ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 10.2
– กลางคืน –
เสี่ยวเฉิงเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อเข้ากะ ทันทีที่ไปถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อใส่ชุด เพื่อนร่วมงานคนเก่าก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “นายไม่น่ารับทำงานกะกลางคืนเลย”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็พลันถามกลับด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายที่หน้าช้ำเมื่อเช้ากันแน่?”
“พวกธุรกิจมืด” เพื่อนร่วมงานกล่าว “พื้นที่ที่เราต้องลาดตระเวนในช่วงกลางคืนถือเป็นส่วนที่เจริญที่สุดในเมืองซ่างเฉิง มีผู้คนมากมายออกมาเพ่นพ่านแถวนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกคนรวยหรือไม่ก็คนที่มีอิทธิพล นายจะได้เห็นรถยนต์ราคาแพงสีสันแปลกตาหลายสิบคันบนท้องถนนเลยล่ะ คนพวกนั้นแหละคือกลุ่มคนที่ตำรวจลาดตระเวนอย่างเราพยายามไม่ยุ่งด้วย สำหรับเรื่องเพื่อนของเราที่หน้าช้ำคนนั้น คืนนั้นเขาวิ่งเข้าไปช่วยชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง แต่แล้วก็ถูกไล่กระทืบกลับมา ในสถานที่แบบนี้ มันคงจะเป็นการดีกว่าที่จะช่วยตัวเองเมื่อใดก็ตามที่ทำได้ ยังไงก็เถอะ สำหรับคืนนี้ เดี๋ยวฉันพานายสำรวจพื้นที่เอง”
เสี่ยวเฉิงพยักหน้า เขาเดินไปส่งกระจกพร้อมสวมใส่เครื่องแบบและเก็บปืนไว้ข้างกาย จากนั้นเขาก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนร่วมงานคนนั้นแล้วออกไป
เพื่อนร่วมงานของเสี่ยวเฉิงชื่อฉางเหริน เขาลาดตระเวนอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว คาดว่าน่าจะประมาณเจ็ดปีได้ ฉางเหรินเป็นคนที่คุ้นเคยกับสถานการณ์การกระจายอำนาจและการบังคับขู่เข็ญทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระแวกนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ตำรวจส่วนมากไม่ต้องการที่จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันด้วย อีกอย่าง เหตุผลที่ผู้กองมั่นใจที่จะให้เสี่ยวเฉิงมาดูแลและลาดตระเวนในกะกลางคืนแทนนั้นไม่ใช่เพราะทักษะหรือความสามารถที่เขามี แต่เป็นเพราะผู้กองรู้ดีว่าใครเหมาะและไม่เหมาะมากกว่า…
ฉางเหรินและเสี่ยวเฉิงนั่งรถจักรยานยนต์ไปยังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านความปลอดภัยของนักเรียนที่เพิ่งจะออกมาจากชั้นเรียนในตอนกลางคืน
หลังจากที่เสี่ยวเฉิงยื่นบุหรี่ให้ ฉางเหรินก็ได้แนะนำบางอย่างให้กับเสี่ยวเฉิง “จำไว้เลยนะว่าในเมืองอย่างซ่างเฉิง… มีคนอยู่สามประเภทที่เราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“หนึ่งคือพวกคนที่มีรอยสักกลางหน้าอก สองคือพวกคนที่มีรถซุปเปอร์คาร์ และสามคือพวกผู้หญิงสวย”
“เดี๋ยวก่อนนะ… ทำไมล่ะ?” เสี่ยวเฉิงขมวดคิ้ว
ทันทีที่พ่นควันบุหรี่ออกมา ฉางเหรินก็พลันกล่าวคำพูด “กลุ่มแรกเป็นเหมือนพวกที่ค่อยอาศัยอยู่ในโลกใต้ดินของเมืองซ่างเฉิง แม้ว่าจะเผชิญกับรัฐบาลของประเทศหรืออะไรก็ตาม ความมืดจะอยู่แต่ในความมืดเท่านั้น และพวกมันจะตายทันทีเมื่อโดนแสงแดด และในตอนนี้ คนพวกนั้นก็ยังคงอยู่… พวกสมาชิกใต้ดินทุกคนมีตัวตนที่ดีและน่าคบหาเมื่ออยู่ข้างนอก ราวกับพวกมันเป็นคนละคน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นจะกลับตัวกลับใจ ยังไงก็เถอะ อย่าไปยุ่งกับพวกคนที่มีรอยสักกลางหน้าอกก็แล้วกัน เพราะว่ายังเหลืออีกตั้งสี่คนที่อยู่ที่นี่ และแน่นอน เราเป็นตำรวจและไม่ได้กลัวคนพวกนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าพวกมันมารุกรานหรือยุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัวของเราล่ะ? ส่วนคนที่มีรถซุปเปอร์คาร์ก็เหมือนกัน พูดตามตรงเลยนะ เมืองซ่างเฉิงก็เป็นเหมือนศูนย์กลางของการค้าและเศรษฐกิจของประเทศ บริษัทยักษ์ใหญ่และพวกคนรวยก็ถือเป็นเสาหลักที่คอยสนับสนุนเมืองนี้อยู่ พวกเขาเป็นที่ชื่นชอบของรัฐบาลกันทั้งนั้น แต่ไม่ว่ายังไง สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องมารับใช้พวกเขาอยู่ดี”
เสี่ยวเฉิงเริ่มอยากรู้อยากเห็น “แล้ว… ผู้หญิงสวยเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ?”
ฉางเหรินพลันหลุดหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยิน “ในฐานะที่ซ่างเฉิงเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในประเทศ จะมีผู้หญิงสักกี่คนกันที่ไม่ได้เข้ามาหาเราเพื่อเงิน? ที่นี่มีพวกสาวสวยแล้วก็สาวงามหลั่งไหลเข้ามามากที่สุดในทุกปี คิดว่าพวกเธอมาทำอะไรกันล่ะ? แน่นอน มันก็เป็นเหมือนการแลกเปลี่ยนความเยาว์วัยไปสู่ชีวิตที่หรูหรานั้นแหละ เพราะแบบนั้น พวกสาวสวยที่นี่ก็มีพวกคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังอยู่ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับพวกเธอเลย”
เสี่ยวเฉิงพยักหน้าเห็นด้วย
แต่ถ้าไม่สามารถจับกุมพวกลูกเศรษฐี ผู้มีอำนาจหรืออาชญากรตัวจริงได้ แล้วจะให้ตำรวจไปจับใครแทนล่ะ?
ทว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับคืนแรกในการทำงานของเสี่ยวเฉิงกันนะ?