ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 174
จำนวนเงินเพียงเท่านี้ ซ่งซานไม่ได้สนใจอยู่แล้ว แต่มันก็ทำให้เขาลดการป้องกันตัวลงมาเยอะพอควร
เขาแสดงสีหน้าเย่อหยิ่งออกมาแล้วเก็บถุงเงินไป “หมิงหยาง ข้าก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอก แต่ว่าการที่เจ้าอยู่ในตำแหน่งนี้มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ข้ารับประกันเลยว่าเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว ข้าจะหาทางทำให้เจ้าเลื่อนตำแหน่งที่สูงกว่านี้อย่างแน่นอน”
“ดีเลยขอรับ ข้าน้อยจะภักดีต่อท่านไปตลอดกาล” หมิงหยางรีบโค้งคำนับให้อย่างรวดเร็ว
ซ่งซานยิ้มให้อย่างเต็มที่ และเมื่อเห็นว่านางหมิงไม่ออกมาเสียทีจึงได้ถามขึ้น “ข้าหิวแล้วล่ะ รีบไปเรียกเมียของเจ้าให้มาจัดการเรื่องอาหารเสียที”
“ครับท่าน” หมิงหยางยิ้มให้ ก่อนตะโกนเรียกให้ภรรยาตัวเองเอาอาหารมาวางทันที
ไม่นานนักนางก็เดินออกมาพร้อมกับโถเหล้า ด้วยภายในห้องที่เต็มไปด้วยความมืด ผนวกกับบรรยากาศจากเทียน มันก็ยิ่งช่วยเสริมให้นางดูสวยและงดงามมากขึ้นไปอีก
“มาดื่มกันเถอะท่านแม่ทัพ” นางเติงยื่นจอกเหล้าให้กับซ่งซานและหมิงหยาง
ในวินาทีที่ซ่งซานรับจอกเหล้ามา เขาก็จับไปที่หลังมือของนาง “เจ้าช่างงามยิ่ง ฮ่าฮ่า”
ท่าทีนี้มันหยาบคายมาก ถ้าหากว่านางไม่ได้รู้แผนนี้ด้วยล่ะก็ คงจะตบแม่ทัพบ้ากามคนนี้ไปแล้ว
นางรีบชักมือกลับแล้วก้มหัวลง แสดงท่าทีเขินอาย
ไม่นานนักทั้งสองก็ดื่มเหล้าจนเมา ซึ่งมันก็เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะว่าพวกเขาดื่มกันไปมากกว่า 5 เหยือก
“แม่ทัพซ่ง ข้าไม่คิดว่าท่านจะดื่มได้มากขนาดนี้เลยนะ” หมิงหยางถาม
“ท่านก็ดูถูกข้าเกินไป ต่อให้เกินร้อยจอกข้าก็ยังไหว มา ๆ ดื่มต่อเป็นเพื่อนข้าเถอะ”
“ไม่ ไม่ ไม่ ข้าน้อยพอแล้วล่ะ” หมิงหยางพยายามปฏิเสธ แต่ก็โดนซ่งซานจับเอาโถเหล้ากรอกปากจนเมาหนักและสลบไป
“เติง ? เติงหมิงหยาง ?” ซ่งซานร้องเรียก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเมาหลับไปแล้ว เขาจึงได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายก่อนที่จะเรียกคนรับใช้ในจวนหลังนี้ “พวกเจ้ามาพานายท่านไปพักหน่อยเร็ว”
“ขอรับ” คนรับใช้ตอบกลับแล้วเข้ามาลากร่างของหมิงหยางออกไป
ในเวลานี้ นางหมิงก็ได้ลุกขึ้นยืนเตรียมออกไป หากแต่ซ่งซานกลับเข้าคว้ามือนางเอาไว้แล้วหัวเราะออกมา “แม่นาง อย่าเพิ่งรีบไปเลย แบบนี้มันจะเป็นการไม่ให้เกียรติแขกอย่างข้านะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นางเติงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งลงที่เดิม
เมื่อเห็นว่าคนรับใช้พากันออกไปแล้ว ซ่งซานก็มองพวกทหารที่เข้ามาด้วยกัน ก่อนพยักหน้าให้พวกเขาออกไป
พวกเขารู้ดีว่าเจ้านายของตัวเองเป็นยังไง จึงทำตามในทันทีอย่างว่าง่าย
“เอ๋ ?” นางเติงที่ไม่รู้ว่าพวกทหารออกไปแล้ว ก็ถูกซ่งซานคว้าแขนแล้วดึงนางเข้ามาสวมกอดเอาไว้ “ในเมื่อหมิงหยางไม่อยู่แล้ว งั้นให้เจ้ามาปรนนิบัติข้าหน่อยก็แล้วกัน” เขาพูดพร้อมกับเอามือไปวางบนคอเสื้อของนาง
นางเติงที่ไม่รู้แผนเบื้องลึกกว่านี้ของถังหยินและสามีก็ถึงกับตะลึงกับความหยาบช้าของซ่งซาน รีบตบหน้าเขาไปหนึ่งที “ท่านแม่ทัพ ได้โปรดมีสติเถิด”
ซ่งซานลูบใบหน้าของตัวเอง ก่อนปรากฏรอยยิ้มออกมา แล้วจึงจับนางกดลงไปบนพื้น ทำการขึ้นคร่อมบนตัว “เจ้าเองก็แต่งงานแล้ว ยังจะมาเกรงกลัวอะไรอยู่อีกเล่า ?”
