ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 108 รายงาน
ตอนที่ 108 รายงาน
หลายวันถัดมา รายงานการสืบสวนหมู่บ้านกอร์ตูถูกส่งไปยังองค์กรต่างๆ ดังนี้: หน่วยข่าวกรองที่แปดแห่งคณะกรรมการความมั่นคงแข่งชาติอินทิส, หน่วย ‘จิตแห่งจักรกล’ ของศาสนจักรเทพจักรกลไอน้ำ, ‘ศาล’ (ศาสนศาล) แห่งศาสนจักรสุริยันเจิดจรัส
ผู้ทรงอำนาจหลายท่านได้อ่านรายงานนี้เป็นครั้งแรก
“สถานการณ์เบื้องต้น: ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีประชาชนหายตัวไปเป็นจำนวนมากในแคว้นกราบาคาของอาณาจักรเฟเนพ็อต และรัฐชางฮัลล์ของสาธารณรัฐลุนเบิร์ก ซึ่งอยู่ใกล้กับเขตดาลีแอช รวมถึงการหายตัวไปของผู้วิเศษเถื่อนอีกหลายคน เหตุการณ์เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของคนเลี้ยงแกะที่ผลัดถิ่นไปมาในสามพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มาจากหมู่บ้านกอร์ตู ซึ่งเป็นจุดสนใจหลักของเรา”
“ดังนั้น หลังจากได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือที่แปลกประหลาดนั่น เราจึงให้ความสำคัญอย่างมาก และส่งบุคลากรชั้นนำเข้าไปสืบสวนข้อเท็จจริงในพื้นที่”
“ต่อไปนี้คือคำชี้แจงแบบเต็มเป็นลายลักษณ์อักษร จากเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมาย:”
“ความผิดปกติของหมู่บ้านกอร์ตูแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งคือในความเป็นจริง และอีกหนึ่งคือความฝัน”
“ส่วนของความเป็นจริง:”
“หมู่บ้านกอร์ตูถูกทำลายลงโดยพิธีบูชาเทพมารครั้งใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิต”
“ชาวบ้านส่วนใหญ่กลายเป็นสารอาหารให้กับผลงานที่ล้มเหลวของเทพมาร นอกนั้นถูกดัดแปลงอย่างผิดเพี้ยน กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดที่แตกต่างกันไป”
“พิธีบูชาเทพมารทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิประเทศ แม่น้ำแห้งขอดและเปลี่ยนเส้นทาง ลานจัตุรัสกลางหมู่บ้านและโบสถ์ถูกยกสูงเกือบสี่สิบเมตรเพราะการงอกเงยของภูเขาขนาดย่อม กลายเป็นต้นเสาโลหิตขนาดมหึมา”
“ผลงานที่ล้มเหลวของเทพมารปักหลักอยู่บนยอดของต้นเสายักษ์ แต่ในตอนที่เราไปพบ มันได้ถูกทำลายไปแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากการพังทลายด้วยตัวเอง หรือถูกแทรกแซงจากพลังภายนอก”
“บ้านเรือนในหมู่บ้านกอร์ตูก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน บางส่วนกลายเป็นแนว ‘กำแพงเมือง’ คล้ายวงแหวนหนามพันรอบต้นเสายักษ์สีเลือด บางส่วนเรียงตัวกันอยู่รอบนอกในลักษณะวงแหวนหลายชั้น…”
“ภายในอาคารที่ชำรุดทรุดโทรมเหล่านี้ เราพบเพียงเหรียญและหนังสือเล็กปกฟ้าที่มีอยู่ทั่วไป ไม่พบเอกสารหรือสิ่งของใดๆ ที่สามารถบ่งชี้ถึงหมู่บ้านกอร์ตู สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด”
“มีเพียงบ้านของบุคคลเป้าหมายอย่างลูเมี่ยน·ลีเท่านั้นที่มีหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสิ่งของอื่นๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน”
