ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 227
บทที่ 227
เมื่อเฟิงยู่และจินเหล่ยเห็นยั่วหลิงจะลอบสังหารถังหยิน พวกเขาก็พากันหวาดกลัวจนเข้ามาห้ามเอาไว้ “อย่าเสี่ยงเลย เดี๋ยวเขาก็ปล่อยเราไปแล้วนะ”
ยั่วหลิงส่ายหัวทันที “อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย ถ้ากองทัพพวกเราถอยออกไปแล้ว มันก็จะไม่มีใครช่วยพวกเราได้อีก และถ้าเราพลาดในวันนี้ มันก็จะพลาดตลอดกาลเลยนะ”
ทั้งสองคนไม่รู้จะพูดยังไงต่อจึงได้เงียบปากไป
จากนั้นก็เป็นนางที่พูดต่อ “ในเมื่อพวกเจ้าเกี่ยงกัน งั้นข้าทำเองก็ได้ หลีกทางไป !” หญิงสาวผลักพวกเขาออกไปแล้วมองไปยังทางเข้า ก่อนจะค่อย ๆ เดินตรงไปยังผ้าม่าน
เฟิงยู่และจินเหล่ยได้แต่ทำตามที่นางบอก พวกเขานั่งเงียบคอยฟังเสียงด้านนอก พร้อมกับใช้สายตาจ้องมองยั่วหลิงที่กำลังเดินเข้าไปหาเป้าหมายอย่างเงียบเชียบ
ยั่วหลิงถือเหยือกไว้ในมือแน่น เดินเข้าไปใกล้ถังหยินอย่างระมัดระวัง และด้วยความห้าวหาญที่นางมีตั้งแต่สมัยเรียนในสถาบันฝึกยุทธ์ มันก็ทำให้ถึงแม้ว่านางจะไม่มีพลังปราณก็สามารถสงบจิตเอาไว้ได้…
ถึงแม้ถังหยินจะเก่งกาจ แต่ถ้าโดนเหยือกสำริดฟาดเข้าไปที่ศีรษะตรง ๆ ก็คงยากที่จะรอด นี่คือความคิดภายในใจของหญิงสาว
ยั่วหลิงตั้งมั่นว่าจะจัดการถังหยินที่หลับอยู่แล้วกินยาเพื่อรวบรวมพลังปราณขึ้นมาใหม่ จากนั้นก็จะพาสหายของตนออกไปจากที่แห่งนี้
ไม่นานนักนางก็เข้าใกล้ถังหยินมากขึ้น และในจังหวะเดียวกันกับที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า นางก็ได้ยกเหยือกขึ้นเหนือหัว เล็งไปที่หัวของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
ถ้าหากไม่มีเกราะปราณ ยังไงอีกฝ่ายก็ไม่อาจต้านทานได้แน่ แต่ทว่าก่อนที่เหยือกจะถูกหัวของเขา ถังหยินก็พลันลืมตาขึ้นมาเสียก่อน “แม่นางหลิงทำไมยังไม่นอนอีก ? แล้วมาที่เตียงข้าทำไมกัน ?”
ยั่วหลิงตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก แต่ทว่าหญิงสาวก็พอจะยังมีสติอยู่บ้าง นางจึงรีบแก้ตัวทันทีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ข้ามาดูว่าท่านหลับหรือยังน่ะ”
ถังหยินประหลาดใจที่สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้ ทำให้เขารู้ตัวในทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาดีแน่ ๆ ก่อนจะตัดสินใจเล่นตามน้ำนางไปก่อน “แล้วถ้าข้ายังไม่นอนล่ะ ?”
ยั่วหลิงครุ่นคิดก่อนจะมองเหยือกในมือ “ถ้าท่านถังยังไม่นอน ข้าก็จะชวนท่านมาดื่มด้วยกันไง”
“เยี่ยมเลย ข้าเองก็อยากจะดื่มอยู่เหมือนกัน” เขารับเหยือกมาดื่มแล้วมอบมันคืนให้กับนาง “ตาเจ้าแล้ว”
เมื่อเห็นแบบนั้นหน้าของนางก็แดงขึ้นมา ด้วยแม้ว่าอยากจะปฏิเสธแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นหญิงสาวจึงได้แต่ต้องทำใจ แล้วรับเหยือกมา
เหล้าของแคว้นเฟิงนั้นแตกต่างจากเหล้าของแคว้นหนิงนัก ด้วยเหล้าหนิงเหมือนกับไวน์ขาวที่กินเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่เมา ในขณะที่เหล้าเฟิงนั้นเหมือนกับเหล้าขาวที่เข้มบาดคอ
ดังนั้นเมื่อยั่วหลิงดื่มเข้าไปอึกใหญ่ มันก็ทำให้ใบหน้าของนางแดงขึ้นในพลัน ก่อนจะเป็นถังหยินที่เข้าไปประคองนางเอาไว้แล้วกล่าว “เหล้าน่ะเอาไว้ลิ้มรส ไม่ได้เอาไว้ดื่ม การที่เจ้าดื่มแบบนั้นน่ะมันเสียของนะ”
ท้องของยั่วหลิงร้อนไปหมด แทบไม่มีสติฟังถังหยินพูดเลย และเมื่อถูกลูบหลังพร้อมกับประคองเอาไว้แบบนี้ มันก็ทำให้นางอับอายจนพานกลายเป็นความโกรธ หากทว่าหญิงสาวก็ไม่อาจต่อว่าเขาได้ จึงได้แต่พูดออกไปว่า “ท่านถัง ข้ารู้สึกแปลก ๆ ขอตัวไปก่อนได้หรือไม่ ?”
