ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 95 บีบบังคับ (2)
บทที่ 95 บีบบังคับ (2)
“ปล่อยข้านะ ไอ้บ้า ไอ้สารเลว !” กู่ชิงลั่วทุบหลังของซูเฉิน
กู่ชิงลั่วคือผู้ครอบครองสายเลือดเทพอสูรบรรพกาลและตอนนี้มันก็ได้ตื่นขึ้นแล้ว นางจึงแข็งแรงมาก แม้กระทั่งซูเฉินก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง แต่เมื่อถูกเขากอด กู่ชิงลั่วกลับรู้สึกราวกับว่าร่างกายของนางอ่อนแอ ไร้ซึ่งแรงต่อต้าน
ซูเฉินอุ้มนางเดินตรงเข้าไปในป่าบนภูเขา และตั้งกองหินเสียบฟางไว้เพื่อใช้แทนธูป หลังจากจุดไฟแล้ว เขาก็พูดกับสวรรค์ว่า “สวรรค์เป็นพยาน นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้า ซูเฉินและกู่ชิงลั่ว จะกลายเป็นสามีภรรยากัน ความรักที่ข้ามีต่อนางจะไม่มีวันเปลี่ยนไป … ”
เดิมทีเขาวางแผนที่จะพูดอะไรอย่าง “จนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน” หรือ “เราจะแก่เฒ่าไปด้วยกัน” แต่เมื่อนึกได้ว่ากู่ชิงลั่วกำลังจะจากเขาไป ถึงแม้ทูตมังกรจะให้เวลาพวกเขาเพิ่มอีกสักวัน เขาก็ไม่สามารถพูดมันออกมาได้ ดังนั้นหลังคิดอยู่ครู่หนึ่งซูเฉินก็พูดต่อไปว่า “คำนับฟ้าดิน”
เขาจับให้กู่ชิงลั่วก้มคำนับด้วยกัน
นางบิดหันศีรษะออกไปจากมือเขา “ไปให้พ้น ! ข้าไม่อยากแต่งงานกับเจ้า !”
ซูเฉินยังคงจับนางเอาไว้ “ชิงลั่ว ข้ายอมรับว่าข้าผิด แต่เจ้ายินดีที่จะทิ้งข้าไป และไม่มาเจอข้าอีกเลยจริง ๆ หรือ ?”
กู่ชิงลั่วอยากจะพูดออกไปว่านางยินดีที่จะทำเช่นนั้น แต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังอ้าปากจะกล่าว ซูเฉินก็เดินเข้าไปจูบนางทันที กู่ชิงลั่วรู้สึกเหมือนโลกพลิกหมุนไปทันใด
จูบของซูเฉินนั้นไม่ได้อ่อนโยนและค่อนข้างรุนแรง กู่ชิงลั่วไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง ความดื้อรั้นทั้งหมดนั้นเกิดจากความโกรธเรื่องของจูเซียนเหยา นางไม่ได้แกร่งไปกว่าซูเฉิน นางรู้สึกชาไปทั้งตัวและไม่มีแรงจะต่อต้านเลย
ซูเฉินนำนางคำนับฟ้าดินด้วยกัน
เนื่องจากพ่อแม่ของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ซูเฉินจึงไม่พูดถึง “คำนับพ่อแม่” แต่เขากลับจับกู่ชิงลั่วโค้งไปทางถังหลี่เฟิงพร้อมกันแทน
ถังหลี่เฟิงมาที่นี่เพื่อคุ้มกันใครบางคน แต่กลับถูกลากให้มาเป็นพยานอย่างไร้เหตุไร้ผล และยังได้รับหน้าที่แทนพ่อแม่ของทั้งสองอีก เรื่องนี้ทำเอาเขาก็พูดไม่ออกไปครู่ใหญ่
หลังจากที่คำนับครั้งที่ 2 ก็มาถึงการคำนับครั้งที่ 3
กู่ชิงลั่วฟื้นสติและตะโกนเริ่มอีกครั้ง “ข้าไม่ต้องการแต่งงานกับเจ้า !”
หญิงสาวฟาดกรงเล็บไปทางซูเฉิน
คราวนี้เป็นการโจมตีจริง ๆ
ซูเฉินเอี้ยวตัวไปด้านข้างเพื่อหลบมัน พริบตาต่อมาฝ่ามือของกู่ชิงลั่วก็พุ่งเข้าหาเขา เพราะทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก เขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทันกาล และถูกฝ่ามือกระแทกเข้าจัง ๆ จนกระอักเลือดออกมา ก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้น
กู่ชิงลั่วรู้สึกตกใจกลัวอย่างมาก นางรู้ว่าการโจมตีของตัวเองนั้นทรงพลังมากเพียงใด แม้จะไม่ใช่การจู่โจมอย่างเต็มแรง แต่มันก็ไม่ใช่การโจมตีที่จะต้านทานได้ง่าย ๆ นางโจมตีออกไปด้วยความโกรธ และซูเฉินก็รับการโจมตีนั้นเข้าไปเต็มแรง แค่เขาไม่ตายก็คงจะโชคดีมากแล้ว
เมื่ออีกฝ่ายยังแข็งแรงสบายดี นางรู้สึกทั้งโกรธทั้งเกลียดเมื่อมองหน้าเขา ทว่าทันทีที่เห็นอีกฝ่ายบาดเจ็บเช่นนี้ ใจของนางก็เริ่มปวดร้าว นางกอดซูเฉินและกล่าวถามอย่างเร่งรีบ “ซูเฉิน ซูเฉิน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม ?”
