ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 137 การซุ่มโจมตีอันทรงพลัง
บทที่ 137 การซุ่มโจมตีอันทรงพลัง
เขาสูดดมกลิ่นที่ลอยมาตามลมเข้าไป
“เป็นกลิ่นมนุษย์ไม่ผิดแน่ !” ปาเอ่อร์เอ่ยเสียงแหบต่ำ
เขารีบเร่งความเร็วแล้วมุ่งหน้าไปยังภูเขาหิน
ปาเอ่อร์ชื่นชอบการฆ่าสังหาร !
ปาเอ่อร์ชมชอบกลิ่นคาวเลือด !
ปาเอ่อร์อยากจะฆ่าสังหารพวกมนุษย์รำคาญตาเสียให้สิ้น !
เมื่อท่องเช่นนี้ไปเรื่อย ในใจพลันตื่นเต้นยิ่งขึ้น ความเร็วเพิ่มสูงกว่าเดิม
ไม่นานเขาก็มุ่งหน้าถึงตีนเขา
ณ จุดนั้นเขาก็เห็นชายหนุ่มชาวมนุษย์ผู้หนึ่งยืนอยู่
พวกมนุษย์ตัวเล็กนัก ราวกับถั่วงอกที่เพิ่งงอกพ้นดิน แต่มนุษย์ผู้นั้นกลับร้องตะโกนยุแหย่มาทางปาเอ่อร์
“เข้ามาเลยสิเจ้าโง่ ! ข้าจะปลิดชีพเจ้าเอง !” จ้าวซินตะโกนใส่ปาเอ่อร์แล้วทำท่าท้าทาย
ปาเอ่อร์ยกยิ้มมุมปาก
ปาเอ่อร์ไม่ได้โกรธเคือง
เป็นเพราะเขาไม่คิดโกรธคนที่ได้ตายไปแล้ว !
เขาหัวเราะ เผยออ้าปากมองลงไปคล้ายหุบเหว
จากนั้นหยิบขวานยักษ์ลงมาจากหลังแล้วพุ่งเข้าใส่จ้าวซิน
แม้จ้าวซินจะถูกเผ่าคนเถื่อนเพียงคนเดียวเข้าโจมตี แต่ความรู้สึกนั้นราวกับถูกศัตรูทั้งกองทัพเข้ากระหน่ำใส่
เขายืนมองเผ่าคนเถื่อนผู้นั้นพุ่งเข้าใส่คล้ายกระทิงคลั่ง เบื้องหลังทิ้งฝุ่นควันตลบ
จ้าวซินรีบถอยไม่ชักช้า ปล่อยคลื่นเข็มออกไปไม่หยุดมือ
เผ่าคนเถื่อนหัวเราะออกมา อักขระบนอกเริ่มเปล่งแสงสีแดงเลือด จากนั้นคลื่นพลังรุนแรงก็ระเบิดออกมาแล้วแผ่คลุมร่างทั้งร่าง ห่าเข็มที่พุ่งเข้าซัดร่างปะทะกับเนื้อหนังเขาแล้วก็พากันกระเด้งกระดอนออกราวกับปะทะหิน จากนั้นขวานหินยักษ์ก็หวดไปทางจ้าวซิน
10 จั้ง !
ตอนปล่อยการโจมตีเมื่อครู่เขายังห่างจากจ้าวซิน 10 จั้ง ขวานยักษ์จึงกระแทกลงบนพื้นเสียงดังสนั่น
พื้นแยกออกในพลัน รอยแยกคืบคลานไปถึงสองเท้าของจ้าวซิน
จ้าวซินดีดเท้าตัวลอยขึ้นอากาศ ภาพเหยี่ยวนัยน์ตาทองปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง เหยี่ยวตัวนั้นสยายปีกคู่นั้นแล้วพาเขาลอยขึ้นฟ้าไป
ปาเอ่อร์ยิ้มเหี้ยม รอยอักขระที่เท้าเริ่มส่องแสงเรือง จากนั้นปาเอ่อร์ก็กระโดดขึ้นฟ้า
ตู้ม !
