ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 2 ควบคุมดูแล
บทที่ 2 ควบคุมดูแล
หลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูเฉินก็พากังเหยียนไปยังหอเมฆสงบ ส่วนหมิงชู หลี่ชู่ และโจวหงนั้นพักอยู่ยังที่พักใกล้กับสถาบันมังกรซ่อนเร้น
เมื่อมาถึงยังหอเมฆสงบฟ้าก็มืดแล้ว
รูปปั้นขนาดใหญ่ ร่างเป็นเหยี่ยว หน้าเป็นคน ตั้งตระหง่านอยู่ที่ทางเข้า
ซูเฉินยื่นป้ายประจำตัวไปยังรูปปั้น มันกลืนป้ายของเขาลงไป แสงริ้วหนึ่งส่องออกมาจากรูปปั้นตรงไปยังกลางหน้าผากซูเฉิน ก่อเกิดเป็นตราสัญลักษณ์หนึ่ง ก่อนที่รูปปั้นหัวคนตัวเหยี่ยวหัวเราะดุดันออกมา “ข้าจำเจ้าได้แล้ว เจ้าผ่านไปได้ จำไว้ว่าตรานี่จะอยู่บนร่างเจ้าระหว่างที่เจ้าเข้าศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ อย่าได้ละเมิดข้อบังคับของสถาบันเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นตรานี่จะส่งข้อความไปยังทางการ และเมื่อเป็นเช่นนั้น… หึ ๆ”
เจ้ารูปปั้นเปล่งเสียงหัวเราะน่าขนลุกออกมา แต่ซูเฉินยังคงสีหน้าเรียบเฉยไว้
เมื่อเห็นว่าตนแกล้งซูเฉินไม่สำเร็จ มันก็บ่นออกมา “เจ้านี่ไม่สนุกเลยสักนิด”
จากนั้นประตูก็เปิดออก
ห้องที่ 12 ของเขาอยู่บนชั้น 3 ของหอเมฆสงบ เมื่อเขามาถึงก็พบชายหนุ่มชุดดำผู้หนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู
ยามเห็นซูเฉิน นัยน์ตาเขาก็เป็นประกายวาบ เขาเดินเข้ามากล่าวว่า “เจ้าคงจะเป็นซูเฉินใช่หรือไม่ ? ข้ารอเจ้ามานานแล้ว”
น้ำเสียงเขาฟังดูไม่ต้อนรับซูเฉินแม้แต่น้อย
ซูเฉินเอ่ยถาม “เจ้าเป็นใคร ?”
“ข้าชื่อพาน พานเฮ่า จำชื่อของข้าไว้ เพราะข้าจะเป็นฝันร้ายที่สุดของเจ้า !”
“พาน……” เด็กหนุ่มพึมพำ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้ “ตระกูลพานแห่งเมืองป่าสนน่ะหรือ ?”
อย่างไรคนตระกูลพานก็จงใจมาหาเรื่องเขาอยู่แล้ว เดิมทีอยากทำตั้งแต่ก้อนหน้านี้ แต่เป็นเพราะซูเฉินออกเดินทางไปยังชายแดนเมฆาเคลื่อน ตระกูลพานจึงไม่อาจหาตัวเขาพบ
ซูเฉินเอ่ยถาม “เจ้าก็เป็นศิษย์ในสถาบันมังกรซ่อนเร้น ?”
พานเฮ่าหัวเราะเสียงต่ำ ชูนิ้วเข้าหาตนเอง “ข้าเป็นศิษย์ปีสามในสถาบันมังกรซ่อนเร้น อยู่อันดับที่ 142 ของการจัดอันดับมังกรผันเปลี่ยน !”
ตอนที่พูดเรื่องอันดับของตนขึ้น ในน้ำเสียงเจือความภูมิใจไว้เล็กน้อย
ซูเฉินรู้จักว่าสถาบันมังกรซ่อนเร้นมีการจัดอันดับมังกรผันเปลี่ยน เป็นการจัดอันดับขั้นของเหล่าศิษย์ในสถาบัน ซึ่งชื่อนี้มันก็หมายถึงเหล่าศิษย์ในปัจจุบันที่ยังเป็นเพียงตัวอ่อนตัวหนึ่งเท่านั้น พวกเขาจำต้องผ่านการฝึกตนจากสถาบันเพื่อให้กลายเป็นมังกรในหมู่คนเสียก่อน เช่นนั้นจึงจะสามารถกลายเป็นผู้มากฝีมือของแผ่นดินหลงซางได้
การจัดอันดับมังกรผันเปลี่ยนนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคืออันดับในศิษย์ชั้นปีเดียวกัน และประเภทที่สองคืออันดับของศิษย์ทุกคนในสถาบันมังกรซ่อนเร้นโดยไม่แบ่งแยกชั้นปี โดยที่ประเภทที่สองจะมีรายชื่อศิษย์ 1,000 คนที่โดดเด่นเท่านั้น
พานเฮ่าได้อันดับ 142 ซึ่งก็พอจะนับได้ว่าสูงในชั้นปีที่สามไม่น้อย เช่นนั้นแล้วเขาคงแข็งแกร่งทีเดียว
แต่สำหรับซูเฉิน อันดับเหล่านั้นไร้ประโยชน์นัก
เขาพยักหน้า “เช่นนั้นแล้วเจ้ามาถึงที่นี่เพื่อมาบอกเรื่องนี้กับข้างั้นหรือ ?”
