ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 287
บทที่ 287
บทที่ 287
เมื่อถังหยินตื่นขึ้น เขาก็พบว่าเป็นเวลากลางวันแล้ว แต่เมื่อชายหนุ่มลืมตาออกกว้าง เขาก็พลันพบว่าภาพตรงหน้านั้นมัวและไม่ชัดเจนเลย จึงได้ยกมือขึ้นมาสัมผัสกับดวงตาของตัวเอง
ทันใดนั้นก็มีเสียงคนหนึ่งดังออกมา “เจ้าฟื้นแล้ว !”
เสียงที่พูดเป็นภาษามอร์ฟีส ดังนั้นถังหยินจึงเดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนพูด “ชัวน่า ?”
ตั้งแต่ที่ถังหยินหลับไป ชัวน่าก็อยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลาคอยปกป้องเขา และเมื่อชายหนุ่มตื่นขึ้น นางก็ดีใจเป็นอย่างมาก “เจ้าสลบไปนานมากเลยนะ”
“ท่านมีน้ำไหม ?” ถังหยินถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“มีสิ !” ชัวน่าร้อนรน รีบหยิบโถน้ำมาให้กับเขา และเมื่อชายหนุ่มดื่มเสร็จ เขาก็พลันถอนหายใจออกมา
“เกิดอะไรขึ้นกับตาของข้า ?” ถังหยินถาม
ชัวน่าสูดหายใจ “หมอบอกว่าตาของเจ้าได้รับความเสียหายจากควัน และต้องใช้เวลา 2-3 วันในการรักษา”
มุมปากของถังหยินบิดเบี้ยว “มันก็ไม่น่าจะนานขนาดนั้นนะ” ก่อนที่เขาจะแกะผ้าขาวบางที่พันรอบดวงตาออก ทำให้แสงส่องเข้ามาในดวงตา ซึ่งชายหนุ่มก็จำต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นชินกับมัน
ชัวน่าจับแขนเขา “ทำไมถึงเอามันออกกัน ? เจ้ายังไม่หายดีนะ”
“เรียบร้อยแล้ว” ถังหยินลืมตาขึ้นแล้วมองชัวน่าที่นอนอยู่บนเตียงของเขา ก่อนหัวใจของชายหนุ่มจะเต้นรัวจนเผลอเข้าคว้าจับมือของนาง “ดวงตาของข้าเอง ข้าจะไม่รู้ได้ยังไง ?”
ถังหยินในตอนนี้ดูไม่เหมือนคนเจ็บเลย ดังนั้นชัวจึงใจเย็นลงมาบ้างเล็กน้อย ก่อนที่นางจะสบตาชายตรงสักพักแล้วหัวเราะออกมา ด้วยมาตอนนี้รอบ ๆ ดวงตาของถังหยินเต็มไปด้วยสมุนไพรของเย่เหล่ย ทำให้ตาของเขาดำเมี่ยมราวกับหมีแพนด้า
ชายหนุ่มดูจะงุนงงเล็กน้อยกับท่าทีของนาง เลยถามออกไปว่า “มีอะไรหรือ ?”
“ไม่มีหรอก” ชัวน่าหุบยิ้มในทันที ก่อนจะหยิบกระจกมามอบให้ถังหยินมองหน้าของตัวเอง “ข้าจะไปเอาน้ำมาให้นะ”
ทว่าก่อนที่นางจะลุกขึ้น ก็เป็นถังหยินที่คว้าจับแขนนางไว้ราวกับนึกอะไรออก
ชัวน่ารู้ดีว่าอีกฝ่ายจะถามอะไร นางจึงตอบกลับไปในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ชายหนุ่มถามออกมา “พวกเรายึดเมืองจี๋ได้แล้ว ไม่มีใครหนีรอดไปได้สักคน พวกเขาถูกจับจนหมด”
ถังหยินหัวเราะออกมา แล้วจึงเอ่ยถาม “ท่านอยู่ที่นี่ตลอดเวลาเลยหรือ ?”
