ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 110.1
ตอนที่ 110: นักพนันมือโปรอีกคนเข้าร่วมการแข่ง
ในฐานะที่เป็นนักพนันมือโปรด้านไพ่โป๊กเกอร์ ไมค์ถือเป็นชายคนหนึ่งที่มีทักษะสุดน่าประทับใจ หนึ่งในนั้น คือความสามารถในการคว้าไฟ ไมค์มีสายตาที่เฉียบแหลมและการตอบสนองสุดรวดเร็วในโลกของการพนัน ไมค์ถึงขั้นถูกขนานนามว่าเป็นเซียนคว้าไพ่เลยก็ว่าได้ นั่นเป็นเพราะเขามักจะคว้าไพ่คอมโบสูงกลางอากาศได้ อยู่เสมอ สําหรับเกมคว้าไพ่ ไม่ว่าจะเป็นการคว้าไพ่คอมโบสูงหรือต่ําไม่มีใครเคยเอาชนะเขาได้มาก่อน สถิติสูงสุดของไมค์คือสามารถคว้าเอซได้สามใบจากไพ่ที่กระจัดกระจายอยู่กลางอากาศก่อนที่จะตกลงพื้น
แต่ทว่า สําหรับการคว้าเอชทั้งสี่ใบ ไมค์เองก็ไม่เคยทําได้มาก่อน ถึงกระนั้น ไมค์ก็พลันคิดว่าคงไม่มีใครสามารถคว้าเอซออกมาได้ตั้งสี่ใบหรอก ในฐานะผู้ที่ฝึกฝนกลอุบายนี้มาเป็นเวลานาน ไมค์เองก็รู้ดีว่าการที่จะคว้าเอซทั้งสี่ใบออกมาจากไพ่ที่กระจายอยู่กลางอากาศโดยใช้เพียงแค่ตาเปล่ามองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะ เรื่องระยะเวลาที่ไม่ต้องหล่นลงพื้นอีก ทั้งนี้การใช้สายตามองหาและอ้าแขนไปคว้าไฟก็น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย สองถึงสามวินาทีถึงอย่างไร เพียงแค่ช่วงเวลากระชั้นชิดของไพ่ที่กําลังร่วงลงพื้น ความเป็นไปได้ในการคว้าเอซสี่ใบแทบจะเกือบเป็นศูนย์เลยด้วยซ้ํา
ทันทีที่ได้ยินว่าเสี่ยวเฉิงจะประลองเกมคว้าไพ่กับไมค์ นายน้อยฉันก็พลันเผยยิ้มและตะโกนออกมาเสียงดัง เพื่อให้คนรอบข้างได้ยิน “นายจะท้านักพนันระดับโลกเล่นเกมคว้าไพ่จริง ๆ เหรอ?! ทุกคนได้ยินไหมครับ?! ผมยังจําเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่ลาสเวกัสได้อยู่เลย ตอนนั้นไมค์คว้าไฟเอซได้ตั้งสามใบแหนะ! คู่ต่อสู้ของเขาถึงกับวิ่งหนีไปมุดหัวที่อื่นเลยล่ะยังไงก็เถอะ พวกเรามาตั้งตาชมการประลองสุดตื่นเต้นกันดีกว่า!”