พานเฮ่าคำรามเสียงโกรธออกมา “ซูเฉิน อย่าทำท่าโอหังไปหน่อยเลย ! ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าว่าชีวิตในสถาบันมังกรซ่อนเร้นจะไม่มีวันสงบสุขแน่ เพราะข้ามีโอกาสจัดการเจ้ามากมาย !”
“ก็คือเจ้าจะบอกว่าตอนนี้เจ้าไม่มีโอกาสทำอะไรข้าได้ ?” ซูเฉินหัวเราะ
เขาอ่านกฎแล้ว ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงรู้ดีว่าสถาบันมังกรซ่อนเร้นห้ามไม่ให้ต่อสู้กันด้วยเรื่องส่วนตัว พานเฮ่าสามารถเดินมายังที่พักเขาได้ แต่ก็ทำได้แค่ขู่เท่านั้น
พานเฮ่าหัวเราะเสียงต่ำ “ข้าทำอะไรเจ้าตอนนี้ไม่ได้ ทว่าอนาคตก็ยังมีโอกาสอีกมาก และถูกต้อง สถาบันมังกรซ่อนเร้นนั้นห้ามไม่ให้มีการต่อสู้กันด้วยเรื่องส่วนตัว หากแต่สามารถทำการต่อสู้ในลานประลองยุทธ์ได้ เช่นที่ลานล่าปีศาจ ตำหนักเวท และที่ศาลารับพลัง บางแห่งถึงขนาดอนุญาตให้ประลองกันจนถึงชีวิต ! ซูเฉิน เจ้าภาวนาไว้เถอะว่าอย่าให้ตนเองไปเจอข้าในสถานที่เหล่านั้น”
“ข้าจะจำไว้” ซูเฉินพยักหน้าเข้าใจ สีหน้าเคร่งขรึม “หากวันนั้นมาถึง ข้าจะไม่เผยความเมตตา”
นัยน์ตาพานเฮ่ามีแววสังหารวาบผ่าน “เจ้าก็พูดดีไป ข้ารู้ว่ามาเจ้าได้อันดับที่ 5 ในการสอบของมณฑลสามเทือกเขา แต่ตอนนั้นเจ้าเพียงประลองกับผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดธรรมดาเท่านั้น แม้จะมากไปด้วยเล่ห์กล แต่ในด้านความแข็งแกร่งเจ้าก็ยังด้อยกว่าข้า ศิษย์มากมายที่นี่แข็งแกร่งกว่าเจ้าหลายเท่า กระทั่งผู้ที่มากฝีมืออย่างจีหานเยี่ยนยังสามารถถูกสยบลงได้ !”
“งั้นหรือ ?” น้ำเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลัง ห่างออกไปไม่ไกลนัก จีหานเยี่ยนในชุดสีน้ำเงินกำลังยืนอยู่
“จีหานเยี่ยน ?” พานเฮ่าชะงักไป “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?”
จีหานเยี่ยนเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เมื่อครู่เจ้าว่าข้าถูกสยบงั้นหรือ? ข้าชักอยากเห็นเสียแล้วว่าในฐานะศิษย์พี่ชั้นปีที่สามแล้ว เจ้าจะสามารถสยบข้าได้อย่างไร”
นางพูดจบก็ยกมือขึ้น ส่งหมัดหนึ่งออกไป
ตูม !
นางโจมตีพานเฮ่าด้วยหมัดหิมะขาวสกุณาเหมันต์
พานเฮ่าไม่ทันตั้งตัว เขาไม่คิดว่าในรั้วสถาบันเช่นนี้ นางจะกล้ากำแหงเปิดการต่อสู้โดยฉับพลันเช่นนี้ ดังนั้นจึงส่งหนึ่งฝ่ามือออกไปโดยสัญชาตญาณ หมายต้านคลื่นพลังเยือกแข็งที่เร่งรุดเข้ามา
หากแต่หมัดหิมะขาวสกุณาเหมันต์ของจีหานเยี่ยนนั้นทรงพลังยิ่งนัก แม้พานเฮ่าจะส่งสามฝ่ามือออกมาติดต่อกันก็ไม่อาจต้านการโจมตีของนางได้เลย
หมัดนั้นกำลังจะกระแทกร่างพานเฮ่าราวกับค้อนน้ำแข็งยักษ์ เขาส่งเสียงร้องแปลก ๆ ออกมา จากนั้นกระโดดถอยหลังไปด้วยความเร็ว แผ่นน้ำแข็งแผ่ไปทั่วทิศทางหลาย ศูนย์กลางของน้ำแข็งเหล่านั้นคือจุดที่พานเฮ่ายืนอยู่เมื่อครู่
การโจมตีครั้งแรกล้มเหลว แต่นางไม่สนใจ จีหานเยี่ยนซัดท่านิ้วออกไป ใช้ดัชนีสลายวิญญาณ !