“ใช่แล้ว ก็เจ้าบาดเจ็บนี่ จะให้ข้าทำยังไงล่ะ” นางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หัวใจของถังหยินเต้นอีกครั้ง จนเขาจับข้อมือชัวน่าแน่นขึ้น …ตั้งแต่เด็กแล้ว ที่ไม่เคยมีใครมาดูแลดีขนาดนี้มาก่อน และในสมรภูมิที่มีแต่การฆ่าฟันตลอดเวลาแบบนี้ การที่มีชัวน่าอยู่ข้างกายเขามันก็ทำให้ถังหยินรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าชัวน่ากำลังเจ็บ เขาก็รีบปล่อยมือ
“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก !” ชัวน่ายิ้มออกมาแล้วลูบข้อมือตัวเอง
ไม่นานนักทหารก็นำน้ำมา ทำให้ถังหยินได้ล้างหน้าเพื่อเอาคราบยาออกเสียที ก่อนเป็นเย่เหล่ยที่เข้ามาถึงและเห็นถังหยินที่ถอดผ้าคาดตาออก “ตาเจ้า ?”
ถังหยินรีบยิ้มตอบกลับไปทันที “ข้าหายดีแล้ว ยาของเจ้าได้ผลดีมากเลย” ยาของเย่เหล่ยไม่เลวก็จริง แต่หลัก ๆ แล้วตาของถังหยินหายได้รวดเร็วเพราะพลังปราณมืดมากกว่า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถังหยินได้รับบาดเจ็บ และเขาเองก็รู้ดีถึงขีดจำกัดในการฟื้นสภาพร่างกาย ซึ่งเมื่อเห็นดวงตาของเขาหายดีแล้ว เย่เหล่ยก็สบายใจขึ้น ก่อนที่นางจะหันมองชัวน่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วส่ายหัว ด้วยแม้ว่าถังหยินจะเป็นแม่ทัพ แต่บุคลิกและมารยาทของเขานั้นถือได้ว่ายอดแย่
ตั้งแต่เกิดเรื่องกับยั่วหลิงครั้งล่าสุด ถังหยินก็กลายเป็นคนบ้ากามในสายตาของเย่เหล่ยไปแล้ว นางยักไหล่ “เขาหายดีแล้ว ข้าไปก่อนล่ะ”
“ช้าก่อน” ถังหยินห้ามเอาไว้ “แล้วเฉิงจินล่ะ ?” เขาไม่ลืมว่าเฉิงจินเป็นคนฝ่าเปลวไฟไปช่วยเขาออกมา
“แม่ทัพเฉิงสบายดี เจ้าไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวเขาก็หายดีแล้ว” เย่เหล่ยตอบตรง ๆ
“เยี่ยมมาก ข้าต้องรบกวนเจ้าด้วยนะ” ถังหยินหัวเราะเบา ๆ
เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มแบบนั้น เย่เหล่ยก็พลันใจเต้น ด้วยต่อให้นางจะเกลียดเขาแค่ไหน แต่หน้าตาของถังหยินก็หล่อเหลาเกินห้ามใจอยู่ดี นางส่ายหัวแล้วพูดต่อ “มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว และยิ่งไปกว่านั้น ก็เป็นเจ้าหนิที่จ่างเงินค่ารักษาให้กับข้า”
ถังหยินยิ้มแห้ง ๆ ทันที
หลังจากรู้ว่าถังหยินตื่นขึ้นมาแล้ว ทุกคนต่างก็เข้ามาหาเขาทันที และเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในสภาพดูดี พวกเขาก็แทบจะฉลองกันทั้งเมือง
ชิวเจิ้นประกบมือ “นายท่าน พวกเราจัดการพวกมันไปเกือบหมื่นนาย แล้วยังจับเชลยได้ 9 พันนายที่ในขณะนี้ถูกจองจำอยู่ที่เมืองจี้ทั้งหมด นายท่าน ท่านจะให้พวกเราจัดการพวกมันอย่างไรดี ?”
ถังหยินไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน “เจ้าได้จับตัวเหมาอันมาหรือไม่ ?”