“ภายในซากปรักหักพังของหมู่บ้านกอร์ตู มีสองพื้นที่รอบต้นเสายักษ์สีเลือดที่ไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม”
“หนึ่ง อาณาเขตที่มีฤทธิ์ทำให้ผู้คนง่วงนอนอย่างรุนแรง เมื่อหลับจะเข้าสู่โลกแห่งความฝัน”
“สอง อาณาเขตที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เต็มไปด้วยบุปผาพืชพรรณ และมีเปลเด็กที่ไกวตัวเองได้”
“สำหรับอย่างหลัง เราคาดว่าอาจเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับคุณนายปัวริสในหมู่บ้านกอร์ตู (รายละเอียดเพิ่มเติมดูในส่วนของโลกแห่งความฝัน)”
“อีกฟากหนึ่งของเสายักษ์สีเลือด เราขุดพบศพที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ซึ่งอาจตรงกับตำแหน่งเดิมของสุสานข้างโบสถ์”
“ศพแรกเป็นหญิงสาว อายุไม่เกินยี่สิบปี เสียชีวิตเพราะถูกรัดคอ”
“ศพที่สองเป็นชายหนุ่ม อายุไม่เกินยี่สิบปีเช่นกัน เสียชีวิตจากการจมน้ำ”
“รอบๆ ศพที่สามมีเศษชิ้นส่วนโลงศพ เป็นเพศหญิง อายุมากกว่าหกสิบปี เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ หลักฐานแวดล้อมอื่นๆ บ่งชี้ว่า ผู้ตายถูกใครบางคนใช้หมอนกดหน้าจนเสียชีวิต”
“ศพที่สี่เป็นเพศชาย ยังไม่เน่าเปื่อย ถูกตัดลิ้นขณะยังมีชีวิต มีรอยถูกบีบรัดตรงคอชัดเจน”
“รายละเอียดเกี่ยวกับศพข้างต้น สามารถดูได้ในส่วนของโลกแห่งความฝัน”
“…”
“เมื่อเข้าไปในซากปรักหักพังของหมู่บ้านกอร์ตู ดูเหมือนว่าพวกเราจะตกอยู่ใต้อิทธิพลของพลังงานที่รั่วไหลจากร่างกายลูเมี่ยน·ลี ทำให้เกิดความสับสนด้านวันเวลา และเลิกคิดเรื่องการออกจากหมู่บ้าน”
“พวกเราหลับลึกเข้าสู่ความฝันพร้อมกัน ร่างกายอยู่ในภาวะพยุงชีพด้วยพลังงานต่ำ ไม่ต้องกินอาหารก็อยู่ได้หลายวัน แต่ถ้าต้องอยู่ในสภาพดังกล่าวไปอีกราวๆ สิบวันถึงครึ่งเดือน ไม่แน่ใจว่าพวกเราจะตื่นเพราะความหิวหรืออดตายในความฝัน”
“ซากปรักหักพังทั้งหมดถูกครอบงำโดยวัฏจักรเวลาที่พร้อมกลับสู่จุดเริ่มต้นได้ทุกเมื่อ มีแนวโน้มสูงว่าจุดกระตุ้นคือ ‘การตระหนักรู้ในตัวเอง’ ของลูเมี่ยน·ลี รวมถึงข้อจำกัดต่างๆ ที่เขาเป็นผู้กำหนด ประโยคแรกหมายความว่า หากจิตใต้สำนึกของลูเมี่ยน·ลีเชื่อว่าควรจะเริ่มใหม่ วัฏจักรก็จะเริ่มใหม่ ส่วนข้อจำกัดต่างๆ เกิดจากการที่เจ้าตัวไม่อยากให้ใครทำลายสภาพปัจจุบัน ไม่อยากให้ใครทำลายพัฒนาการในโลกความฝันของหมู่บ้านกอร์ตู หากเกิดเหตุการณ์ที่เข้าข่ายข้างต้น วัฏจักรจะถูกกระตุ้นให้เริ่มต้นใหม่ทันที”
“…”
“เราได้สอบถามชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงหลายแห่ง ได้คำตอบว่าพวกเขาไม่รับรู้ถึงความผิดปกติใดๆ ของหมู่บ้านกอร์ตูเลย”
“อ้างอิงจากคำตอบของพวกเขาและข้อมูลที่เรามีก่อนหน้านี้ เราสามารถยืนยันได้สามสิ่ง:”
“หนึ่ง หมู่บ้านกอร์ตูไม่มีตำนานเกี่ยวกับจอมเวทที่ตายไป (หมายถึงเรื่องราวที่ลูเมี่ยน·ลีเล่าในโลกแห่งความฝัน: หมู่บ้านกอร์ตูเคยมีจอมเวทอยู่หนึ่งคน หลังจากที่เขาตายไป นกฮูกตัวหนึ่งได้บินมาเกาะที่หัวเตียงเพื่อมองสักพักแล้วก็บินไป ศพของจอมเวทคนนั้นก็กลายเป็นหนักอึ้ง ต้องใช้วัวถึงเก้าตัวเพื่อลากไปยังสุสาน)”
“สอง ในพื้นที่ดาลีแอชไม่เคยมีการพบเห็นเอลฟ์น้อยที่มีลักษณะคล้ายกิ้งก่า”