ผืนดินที่เขายืนอยู่เมื่อครู่แตกออกเป็นหลุมลึก ก่อนที่สองเท้าเขาจะดีดตัวขึ้นไป
แรงดีดตัวย่นระยะห่างระหว่างเขากับจ้าวซิน ขวานหินของเขาฟาดลงมาอีกครั้ง แรงลมหมุนโดยรอบตัวขวานทำให้มันราวกับจะทะลุทะลวงผ่านทุกสิ่งกีดขวางไปได้
ในตอนที่ขวานหินกำลังจะแยกร่างจ้าวซินออกเป็นสองส่วน จ้าวซินก็เร่งความเร็วขึ้น ร่างเขาส่องประกายแสงจ้าออกมา บินถอยออกไปด้วยความเร็ว หลบการโจมตีนั้นไปได้
ปาเอ่อร์ร่อนลงพื้นอย่างแรง ขวานสับลงพื้นอีกครา คลื่นพลังระเบิดกระจายรอบทิศ ส่งก้อนดินกระจายไปทุกที่
จ้าวซินหน้าซีดเผือด เขาไถลไปไกลก่อนจะร่อนลงพื้น ณ ฝั่งตรงกันข้าม ยังคงไม่ลืมหน้าที่ตนเอง ดังนั้นจึงวิ่งเข้าใส่อีกฝ่าย ร้องตะโกนหมายยั่วโมโหปาเอ่อร์ “เข้ามาเลยไอ้งั่ง !”
หากแต่ปาเอ่อร์ไม่รีบร้อนไล่ตามเขา
เขายังทำท่าดมกลิ่นต่อไป จากนั้นหรี่ตาลงเล็กน้อย “ลมมีกลิ่นแปลก ๆ…… มีคนอีก !”
เขาเหลือบมองโดยรอบ จมูกยังคงดมรอบกายต่อไป สายตาสอดส่องหามนุษย์อีกคนที่อยู่ที่นี่
จ้าวซินเริ่มร้อนรน เขารู้ดีว่าตนเองไม่อาจรับมือเผ่าคนเถื่อนผู้นี้ไหว แต่ก็ยังกัดฟันหันหลังกลับไปซัดลำแสงออกจากฝ่ามือ
ปาเอ่อร์ตวัดขวานหินในมือ ทำให้ลำแสงนั้นปะทะเข้ากับแกนขวาน สะเก็ดไฟกระจายออกมารอบทิศ
เขาจ้องจ้าวซินที่หันกลับมาแล้วเองคอถาม “ห่วงเพื่อนเจ้าหรือ ?”
ร่างทั้งร่างของจ้าวซินแข็งค้างไป
ปาเอ่อร์หัวเราะ
เผ่าคนเถื่อนนั้นบ้าคลั่งหยาบช้า แต่ก็ไม่ได้โง่ !
เขาคำรามออกมา “เป็นสหายที่ไร้ประโยชน์ยิ่ง !”
แล้วอักขระบนร่างของเขาก็เปล่งแสงสีเลือดขึ้นอีกครั้ง
คลื่นพลังรุนแรงระเบิดออกมา ปาเอ่อร์พุ่งเข้าใส่จ้าวซินอย่างไม่สนใจสิ่งใด พื้นที่เขาย่ำมาสั่นสะเทือนโดยแรง
“ตายเสีย !” ปาเอ่อร์กู่ร้องแล้วฟาดขวานหินใส่จ้าวซิน
จ้าวซินรีบหลบโดยเร็ว
ตู้ม !
ขวานรบพลาดจ้าวซินไปเพียงนิด แต่คลื่นพลังจากอาวุธยังคงซัดเข้าใส่จ้าวซิน ส่งร่างเขากระเด็นไป
ร่างของเขาลอยไปราวกับใบหลิวลอยตามลม
ปาเอ่อร์กระโดดตามไปไม่รอให้ร่างจ้าวซินได้ร่วงลงพื้น จากนั้นก็เข้าปะทะกับจ้าวซินด้วยความรุนแรงระดับแยกพสุธา
ตู้ม !
คลื่นพลังจากขวานปะทะร่างจ้าวซินพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น ราวกับผืนฟ้าจะถล่มทลาย
หนึ่งครั้ง !
เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น !
โลหิตสาดกระเซ็นออกทุกรูทวารบนร่างจ้าวซิน พลังชีวิตของเขาคล้ายจะดับสิ้นไปนับตั้งแต่ตอนนั้น
หากเขาไม่เปิดใช้เกราะในพริบตาสุดท้ายหรือเปิดใช้เครื่องมือต้นกำเนิดที่ใช้ป้องกัน ขวานเมื่อครู่ก็คงสังหารเขาตายคาที่ไปแล้ว
จ้าวซินร่วงหล่นลงกระแทกพื้น จากนั้นสำลักเอาเลือดสด ๆ ออกมาคำใหญ่
ปาเอ่อร์เองก็ร่วงลงพื้นราวกับศิลาขนาดยักษ์ร่วงหล่นเช่นกัน ส่งฝุ่นและก้อนดินลอยกระจายไปทั่ว
ปาเอ่อร์ย่าวเท้าเข้าไปแล้วกู่ก้อง “ความอ่อนแอของเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจไม่น้อย มนุษย์เอ๋ย !”