ซูเฉินจับมือกู่ชิงลั่วและพูดต่อด้วยความยากลำบาก “สามีภรรยา … คำนับแก่กัน”
เมื่อกู่ชิงลั่วเห็นว่าซูเฉินยังคงตั้งใจที่จะคำนับตามขั้นตอนการแต่งงานต่อไป นางรู้สึกโกรธมากจนอยากจะทั้งหัวเราะ ร้องไห้ และตะโกนใส่เขาในเวลาเดียวกัน
แต่ซูเฉินยังคงจับนางไว้แน่น ดูเหมือนไม่มีอะไรที่นางจะสามารถทำได้อีกแล้วนอกจากแต่งงานกับเขา กู่ชิงลั่วปล่อยให้อีกฝ่ายกดหัวของตนลง และคำนับให้แก่กัน
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานด้วยความยากลำบาก ร่างกายของซูเฉินก็เริ่มผ่อนคลายลง
กู่ชิงลั่วกอดเขาแน่น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา
ซูเฉินยังคงยิ้ม “ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว เห็นไหม แม้แต่สวรรค์เองก็ไม่สามารถหยุดเราได้ ชะตากรรมเองก็ไม่สามารถเช่นกัน”
กู่ชิงลั่วบังคับให้ตัวเองหันหน้าเมินเขา ดูเหมือนว่านางจะยังไม่พอใจอยู่บ้าง
ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว เรายังขาดห้องหอ ได้ แต่งงานแต่ไม่ได้เข้าห้องหอจะถือเป็นแต่งงานได้อย่างไร ?”
กู่ชิงลั่วรู้สึกขัดเขินอย่างยิ่ง นางผลักเขาอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “เจ้ากำลังพูดถึงอะไรกัน ?”
ซูเฉินหันไปยิ้มให้ถังหลี่เฟิง
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ทูตมังกรถังก็เข้าใจความหมายโดยนัยของอีกฝ่ายดีจึงหัวเราะเบา ๆ กลับไป “เจ้า 2 คน จัดการธุระของพวกเจ้าให้เรียบร้อยเสีย ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าอีกสักคืน แล้วพรุ่งนี้ข้าจะกลับมาอีกที”
เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังกลับและจากไป
ทันทีที่ทูตมังกรจากไป ซูเฉินเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กู่ชิงลั่ว “ตอนนี้ที่นี่ก็เหลือเพียงเรา 2 คนแล้ว”
ขณะที่พูดเขาก็อุ้มนางขึ้นและเดินไปยังถ้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก
กู่ชิงลั่วหน้าแดงอย่างหนัก และดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเขา “นี่ หยุดเลยนะ !”
แต่มีหรือที่ลูกแกะตัวน้อยจะต้านทานหมาป่าตัวใหญ่ได้ ? ซูเฉินอุ้มกู่ชิงลั่วไปที่ถ้ำ วางนางลง จากนั้นเริ่มถอดเสื้อผ้าของนาง
หญิงสาวกำลังจะโจมตีอีกครั้งด้วยความเขินอายปนโกรธ แต่เห็นอีกฝ่ายกำลังไอเป็นเลือดเบา ๆ ออกมาเสียก่อน
“ซูเฉิน เจ้า… ” นางลนลานขึ้นมาในทันใด “เจ้าบาดเจ็บหนักอยู่ รักษาตัวเจ้าก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องด่วนขนาดนั้น”
“ไม่ต้องห่วง ครึ่งล่างของข้าไม่ได้รับบาดเจ็บ” ซูเฉินตอบ
คำพูดตอบกลับของเขาทำให้กู่ชิงลั่วรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเพราะความอาย นางอยากจะขุดรูกลบฝังตัวเองลงไปเสียเหลือเกิน แต่ในขณะที่นางกำลังเหม่อ ซูเฉินก็ดึงเสื้อคลุมตัวนอกออก เผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนกับเนินอกอันงดงามของหญิงสาว
กู่ชิงลั่วกรีดร้องออกมาราวกับเด็กผู้หญิงที่กำลังจะถูกข่มขืน “ไม่นะ !”
