ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 11 ก้อนโลหะ
บทที่ 11 ก้อนโลหะ
ครั้งนี้อารามนิรันดร์เตรียมตัวมาดี
อีกทั้งคำขอยังไม่มากเกินไป เป็นไปอย่างที่อีกฝ่ายว่า ยาสะบั้นสายเลือดและยาวิญญาณโกลาหล ทั้งสองอย่างไม่อาจนำมาใช้โจมตีขนาดใหญ่ได้ แม้จะทรงพลัง แต่ก็เป็นเพียงอาวุธธรรมดา ซูเฉินไม่อาจหาเหตุผลมาปฏิเสธได้
อีกทั้งอีกฝ่ายยังเชื้อเชิญให้เขาเข้าร่วมแผนการเสียด้วย
ประโยชน์สำคัญที่ทำเช่นนี้คือหนึ่ง ทำให้ความระวังภัยของซูเฉินลง ได้ยามาง่ายดายมากขึ้น สองคือได้เขามาช่วยย่อมได้กำลังเสริมอย่างดีมา เขาจบมาจากสถาบันมังกรซ่อนเร้น ไม่มีทางเป็นคนอ่อนแอ สาม เป็นข้อที่สำคัญที่สุด อีกฝ่ายสามารถสานสัมพันธ์กับซูเฉินใหม่ได้ ประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้น กระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นกว่าเดิม
ไม่แน่ว่าต่อไปอาจได้ร่วมมือกันอีกก็เป็นได้
เพราะเมื่อไรที่ได้เริ่มแล้วก็คงยากที่จะตัดขาด
หากมองเช่นนี้ นั่นคืออารามนิรันดร์คิดดึงซูเฉินมาเข้าพวก
หรือก็คืออารามนิรันดร์ทำภารกิจนี้ครั้งเดียวได้ประโยชน์มากมาย
ทำเช่นนี้ไม่ทำให้ซูเฉินลำบากใจ ทั้งยังได้ผลดีกว่าวิธีขู่ของหม่าเหรินเจ๋อ
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว กระทั่งซูเฉินยังไม่อาจหาเหตุผลมาปฏิเสธ
แต่แน่นอนว่าอย่างไรยาเหล่านี้ก็เป็นยาระดับตำนาน ความสามารถของชายหนุ่มตอนนี้มีไม่มากพอ ต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีกสักหน่อย
เยี่ยเม่ยได้ตอบตกลงแทนอารามนิรันดร์ไปแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ให้เวลาซูเฉิน 3 ปีในการเตรียมตัว ในเวลาเดียวกันนั้นก็ยังต้องให้ปรุงโอสถปลุกวิญญาณส่งให้ แต่จำนวนเหลือเพียงปีละ 100 ขวด
หลังจากคุยกันสักพัก เยี่ยเม่ยก็จากไป
ซูเฉินเดินไปส่งนาง จากนั้นกลับเข้ามาด้านในคฤหาสน์แล้วเดินเอื่อย ๆ อย่างไรจุดหมาย
คฤหาสน์เก่าตระกูลหลี่นั้นก่อสร้างมาดี สวนบุปผางามตานัก ทำให้ชายหนุ่มเดินเอื่อยอยู่ในสวน ดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบ
ทว่าหากจะมีข้อเสีย ก็คงเป็นเรื่องที่หลังจากเกิดเรื่อง ‘ปีศาจส่งเด็ก’ ก็ไม่มีสตรีใดกล้าเหยียบเข้ามาที่นี่อีก ดังนั้นจึงมีแต่บุรุษที่อาศัยอยู่ที่นี่
ซูเฉินเดินผ่านสวนดอกไม้ไปยังสวนด้านหลัง
ที่สวนด้านหลังมีบ่อน้ำอยู่ เป็นบ่อน้ำที่สตรีผู้ตั้งครรภ์ขึ้นอย่างลึกลับคนแรกตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ด้วยเพราะเคยมีคนตาย ดังนั้นจึงกลายเป็นบ่อน้ำร้าง ปากบ่อถูกกั้นไว้ด้วยรั้วเหล็ก
ซูเฉินยืนชะโงกหน้ามองลงไปในน้ำ สัมผัสได้ถึงลมเย็น ๆ ที่พัดละเลียดผ่านใบหน้า ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างรั่วไหลออกมาจากในบ่อ
ในทวีปต้นกำเนิด ด้วยการมีอยู่ของพลังต้นกำเนิด เรื่องเหนือธรรมชาติต่าง ๆ จึงกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง กระทั่งลมปีศาจก็อาจเป็นลมจากปีศาจของจริงได้
