ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 97 ซื้อของไปทั่ว
บทที่ 97 ซื้อของไปทั่ว
เช้าวันต่อมา ซูเฉินก็ออกจากเมืองกลืนธารา
เขาใช้เรือมังกรของเครือข่ายเรือเหาะลำหนึ่งเดินทาง นับว่าเป็นเที่ยวเปิดทำการ น่าสนใจไม่น้อยที่ซูเฉินเป็นทั้งคนสร้างและลูกค้าคนแรกของมัน
การเดินทางมีจุดหมายที่เมืองฉางผาน
ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของแคว้น และเดิมทีซูเฉินก็คิดจะเดินทางไปอยู่แล้ว
เมื่อมาถึงเมืองฉางผาน ชายหนุ่มก็ตรงไปร้านจันทร์ลอยเด่น
ซุยเมี่ยวหลิงออกมาต้อนรับ
แม้จะผ่านไปนานหลายปีแล้ว ซุยเมี่ยวหลิงก็ยังประทับใจความกระเป๋าหนักของคุณชายซูไม่เสื่อมคลาย นางส่งยิ้มทักทายเขา “คุณชายซู ไม่พบกันหลายปี”
ซูเฉินเอ่ยธุระตามตรง “ข้ามาซื้อเรือเคลื่อนเมฆา”
“เรือเคลื่อนเมฆา ?” ซุยเมี่ยวหลิงชะงักไป “แล้วเรือเคลื่อนเมฆาลำก่อน……”
“……ถูกอสูรกายกินไปแล้ว”
ซุยเมี่ยวหลิงหลั่งเลือดในใจ
เรื่อเคลื่อนเมฆาจากจักรพรรดิอสูรกายมูลค่ากว่าพันล้านถูกกินไป ทำไมพูดออกมาได้ไม่สะทกสะท้านตาไม่กะพริบเช่นนี้ ?
ซูเฉินไม่รอให้นางหายตกใจ เอ่ยต่อว่า “ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะซื้อ 2 ลำ”
พรวด !
ซุยเมี่ยวหลิงเกือบล้มลงพื้น
หูฝาดไปหรือไม่ ?
นางเบิกตาจ้องซูเฉิน “ท่านไม่ได้ล้อข้าเล่นหรอกกระมัง ?”
“เปล่าเลย ขอลำที่ดีที่สุด เป็นไปได้ก็ระดับเดียวกับเรือเหาะจักรพรรดิมังกรวารีหลาก และหากมีลำไหนที่ต้องใช้พลังจิตควบคุมก็ยิ่งดี”
ซุยเมี่ยวหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกสงบจิตใจตน “ของล้ำค่าเช่นนั้นสรรหาไม่ได้ มีแต่ต้องพบได้โดยบังเอิญเท่านั้น”
ซูเฉินขัดซุยเมี่ยวหลิง “เช่นนั้นของชั้นยอดธรรมดาก็ได้”
ซุยเมี่ยวหลิงใจสั่นอีกครา
นางรีบนำเรือเคลื่อนเมฆาออกมา มันโค้งราวกับจันทรา ปลายแหลมทั้งหัวและท้าย ทำให้เหมือนเป็นเรือลำน้อยลำหนึ่ง
“นี่คือเรือเหาะจันทราเงิน ร้านจันทร์ลอยเด่นมีชื่อขึ้นมาจากการสร้างลำนี้นี่ล่ะเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้จักเรือเหาะจันทราเงิน มันเป็นสินค้าขึ้นชื่อร้านจันทร์ลอยเด่น ขายดีทุกปี แต่ที่ข้าต้องการไม่ใช่ของที่ทุกคนมี แต่เป็นเรือเหาะที่เป็นสมบัติล้ำค่าในหมู่ของล้ำค่าทั้งหลาย”
ซุยเมี่ยวหลิงหัวเราะ “แน่นอนเจ้าค่ะ ในเมื่อคุณชายซูอยากได้ของชั้นยอด จะเอาของธรรมดามาหลอกคุณชายซู ได้อย่างไรกัน ? ท่านดูให้ดี ๆ แม้เรือเหาะจันทราเงินลำนี้จะเหมือนเรือเหาะจันทราเงินลำอื่น แต่ภายในถูกปรับแต่งใหม่ เปลี่ยนไปใช้ของชั้นดี ค่าป้องกัน 130 หน่วย สามารถเดินทางได้ความเร็ว 35 ก้าวภายในชั่วลมหายใจ ทั้งยังมีค่ายกล ท่านย่อส่วนมันได้เช่นกัน”
แค่ตัวเลขก็ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงแล้ว
เมื่อได้ยินตัวเลขแล้ว ซูเฉินก็รู้ว่าเป็นของดี
“ข้อเสียเล่า ?”