หญิงสาวรู้สึกว่าโลกหมุนในทันทีที่พยายามจะลุกขึ้น จนทำให้นางได้แต่นั่งลงไปบนเตียงอีกครั้ง
“เหล้านี่มัน…” นางมองถังหยินด้วยสายตามึนงง
รอยยิ้มของถังหยินปรากฏออกมา “นั่นคือเหล้าที่แรงที่สุดในเฟิง เหล้าขาว ดังนั้นการที่เจ้าดื่มไปแบบนั้นยังไงก็ต้องเมา” ว่าแล้วเขาก็ดันนางขึ้นไปบนเตียงเพื่อให้นอนพักก่อน
ยั่วหลิงเองก็ฉลาดพอตัว นางรู้ดีว่าถังหยินหมายถึงอะไร นางพยายามขัดขืนเขา “ท่านถัง ท่านเข้าใจผิดแล้ว”
“หา ?” ถังหยินดันนางลงไปบนเตียงแล้วเอามือไปวางบนเอวของร่างบาง ก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อของอีกฝ่ายออก “เจ้ามาดื่มกับข้าแบบนี้ยังจะมีความหมายอื่นอีกหรือ ?”
เมื่อเสื้อผ้าถูกปลดออก ยั่วหลิงในตอนนี้ก็เหลือแต่เพียงชุดชั้นในเท่านั้น
ในตอนแรกนั้นถังหยินกะแค่จะแกล้งนางเฉย ๆ แต่เมื่อเขาเห็นชั้นในสีชมพูน่ารักของอีกฝ่าย มันก็ทำให้ชายหนุ่มเกิดอารมณ์จนเผลอเอื้อมมือเข้าไปปลดมันออก
ยั่วหลิงเริ่มรู้ว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว และเมื่อเห็นดวงตาของเขา นางก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการจะข่มขืนตัวเองจริง ๆ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจตะโกนออกไปว่า “เฟิงยู่ จินเหล่ย ชุยหลิงช่วยข้าด้วย !”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฟิงยู่และจินเหล่ยก็วิ่งเข้ามาทันที และเมื่อเห็นถังหยินกำลังจับกดร่างของยั่วหลิงอยู่ พวกเขาก็ได้แต่ตกตะลึง
“หา ?”
ถังหยินหันไปมองทั้งสองคนนั้น ก่อนจะเอื้อมไปหยิบดาบขึ้นมาขว้างเข้าใส่เฟิงยู่จนปักทะลุอกของอีกฝ่าย ส่งให้ร่างของเขากระเด็นออกไปติดมุม
ชายผู้น่าสงสารตายทันที ร่างกายห้อยอยู่แบบนั้นก่อนจะร่วงลงบนพื้น เลือดไหลท่วม
จินเหล่ยหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับไปไหน ได้แต่คลานลงไปมาบนพื้นพร้อมกับกรีดร้องออกมา
พวกทหารเฟิงที่อยู่ข้างนอกพากันเข้ามาข้างในตามเสียงที่เกิดขึ้น และเมื่อเห็นทุกอย่าง พวกเขาก็พลันร้องถามออกไปว่า “นายท่านปลอดภัยหรือเปล่า ?”
“ออกไป !” ถังหยินหันมาตะโกน
พวกนายทหารทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าจะเห็นกองเลือดบนพื้นก็ตาม แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับออกไป “ไปกันเถอะ”
พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้านายของตัวเองอยู่แล้ว จึงได้แต่รีบกลับออกไปทันที
เฟิงยู่ถูกแทงตาย ส่วนจินเหล่ยก็กำลังนอนร้องอยู่บนพื้น เช่นเดียวกับชุยหลิงที่ร้องไห้ไม่หยุด เปิดโอกาสให้ถังหยินก้มมองเหยื่อที่อยู่ข้างใต้ร่าง “แม่นางหลิง มีแค่เราสองคนแล้วนะ”
“ปล่อยข้านะ!” ยั่วหลิงพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะนางไม่มีแม้แต่แรงจะสู้ถังหยินด้วยซ้ำ
แท้จริงแล้วถังหยินยังไม่ได้ออกแรงเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความแตกต่างทางกายภาพ มันก็เลยทำให้ผู้ชายมีความได้เปรียบกว่าผู้หญิงในเรื่องนี้ !