เขาหมุนขวานในมือแล้วเก็บมันไว้ที่หลัง “สังหารเจ้าใช้เพียงฝ่ามือเดียวก็เพียงพอ”
จ้าวซินลุกขึ้นยืน กัดฟันแน่น มือก็จับดาบในมือแน่นเช่นกัน
อักขระโทเทมบนแขนปาเอ่อร์เริ่มส่องแสง
จ้าวซินตวัดดาบเข้าใส่ ที่ตัวดาบส่องล้อแสงสว่างสดใส
ส่วนปาเอ่อร์ส่งหมัดหนึ่งออกไป “ยังดีไม่มากพอ !”
หมัดดั่งเหล็กของเขาปะทะเข้ากับตัวดาบ ส่งผลให้ดาบเกิดแสงสีประหลาดขึ้น
พริบตาต่อมามันก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นผงเหล็กลอยฟุ้งไปในอากาศ
แม้มันจะไม่ใช่เครื่องมือต้นกำเนิด จ้าวซิน ก็ยังตกใจด้วยมันถูกทำลายในแรงปะทะเพียงครั้งเดียว แรงปะทะจากตัวดาบยังทะลวงมากระแทกอกเขา ส่งผลให้เขากระอักเลือดออกมาอีกคราหนึ่งแล้วล่าถอยไป
เขาล้มลงกับพื้น ไม่อาจลุกขึ้นยืนไหวอยู่ครู่หนึ่ง
“ขยะไร้ค่า หากมนุษย์ทุกคนอ่อนปวกเปียกเช่นเจ้า ภารกิจครั้งนี้คงน่าหน่ายใจนัก” ปาเอ่อร์คำรามเสียง
จ้าวซินพยายามลุกขึ้นมา มือกุมแน่นที่อกตน “เจ้านี่พูดมากจริง”
เขายืนขึ้นหากแต่ร่างเซไปมา “อย่าลืมว่าเจ้ายังไม่อาจสังหารข้าได้”
จากนั้นก็วาดแขนทั้งสองข้างออก เข็มนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาราวกับห่าฝน พวกมันพุ่งเข้าใส่ปาเอ่อร์พร้อมกัน
แม้ปาเอ่อร์จะแข็งแกร่ง แต่หากเข็มเหล่านี้เข้าปะทะดวงตาของเขา เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้
ดังนั้นปาเอ่อร์จึงก้มหน้าลงแล้วหลับตา ยกแขนสองข้างขึ้นเหนือหัว ที่อกเริ่มเปล่งแสงขึ้น ร่างกายเขาแกร่งขึ้นราวกับทำจากศิลาในพลัน
เป็นอีกครั้งที่มีเสียงคล้ายโลหะกระทบกันเกิดขึ้น
ไม่นานห่าฝนเข็มก็จบลง
ปาเอ่อร์ยกแขนทั้งสองลง มันเต็มไปด้วยจุดแดงกระจายไปทั่ว หากแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาบาดเจ็บได้
ปาเอ่อร์หัวเราะ “โจมตีไม่ระคายผิวข้าสักนิด”
จ้าวซินตอบ “ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะใช้ได้ผลกับเจ้าเช่นนี้ ข้าเพียงแต่……”
เสียงเขาพลันลดต่ำลง
ปาเอ่อร์ไม่อาจได้ยินประโยคสุดท้ายของเขา “เจ้าว่าอะไรนะ ?”
“ข้าบอกว่า……” จ้าวซินพลันหัวเราะแล้วตะโกนออกมา “เจ้ามันไอ้โง่ !”
ปาเอ่อร์พลันรู้สึกถึงอันตรายบางอย่างวาบขึ้นในใจ
“อ๊ากกกก !!!”
จากนั้นก็พลันหันไปปล่อยหมัดใส่ด้านหลังตนเอง
ตู้ม !!!
หมัดของปาเอ่อร์ปะทะเข้ากับคนที่ซุ่มโจมตีเขาจากด้านหลัง
หากแต่พริบตานั้น แขนของปาเอ่อร์ที่แกร่งดั่งเหล็กกล้ากลับหักดังเป๊าะคล้ายกับไม้ผุท่อนหนึ่ง