ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 265
บทที่ 265
บทที่ 265
ถังหยินและจ้านหูต่อสู้กันอย่างดุเดือดโดยไม่มีใครยอมใคร ชายร่างหมีกระแทกค้อนจนเกิดรูใหญ่บนพื้น ทำให้ต้นไม้โดยรอบหักโค่น ส่วนการเคลื่อนไหวของถังหยินเองก็ไร้หลักการพอกัน ด้วยเขาสามารถไปได้ทุกที่โดยไม่อาจคาดเดาและเข้าโจมตีจ้านหูจากทุกทิศทาง
จ้านหูคือคนที่กำลังได้เปรียบ ส่วนถังหยินเองก็ไม่ได้เสียเปรียบแต่อย่างใด
นี่เป็นการต่อสู้ที่หาได้ยากมาก ถังหยินเองก็ตื่นเต้นที่ได้สู้กับเขาโดยไม่พักเลย และเมื่อเวลาผ่านไปนานมาก มันก็ยังไม่ได้ผู้ชนะ ทว่าในครั้งนี้ จ้านหูก็ดูจะเริ่มหมดแรงลงแล้ว
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังหมดแรง ถังหยินก็หัวเราะแล้วใช้ดาบฟันไปที่เอวของจ้านหู ทำให้อีกฝ่ายต้องใช้ค้อนมาป้องกันเอาไว้ แต่ทว่านั่นไม่ใช่เป้าหมายหลักของถังหยิน ชายหนุ่มเพียงแค่ทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก่อนจะเตะเข้าไปที่หัวเข่าของศัตรู !
พลังของถังหยินอยู่ในระดับที่สูงมาก ไม่ว่าเขาจะเตะที่ไหนก็อันตรายแบบสุด ๆ ดังนั้นจ้านหูจึงได้แต่สูดหายใจเข้าลึก แต่ก็ไม่อาจหลบได้พ้น
จ้านหูตะลึงที่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เตะเข้ามาที่หน้าอก เขาตะลึงกับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายมากก่อนออกหมัดสวนกลับไป ทว่าถังหยินก็รวดเร็วยิ่ง ทำการย่อตัวหลบลงข้างล่างแล้วใช้หมัดต่อยเข้าไปที่ใต้ลำตัว
เสียงของเกราะปราณแตกดังก้อง ทำให้ร่างอันใหญ่โตของจ้านหูลอยกระเด็นออกไป เช่นเดียวกับถังหยินที่ไล่ตามแล้วกลิ้งไปกับเขา
มันไม่ง่ายเลยที่จะทรงตัวได้อยู่ และเมื่อเห็นว่าถังหยินกำลังอยู่เหนือตัวเอง จ้านหูก็พลันคำรามออกมาเพื่อไล่ถังหยินออกไป ทว่ามันก็ไมได้ผลแต่อย่างใด
ชายหนุ่มเอาหัวของตัวเองกระแทกกับใบหน้าของอีกฝ่ายจนเกราะแตกกระจาย ทำให้จ้านหูกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ถังหยินจะต่อยเข้าไปที่คางของอีกฝ่าย โดยไม่เปิดให้ชายร่างใหญ่ได้พักหายใจ
ถ้าหากไม่มีเครื่องป้องกันใด ๆ ป่านนี้คางของจ้านหูน่าจะแตกไปแล้ว ทว่าถังหยินเองก็มีความเมตตา และลดกำลังของตัวเองลงเพื่อทำให้อีกฝ่ายสลบไปก็เท่านั้น
เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะสิ้นสติ ถังหยินก็เหยียบร่างของจ้านหูแล้วบอกพวกลูคัส “ลูคัส เอายาสลายปราณมาให้ข้า !”
ลูคัสรีบวิ่งเข้ามาแล้วเอายาเม็ดออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะจับมันกรอกเข้าไปในปากของชายร่างหมี และเมื่อเห็นว่าเรื่องตรงนี้จบแล้ว ถังหยินก็พลันหันมองไปรอบ ๆ จนเห็นเข้ากับพวกโจรที่ถูกจัดการไปกว่า 400 คนแล้วด้วยพลังของสามพี่น้องฉางกวง
การจัดการคนพวกนี้ไม่ต่างอะไรจากการเล่นในสวนของหยวนยู่เลย เขาไม่ต้องใช้พลังปราณด้วยซ้ำก็สามารถจัดการพวกโจรกระจอกได้ทั้งหมด และยิ่งหัวหน้าของพวกมันตายไปแล้วแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เป็นเรื่องง่ายเลยที่จะจัดการ !
พวกเขาวางแผนไว้ว่าจะเดินทางไปยังเมืองดูกีอย่างเรียบง่าย แต่กลับมาเจออะไรแบบนี้เสียก่อน ดังนั้นหน่วยลับของถังหยินก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีก รีบใช้วิชาสับเปลี่ยนเงาไปมาทั่วป่าเพื่อคอยจัดการพวกโจรที่กำลังหนีตายไม่ให้หลุดรอดออกไป
นี่ไม่เรียกการต่อสู้ แต่มันคือการสังหารหมู่ เกิดเสียงกรีดร้องให้ได้ยินตลอดเวลาจนกระทั่งเงียบหายไปเมื่อเวลาผ่านไป
ไม่นานนักเฉิงจินก็กลับมาพร้อมกับดาบในมือที่มีเลือดไหลหยดออกมา
เขาเดินมาด้านหน้าถังหยินแล้วกล่าว “นายท่าน ไม่มีใครรอดชีวิตแล้วขอรับ”
ถังหยินพยักหน้าให้
ทว่าถึงเรื่องจะจบแล้ว หากแต่เฉิงจินก็ยังไม่ปลดเกราะและกำลังรอคำสั่งต่อไปอยู่
จากนั้นก็เป็นรองหัวหน้าพ่อค้าที่วิ่งเข้ามาชายหนุ่มแล้วก้มหัวให้ “ขอบพระคุณท่านมากจริง ๆ ถ้าไม่ได้ท่านพวกเราคงตายกันหมดแล้ว !”