ดังนั้นเมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสลมเย็นยะเยือกที่พัดผ่านเข้ามา ซูเฉินจึงเปิดใช้เนตรมองพลังต้นกำเนิด สำรวจดูบ่อน้ำให้ถี่ถ้วน
น่าแปลกที่เมื่อเปิดใช้ดวงตาแล้ว ก็เห็นว่าในบ่อมีอนุภาคแสงอยู่หนาแน่น ลอยเต็มไปทั่ว
“นี่มัน……” ซูเฉินตกตะลึง
เขาเข้าไปใกล้มากขึ้น พบว่ามันไม่ใช้สสารต้นกำเนิด
จุดแสงเหล่านี้ใหญ่กว่าอนุภาคสสารต้นกำเนิด แต่ก็ยังไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พวกมันล่องลอยอยู่ในอากาศ สามารถหายใจเอาเข้าไปได้ทุกขณะ
เห็นดังนั้นชายหนุ่มก็พลันกลั้นหายใจเพื่อไม่ให้สูดจุดแสงเหล่านั้นเข้าไปในร่าง
หลังครุ่นคิดชั่วครู่ เขาก็คว้าโจรคนหนึ่งที่กลายเป็นข้ารับใช้ไปแล้วโยนลงไปในบ่อ
จุดแสงเหล่านั้นไหลเข้าร่างเขาไปทันทีที่สูดลมหายใจเข้า
ซูเฉินจึงกระชากเสื้อโจรคนนั้นออกแล้วเพ่งมองให้ดี โจรคนนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จ้องมองซูเฉินด้วยความขลาดกลัว สองมือปิดบั้นท้ายตนเองไว้แน่น
ซูเฉินไม่ใส่ใจสายตาอีกฝ่าย ยังคงจับจ้องมองดูความเปลี่ยนแปลงในร่างกายอีกฝ่ายต่อไป
เนตรมองพลังต้นกำเนิดของเขาไม่อาจมองผ่านสิ่งของได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายหายใจเอาจุดแสงเหล่านั้นเข้าไปมากขึ้น จะมีบางจุดที่ส่องแสงขึ้นมา ทำให้ซูเฉินสามารถมองวิเคราะห์ได้
เขาถึงกับประหลาดใจเมื่อพบว่าจุดแสงเหล่านั้นไม่ได้ถูกดูดซับเข้าไปในร่างจริง ๆ มันไหลเวียนเดินทางไปทั่วร่างโจรคนนั้น ก่อนจะออกมากับลมหายใจออกในภายหลัง
ดูไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย
หากแต่ซูเฉินกลับไม่คิดเช่นนั้น
“ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ปั…… หรือแค่เฉพาะกับบุรุษกัน ? ดูท่าคงต้องหาสตรีสักคนมาทดลอง” ซูเฉินพึมพำกับตนเอง
แต่จะหาเป้าหมายที่เป็นสตรีคงเป็นปัญหาหนัก ซูเฉินมีเพียงโจรโขยงหนึ่งกลับมาด้วย ไม่มีสักคนที่เป็นสตรี กฎ 2 ข้อที่เขาใช้เลือกตัวทดลองมนุษย์คือ ไม่ล่วงเกินคนที่ไม่เคยล่วงเกินเขา และ คนที่ล่วงเกินเขาต้องเป็นคนที่กระทำความชั่วมาพอสมควร
หมายความว่าเขาต้องหาสตรีที่ล่วงเกินเขามาสักคนก่อนจึงจะทำการทดลองได้
“เรื่องนี้…… เป็นปัญหาแน่” ซูเฉินงงึมงำ
แต่แน่นอนว่านอกจากทำการทดลองแล้ว เขายังทำได้อีกอย่างหนึ่ง
นั่นคือการลงไปดูในบ่อน้ำนั่น
ในเมื่อจุดแสงลอยอยู่แถวบ่อน้ำ หมายความว่าต้องมีบางอย่างในบ่อน้ำที่สร้างพวกมันออกมาเป็นแน่
หากเป็นเช่นนั้นจริง ลงไปดูก็อาจค้นพบบางอย่าง อย่างน้อย ๆ จุดแสงเหล่านี้ก็ไม่เป็นอันตรายกับบุรุษอยู่แล้ว
แต่ซูเฉินไม่ได้ลงไปเอง
มาถึงขั้นนี้แล้ว ชายหนุ่มย่อมรู้ดีว่าจำเป็นต้องลงมืออย่างระมัดระวังไว้ก่อน
เขาเอ่ยขึ้นกับโจรผู้นั้น “เจ้า ลงไปดูในบ่อน้ำนั่นเสีย”
แม้พวกโจรจะหยาบช้า แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ดีว่าที่นี่ผิดปกติ เอ่ยตอบด้วยความกลัว “นายท่าน ข้าลงไปไม่ได้ !”
