ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 256
บทที่ 256
ถังหยินไม่ได้แสดงความโกรธออกมา เขาเพียงพูดอย่างจริงจัง “ตำแหน่งผู้ตรวจการมีมาตั้งแต่ยุคสมัยท่านอ๋ององค์ก่อนแล้ว แต่มันจะมาจากปากของเจ้าไม่ได้ !”
ตำแหน่งผู้ตรวจการเป็นเพียงของของกลวงเปล่า แต่ทว่าก็ไม่มีใครกล้าเถียงกันอย่างเปิดเผย ด้วยพวกเขากลัวว่าจะเป็นการดูหมิ่น “ข้าหรือ ? แน่นอนว่าข้าไม่ได้คิดจะดูหมิ่นท่านอ๋อง ข้าแค่คิดว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้…”
ถังหยินกล่าว “ในเมื่อมันถูกตั้งโดยท่านอ๋อง งั้นแล้วมันก็ย่อมต้องยังคงมีผลอยู่ ส่วนเหตุผลที่ข้าให้ท่านยู่อยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจการ ก็เพื่อให้เขาคอยดูแลเรื่องเสบียงของเราไม่ให้ขาดช่วง”
ภายใต้คำพูดนั่น มันก็ทำให้ผู้ว่าเขตคนอื่น ๆ ไม่กล้าเถียงต่อ ส่วนทางอีกฝ่ายเองก็ได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ ออกมา ก่อนจะเป็นถังหยินที่กล่าวต่อ “ถ้างั้นแล้วเจ้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ข้าพูดมาหรือไม่ ?”
เขาได้โต้เถียงไปแล้ว แต่ถ้าอีกฝ่ายยืนคงกราน ก็คงทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่….
หลังจากที่เงียบกันไปสักพัก ถังหยินก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น “เงียบกันงั้นหรือ ?”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินมาที่โต๊ะ “การต่อสู้กับเจ้าทรราชซ่งเทียนมันเริ่มไปนานแล้ว และเจ้ายังต้องรออะไรอีก ?”
“อย่างน้อย ท่านก็ควรจะรอหน่อยเถอะ” ผู้ว่าเขตผู้หนึ่งได้ลุกขึ้นออกตัวปกป้องยู่เต๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถังหยินหัวเราะออกมาแล้วมองไปรอบ ๆ “มีใครไม่ยอมรับการตัดสินใจของข้าบ้างกัน ? เห็นไหม.. ก็ไม่มี มีแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้นแหละที่ไม่เห็นด้วย หรือว่าเจ้าจะเป็นสายลับของซ่งเทียนกัน ?”
คำพูดนี้นับได้ว่าร้ายแรงทีเดียว และในฐานะของผู้ว่าเขต มีหรือที่จะเขาจะทนได้ “ท่านถังไม่ควรจะพูดกล่าวหากันเช่นนี้นะ”
“หึ ใครกันแน่ที่โกหก ข้าว่าเจ้าเนี่ยแหละคือสายลับที่ภักดีต่อซ่งเทียน” ถังหยินยังคงยิ้มอยู่ ก่อนจะเข้าไปคว้าจับหัวของอีกฝ่ายกระแทกโต๊ะ แล้วจึงใช้อีกมือหนึ่งคว้าดาบขึ้นมาใช้มันแทงทะลุหูซ้ายออกไปทางขวาจนเลือดไหลกระจายไปทั่ว !!!
การที่ถังหยินเพิ่งจัดการผู้ว่าเขตไปเช่นนี้ ทำให้ทุกคนตะลึงและกรีดร้องออกมา พร้อมกับพากันถอยกลับไป
ชายหนุ่มดึงดาบออกมาแล้วมองไปรอบ ๆ “อย่าคิดมากเลย ใครก็ตามที่เป็นสายลับจะต้องโดนแบบนี้ทั้งนั้นแหละ”
มีเพียงหยวนจี้เท่านั้นที่ยังคงสติได้อยู่ ด้วยเขาเคยเห็นแบบนี้มาก่อน ! ทว่าการที่ถังหยินกล้าทำแบบนี้ มันก็ทำให้ทุกคนไม่กล้ามองหน้า พากันก้มหัวหลบสายตาลงทันที
จากนั้นไม่นานพวกทหารด้านนอกก็พลันกรูกันเข้ามา ซึ่งพวกเขาก็ล้วนแต่เป็นคนของถังหยินทั้งนั้น “เกิดอะไรขึ้นหรือนายท่าน ?”
ถังหยินโบกมือ “ข้าแค่เจอสายลับเท่านั้น แต่ไม่เป็นไร มันตายแล้ว เพราะงั้นจงลากศพมันออกไปเสีย”
พวกทหารรับคำสั่ง พากันดึงซากของผู้ว่าคนนั้นออกไปเยี่ยงสุนัขตัวหนึ่ง
หลังจากที่พวกเขาดึงศพออกไปแล้ว ถังหยินก็หยิบไหเหล้าออกมา ก่อนราดมันลงไปบนคมดาบ แล้วจึงก้มหน้าก้มตากินเนื้อแกะย่างต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ข้าเห็นด้วยกับท่านถัง” ครั้งนี้พวกขุนนางฝั่งยู่เต๋าพากันเห็นด้วยในทันทีกับสิ่งที่ถังหยินพูด ด้วยพวกเขากลัวว่าจะโดนฆ่าทิ้ง
ถังหยินพยักหน้าให้ ก่อนหันมองเซ่าฮุย “แล้วท่านเซ่าล่ะ ?”
