ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 132 งานประมูลหมู่เมฆ (4)
บทที่ 132 งานประมูลหมู่เมฆ (4)
หลังจากเกราะหนักลึกลับก็เป็นรองเท้าเงาย่ำเมฆ
รองเท้าเงาย่ำเมฆเป็นเครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 5 หรือก็คือมีแต่ผู้เชี่ยวชาญด่านสู่พิสดารที่จะใช้ได้ หากแต่มันก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ผู้ใช้จะมีด่านพลังต่ำกว่าก็ยังใช้ได้เช่นกัน รองเท้าคู่นี้มีค่ายกลฝังอยู่ เมื่อเปิดใช้ค่ายกลจะยิ่งเสริมวิชาลดน้ำหนัก ทำให้เหาะเหินเดินอากาศได้ อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้วิชาไล่ล่าเงาได้วันละครั้ง เป็นวิชาที่สามารถกระโจนใส่เงาอีกฝ่ายได้ นับเป็นวิชาเคลื่อนที่อันทรงพลังวิชาหนึ่ง
แม้ซูเฉินจะมีวิชาหอคอยพิสุทธิ์เคลื่อนกายอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่อาจใช้ติดต่อกันได้ หากมีของเสริมไว้สักหน่อยก็ไม่เสียหาย เขาจะได้กระโจนเข้าใส่แล้วถอยออกมาได้ในทันที ทำให้ปัดป้องการโจมตีของเขาได้ยากมากขึ้น อีกทั้งความสามารถเหาะเหินได้ของตัวรองเท้ายังช่วยเสริมความสามารถในการต่อสู้ แม้จะมีเรือเหาะจักรพรรดิมังกรวารีหลากอสนีบาตเมฆา แต่เรือเหาะนั้นใช้ตอนวางแผนหลบหนีได้เท่านั้น การเคลื่อนกายระหว่างการต่อสู้นั้นใช้รองเท้าคู่นี้ง่ายกว่ามาก
แต่ที่สำคัญที่สุด มันมีราคาถูกเหลือเกิน ซูเฉินใช้หินพลังต้นกำเนิดเพียง 5 ล้านก้อนก็ประมูลมันมาได้แล้ว
สำหรับเขา ใช้เงินเท่านี้ไม่ใช่เรื่องตื่นตาตื่นใจอะไรอีกต่อไป
ตอนนี้เขามีเกราะ มีเครื่องมือประเภทพลังจิตแล้ว แต่ยังขาดอาวุธดี ๆ สักชิ้นอยู่
โชคร้ายที่ของชิ้นต่อไปไม่ใช่อาวุธที่เขาต้องการ เป็นเพียงของธรรมดาอีกชิ้น
มันเหมือนเส้นด้ายสีขาวพันกันยุ่ง ถึงจะดูยุ่งเหยิงไปหมด ทว่าแต่ละเส้นใบก็เรืองแสงสีเงินจาง ๆ ออกมา ทั้งยังดูปรวนแปรอย่างอธิบายได้ยาก ราวกับเส้นใยเหล่านั้นมีชีวิต
“นี่คือปะการังใยสาหร่ายจากแคว้นหินเกลือสมุทร สิ่งมีชีวิตประหลาดที่ใช้ชีวิตด้วยการกินพลังต้นกำเนิด อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่ใช้ทำชุดคลุมเส้นใยปะการัง คงไม่ต้องอธิบายถึงมูลค่าของมันนะขอรับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีการตั้งราคาเริ่มต้น !”
