ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 98.1
ตอนที่ 98: การดํารงตําแหน่ง
ทันใดนั้น สมาชิกทั้งสิบคนของหน่วยต่างก็มองหน้ากัน พวกเขาก็รีบหันขวับไปทางเสี่ยวเฉิง พร้อมกับคิดว่าผู้ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่… จะไปไล่กระทืบพวกแก๊งเสือขาวเนี่ยนะ? ขนาดหน่วยห้าที่ติดตามคดีของแก๊งนี้มาปีกว่ายังทําอะไรมากไม่ได้เลย อันที่จริง เจ้าหน้าที่หน่วยห้าต่างก็ใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีในแผนกสืบสวนไปหมดแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่พบหลักฐานอะไรที่จะทําให้แก๊งเสือขาวสั่นคลอนได้เลย…. แต่ในตอนนี้ กัปตันคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ารับตําแหน่งอยากจะไปถล่มพวกแก๊งเสือขาวเนี่ยนะ? เขาต้องประสาทหลอนไปแล้วแน่
ในบรรดาแก๊งสี่จตุรเทพ นอกจากแก๊งเต่าดําแล้ว อีกสามแก๊งที่เหลือก็หาตัวจับได้ยากยิ่งนัก
ทั้งนี้ อีกสามแก๊งที่เหลือไม่ได้จับตัวง่ายขนาดนั้นเลยด้วย พวกเขาต่างกับแก๊งเต่าดําราวฟ้ากับเหว อีกอย่าง ถ้าต้องการโค่นล่มแก๊งที่เหลือ เสี่ยวเฉิงเองก็ต้องใช้วิธีที่ฉลาดกว่าเดิม
” หวังว่าผมคงคิดถูก คนอย่างคุณที่กล้าท้าประลองกับปรมาจารย์หยานก็คงเป็นเพียงแค่นักสู้ไร้สมองเท่านั้นแหละ” หวู่กังพูดขึ้นมา
“นักสู้ไร้สมองก็ยังดีกว่าพวกขี้ขลาดตาขาวล่ะนะ…” เสี่ยวเฉิงพลันตอกกลับอย่างดูถูก
“นึกย้อนกลับไปว่าถ้านายได้อยู่ในกองทัพหรือหน่วยรบ คนอย่างนายก็คงมีแต่ข้อแก้ตัว แล้วก็ไม่มีวันเป็นทหารที่ดีได้หรอก”
“ช่วยดูสถานการณ์ตอนนี้หน่อยเถอะ ถ้าคุณจะไปถล่มพวกแก๊งเสือขาวจริง คุณคิดว่าอีกฝ่ายจะยอมปล่อยให้คุณไล่กระทืบง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? คิดอะไรก็ระวังตัวเองเอาไว้หน่อยก็ดี” หลี่เชาว์กล่าวสวนขึ้นมา
คนอื่นในห้องต่างก็เห็นด้วย “ใช่ ต่อให้คุณอยากถล่มแก๊งเสือขาวมากแค่ไหน คุณก็ต้องไปขออนุญาตหน่วยห้ามาก่อน อีกอย่าง คุณรู้ไหมล่ะว่าห้องทํางานของหน่วยสองเรามักจะถูกเรียกว่าอะไร? บ้านพักคนชรายังไงล่ะ!”
“ที่นี่ถูกเรียกว่าบ้านพักคนชรา?” เสี่ยวเฉิงพลันเยาะเย้ย เขาพลันกวาดสายตามองทุกคนพร้อมกับขึ้นเสียง ” แล้วพวกคุณรู้ไหมว่าทําไมหน่วยอื่นถึงเรียกที่นี่ว่าเป็นบ้านพักคนชรา? เคยคิดบ้างไหมล่ะ?”