เซ่าฮุยที่ดึงสติกลับมาได้ก็ก้มหัวให้กับชายหนุ่มในทันที “ข้าเห็นด้วยกับท่านถัง”
“เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก ในเมื่อทุกท่านเห็นด้วย งั้นแล้วข้าก็จะทำการย้ายท่านยู่ให้มาเป็นผู้ตรวจการ 3 มณฑล ส่วนตำแหน่งผู้ว่ามณฑลที่ว่างลงก็ให้แทนด้วยหยวนจี้” ว่าแล้วชายหนุ่มก็พลันมองไปยังหยวนจี้ “ข้าหวังว่าท่านหยวนจี้จะทำได้ดีเหมือนเมื่อก่อนนะ”
หยวนจี้หัวเราะแห้ง ๆ ด้วยเขารู้ดีว่าเมื่อถังหยินไล่ยู่เต๋าออกไปแล้ว ปัญหาที่ถูกทิ้งไว้ก็จะกลายเป็นภาระหน้าที่ของตัวเองไปโดยปริยาย ถังหยินก็แค่โยนขี้มาให้เขาเท่านั้น “ข้าน้อยจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
เซ่าฮุยมองชายหนุ่มแล้วส่ายหัวเบา ๆ ในเมื่อถังหยินไล่ยู่เต๋าออกไปเช่นนี้ งั้นมันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องดำเนินการบางอย่าง “ท่านถัง ข้าเกรงว่าท่านยู่จะทำงานหนักเกินไป ให้ข้าไปช่วยเขาดีหรือไม่ ?”
ถังหยินพูดขัดคอทันที “ท่านเซ่าก็มีตำแหน่งในมณฑลกวนหนานแล้วนี่นา มันสำคัญมากเชียวนะ ดังนั้นข้าจะไม่ให้ใครอื่นนอกจากท่านแล้วล่ะ”
ยู๋เต๋ากับเซ่าฮุยยอมสวามิภักดิ์ต่อถังหยินแล้ว แต่ก็มีความแตกต่างกันมากทีเดียว และเมื่อเซ่าฮุยได้รับคำเยินยอแบบนั้น เขาก็รีบก้มหัวให้ “เป็นพระคุณอย่างยิ่งขอรับนายท่าน”
ถังหยินพยักหน้าให้
หลังจากจัดการปัญหาของเซ่าฮุยได้แล้ว ขุนนางทั้งสามของกวนหนานก็พากันถอนหายใจอยากโล่งอก ด้วยในเมื่อตำแหน่งของเซ่าฮุยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง งั้นแล้วตำแหน่งของพวกเขาเองก็คงเช่นเดียวกัน
ในขณะนี้ยู่เต๋ากับคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าอึดอัดใจมาก ด้วยรู้สึกไม่พอใจในการตัดสินใจนี้ หากแต่ในหมู่พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยมันออกมา เพราะกลัวว่าจะต้องตายเช่นคนก่อนหน้า
ถังหยินหันไปบอกเซ่าฮุย “ท่านเซ่า ท่านหยวนจี้นั้นมีวิธีบริหารจัดการที่น่าสนใจไม่น้อย ท่านน่าจะไปเรียนรู้จากเขานะ”
เซ่าฮุยเป็นคนฉลาด เขาเข้าใจในทันทีว่าถังหยินหมายถึงอะไร จึงรีบตอบรับในทันที “แน่นอนขอรับ !” เซ่าฮุยกล่าวแล้วมองไปยังหยวนจี้
“ข้าหวังว่าจะได้เรียนรู้จากท่านหยวนจี้นะขอรับ”
“ท่านเซ่าก็พูดเกินไปขอรับ” หยวนจี้ลุกขึ้นพูดกับอีกฝ่าย
หลังงานเลี้ยงนั่น ถังหยินก็ได้ปลดยู่เต๋าออกจากตำแหน่งเดิม ก่อนจะมอบตำแหน่งที่มีอำนาจน้อยกว่าให้ แล้วจึงยกหยวนจี้ขึ้นมารับตำแหน่งนั่นที่ว่างลง
ทว่าชายหนุ่มก็ยังพอมีเมตตา ด้วยเขาให้เวลายู่เต๋าในการเก็บกวาดสถานที่เป็นเวลาครึ่งวัน เพื่อส่งมอบมันให้กับคนที่มารับตำแหน่งต่อไป
การตัดสินใจของถังหยินทำให้ยู่เต๋าไม่ทันได้เตรียมใจอะไรทั้งนั้น และเมื่อเขาถูกไล่ออกจากจวนผู้ว่าด้วยการใช้กำลังบังคับ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาก็ตกเป็นของกองทัพไปในทันที
ในเวลานี้ยู่เต๋าทั้งเจ็บแค้นทั้งอับอายจนเกลียดถังหยินเข้าไส้ พร้อมกับเริ่มคิดว่าตัวเองเลือกข้างผิดเสียแล้ว
หลังจากที่ไล่ยู่เต๋าออกไป ถังหยินก็พูดเข้าประเด็นกับหยวนจี้ในทันที “หยวนจี้ ในอนาคตเจ้าจะต้องคุมทั้ง 3 มณฑลให้ข้า !”