นางหมิงเป็นหญิงสาวที่ไม่มีแรงมากนัก จึงไม่อาจต้านทานแรงของซ่งซานได้เลย ไม่นานนักชุดของนางก็ถูกฉีกออก
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังเขา “พวกซ่งเนี่ย นอกจากจะแทงคนอื่นจากด้านหลังไม่พอ ยังไม่ให้เกียรติสตรีอีกหรือ ?”
ประโยคนี้ทำให้ซ่งซานสะดุ้งตัวโหยง รีบเด้งตัวออกจากตัวนางหมิงแล้วมองหันมา “ใครกัน ?”
ด้านหลังเขาคือชายหนุ่มในชุดสีดำที่จ้องมองกลับมา ใบหน้าขาวและดวงตาที่ดุดันพร้อมด้วยรอยยิ้มที่แสนน่ากลัว
“ข้าคือถังหยิน” ชายหนุ่มกล่าวแล้วเดินเข้ามา
ซ่งซานแทบไม่เชื่อในสายตาตัวเอง “เป็นไปไม่ได้…”
แม่ทัพบ้ากามตะลึงไปชั่วขณะ เขารีบวิ่งไปทางหน้าต่างหมายจะหนี ด้วยรู้ตัวแล้วว่านี่คือกับดักของถังหยิน และอีกอย่าง การเผชิญหน้าตัวต่อตัวแบบนี้นั้น เขาไม่มีทางล้มชายคนนี้ได้แน่
ทว่ามันก็ช้าเกินไปสำหรับเขาที่จะหนีแล้ว
ทันทีที่เขาวิ่งไปถึงหน้าต่าง ก็ปรากฏชายคนหนึ่งพร้อมด้วยดาบที่ยาวดั่งหอกอันเป็นเอกลักษณ์เข้ามาขวาง “โทษทีนะ ทางนี้ปิดแล้ว”
“หา ?”
ซ่งซานถอยกลับมา ก่อนจะเรียกเกราะปราณออกมาปกป้องตัวเองเอาไว้
ถังหยินพลันเอื้อมมือเข้ามาจับหลังคอของเขาไว้ แล้วจึงปลดปล่อยไฟสีน้ำเงินออกมา เข้าละลายเกราะของซ่งซานออกไปจนหมดแล้วเผาไหม้เข้าไปในร่างกายอีกฝ่ายจนดับชีวิตเขาไป
ชายหนุ่มปล่อยมือให้ศพลงบนพื้น เงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจ ก่อนจะหลับตาลง จากนั้นก็ค่อย ๆ อ้าปากพ่นเอากลุ่มก้อนพลังงานออกมาให้กลายเป็นรูปร่างมนุษย์ที่เหมือนกับเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทว่า ระหว่างขั้นตอนนี้ รูปร่างของมันก็ดูน่ากลัวมาก ไม่ว่าจะเป็นขาที่สั้นเกินหรือแขนที่หายไปหนึ่งข้าง ทำเอานางหมิงกับหยวนยู่ที่เห็นหน้าเปลี่ยนสีในพลัน
“แม่งเอ้ย !” ถังหยินสบถออกมา ก่อนหลับตาทำสมาธิอีกครั้ง ในคราวนี้กลุ่มก้อนพลังงานเริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นซ่งซาน
ถ้าหากไม่มีใครเห็นว่าซ่งซานถูกฆ่าไปแล้ว ก็คงจะไม่รู้หรอกว่านี่คือซ่งซานตัวปลอม เพราะมันเหมือนกันเสียจนไม่มีทางแยกออก
ไม่นานนักหยวนยู่ก็ได้สติ เขามองไปยังร่างแยกที่หน้าตาไม่เหมือนกับถังหยินด้วยความสงสัย ก่อนเอ่ยถาม “ท่านทำได้ยังไงกัน ?”
ถังหยินหัวเราะออกมา “ข้าก็แค่ใช้วิชาเผาผลาญวิญญาณผนวกเข้ากับการแยกร่างของข้าเท่านั้น” ว่าแล้วเขาก็ยกมือขึ้น ก่อนปรากฎไฟสีน้ำเงินออกมา
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก เป็นเฉิงจินที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับคนในหน่วยที่ในมือมีดาบที่เต็มไปด้วยคราบเลือด “นายท่าน พวกเราจัดการพวกของซ่งซานด้านนอกจนหมดแล้ว”
ก่อนจะทันพูดจบ เขาก็หันไปเห็นซ่งซานจึงได้ถามต่อ “ทำไมท่านถึงไม่จัดการซ่งซานเสีย ?”
“เขาตายแล้ว” ซ่งซานเดินเข้ามาหัวเราะแล้วแตะเขาเบา ๆ
“ถ้างั้นเจ้าคือ…”
“ร่างแยกยังไงละ !”
ซ่งซานปลอมกล่าวแล้วหัวเราะออกมา
ร่างแยกสามารถกลายเป็นคนอื่นได้ด้วยหรือนี่ ? เฉิงจินที่เป็นผู้ใช้ศาสตร์มืดเองก็ยังไม่รู้เลยว่าวิชานี่จะทำได้ถึงขั้นนี้
เขาเกาหัวด้วยความสงสัย หันมองซ่งซานตัวปลอม ถึงเขาจะมีอะไรอยากถามมากมาย แต่ก็เลือกที่จะทำเป็นเข้าใจแล้วปล่อยให้เรื่องราวดำเนินการต่อ