ทว่าเสียงร้องห้ามของนางกลับเป็นการปลุกเร้าสัญชาตญาณสัตว์ร้ายภายในของซูเฉินขึ้นมายิ่งกว่าเดิม
เขารีบถอดเสื้อผ้าออก ขณะที่เขากำลังจะถอดชุดชั้นใน ดวงตาของกู่ชิงลั่วก็สว่างขึ้น “ชุดคลุมเส้นใยปะการัง ?”
หัวใจของซูเฉินเต้นแรง พลางสาปแช่งความสะเพร่าของตน
สีหน้าของกู่ชิงลั่วมืดลง “อาการบาดเจ็บของเจ้าไม่รุนแรงขนาดนั้นใช่ไหม ?”
เมื่อตอนโจมตีนางได้รั้งมือเอาไว้ รวมกับการป้องกันของชุดคลุมเส้นใยปะการัง มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ซูเฉินจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
ซูเฉินกระแทกฝ่ามือของเขาเข้าที่หน้าอกของตัวเองเต็มแรง จนได้ยินเสียงแตกของกระดูกหักได้อย่างชัดเจน
“เจ้ากำลังทำบ้าอะไร !?” กู่ชิงลั่วกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ตอนนี้สาหัสแล้ว” ซูเฉินตอบ
กู่ชิงลั่วตกตะลึง “เจ้าทำเช่นนี้ทำไมกัน ?”
“ข้ายอมตายเพื่อเจ้า บาดเจ็บอะไร ? ตราบเท่าที่เจ้าต้องการไม่ว่าอะไรข้าก็ยอม” ซูเฉินตอบ
คำพูดเหล่านี้ทำให้กู่ชิงลั่วคล้อยตามอีกครั้ง
ซูเฉินกดนางให้เอนกายลงเบา ๆ และเริ่มถอดเสื้อผ้าของนางโดยไม่สนใจบาดแผลบนหน้าอกของตัวเอง ชายหนุ่มบังเอิญสัมผัสไปโดนแผลโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เขาเกือบหน้ามืดเพราะความเจ็บปวด
แต่เขาก็พยายามทนต่อความเจ็บปวดต่อไปและกลืนเลือดกลับลงคอไป ชายหนุ่มจะสานสัมพันธ์กับกู่ชิงลั่วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะหาคู่แต่งงานที่รีบร้อนจะเข้าหอขนาดนี้เหมือนอย่างเขา
ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะมีผลกับกู่ชิงลั่วอยู่เช่นกัน
นางไม่ต้องการให้ซูเฉินได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขากลับปลุกเร้าความต้องการของนางยิ่งขึ้น กู่ชิงลั่วจึงเริ่มรู้สึกเคลิ้มราวกับอยู่บนก้อนเมฆ
เสื้อผ้าถูกลอกออกทีละชิ้น ๆ การแลกเปลี่ยนรุกเร้าดุเดือดยิ่งขึ้นในทุกครั้งที่เขารุกเข้าหานาง
เมื่อเสื้อผ้าชั้นสุดท้ายถูกถอดออก เรือนร่างที่งดงามก็ได้ถูกเผยออกมาให้ยลโฉมอย่างเต็มตา
การต่อต้านของกู่ชิงลั่วสูญสิ้นไปหมดแล้ว นางได้หลงระเริงไปกับความร้อนแรงที่ซูเฉินมอบให้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าสติที่เหลืออยู่ของนางจะร้องออกมาว่า “ไม่ !” ก็ตาม
ซูเฉินตอบโต้ด้วยการรุกที่ทั้งร้อนแรงและรุนแรง
ความเจ็บปวดเล็กน้อยทำให้หัวใจของกู่ชิงลั่วสั่น นางรู้สึกราวกับอุณหภูมิในร่างกายของตนกำลังทะยานสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ซูเฉินยังคงรุกคืบต่อไป
สายตาของกู่ชิงลั่วเริ่มพร่ามัว นางค่อย ๆ เริ่มสูญเสียความเป็นตัวเองไป
หลงทางไปกับความรู้สึกเช่นนี้
ลืมเรื่องศีลธรรมทั้งหลายไปทั้งแบบนี้
ไม่เป็นไร มันไม่เป็นไร อาจจะดีแล้วที่ทุกอย่างเป็นเช่นนี้
ต่อให้โชคชะตาพยายามจะหยุดมันแค่ไหน ตอนนี้ข้าก็เป็นภรรยาของเขาแล้ว
นางอดทนกับการลงมือของซูเฉิน ในขณะที่ปล่อยความคิดลอยล่องออกไป
หลังพายุได้จากไป ความสงบก็กลับคืน
ซูเฉินหอบหายใจอยู่เหนือร่างของกู่ชิงลั่ว หลังจากออกแรงไปจนหยดสุดท้าย
ดวงตากลมโตของกู่ชิงลั่วจ้องมองเพดานราวกับว่านางตกอยู่ในความสับสน
ซูเฉินจึงถามนางด้วยความสงสัย “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ ?”
กู่ชิงลั่วกัดฟันและถ่มน้ำลายออกมา “ไอ้คนขี้โกง !”