“สาม วันมหาพรตเป็นประเพณีที่ได้รับความนิยม ตัวประเพณีไม่มีปัญหาใด”
“…”
“ส่วนของโลกแห่งความฝัน:”
“เป็นความฝันที่เกิดจากลูเมี่ยน·ลี ทุกอย่างดูสมจริงจนพวกเราไม่ตระหนักว่ากำลังฝัน”
“จากที่ได้ลองปรึกษากับนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญโลกความฝันมา พวกเราตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความฝันไว้ดังนี้:”
“ความฝันทั้งหมดมีรากฐานจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ลูเมี่ยน·ลีเคยเผชิญ นิยายทุกเรื่องที่เขาเคยอ่าน จินตนาการและการคาดเดาที่เขาสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลเหล่านั้น โดยในเหตุการณ์สำคัญมักแสดงออกมาในรูปแบบของ ‘ความบังเอิญ’ และ ‘แนวโน้มที่จะสมปรารถนา’”
“ในโลกแห่งความฝัน สถานการณ์ที่เราพบเจอมิใช่เรื่องจริงทั้งหมด แต่ก็มิใช่ภาพมายาทั้งหมด”
“ความฝันที่ปรากฏสู่สายตาพวกเรา ถูกประกอบขึ้นจากข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ถูกบิดเบือน, รายละเอียดการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน และมโนทัศน์ที่เป็นภาพจำจากจิตใต้สำนึกของลูเมี่ยน โดยทั้งหมดผสมกลมกลืนกันในรูปแบบที่ยุ่งเหยิงเชิงสัญลักษณ์”
“ที่กล่าวมาข้างต้นคือลักษณะของโลกความฝัน โดยอาจผนวกรวมเข้ากับจิตใต้สำนึกของลูเมี่ยน·ลีที่ต้องการหลบหนีหรือหวาดกลัวต่อปัญหาบางอย่าง”
“ในส่วนถัดไป เราจะเล่าเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอมาอย่างละเอียด”
“…”
“อันที่จริงพวกเราควรเอะใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ากำลังอยู่ในโลกความฝัน จุดสังเกตที่ชัดเจนที่สุดก็คือ พวกเราไม่สนใจที่จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จนกระทั่งลูเมี่ยน·ลีตักเตือนหรือเสื้อผ้าชำรุดหนัก”
“สิ่งนี้ถือเป็นความผิดปกติอย่างร้ายแรง แต่มนุษย์ในโลกความฝันกลับนึกไม่ถึง”
“พวกเรายืนยันแล้วว่าไม่มีการส่งโทรเลขเกิดขึ้น คำตอบของโทรเลขคงถูกสร้างจากจิตใต้สำนึกและชุดความรู้ของลูเมี่ยน·ลี”
“เมื่อผนวกเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกความฝันเข้ากับความจริง พวกเรามีการคาดเดาดังนี้:”
“จิตสำนึกและสติสัมปชัญญะของพวกเราได้เพิ่มความหลากหลายให้กับโลกความฝัน รวมถึงการเปิดเผยความลับบางเรื่องให้ลูเมี่ยน·ลีทราบ”
“หมู่บ้านกอร์ตูมีการนับถือเทพมารอย่างน้อยสององค์ องค์แรกถือครองอำนาจที่ใกล้เคียงกับพระแม่ธรณี ซึ่งถูกแสดงให้เห็นผ่านคุณนายปัวริส—ภรรยาของเจ้าหน้าที่ปกครองบีโอส อีกหนึ่งองค์นับถือโดยอดีตอธิการโบสถ์กิโยม·เบเนต์และชาวบ้านส่วนใหญ่ เทพมารที่ทำลายล้างหมู่บ้านกอร์ตูคือองค์นี้”
“ในพิธีฉลองวันมหาพรต การตัดหัวและ ‘ส่ง’ นางฟ้าใบไม้ผลิ สื่อถึงการขับไล่อำนาจที่คุณนายปัวริสนับถือให้ออกไปจากหมู่บ้านกอร์ตู สองฝ่ายนี้อาจเคยระหองระแหงกันจนถึงขั้นเลือดตกยางออก ในขณะเดียวกัน การตัดหัวเอวา·ลีซิแยร์ผู้เป็นนางฟ้าใบไม้ผลิ ยังสื่อถึงการที่หญิงสาวผู้นี้ค้นพบความผิดปกติในโลกความจริง จนถูกกลุ่มของกิโยม·เบเนต์ฆ่าปิดปากระหว่างพยายามหลบหนีหรือแจ้งเบาะแส”
