ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 264
บทที่ 264
บทที่ 264
ถังหยินเดินเข้าไปใกล้ชัวน่าแล้วดึงนางเข้ามา “เจ้าไปดูแลฟิลิปซะ ข้าจะจัดการทางนี้เอง” เขาพูดอย่างเรียบเฉยราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นแค่ขยะที่รอกำจัด
ชัวน่าเป็นถึงองค์หญิง แต่ในมุมมองของถังหยิน รัศมีความเป็นผู้นำของนางหายไปหมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะทันทีที่สิ้นเสียง ชัวน่าก็พลันทำตามคำสั่งแต่โดยดี
หัวหน้าโจรโกรธมากและตะโกน “ช่างเป็นทาสที่บ้าเสียจริง อยากรนหาที่ตายเองสินะ !” จากนั้นเขาก็ชักดาบปราณออกมาฟันเข้าใส่ถังหยิน
ชายหนุ่มหมุนตัวหลบอย่างง่ายดาย แล้วจึงเข้าไปยังด้านข้างลำตัวของหัวหน้าโจร ก่อนใช้หมัดต่อยเข้าไปที่ลำตัวของอีกฝ่ายที่ไร้การป้องกันใด
หัวหน้าโจรตะลึง “ร…ระ…เร็วยิ่ง !”
ด้วยการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพียงครั้งเดียว เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ทาสธรรมดา และไม่อาจประมาทได้อีก จึงทำการก้มตัวหลบการโจมตีนี้ไปพร้อม ๆ กับสอดส่ายสายตามองไปทั่ว
หากแต่ถังหยินกลับไม่ยินยอม เขาใช้โอกาสนั้นกระโดดขึ้นไปแล้วจับไปที่เอวอีกฝ่ายก่อนออกแรงเหวี่ยงร่างกำยำนั่นขึ้นไป
“อ๊าก !” หัวหน้าโจรร้องออกมาอย่างตกใจด้วยไม่รู้จักท่าที่แปลกประหลาดนี้มาก่อน และก่อนที่เขาจะทันได้ลงบนพื้น ถังหยินก็พลันเข้ามาใกล้ แล้วจึงใช้สองมือทุบลงไปที่หน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างแรง !
ร่างของหัวหน้าโจรกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ทำให้มึนงงไปหมดแถมหน้าท้องก็เจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อเขาพยายามลุกขึ้นมา ก็เป็นถังหยินที่เข้าคว้าจับคอเหวี่ยงขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง
“เจ้าเป็นใครกัน ?” หัวหน้าโจรแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
“ถังหยิน !” ชายหนุ่มบอกกล่าว พร้อมกับเรียกไฟสีดำขึ้นมาบนฝ่ามือ ซึ่งเปลวไฟนี่มันก็ทำการเผาไหม้อีกฝ่ายจนขาดใจตายภายในชั่วพริบตา …จนไม่มีร่องรอยใดเหลือไว้อีก
ชายหนุ่มยิ้มเย้ยหยัน แล้วจึงดูดกลืนพลังปราณของอีกฝ่ายให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับตน
ทุกคนโดยรอบเห็นภาพนี้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทำให้พวกเขาพากันตะลึง โดยเฉพาะกับพวกโจรที่เห็นหัวหน้าของพวกเขาถูกฆ่าไปในแทบจะทันที ก่อนที่พวกเฟิงที่อยู่รอบ ๆ จะเข้ามาถามชายหนุ่ม “ให้พวกเราเคลื่อนไหวเลยหรือไม่นายท่าน ?”
“ทำตามใจได้เลย”
“ขอรับ !” สามพี่น้องรับคำพร้อมกัน ก่อนที่พวกเขาจะพุ่งเข้าหาพวกโจรอย่างไม่รอช้า !!
หยวนยู่เป็นคนที่เร็วที่สุด เขาพุ่งเข้าไปหาจ้านหูเพื่อที่จะลองพลังของอีกฝ่าย แต่ยังไม่ทันไร ก็เป็นถังหยินที่ร้องเรียกหาเขาเสียก่อน “หยวนยู่ ! ส่งเจ้าหมอนั่นมาให้ข้า !”
ชายเลือดร้อนไม่อยากจะทำตามมากเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่ง เขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จึงได้แต่ยักไหล่แล้วหลีกทางให้กับผู้เป็นนายของตน
ทางด้านของถังหยิน เขาก็ไม่รอช้า รีบพุ่งเข้าไปหาจ้านหูในทันที พร้อม ๆ ไปกับทำการปลดปล่อยหมอกสีดำออกมา จนมันกลั่นตัวกลายเป็นเกราะปราณสีดำ
ลูคัสและสหายของเขากำลังสู้กับจ้านหูอย่างดุเดือด และเมื่อเห็นถังหยินเข้ามาช่วย พวกเขาก็ได้ทำการถอยออกมาบอกกล่าวบางอย่างกับชายหนุ่ม “เจ้านี่มันแกร่งมาก ระวังตัวด้วย”
ถังหยินตบบ่าอีกฝ่าย “พวกเจ้าไปพักเถอะ” จากนั้นเขาก็รวมดาบให้กลายเป็นเคียวแล้วพุ่งเข้าหาจ้านหู !!
ถังหยินเองก็ไม่ได้เตี้ยสักเท่าไหร่ แต่เมื่อยืนเทียบกับอีกฝ่ายแล้ว เขาก็อยู่เพียงระดับหน้าอกเท่านั้นเอง และด้วยจ้านหูสูงกว่าชายหนุ่มมากนี่เอง ที่ทำให้ถังหยินจำต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อพูดคุยกับอีกฝ่าย “เจ้าชื่อจ้านหูสินะ ?”
