามีใครเจอส้มเปรี้ยวหรือเปล่า”
“ครับ!” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าตอบรับ
เปปเปอร์เก็บมือถือ และออกจากร้านอาหาร เขาขับรถไปที่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์
ไม่นาน ก็มาถึงตระกูลภักดีพิศุทธิ์
เปปเปอร์เดินตามพ่อบ้านเข้าไป เยี่ยมบุญและภรรยาลงมาจากข้างบนพอดี เมื่อเห็นเขาเข้ามาคนเดียว จึงถามอย่างสงสัย “เปอร์ ส้มเปรี้ยวล่ะ”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์มองไปข้างหลังเขา “ยังไม่เข้ามาเหรอ”
“คุณป้าครับ ส้มเปรี้ยวหายตัวไป!” เปปเปอร์มองคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แล้วพูดออกมา
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อึ้งไป “นายว่าอะไรนะ ส้มเปรี้ยวหายตัวไป”
เปปเปอร์พยักหน้า
เยี่ยมบุญสีหน้าเคร่งเครียด เขาถามเสียงดัง “เปอร์ ส้มเปรี้ยวออกไปกับนายไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงหายตัวไปได้ล่ะ”
“ระหว่างทานข้าว เธอออกไปห้องน้ำ หลังจากนั้นก็ไม่กลับมา ผมส่งคนไปหา จนถึงตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ ผมสงสัยว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับส้มเปรี้ยว” เปปเปอร์ตอบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เป็นลมล้มพับไป
“ที่รัก!” เยี่ยมบุญตะโกนออกมา รีบประคองตัวของภรรยาที่ล้มลงมา
เปปเปอร์รีบเข้าไปช่วย
ทั้งสองประคองคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์มาที่โซฟา
เยี่ยมบุญรีบปฐมพยาบาลให้ภรรยา
หลังจากนั้นคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไอออกมา เธอฟื้นขึ้นมา และเอามือทุบอก “ส้มเปรี้ยวของฉัน ที่รัก ส้มเปรี้ยวของเราหายตัวไป……”
“ผมรู้แล้ว” เยี่ยมบุญกอดภรรยาเอาไว้ และลูบหลังเธออย่างปวดใจ “วางใจเถอะ ผมจะพาส้มเปรี้ยวกลับมาให้ได้!”
เมื่อพูดจบ มือถือก็ดังขึ้น
เปปเปอร์หยิบมือถือออกมา เขามองหน้าจอ และเอามือถือแนบหู “ฮัลโหล”
“ประธานเปปเปอร์ รู้เบาะแสของคุณส้มเปรี้ยวแล้วครับ” เสียงตื่นเต้นของผู้ช่วยเหมันตร์ดังออกมา “ผมถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมา คุณส้มเปรี้ยวโดนคนที่ปิดบังใบหน้า พาตัวขึ้นรถตู้ไปครับ”
“รถตู้เหรอ” เปปเปอร์หรี่ตาอย่างหวาดระแวง “รีบเอากล้องวงจรปิดข้างทางมา หาเส้นทางของรถตู้ให้ได้”
“รับทราบครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า
เมื่อพูดจบ เยี่ยมบุญและภรรยาจ้องเปปเปอร์เขม็ง “เป็นยังไงบ้าง เจอเบาะแสของส้มเปรี้ยวแล้วเหรอ”
“ส้มเปรี้ยวโดนลักพาตัวไปครับ” เปปเปอร์วางมือถือ เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความอาฆาต
เมื่อคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ได้ยิน เธอก็ร้องไห้หนักขึ้น เกือบจะเป็นลมไปอีกรอบ
สีหน้าของเยี่ยมบุญไม่สู้ดี เขาขบกรามแน่น “ใครกล้าลักพาตัวลูกสาวฉัน!”
“ตอนนี้ยังไม่ทราบครับ ต้องรอให้จับตัวได้……”
เยี่ยมบุญพูดตัดบทด้วยสีหน้าตึงเครียด “รอให้จับตัวได้ แล้วให้ฉันจัดการ ฉันจะทำให้มันทรมานเจียนตาย!”
เขาต้องการให้คนนั้นรู้ว่า จะลักพาตัวลูกสาวเยี่ยมบุญ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
ในเมื่อลักพาตัวไปแล้ว ก็ต้องเตรียมใจให้ดี!
เปปเปอร์ไม่ได้ขัด “คุณลุง เราแจ้งตำรวจก่อนดีกว่าครับ ในเมื่อรู้แล้วว่ามีคนจงใจลักพาตัวส้มเปรี้ยว ทางตำรวจจะได้ดำเนินคดีได้ เพราะคนของเรามีข้อจำกัด ถ้ามีตำรวจช่วย จะได้เจอตัวส้มเปรี้ยวเร็วขึ้น”
เยี่ยมบุญคิดว่ามีเหตุผล ขณะที่เขากำลังจะพยักหน้า
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รีบห้ามไว้ เธอพูดเสียงแหลม “ไม่ได้ แจ้งตำรวจไม่ได้เด็ดขาด ฉันไม่อยากเสียส้มเปรี้ยวไป ฉันไม่อยากเสียเธอไป!”
พูดจบ เหมือนมีอะไรกระทบกระเทือนใจของเธอ ตัวเธอสั่นไม่หยุด สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่เหลือคราบของคุณนายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย
เปปเปอร์เห็นคุณนายในสภาพนี้ เขาถึงกับตกตะลึง “คุณลุง คุณป้า……”
เยี่ยมบุญกอดภรรยาแน่น เหมือนกำลังโอ๋เด็กอย่างไรอย่างนั้น “โอเคๆ เราไม่แจ้งตำรวจ”
เมื่อคุณนายได้ยิน เธอก็ไม่ได้ตัวสั่นมาก เหมือนก่อนหน้านี้ แต่ความหวาดกลัวบนใบหน้า ยังคงไม่หายไป
เยี่ยมบุญลูบหัวภรรยา และถอนหายใจ “คุณป้าเค้าป่วยน่ะ”