“เรื่องที่แรมงด์·เคร็กก์ถูกโยนลงแม่น้ำและมีวิญญาณปรากฏอยู่ใต้โบสถ์ สื่อได้ว่าเขาก็เหมือนกับเอวา ถูกกลุ่มของหลวงพ่อสงสัยว่าเป็นผู้แจ้งเบาะแส จนถูกจับกดน้ำตาย”
“เรื่องที่ฌ็อง·โมรีพบว่าภรรยาของตน ฌิบริล แอบเป็นชู้รักกับอดีตอธิการโบสถ์กิโยม·เบเนต์ ส่งผลให้โกรธจัดจนกลายเป็นใบ้ สื่อได้ว่าเขา—ผู้ศรัทธาองค์สุริยันเจิดจรัสอย่างแรงกล้า—ถูกตัดลิ้นหลังจากพยายามแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับความผิดปกติในหมู่บ้าน และการหายตัวไปหลังจากนั้นสื่อถึงการถูกฆาตกรรม”
“ความตายของนาโรคามีความหมายเชิญสัญลักษณ์เหมือนกับเอวา แรมงด์ และฌ็อง ประการแรก เธออาจทำงานให้คุณนายปัวริสอย่างลับๆ โดยหวังว่า ‘ล่ามวิญญาณ’ จะช่วยพาดวงวิญญาณของสามีผู้ล่วงลับกลับบ้าน ดังนั้น พฤติกรรมหลังจากที่เธอตายจึงเป็นการเข้าสู่ ‘โลกอีกฝั่ง’ ประการที่สอง พวกเราสันนิษฐานว่านาโรคาถูกฆ่าโดยอาร์โนลด์·อังเดร บุตรชายของตน ส่วนแรงจูงใจอาจเป็นไปได้ว่า นาโรคาพบความผิดปกติของกลุ่มอดีตอธิการโบสถ์ และคิดจะแจ้งให้คุณนายปัวริสทราบ”
“เมื่อผนวกกับข้อมูลที่เรารวบรวมได้จากซากปรักหักพัง จากพิธีฉลองในวันมหาพรต และจากคำพูดของคุณนายปัวริสที่บอกว่าเธอสามารถออกจากวัฏจักรได้ในเวลาที่เฉพาะเจาะจง สื่อถึงความเป็นไปได้ที่คุณนายและสามีของเธอ บีโอส พ่อบ้านลูอิส·ลุนด์ และสาวใช้คาสซี่ ได้ออกจากหมู่บ้านกอร์ตูไปก่อนจะถึงพิธีกรรมในคืนที่สิบสอง โดยตอนนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ไม่ทราบหลักแหล่ง”
“สิ่งนี้ยังสะท้อนออกมาในความฝัน ถึงสาเหตุที่คุณนายปัวริสไม่ยอมช่วยเหลือพวกเราในช่วงเวลาสำคัญ”
“อย่างไรก็ดี คำนึงจากอาณาเขตแปลกประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เราสงสัยว่าคุณนายปัวริสอาจทิ้งบางสิ่งไว้ก่อนจะหนีไป เพื่อแอบมีส่วนร่วมทางอ้อมในพิธีกรรมคืนที่สิบสอง”
“ชายชุดคลุมสีดำในห้องเก็บศพของจอมเวท คงเป็นสัญลักษณ์แทนอีกหนึ่งบุคลิกของลูเมี่ยน·ลีที่เกิดจากการถูกปนเปื้อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ระดับการปนเปื้อนของลูเมี่ยน·ลีกลับไม่รุนแรงนัก ส่งผลให้เกิดการต่อสู้กับตัวเอง โดยฝั่งที่กล้าหาญกว่าเป็นฝ่ายชนะอย่างง่ายดาย…”
“สิ่งมีชีวิตคล้ายกิ้งก่าในปากของโอลัวร์·ลี มิเชล·การีกู และคนอื่นๆ อาจเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าบุคคลเหล่านี้ถูกปนเปื้อนทีละน้อย เปลี่ยนนิสัยไปทีละน้อย จนกระทั่งกลายเป็นบุคคลอื่นโดยสมบูรณ์”
“…”
“ปัญหา:”
“1. เหตุใดลูเมี่ยน·ลีถึงทราบว่ากิโยม·เบเนต์ คนเลี้ยงแกะปิแยร์·แบรี และคนที่เหลือมีพลังวิเศษแบบใดบ้าง? หากแอบเห็นมาโดยบังเอิญในโลกความจริง ถ้าแค่ครั้งสองครั้งยังพอเข้าใจได้ จะต้องมีเหตุผลที่เขาสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากมายโดยไม่ถูกฆ่าปิดปากแน่”
“2. เหตุใดชาวบ้านกับโอลัวร์·ลีถึงแสดงออกได้เหมือนจริง จนพวกเราไม่เอะใจว่ากำลังอยู่ในความฝัน ต้องรอให้ลูเมี่ยน·ลีคิดว่าพวกเขาควรแสดงความผิดปกติออกมา?”