“หากเรื่องข้อเสีย ที่ใหญ่สุดคือไม่มีความสามารถด้านการโจมตี ในเมื่อคุณชายซูอยากได้ 2 ลำ ข้าจึงคิดว่าคุณชายซูสามารถเลือกลำหนึ่งที่เน้นการหลบหนี อีกลำเน้นการโจมตีได้เจ้าค่ะ”
“เท่าไหร่ ?” เขาถาม
“ร้อยล้านเจ้าค่ะ”
“แล้วที่เน้นโจมตี ?”
ซุยเมี่ยวหลิงนำเรือเคลื่อนเมฆาอีกลำขึ้นมา “นี่คือเรือเหาะตะวันกรุ่น ค่าป้องกัน 120 หน่วย เคลื่อนที่ได้ 23 ก้าวภายในชั่วลมหายใจ มีค่ายกลพื้นที่ ปืนใหญ่ตะวันกรุ่น และค่ายกลโจมตีระดับสูง ค่ายกลโจมตีนี้ประกอบไปด้วยค่ายกลเล็ก 12 ค่ายกล สามารถปล่อยวิชาต้นกำเนิดได้ 3 วิชา สุดท้ายตัวลำเรือยังทำให้ผู้ใช้สามารถใช้วิชาต้นกำเนิดจากในเรือได้ผ่านค่ายกลบางตัว ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถโจมตีจากภายในได้เจ้าค่ะ หากแต่วิธีนี้จะใช้ได้เพียงวิชาโจมตีระยะไกล วิชาระยะประชิดใช้ไม่ได้เจ้าค่ะ”
นับเป็นเรือเคลื่อนเมฆาที่สร้างขึ้นเพื่อการต่อสู้โดยแท้ ความเร็วธรรมดา แต่เกราะไม่แย่ ทั้งยังมีวิชาต้นกำเนิดที่ถูกติดตั้งมาแล้ว ผู้ใช้ยังใช้วิชาจากภายในได้อีก นับว่าสะดวกในการต่อสู้มาก
ซูเฉินถาม “เท่าไหร่ ?”
“ร้อยล้านเช่นกันเจ้าค่ะ ในเมื่อคุณชายซูจะซื้อ 2 ลำ ข้าจึงลดให้ได้สิบส่วน เหลือ 180 ล้านเจ้าค่ะ”
ลำหนึ่งใช้หนี ทั้งรวดเร็วและมีเกราะสูงกว่าเรือเหาะจักรพรรดิมังกรวารีหลากเสียอีก อีกลำมีประโยชน์ยามสู้ สามารถเสริมกำลังเขาได้เป็นเท่าตัวยามอยู่กลางอากาศ หากจะใช้ยามอยู่ด่านสู่พิสดารก็คงยังได้
ราคาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ลำละร้อยล้าน
ซูเฉินไม่เสียเวลา หยักหน้าบอก “ก็ได้ ข้าซื้อ”
การซื้อขายมูลค่าหลายร้อยล้านเสร็จสมบูรณ์ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ซุยเมี่ยวหลิงแค่คิดก็มึนไปหมดแล้ว
“ยังมีเรื่องเล็กอีกเรื่องที่อยากให้แม่นางซุยช่วย”
“คุณชายซูบอกมาได้เลยเจ้าค่ะ” ถึงจุดนี้ให้ซุยเมี่ยวหลิงนอนกับเขานางก็ยอมแล้ว แค่เรื่องขอร้องเล็กน้อยน่ะว่ามาเลย
เคราะห์ร้ายที่ซูเฉินไม่ได้ต้องตานาง แต่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ “ช่วยข้ารวบรวมของในนี้ที”
ซุยเมี่ยวหลิงปรายตามองทีหนึ่ง เกือบเป็นลมล้มพับ “แก่นฟ้ากระหึ่มแสนชิ้น ? คุณชายซู ท่านคิดจะทำลายล้างเมืองฉางผานหรือ ? พิษอสรพิษห้วงฝันผวาพันจิน…… หนึ่งพันจิน ? เสียสติแล้วหรือ ? นี่มันพิษหายากมาก ท่านจะซื้อเป็นจินเลย ? แล้วนี่มันอะไร ? ยาลูกกลอนโยธา ? ก็หาได้ แต่ทำไมอยากได้ตั้งล้านเม็ดเล่า ? คุณชายคิดจะทำอะไรกันเจ้าคะ ?”