ผู้ชมพลันขยับขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นเพื่อที่ทั้งสองจะได้ประลองคว้าไพ่กัน
ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนับสนุนเสี่ยวเฉิงเลย นั่นเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อเขาด้วย
ไมค์พลันหยิบสํารับไพ่ออกมาและยื่นให้เสี่ยวเฉิง “ตรวจไพ่ดูหน่อยไหมล่ะ? ถ้านายแพ้ก็อย่ามาหาว่าฉันใช้กลโกงหรือแม่เหล็กช่วยล่ะ…”
ทว่า เสี่ยวเฉิงยังคงฉุกมือไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม “ไม่จําเป็นหรอก รีบโยนเถอะน่า”
ทันใดนั้น ไมค์ก็โยนไพ่หนึ่งสํารับขึ้นไปกลางอากาศ ทุกคนแทบกลั้นหายใจทันทีระหว่างชมการแสดงตรงหน้า
ฟื้ว –
ไพ่ทั้งห้าสิบสี่ใบลอยขึ้นไปกลางอากาศอย่างช้า ๆ ทว่า ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงก็ยังไม่ได้เอามือของจากกระเป๋าเลยด้วยซ้ํา เขาชําเลืองมองไปยังไมค์อย่างใจเย็น แต่อันที่จริง ไพ่ทุกใบก็ถูกเสี่ยวเฉิงล็อคตําแหน่งเอาไว้หมดแล้ว และไม่ว่าไฟเอซทั้งสี่นั้นจะอยู่ห่างจากเสี่ยวเฉิงมากแค่ไหน หรือมันกําลังร่วงลงพื้นด้วยความเร็วเท่าใด เสี่ยวเฉิงก็ได้คํานวณเอาไว้หมดแล้ว
ทันใดนั้น ไมค์ก็เริ่มขยับตัว เขาพลันอ้าแขนขึ้นไปคว้าไพ่กลางอากาศ เสี่ยวเฉิงเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน เหนือสิ่งอื่นใด เสี่ยวเฉิงพลันคว้าเอซโพดําที่อยู่เหนือหัวของตัวเองมาหนึ่งใบหลังจากนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลัน เหลือบมองไปเห็นว่าไมค์กําลังเอื้อมมือหยิบเอซโพแดง ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงจึงใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางลุ่มหยิบไพ่มา หนึ่งไฟและดีดไปข้างหน้าไพ่ใบนั้นพุ่งเข้าหาเอซโพแดงที่ไมค์กําลังจะเอื้อมมือเข้ามาคว้าราวกับเป็นลูกดอก หลังจากนั้น การกระแทกกันของไพ่ทั้งสองก็พลันเปลี่ยนเส้นทางจนเอซโพแดงกระเด็นมาทางฝั่งของเสี่ยวเฉิงแทน ทันทีที่คว้าไพ่เอาไว้ได้แล้ว ในมือของเสี่ยวเฉิงก็มีไฟเอซสองใบ
หลังจากนั้น ไมค์ก็ใช้สายตาจับจ้องไปที่ไฟเอซอีกสองใบที่เหลือพร้อมกับเอื้อมมือออกไปอีกครั้ง ระหว่างที่ไมค์กําลังเอื้อมมือไปหยิบเอซข้าวหลามตัดตรงหน้า ไมค์ก็พลันรู้สึกราวกับมีมือของใครสักคนแวบผ่านหน้าตัวเองไป ไมค์พลันสติหลุดไปชั่วครู่ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคว่าไพ่ที่ตัวเองเห็นโดยคิดว่ามันยังคงเป็นไฟเอซข้าวหลามตัดใบเดิมอยู่
ในตอนนี้ ก่อนที่ไพ่ทั้งหมดจะร่วงลงพื้น ไมค์ก็ต้องการคว้าเอซใบสุดท้าย ทว่า เขาก็พลันรู้สึกถึงแรงเตะกลางหน้าท้อง ทันใดนั้น ร่างของไมค์ก็พลันลอยกระเด็นออกไปและไถลลงกับพื้นเป็นระยะทางกว่าสิบเมตร
เมื่อไพ่ทั้งหมดตกลงพื้นแล้ว เสี่ยวเฉิงก็ยังคงอยู่กับที่ พร้อมกับยักไหล่และชูไพ่บนมือ ไมค์ในตอนนี้รู้สึกราวกับมีบางอย่างติดอยู่ในลําคอ เขาแทบอยากจะสํารอกออกมาทันที ทว่าระหว่างพลิกไพ่บนมือดูไมค์กลับ รู้สึกตกตะลึงกับไพ่ที่ตัวเองคว้ามาได้ มันคือไฟเบอร์สอง! มันเป็นไพ่ที่จํานวนต่ําที่สุดเลยด้วย!
ในทางกลับกัน ในมือของเสี่ยวเฉิง เขาพลันแกวังไฟเอซทั้งสี่ใบไปมาราวกับกําลังสะบัดพัด นั่นทําให้ไมค์ต้องรู้สึกอับอายต่อหน้าทุกคน