“เรียบร้อยขอรับ ในตอนที่เราโจมตีเมือง แม่ทัพอู่กวงและแม่ทัพจ้านได้ไล่ต้อนเหมาอันจนมุมที่ค่ายของเราขอรับ”
“เยี่ยมมาก รีบไปจัดเตรียมรางวัลให้ทั้งสองคนนี้เลย !” ถังหยินพยักหน้า
“ขอรับนายท่าน !” นายทหารรับคำ
“ส่วนพวกเชลย ใครที่ขัดขืนก็ฆ่าทิ้งเสีย นอกนั้นก็จับเอาไว้ อ้อแล้วก็สำหรับพวกชาวเมือง ก็ให้ตรวจสอบว่ามีใครที่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเปิงหรือไม่ ถ้ามีก็ให้ฆ่าทิ้งเสีย” ถังหยินออกคำสั่ง
“น้อมรับบัญชาขอรับ” นายทหารตอบรับ
ชิวเจิ้นที่ได้ยินแบบนี้ก็พึมพำกับตัวเองแล้วส่ายหัว “นายท่าน ข้าคิดว่ากองทัพเปิงมีเพียงแค่ 2 หมื่นแต่กลับสามารถต้านทานพวกเราเอาไว้ได้นานขนาดนี้ จากที่ข้าเดาน่าจะต้องมีชาวบ้านคอยช่วยเหลือพวกเขามากมายแน่”
“และถ้าเป็นไปตามคำสั่งของนายท่าน ข้าก็เกรงว่าพวกเขาจะต้องถูกสังหารหมู่เป็นแน่แท้ ท่านควรจะต้องครองใจคน ดังนั้นแล้วจึงไม่ควรฆ่าใครมั่วซั่วเพื่อไม่ให้พวกชาวบ้านไม่พอใจ”
ถังหยินกำหมัดแล้วครุ่นคิด
ก่อนเป็นจางจี้ที่เข้ามาเสริม “ท่านชิวพูดถูก ถ้าหากข่าวเรื่องสังหารหมู่ชาวเมืองแผ่ออกไป มันจะต้องเป็นผลเสียต่อพวกเราแน่”
ในเมื่อกุนซือยอดฝีมือสองในสามเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ แม้ซงหยวนจะไม่พูดอะไร แต่ถังหยินก็ไม่อาจขัดคำแนะนำของทั้งสองคนก่อนหน้านี้ได้ “ช่างมัน ! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก !”
จากนั้นกู่เยว่ก็เดินเข้ามา “นายท่าน พวกเราจับแม่ทัพใต้บัญชาของเหมาอันมาได้ด้วย เขาชื่อว่าหลูชิงเฟิง จะให้พวกเราจัดการเช่นไร ?”
“หลูชิงเฟิง ? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” ถังหยินโบกมือปัดปัญหาทิ้งไป “พาเขาและเหมาอันมาที่นี่”
“ขอรับนายท่าน”
ในขณะที่ทุกคนออกไปพาตัวเหมาอันและหลูชิงเฟิงเข้ามา ถังหยินก็หันมาบอกชัวน่า “ฝ่าบาท ท่านคงจะเหนื่อยมากแล้ว ไปพักก่อนเถอะ”
“ก็ได้” ชัวน่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน และเริ่มเหนื่อยล้าขึ้นมาแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ขัดและเพียงหันมองถังหยินก่อนจะขอตัวเดินออกไป
ไม่นานนัก เหมาอันและหลูชิงเฟิงก็เข้ามาที่กระโจมของถังหยิน
ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงกลาง ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟ ด้วยก่อนหน้าพวกเขาสู้ในเมืองจี๋แต่มีเกราะปิดบังอยู่ จึงทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย
ชุดข้าหลวงของเหมาอันถูกปลดออกเหลือแค่ผ้าสีขาว ส่วนหลูชิงเฟิงก็ดูน่าสงสารยิ่งกว่า เพราะเขามีร่องรอยการถูกทำร้ายทั่วร่างกายรวมไปถึงใบหน้า
“ใครคือเหมาอัน ?” ถังหยินเอนหลังแล้วยิ้มออกมา
“ข้าเอง เจ้าคือถังหยินสินะ ?” เหมาอันเงยหน้า
“เจ้ากล้าดียังไง ! ก้มหน้าลงไป !” หนึ่งในทหารตะโกนออกมา