เจ้าหน้าที่ทั้งสิบคนไม่กล้าแม้แต่จะเปิดปาก พวกเขาทุกคนเผยสีหน้าหงุดหงิดไม่น้อย
“มันก็เป็นเพราะตัวพวกคุณเองยังไงล่ะ!” เสี่ยวเฉิงชี้นิ้วไปยังลูกน้องทุกคนในหน่วยสอง “ไม่แปลกใจเลยที่มีถังขยะถูกทิ้งให้ล้มอยู่มุมห้อง ถ้าเอาขยะหลายถุงมารวมกันในที่เดียว สถานที่นั้นก็จะถูกเรียกว่ากองขยะ อันที่จริง พวกคุณรู้ไหมว่าผมรู้สึกผิดหวังกับอะไรมากที่สุด? นั่นก็คือการที่พวกคุณทุกคนดูจะภูมิใจกับการเป็นขยะไร้ค่ายังไงล่ะ! แต่ถ้าผมเป็นพวกคุณ ผมจะยืนหยัดสู้กลับ ผมจะพยายามทําทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่ขยะไร้ค่าอย่างที่คนอื่นว่ากัน แต่สิ่งที่ตลกกว่านั้นคือพวกคุณเป็นขยะไร้ค่าที่ชอบดูถูกคนอื่น ถ้าคน ๆ หนึ่งไม่ยอมรับแม้กระทั่งตัวเอง คน ๆ นั้นจะเก่งและรู้จักพัฒนาตัวเองได้ยังไงกัน? ไม่ใช่ว่าพวกคุณจะไม่มีโอกาสในชีวิตหรอกนะ แต่ถ้าพวกคุณคว้าโอกาสนั้นเอาไว้ พวกคุณก็คงไม่ต้องมาลงเอยที่ห้องทํางานเหม็นเน่าแบบนี้หรอก แต่ต้องขอบอกเอาไว้ตรงนี้ก่อนเลยนะ ตอนที่รู้ว่าตัวเองถูกย้ายมาประจําการอยู่หน่วยสอง ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่สุดท้าย ผมก็ต้องมาหัวร้อนกว่าเดิมเพราะเห็นสภาพของพวกคุณทุกคนในตอนนี้ ผมล่ะสงสารพวกคุณจริง ๆ แต่ก็นะ… รู้จักคําว่าขี้เกียจตัวเป็นขนไหมล่ะ? นั่นแหละคําเรียก พวกคุณในตอนนี้เลย!”
” คุณพล่ามบ้าอะไรอยู่กัน?” หวู่กังในตอนนี้รู้สึกจะหัวร้อนไม่น้อย เขาแทบอยากจะพุ่งเข้ามาซัดหน้าเสี่ยวเฉิง แต่แล้ว หลี่เชาว์ก็พลันดึงแขนห้ามหวู่กังเอาไว้ เพราะมันคงจะเรียกได้ว่าเป็นการกระทําซึ่งผิดกฎหมาย หากทําร้ายเจ้าหน้าที่ตําแหน่งสูงกว่า ในระหว่างนั้น ทุกคนในห้องก็พลันจ้องมองไปยังเสี่ยวเฉิงอย่างไม่สบอารมณ์นัก
หลี่เชาว์ยังคงพ่นลมหายใจออกมา “ถ้าเป็นไปได้ ผมขอลาออกมาซัดกับคุณคงดีกว่า”
เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังผู้ชายทั้งสิบคนพร้อมกับพยักหน้า “จะเอาแบบนั้นก็ได้นะ แต่ฉันจะรับประกันให้ว่าคุณจะไม่โดนไล่ออกแน่นอน ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ใจกล้าพอที่จะเข้ามาซัดหน้าผมแล้วงั้นเหรอ?”
ทันใดนั้น หลี่เชาว์ก็พลันรู้สึกราวกับโดนถุงเท้ายัดปาก ใช่ พวกเขาไม่สามารถเอาชนะเสี่ยวเฉิงได้แน่ ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะด้วยวาจาหรือพละกําลัง
คนอื่นต่างก็พลันกล่าวคําพูดออกมา “คุณเองก็ถูกย้ายมาอยู่หน่วยสอง คุณก็คงไม่ต่างอะไรกับพวกเราหรอกมั้ง อย่าได้ใจไปหน่อยเลย…”
” พวกเราคนละชั้นกันแน่นอน เพราะอย่างน้อยฉันก็สามารถฆ่าผู้นําแห่งแก๊งเต่าดําได้! แถมยังเปิดโอกาสให้พวกรัฐบาลได้หน้าไปด้วย แต่ในตอนนี้ พวกคุณทําอะไรอย่างอื่นได้อีกบ้างล่ะ นอกจากทําตัวไร้ค่าไปวัน ๆ? ยังไงเสีย ผมเองก็ถูกย้ายมาประจําการเป็นกัปตันของหน่วยสองแล้ว ถ้าผมเปลี่ยนสันดานพวกคุณไม่ได้ ผมก็คงไม่ใช่หัวหน้าที่ดีเท่าไหร่ เพราะแบบนั้น ถ้าใครยังทําตัวไร้ค่าแบบเดิมอยู่ ผมก็จะไล่คนนั้นออกทันที ผมไม่ต้องการลูกน้องแบบนั้น แต่ถ้าพวกคุณอยากที่จะอยู่ต่อ ทุกคนก็ต้องทําตามกฎของผม” เสี่ยวเฉิงพลันกล่าวคําพูดออกมากับทุกคนในห้องด้วยสีหน้าสุดจริงจัง