“3. โลกอีกฝั่งคือสัญลักษณ์ของสิ่งใด?”
“4. เด็กจำนวนมากที่คุณนายปัวริสเลี้ยงดูในปราสาท กับเปลเด็กที่มีบางสิ่งนอนอยู่ คือสัญลักษณ์ของสิ่งใด?”
“5. เหตุใดลูเมี่ยน·ลีถึงจินตนาการชาวบ้านที่ถูกปนเปื้อน ในรูปแบบของเอลฟ์น้อยรูปร่างคล้ายกิ้งก่าที่คลานเข้าออกร่างกาย?”
“6. เหตุการณ์ที่ลูเมี่ยน·ลีกับโอลัวร์·ลีพยายามหนีออกจากหมู่บ้านกอร์ตูแต่กลับถูกส่งไปยังโลกอีกฝั่งแทน คือสัญลักษณ์ของสิ่งใด?”
“7. เหตุใดพิธีกรรมในคืนที่สิบสองถึงล้มเหลว?”
“8. เหตุใดลูเมี่ยน·ลีถึงดึงพวกเราเข้าสู่ความฝันของเขาได้? ชัดเจนว่าเขาไม่มีพลังวิเศษในแง่นี้”
“9. เหตุใดจู่ๆ เขาถึงได้รับพลังวิเศษในเส้นทางปกติเพิ่มเข้ามา?”
“10. เหตุใดเขาถึงรอดมาได้ และเหตุใดตัวเขาที่มีพลังไม่มากนัก สามารถทำให้ซากปรักหักพังของหมู่บ้านกอร์ตูเข้าสู่สถานะวัฏจักรเวลา?”
“11. ความผิดปกติของโอลัวร์·ลีในวัฏจักรทั้งสองรอบ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สาเหตุมาจากอะไร และแสดงถึงสิ่งใด?”
“12. ตำนานของจอมเวทที่ตายไปแล้ว สื่อถึงสิ่งใด?”
“13. ศพของจอมเวทที่นอนในโลงใต้สุสาน สื่อถึงสิ่งใด?”
“14. นกฮูกสื่อถึงสิ่งใด?”
“15. การเปลี่ยนแปลงของราศีสื่อถึงสิ่งใด?”
“16. สิ่งใดคือต้นตอของเหตุการณ์นี้?”
“…”
“บทสรุปและข้อเสนอแนะ:”
“นี่คือหายนะทั่วไปที่มักเกิดกับลัทธิบูชาเทพมาร ปัจจุบันมีผู้รอดชีวิตทั้งสิ้นหกคน”
“ลูเมี่ยน·ลี อดีตอธิการโบสถ์กิโยม·เบเนต์ ปัวริส·เดอ·โร้คฟอร์ บีโอส ลูอิส·ลุนด์ และคาสซี่”
“ห้าคนหลังล้วนเป็นสาวกเทพมาร ต้องรีบหาตัวให้พบและกำจัดทิ้งให้สิ้นซาก”
“ในกรณีของลูเมี่ยน·ลี พวกเราไม่แนะนำให้ฆ่า หากยังไม่เข้าใจต้นตอของปัญหา การตายของเขาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม วิธีที่ดีที่สุดคือการจับกุมเขาแล้วนำไปผนึกไว้ที่ใดสักแห่ง”
“ผู้รายงาน: สังกัด ‘จิตแห่งจักรกล’ ไรอัน·วีซิแอร์, สังกัด ‘หน่วยแปด’ พันตรีลีอา·เบโลต์, ผู้ชำระแห่ง ‘ศาล’ วาเลนไทน์·เดอ·ลากอต์”
……………………………………………………..