“เจ้าตัวเล็ก” ชายร่างหมีก้มมองถังหยิน
“หัวหน้าเจ้าตายไปแล้ว เจ้าอยากมีชีวิตรอดไหมต่อไปหรื.. ?”
ก่อนจะทันได้พูดจบ จ้านหูก็พลันเหวี่ยงค้อนของเขาเข้าใส่ถังหยิน ด้วยหมายจะเปลี่ยนชายหนุ่มให้กลายเป็นเนื้อบด
วูบ !
เสียงค้อนแหวกอากาศทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกคันคะเยอในใจ
หมอนี่มันอะไรกัน ? ทำไมถึงทำแบบนี้ ? ถังหยินสบถด่าอีกฝ่ายในใจที่ทำการโจมตีกะทันหันเช่นนี้ ทว่าถ้าจะพูดไปแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกันนักหรอก
จ้านหูต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกับถังหยินที่รับมือทุกการโจมตีที่เข้ามาอย่างระมัดระวัง เขาทำการคำนวณแรงทั้งหมดแล้วใช้อาวุธของตัวเองรับการโจมตีเอาไว้ จนทำให้แรงกระแทกที่สะท้อนกลับมาน้อยจนน่าตกใจ
เคร้ง !
ค้อนยักษ์ของจ้านหูทรงพลังมากจนถึงขนาดที่ทำให้ถังหยินถอยกลับไป 2 ก้าวได้ !!
ชายหนุ่มแอบตะลึงไม่น้อยเมื่อมันกลายเป็นแบบนี้ ก่อนที่ไม่นานเขาจะเข้าใจ ว่าทำไมฟิลิปถึงได้กระเด็นลอยออกไปไกลแบบนั้น
ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ถังหยิน เพราะจ้านหูเองก็ไม่ต่างกัน ด้วยในตอนนี้เขาก็ประหลาดใจที่เพื่อนตัวเล็กตรงหน้ายังสามารถต้านทานได้อยู่ !
…นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนแบบนี้
ถังหยินตั้งสติ ก่อนจะรวบรวมพลังแล้วกระโดดขึ้นสูงพลางใช้เคียวฟันลงมาอย่างเต็มแรง จนทำให้เกิดเสียงน่ากลัวของใบมีดที่กำลังตัดผ่านอากาศ
ชายร่างหมีไม่กลัวสิ่งใดทั้งนั้น เขายกค้อนขึ้นป้องกันเคียวที่ถูกเหวี่ยงมาจนเกิดเสียงดังสนั่นราวกับภูเขาสองลูกปะทะกัน
หลังจากปะทะกัน 2 รอบ ถังหยินก็มั่นใจในกำลังของศัตรูแล้วว่าแข็งแกร่งกว่าตนหลายเท่า ชนิดที่ว่าต่อให้เขารวมพลังทั้งกายแล้วก็ยังไม่อาจโค่นอีกฝ่ายลงได้ และถ้าหากชายคนนี้อยู่ในสมรภูมิ อีกฝ่ายก็จะเป็นดั่งอาวุธสงครามที่มีชีวิตอย่างแน่นอน !
เมื่อคิดแบบนี้ สายตาที่ถังหยินมองก็พลันเปลี่ยนไป มันกลายเป็นแววตายินดี ที่ราวกับว่าชายหนุ่มได้เจอกับเหยื่อที่น่ากินเข้าให้แล้ว
จ้านหูถือค้อนยักษ์พุ่งเข้าใส่ถังหยิน แล้วจึงใช้อีกมือหนึ่งดันค้อนเข้ากระแทกหน้าของชายหนุ่ม หากแต่ชายหนุ่มก็เร็วยิ่ง สามารถหลบมันได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะใช้กำปั่นกระแทกเข้าใส่ข้อศอกของจ้านหู
ชายร่างหมีไม่เคยเจออะไรแบบบนี้มาก่อน เขาถอยหลังด้วยความตกใจ ทำให้ถังหยินฉวยเอาจังหวะนั้นเข้าเหยียบเท้าซ้ายเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายเริ่มเสียการทรงตัว
และเมื่อมีจังหวะดีงามเช่นนี้ มีหรือที่ถังหยินจะปล่อยไป ? เขารีบใช้วิชาสับเปลี่ยนเงาไปอยู่ข้างหลังแล้วกระแทกเข้าไปที่ด้านหลังของอีกฝ่ายทันที !
หมัดของชายหนุ่มเร็วมากจนไม่มีใครหลบได้ บวกกับแรงโน้มถ่วงที่ทำให้ชายร่างหมีล้มลง มันก็ทำให้หมัดเล็ก ๆ นั่นกลายเป็นดั่งค้อนใหญ่ยักษ์ที่กระแทกเข้าไปเสียเต็มแรง !
ตู้ม !
แรงปะทะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงจนถังหยินต้องถอยกลับมาหลายก้าว ซึ่งมันก็ทำให้เขาตะลึงไม่น้อย ด้วยต้องเข้าใจว่าพลังของหมัดไม่ใช่แค่กำลังกาย แต่รวมไปถึงระยะด้วยที่ทำให้มันรุนแรงมากขึ้นไปอีก
แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับเพียงรับมันเข้าไปเต็ม ๆ โดยไม่หลบเลี่ยงหรือทำการอื่นได้….
และด้วยการโจมตีในครั้งนี้ มันก็ทำให้ถังหยินเข้าใจในตัวของจ้านหูมากขึ้น ว่าแท้ที่จริงแล้วอีกฝ่ายนั้นน่ากลัวเพียงใด !!