“ปะการังใยสาหร่าย ?” ซูเฉินตกตะลึง “เป็นของชิ้นนี้เองหรือ ? ไม่คิดเลยว่าจะมีของล้ำค่ามาประมูลได้”
ปะการังใยสาหร่ายเป็นสิ่งมีชีวิตพิสดารที่มีอยู่ในแคว้นหินเกลือสมุทรเท่านั้น ปะการังที่นั่นเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีลักษณะเป็นเส้นสายเหมือนเส้นใย ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าปะการังใยสาหร่าย มันกินพลังต้นกำเนิดเป็นอาหาร เติบโตในที่ที่มีพลังต้นกำเนิดอุดมสมบูรณ์ เส้นใยที่มันสร้างขึ้นมาเมื่อมันตายจึงมีความสามารถในการลบล้างพลัง ทำให้ชุดคลุมเส้นใยปะการังที่ทอมาจากมันนับเป็นเครื่องมือต้นกำเนิดที่ใช้ป้องกันชั้นยอดได้
ปะการังใยสาหร่ายนั้นตัดไม่ได้ ทั้งจะรักษาความสามารถนั้นไว้ ทำให้ทำได้เพียงนำมันมาถักทอเข้าด้วยกัน อีกทั้งเมื่อใช้แล้วครั้งหนึ่งมันจะผูกพันกับผู้ใช้ราวกับจดจำนายตนได้ กลายเป็นของเจ้านายมันเพียงผู้เดียว คนอื่นไม่อาจใช้ได้อีก ดังนั้นปะการังใยสาหร่ายจึงถูกขายเป็นวัตถุดิบสร้างมากกว่าที่จะเป็นสินค้าที่ทำออกมาสำเร็จแล้ว
มันไม่เหมือนเครื่องมือต้นกำเนิดประเภทป้องกันชิ้นอื่น ๆ พลังป้องกันของชุดคลุมเส้นใยปะการังนั้นค่อนข้างต่ำ แต่มันสามารถลดพลังโจมตีของวิชาส่วนมากได้ราวหนึ่งถึงสามส่วนจากสิบส่วน อีกทั้งยังทำให้วิชาโจมตีจิตไม่อาจส่งผลใดได้
หรือก็คือไม่ว่าจะมีพื้นฐานพลังสูงส่งเพียงไหน ต่อให้แข็งแกร่งเพียงมด แต่แรงโจมตีก็จะลดลงเมื่อซัดพลังใส่ผู้ใช้ชุดคลุมเส้นใยปะการัง อีกทั้งชุดคลุมเส้นใยปะการังนั้นคล้ายกับเครื่องมือต้นกำเนิดประเภทพลังจิต ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ใช้เอง หมายความว่ามันไม่ได้ฝังค่ายกลไว้ ดังนั้นจึงไม่อาจใช้พลังต้นกำเนิดทำลายผลของมันได้ พูดโดยง่ายคือสามารถสวมอุปกรณ์เสริมเกราะป้องกันอีกชิ้นไว้ได้ เพิ่มพลังป้องกันเป็นทวีคูณ
การเสริมเกราะทบเท่าทวีคูณเช่นนี้ทำให้ไม่ว่าใครก็อยากได้ปะการังใยสาหร่ายมาครอบครอง ไม่ว่าจะมีพลังมากน้อยแค่ไหนก็นับเป็นของมีประโยชน์
หากซูเฉินใช้ปะการังใยสาหร่ายคู่กับเกราะหนักลึกลับ ร่วมกับใช้วิชาเกราะรบเหล็กกล้าและวิชากายาเวหาเวียน เขาจะมีพลังป้องกันที่สามารถรับการโจมตีเต็มกำลังจากคนด่านสู่พิสดารได้หลายกระบวนท่าเลยทีเดียว
เมื่อทุกคนเห็นของชิ้นนี้ปรากฏขึ้นก็รู้สึกว่าเลือดในกายเดือดพล่านทันที
ของอย่างปะการังใยสาหร่ายนับเป็นของที่ดึงดูดความสนใจทุกคนได้จริง ๆ
พริบตาต่อมา เสียงร้องเสนอราคาก็ดังขึ้นไม่หยุด
“2 ล้าน !”
“3 ล้าน !”
“5 ล้าน !”
“6 ล้าน !”
“8 ล้าน !”
“10 ล้าน !”
ราคามันพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็แตะหลัก 10 ล้านแล้ว
ถึงกระนั้นนี่ก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ผู้คนยังให้ราคามันสูงขึ้นไปอีก จนราคาพุ่งขึ้นมาเป็น 20 ล้าน และยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ปะการังใยสาหร่ายใช้เวลาเติบโตนานมาก ปะการังใยสาหร่ายจำนวนมากใช้เวลาอย่างน้อยหมื่นปีกว่าจะเติบโตจนสมบูรณ์ นับเป็นสมบัติล้ำค่าหมื่นปี และเพราะมีความต้องการมันสูงมาก ปะการังใยสาหร่ายจึงหายากมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้หาแทบไม่มีแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดอยากปล่อยโอกาสให้หลุดมือ
ศาลาหมู่เมฆกล้าขายมันทั้งที่ไม่ได้ตั้งราคา เป็นเพราะมั่นใจว่าอย่างไรก็ต้องมีคนอยากได้มันเป็นแน่
“50 ล้าน !” ซูเฉินเสนอราคาแรกออกไป เพิ่มราคาพุ่งไปที่ 50 ล้าน
หากแต่ราคานี้ยังไม่อาจทำให้ผู้ประมูลคนอื่น ๆ หวาดกลัว ไม่นานก็มีคนร้องราคา 80 ล้านขึ้นมา
บัดซบเอ๊ย ทำไมมันมีคนรวยอยู่มากนักนะ ! กู่จิ่นถังถอนหายใจอยู่ภายใน เขามาจากตระกูลสายเลือดชั้นสูง แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไร้เงินตราเช่นนี้
เมื่อราคาแตะถึง 80 ล้านแล้ว ก็มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าเสนอราคาต่อ
นอกจากซูเฉินแล้วก็ยังมีแขกในห้องที่ 14 และ 18 ที่ยังสู้เสนอราคาอยู่
แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์เช่นเมื่อครั้งฉือเทียนโฉวขึ้นอีก ทุกคนค่อย ๆ ขึ้นราคาไปเรื่อย ๆ อย่างอดทน สู้ราคาทั้งยังโอ้อวดความร่ำรวยไปพร้อมกัน
สุดท้ายซูเฉินที่ใช้เงินเหมือนสาดน้ำทิ้งก็ได้มันมาในราคาหินพลังต้นกำเนิด 110 ล้านก้อน
ปะการังใยสาหร่ายหน้าตาคล้ายก้อนเส้นใยถูกส่งมาให้ซูเฉิน คนอื่น ๆ ก็ได้แต่มองสมบัติล้ำค่าด้วยสายตาละห้อย
หินพลังต้นกำเนิด 110 ล้านก้อนเชียวนะ !
แต่กลับเอามาใช้แลกกับก้อนด้ายเช่นนี้ ไม่แปลกที่ในใจพวกเขาจะรู้สึกประหลาดขึ้นมา
หากแต่ความรู้สึกหดหู่ในใจพลันค่อย ๆ จางหายไปในไม่ช้า
“บัดซบ ไอ้คนจากห้อง 16 อีกแล้ว มันคิดจะประมูลของไปหมดเลยหรือไร ? กวาดไปได้เป็นสิบชิ้นแล้วไม่ใช่หรือ ?”
“บ้าเอ๊ย! ไอ้หนูนี่มันมาจากไหนกัน ? ใช้เงินมือเติบราวกับเงินเป็นของไร้ค่าได้เช่นนี้”
คนทั้งหลายพูดคุยกันอย่างออกรส แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้
กระทั่งฉือเทียนโฉวยังนั่งอึ้งไป
หากเขายังมีความคิดแก้แค้นหลงเหลืออยู่ ตอนนี้ก็ได้แต่วางมันลงตลอดกาลแล้ว
ไม่ว่าอย่างไร คนที่ใช้จ่ายเงินมากถึง 110 ล้านได้เช่นนั้นต้องเป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกินได้เป็นแน่
ซูเฉินค่อย ๆ เก็บปะการังใยสาหร่ายแต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังขึ้น
แขกที่เข้าร่วมประมูลได้ส่งคำเชิญและคำทักทายมา หมายจะขอเข้าพบหน้าคนที่ใช้เงินกว่าร้อยล้านซื้อปะการังใยสาหร่ายมาได้
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร ชายหนุ่มก็ปฏิเสธทุกคำเชิญไปด้วยความสุภาพ เพราะอย่างไรในเมื่อตัวเขาก็ไม่ได้มาจากตระกูลสูง ต่อไปต้องเป็นศัตรูกับตระกูลสายเลือดชั้นสูงทั้งหลายอีก ดังนั้นตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องแกว่งเท้าหาเสี้ยน
การปรากฏตัวขึ้นของปะการังใยสาหร่ายทำให้งานประมูลถึงจุดน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดขึ้นมาทันที ของลำดับต่อ ๆ มาที่ออกประมูลล้วนเป็นของดีทั้งหมด
หากเป็นของดี ซูเฉินก็จะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปได้
แน่นอนว่าที่นี่มีคนรวยอยู่มาก แต่คนที่กล้าซื้อของราคาเป็นร้อยล้านเช่นเขาก็หาไม่ง่ายเช่นกัน
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของซูเฉิน
—————————————