“ถามเยอะไปแล้ว ข้าแค่ถามว่าช่วยได้หรือไม่เท่านั้น”
ซุยเมี่ยวหลิงเอ่ยจนใจ “ไม่มีใครซื้อทั้งหมดนี่ได้หรอกเจ้าค่ะ พลิกหาทั้งทั้งเมืองฉางผานอาจหาได้แค่ร้อยจินเท่านั้น ไม่สิ อาจหาพิษอสรพิษห้วงฝันผวาได้แค่ร้อยขวด ส่วนแก่นฟ้ากระหึ่ม อย่างมากก็หาได้ห้าร้อย และยาลูกกลอนโยธาได้แค่ห้าหมื่นเท่านั้น”
ซูเฉินส่ายหน้า “น้อยเกินไป”
“เช่นนั้นข้าก็ทำอะไรไม่ได้” ซุยเมี่ยวหลิงว่าพลางส่ายหัว
ซูเฉินอาจจะมีเงิน แต่ของอาจไม่มี ทุกอย่างที่เขาต้องการทั้งเป็นของหายากและปรุงขึ้นยากเย็น ดังนั้นจึงหาให้ได้ในจำนวนจำกัด
ซูเฉินคิดครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “อย่างแรกหาทุกอย่างเท่าที่หาได้ก่อนเถอะ จากนั้นหาของแทนมาก็ได้ เช่นนี้ได้ใช่หรือไม่ ?”
“ของแทน……” ซุยเมี่ยวหลิงคิดเล็กน้อยก่อนว่า “ไม่ใช่ว่าข้าคิดหาทางไม่ได้ แต่ท่านขอของที่มีความหลากหลายในการใช้งานมากเกินไป”
ซูเฉินเอ่ย “ก็นี่เป็นการซื้อขายครั้งใหญ่นี่นา ?”
ซุยเมี่ยวหลิงเข้าใจคำเขาแล้วยิ้ม “เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจคุณชายซู ข้าจะส่งคนไปหาของที่ท่านต้องการมาให้ได้มากที่สุด แต่เรื่องราคา……”
ซูเฉินหยิบแผ่นป้ายต้นกำเนิดใส่มือซุยเมี่ยวหลิง นางยิ้มหวานเมื่อเห็นจำนวนด้านบน
หากซื้อขายครั้งใหญ่ ก็ต้องใช้เงินครั้งใหญ่เช่นกัน
เมื่อนางได้คำสั่งของครั้งใหญ่มากแล้ว สิ่งที่ซุยเมี่ยวหลิงทำอย่างแรก ไม่ใช่ส่งคนไปหาของ แต่นางเรียกเจ้าของร้านจากร้านใหญ่ต่าง ๆ ในเมืองฉางผานมาอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง ไม่นานก็ช่วยกันแบ่งงานให้พวกเขา
ค่าตอบแทนดี ปริมาณเยอะ ดังนั้นเจ้าของร้านทั้งหลายต่างยินดีตกลง ใครมีของก็ช่วยกันไป คนที่ไม่มีก็เริ่มตาม เมืองฉางผานพากันหาของที่ซูเฉินต้องการอยู่พักหนึ่ง เจ้าของร้านไหนที่หัวไวก็ส่งคนไปนำเข้าของจากเมืองใกล้ ๆ รีดทรัพยากรเมืองใกล้เคียงเสียแห้ง ส่วนตนได้กำไรอย่างงาม
ภายในเวลาไม่กี่วัน ก็หาของที่ซูเฉินต้องการมาได้ทั้งหมด ทำให้ของที่เขาซื้อไปขาดตลาด จนราคาพุ่งสูงขึ้น
และแล้วซูเฉินเอาของทั้งหมดที่ซื้อมาเก็บไว้แล้วมุ่งหน้าไปปราการลุ่มน้ำทอง