ในใจพานเฮ่ามีความรู้สึกหวาดกลัวบังเกิดขึ้น เขาเรียกพลังต้นกำเนิดในร่างออกมายามหยิบดาบ จากนั้นชี้ดาบออกไปแล้วตะโกนเสียงสูง “จีหานเยี่ยน อย่าอวดดีนัก ! คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ ??”
ท่าดัชนีและดาบปะทะกัน แผ่คลื่นเยือกเย็นออกมาในอากาศ
ยามที่ไอเย็นแผ่กระจายออกมานั่นเอง คลื่นพลังไร้รูปร่างก็ปรากฏขึ้น คลื่นพลังเยือกแข็งและดาบราวกับปะทะเข้ากับกำแพงล่องหน ส่งผลให้การโจมตีของทั้งสองหยุดชะงักลง ทำให้ทั้งสองถอยออกไปคนละหลายก้าว
พานเฮ่าและจีหานเยี่ยนแยกจากกันไปคนละทิศ ร่างของพวกเขาค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้น การปะทะเมื่อครู่ไม่อาจตัดสินได้ว่าฝ่ายใดได้เปรียบ
จีหานเยี่ยนเป็นศิษย์ที่เพิ่งเข้าสถาบันแต่กลับสามารถต้านทานศิษย์ชั้นปีสามที่มีอันดับในการจัดอันดับมังกรผันเปลี่ยนสูงเช่นนี้ได้ ความแข็งแกร่งของนางได้แสดงออกมาด้วยการแลกกระบวนท่าเมื่อครู่นี้แล้ว
“เจ้า……!” พานเฮ่าเหลือบมองจีหานเยี่ยน ทั้งตกตะลึงและเดือดดาล
จีหานเยี่ยนเอ่ยเสียงไร้อารมณ์ “ดูท่าเจ้าจะไม่มีความสามารถสยบข้าได้”
ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น “พอได้แล้ว สถาบันมังกรซ่อนเร้นไม่อนุญาตให้ทำการต่อสู้ด้วยเรื่องส่วนตน เจ้าเป็นศิษย์ใหม่ ดังนั้นครั้งนี้จึงทำเพียงตักเตือนเท่านั้น อย่าทำผิดอีก พานเฮ่า เจ้าเป็นศิษย์ชั้นปีสูง เหตุใดจึงมาอยู่ที่หอเมฆสงบได้ ? ทั้งยังกล้าโจมตีศิษย์ใหม่ น่าขายหน้านัก ! ถูกหักคะแนนอุทิศ 10 คะแนน ออกไปจากที่นี่เสีย”
พานเฮ่าตกตะลึงไป “เช่นนี้ไม่ยุติธรรม ทั้งสองฝ่ายต่างต่อสู้กันทั้งคู่ ! เหตุใดมีเพียงข้าที่ถูกลงโทษ ?”
“น่าขันสิ้นดี ! ข้าทำอันใดต้องอธิบายตนให้เจ้าฟังด้วยหรือ ? ยังไม่พอใจใช่หรือไม่ ? เช่นนั้นหัก 20 คะแนนอุทิศ ทีนี้ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว !”
ลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาส่งร่างพานเฮ่าลอยออกไป ราวกับว่ามันมีร่างคน
ซูเฉินเห็นภาพฉากนั้นแล้วสับสนมึนงงยิ่งนัก เกิดอะไรขึ้นกัน ?
เช่นนี้คือการเลือกที่รักมักที่ชัง !
จุดสำคัญคือพวกเขาเป็นนักเรียนใหม่ เหตุใดผู้ควบคุมจึงช่วยเหลือพวกเขาเล่า ?
ราวกับสัมผัสได้ถึงความประหลาดใจของซูเฉิน จีหานเยี่ยนเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ขอบคุณท่านอาจารย์”
“แค่ก ๆ” เสียงกระแอมนั้นดังขึ้นฉับพลันราวกับผู้ฟังไม่ทันได้ตั้งตัว “นังหนูนี่ อย่าเอ็ดไป ! หากเรื่องหลุดออกไปคงไม่ดีแน่ !”
จีหานเยี่ยนไม่สนใจ “ข้าอยากให้หลุดออกไปด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นข้าจะสามารถอาละวาดในที่แห่งนี้ได้อย่างไร ?”
ซูเฉิน “…”
ท่านอาจารย์ “……”