ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 38.1
ตอนที่ 38: ใครกำลังปั่นหัวใครกันแน่?
พนักงานเจ้าปัญหาคนเดิมก็ยังเดินตามเสี่ยวเฉิงไม่หยุดเลยจนถึงตอนนี้ ทุกครั้งที่เสี่ยวเฉิงเดินไปนั่งลงที่โต๊ะพนัน เขาก็มักจะเข้ามาทำหน้าที่แทนพนักงานเดิมที่รับผิดชอบอยู่และเผชิญหน้ากับเสี่ยวเฉิง
และไม่ว่าเสี่ยวเฉิงจะไปวางเดิมพันที่โต๊ะไหน เขาก็จะทุ่มหมดหน้าตักตลอด นั่นเป็นเหตุผลที่พนักงานเจ้าปัญหาพยายามตามติดเสี่ยวเฉิงไม่ยอมหยุด เขาต้องการที่จะงัดไม้เด็ดของตนออกมาสักครั้งเพื่อที่จะทำให้เสี่ยวเฉิงหมดตัวและสูญเสียทุกอย่าง
เสี่ยวเฉิงพลันถือชิปสองหมื่นหยวนเดินไปเดินมา เขาต้องรีบสลัดพนักงานเจ้าปัญหาออกไปให้ได้ เส้นตายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว…
ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงก็ตั้งใจที่จะเดินวนไปวนมารอบโต๊ะพนันกว่าสิบโต๊ะโดยที่ไม่คิดจะวางเงินเดิมพันเลย
พนักงานเจ้าปัญหาคนเดิมยังคงจ้องมองมาที่เสี่ยวเฉิงอย่างไม่ลดละ
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันหยุดเดินพร้อมยืนอยู่กลางห้องโถง ด้านข้างของเขาเป็นโต๊ะยี่สิบหก เสี่ยวเฉิงยืนครุ่นคิดและมองไปยังลูกเต๋าสองลูกที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะ ทว่า เขาพลันตัดสินใจที่จะยังไม่เดินเข้าไป เสี่ยวเฉิงเพียงแค่เดินวนไปวนมารอบโต๊ะและใช้ประสาทรับเสียงฟังความถี่ของลูกเต๋าที่พนักงานอีกคนกำลังเขย่าอยู่
ในระหว่างที่นักพนันกำลังวางเดิมพันและพนักงานประจำโต๊ะกำลังจะเปิดถ้วย… เสี่ยวเฉิงก็พลันพุ่งเข้าไปแทรกกลางโต๊ะพร้อมกับตะโกนขึ้นมา “เดี๋ยวก่อนครับ ผมขอแทงด้วย ผมขอแทงต่ำด้วยเงินหนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยหยวน!”
แต่ทันทีที่พนักงานยกถ้วยขึ้น เลขที่ปรากฎก็คือสามและสอง มันเป็นจำนวนต่ำ! และทันทีที่ชนะการเดิมพัน เสี่ยวเฉิงก็ได้รับชิปมูลค่าสองหมื่นห้าพันหกร้อยหยวนเป็นการตอบแทน
พนักงานเจ้าปัญหาที่คอยสะกดรอยตามเสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกไม่พอใจ เขาไม่คิดว่าเสี่ยวเฉิงจะพุ่งเข้าไปวางเดิมพันกระทันหันแบบนั้น โดยทั่วไปแล้ว ทันทีที่พนักงานประจำโต๊ะเริ่มเขย่าถ้วย พวกเขาก็จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแลกตำแหน่งกันได้จนกว่าจะมีการเปิดถ้วยหรือจบการเดิมพัน
เสี่ยวเฉิงพลันโบกชิปมูลค่าสองหมื่นห้าพันหกร้อยหยวนและหันหน้าไปทางพนักงานเจ้าปัญหาพร้อมเผยยิ้ม “เหลืออีกประมาณเจ็ดหมื่นหยวนเอง…”
พนักงานเจ้าปัญหาพลันเผยท่าทีหงุดหงิด ทันใดนั้น เขาก็รีบเดินตามหลังเสี่ยวเฉิงและยืนให้ใกล้ที่สุด
ส่วนเสี่ยวเฉิงเองก็พลันเดินไปมาพร้อมกับเหลือบมองไปยังโต๊ะพนันโต๊ะอื่น เสี่ยวเฉิงทำเช่นนั้นก็เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานเจ้าปัญหาจะคาดเดาไม่ได้ว่าเขากำลังจะพุ่งเข้าไปเล่นโต๊ะไหนต่อ และทันทีที่เสี่ยวเฉิงพุ่งเข้าไปอีกโต๊ะเพื่อที่จะวางเงินเดิมพัน พนักงานเจ้าปัญหาคนนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปขอเปลี่ยนตัวกับพนักงานประจำโต๊ะแทบจะทันที “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
พนักงานประจำโต๊ะเห็นว่าอีกคนเป็นถึงพนักงานระดับสูงของคาสิโน เขาจึงรีบก้าวหลบทันที
แต่ทว่า เสี่ยวเฉิงไม่ได้คิดจะพุ่งไปที่โต๊ะนั้นอยู่แล้ว ในระหว่างที่พนักงานเจ้าปัญหากำลังจะสลับตัวกับพนักงานประจำโต๊ะ เสี่ยวเฉิงก็รีบพลิกตัวและพุ่งไปที่โต๊ะอื่น “ลงหมดหน้าตักเลยครับ! ผมขอแทงต่ำ!”