“ไม่ต้องห่วง ข้าปกป้องเจ้าเอง หากพบอะไรขึ้นมาบอกข้า ข้าจะตกรางวัลให้” ซูเฉินเอ่ย จากนั้นหนวดอากาศก็รัดร่างเจ้าโจรคนนั้นไว้แล้วโยนเขาลงบ่อไป
น้ำเย็นยะเยือกในบ่อกลืนเสียงร้องลั่นของโจรคนนั้นไปทันที ร่างเขาจมลงก้นบ่อ ซูเฉินไม่กลัวว่าเจ้าโจรจะจมน้ำตาย หนวดอากาศไม่ได้เป็นเพียงเชือก แต่ยังช่วยทำให้สามารถหายใจได้ด้วย เขาแยกหนวดอากาศสายเล็กออกมาจากร่างใหญ่แล้วสั่งให้มันเลื้อยเข้าไปในปากโจรคนนั้นเพื่อช่วยให้หายใจได้ ดังนั้นเจ้าโจรจะได้ดำอยู่ใต้น้ำได้นานขึ้น
ครู่หนึ่งผ่านไป ซูเฉินก็ดึงตัวเขาขึ้นมา “พบอะไรหรือไม่ ?”
อีกฝ่ายส่ายหัว “ข้างล่างมืดสนิท ข้ามองไม่เห็นอะไรเลย”
“ข้าลืมไป” ซูเฉินหยิบยาขวดหนึ่งขึ้นมา ใช้พลังต้นกำเนิดผนึกฝาเอาไว้ จากนั้นส่งให้เขาแล้วกล่าวว่า “ในนี้มีวิชาแสงเก็บไว้ เจ้าลงไปดูอีกที”
เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอันตรายอะไร โจรผู้นั้นก็ใจกล้าขึ้นมาก รับขวดแสงมาแล้วกลับลงไปใต้น้ำดังเดิม
แต่เมื่อโผล่ขึ้นมาอีกครั้งก็ยังส่ายหน้าอยู่ดี “ไม่มีอะไรเลยขอรับ”
“ไม่มีเลย ?” ซูเฉินจ้องอีกฝ่ายเขม็ง จากนั้นเปิดใช้วิชาจับคำลวงอย่างเงียบเชียบ “ไม่มีอะไรจริงหรือ ?”
“จริงขอรับ ไม่มีอะไรเลย !”
“ผัวะ !” ซูเฉินตบอีกฝ่ายหน้าหัน “ข้าให้โอกาสสุดท้าย บอกความจริงมา ไม่เช่นนั้นข้าจะส่งตัวเจ้าเข้าห้องทดลองเสียเดี๋ยวนี้”
“ข้าพูดแล้ว ! ข้าพูด !” เจ้าโจรตื่นกลัวเป็นยิ่งนัก “ที่โคลนด้านล่างมีก้อนโลหะอยู่ขอรับ”
“ลงไปเอามา”
ซูเฉินโยนอีกฝ่ายกลับลงน้ำไป
เมื่อขึ้นมาอีกครั้ง ในมือก็ถือก้อนโลหะหน้าตาประหลาดอยู่
ก้อนโลหะนี้เป็นสี่เหลี่ยม ขนาดเท่าถ้วยใบหนึ่ง ผิวถูกสลักด้วยลวดลายล้ำลึก เป็นของที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นแน่
ที่กลางก้อนโลหะมีรูเล็ก ๆ อยู่รูหนึ่ง
เขาใช้เนตรมองพลังต้นกำเนิด เห็นได้ชัดเจนว่ามีสสารมีเข้มแผ่ออกมาจากก้อนโลหะ