ถังหยินกลอกตา “ไม่ต้องหรอก ข้าก็แค่ทำไปตามที่ข้าเห็นว่าถูกต้องก็เท่านั้น” ว่าแล้วเขาก็ชักดาบออกมาแทงเข้าไปที่ลำคอของรองหัวหน้าคาราวานนั่น !
ไม่มีใครคาดถึงการโจมตีนี้ แม้แต่ชัวน่าเองก็เช่นกัน
รองหัวหน้าพ่อค้าอ้าปากกว้างยังไม่ทันได้กรีดร้องก็ล้มลงขาดใจตาย
ถังหยินมองเฉิงจินแล้วกล่าว “ข้าบอกให้เจ้าจัดการทุกคน ไม่เข้าใจหรือ ?”
เฉิงจินตัวสั่น เขานึกว่าถังหยินสั่งให้ฆ่าแค่พวกโจรเท่านั้น ไม่คิดว่าจะหมายถึงให้จัดการพวกพ่อค้าด้วย “จัดการ ! ฆ่าพวกมันให้หมด !”
คำสั่งของเฉิงจินเป็นเหมือนกับคราซวยของพวกพ่อค้าคาราวาน ด้วยแม้ว่าพวกโจรจะน่ากลัว แต่พวกเขาก็ยังโต้ตอบได้ แต่กับพวกหน่วยลับแล้วไม่มีทางเลย !
พวกหน่วยศรทมิฬไร้ซึ่งปราณี เข้าจัดการพวกพ่อค้าอย่างตรงไปตรงมา ทำให้พวกเขาดูไม่ต่างอะไรจากเครื่องจักรสังหารที่รอคำสั่งจากเจ้านายให้ทำอะไรอย่างไม่มีหัวคิดตลอดเวลา
ซึ่งเรื่องนี้มันก็เป็นปกติของคนที่ใช้ศาสตร์มืด ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นคนโหดร้ายและเลือดเย็นแบบนี้เสมอ และยิ่งพวกเขาอยู่กับถังหยินนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งแสดงด้านที่น่ากลัวและโหดร้ายออกมามากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเห็นแบบนั้นชัวน่าก็ทนไม่ไหวจนต้องเดินไปหาถังหยิน “ทำไม เจ้าถึงทำแบบนี้กัน ?”
ถังหยินมองแต่ก็ไม่คิดอยากอธิบายอะไรให้มากความ ทว่าเขาก็ทนสายตาสงสัยของนางไม่ไหว “พวกเขารู้แล้วว่าข้าคือชาวเฟิง และถ้าเกิดพวกพ่อค้าเดินทางไปดูกีเมื่อไหร่ ข่าวของข้าต้องกระจายออกไปแน่ ซึ่งแบบนี้มันก็จะทำให้การเดินทางของเราล้มเหลวลงในทันที”
อย่างนี้นี่เอง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เข้าใจได้ทันที และหลังถังหยินพูดจบ พวกเขาก็พากันเงียบปากกันไปในพลัน
ลูคัสพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ “เพื่อการปกปิดตัวตน พวกเราคงทำได้แค่นี้แหละ”
ชัวน่าขมวดคิ้ว “แต่เจ้าก็ยังถูกระบุตัวตนได้จากชาวดูกีไม่ใช่หรือ ? แบบนี้คือเจ้าคิดจะฆ่าพวกเขาได้หมดทุกคนหรือไง ?”
ถังหยินหัวเราะ “เมื่อข้าไปถึงดูกี จะมีคนรู้หรือว่าข้าเป็นคนเฟิงหรือคนหนิง ?”
ชัวน่าครุ่นคิดอีกครั้ง ก่อนที่นางจะรู้สึกว่าถังหยินพูดถูก
ระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน พวกหน่วยลับก็จัดการงานของพวกเขาเสร็จสิ้น ทำให้รอบ ๆ โอเอซิสในตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพของพวกโจรและศพพ่อค้า
“ไม่มีใครรอดชีวิตแล้วขอรับ” เฉิงจินเดินเข้ามาบอกกับเจ้านายตัวเอง
ถังหยินพยักหน้าให้ “เยี่ยมมาก”
ได้ยินคำชมจากเจ้านาย เฉิงจินก็พลันเก็บดาบของเขาไปแล้วปลดเกราะออก “แล้วจะทำยังไงกับศพพวกนี้ ?”
ถังหยินมองขึ้นฟ้า “พวกเรามีเวลาไม่มากนัก จัดการตามใจชอบได้เลย”
“น้อมรับบัญชา”
“เอาศพพวกเขาขึ้นมาจากน้ำแล้วเอาไปวางไว้ในป่า !”
เฉิงจินไม่อยากให้น้ำบริสุทธิ์กลายเป็นน้ำเน่า ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้คนย้ายศพขึ้นมา และที่เขาจัดการเรื่องนี้ มันก็เป็นเพราะว่าเห็นแก่ตัวเองเท่านั้นมิใช่เพื่อผู้อื่นแต่อย่างใด