พนักงานเจ้าปัญหาพลันรู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมทันทีที่เห็นเสี่ยวเฉิงพุ่งไปเล่นโต๊ะอื่น และในระหว่างที่เขาแกล้งทำเป็นเดินวนรอบโต๊ะเพื่อสอดส่องเสี่ยวเฉิง ถ้วยก็ถูกเปิดไปแล้ว จำนวนที่ออกคือต่ำอีกครั้ง!
ในตอนนี้ เสี่ยวเฉิงในตอนนี้ก็มีชิปมูลค่าห้าหมื่นหนึ่งพันสองร้อยอยู่ในกำมือแล้ว
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็หันไปมองพนักงานเจ้าปัญหาที่ถูกปั่นหัวจนเหนื่อยและเผยเสียงหัวเราะออกมา “ดูท่านายคงจะเหนื่อยมากเลยสินะ เช็ดเหงื่อบนหน้าก่อนก็ได้มั้ง”
ทันทีที่เสี่ยวเฉิงเดินผ่าน พนักงานเจ้าปัญหาก็พลันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ในตอนนี้ พนักงานเจ้าปัญหาเหลือโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก่อนที่เสี่ยวเฉิงจะได้เงินแสนและช่วยฉางเหรินออกไปได้ และนั่นต้องทำให้ท่านซานไม่พอใจเป็นแน่ ท่านซานต้องการที่จะเห็นเสี่ยวเฉิงล้มเหลวในการช่วยชีวิตเพื่อนร่วมงานของตัวเองเพื่อที่เขาจะได้ระบายความโกรธทั้งหมดไปมีกับเสี่ยวเฉิง ด้วยเหตุนั้น พนักงานเจ้าปัญหาจะต้องทำให้เสี่ยวเฉิงหมดตัวในครั้งสุดท้ายให้ได้
เขารีบมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่เสี่ยวเฉิง ไม่เพียงแค่นั้น เขายังสั่งพนักงานประจำโต๊ะสิบกว่าคนว่าถ้าเห็นเสี่ยวเฉิงวิ่งไปวางเดิมพันที่โต๊ะไหน โต๊ะนั้นจะต้องรอจนกว่าเขาจะมาถึงก่อนแล้วค่อยยกถ้วยขึ้น
ด้วยวิธีนี้ เขาจะไม่ถูกเสี่ยวเฉิงปั่นหัวอีก
เสี่ยวเฉิงพลันครุ่นคิดอีกครั้ง ส่วนพนักงานเจ้าปัญหาเองก็เอาแต่ไล่ตามเสี่ยวเฉิงไปทุกที่อย่างไม่ลดละ
ทันทีที่เสี่ยวเฉิงเดินไปมาระหว่างโต๊ะพนันหลายสิบโต๊ะอยู่สามรอบ เขาก็พุ่งตรงไปยังโต๊ะที่กำลังจะเปิดถ้วย และทันทีที่พนักงานเจ้าปัญหากำลังจะพุ่งตามเสี่ยวเฉิงไป เขาก็บังเอิญไปชนเซินเหยาที่กำลังเดินอยู่อย่างเต็มแรง!
ทันใดนั้น เซินเหยาก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ตานายบอดหรือยังไงกัน? ไม่คิดจะมองทางเลยหรือยังไง?”
“ขอโทษครับ” พนักงานเจ้าปัญหารีบกล่าวคำพูดเพราะต้องการที่จะวิ่งตามเสี่ยวเฉิงให้ทัน แต่ทว่า เซินเหยาก็รีบคว้าแขนของชายคนนั้นเอาไว้ “นี่! ทำไมต้องทำกันแบบนี้ด้วยล่ะ? ฉันเกือบจะล้มจนหน้าทิ่มเลยนะ! คิดว่าแค่คำ ‘ขอโทษ‘ อย่างเดียวจะไปพอได้ยังไงกัน? นี่คือการบริการลูกค้าจากพนักงานของคาสิโนระดับสูงงั้นเหรอ? นี่! หยุดอยู่ตรงนั่นเลยนะ! ฉันจะไปฟ้องผู้จัดการของนายเดี๋ยวนี้แหละ! ถ้านายไม่ยอมขอโทษฉันดี ๆ ฉันไม่ยอมแน่!” ทันทีที่ได้ยินเซินเหยาบ่นเช่นนั้น พนักงานเจ้าปัญหาก็พลันพูดอะไรไม่ออก