ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 139 มิสเตอร์ K
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 139 มิสเตอร์ K
ตอนที่ 139 มิสเตอร์ K
เว้นวรรคเล็กน้อย ออสตาที่เตรียมจะบ่น เปลี่ยนเป็นยิ้มแหยๆ แล้วพูด
“ด้วยรูปลักษณ์นี้ คุณดูน่ากลัวจริงๆ”
“นี่คือภาพจำอันโด่งดังในวรรณกรรมคลาสสิกเลยนะ” ลูเมี่ยนจงใจกล่าวด้วยน้ำเสียงกระหยิ่มยิ้มย่อง
ออสตาไม่ตอบโต้ เพียงสวมหน้ากากเหล็กบดบังใบหน้าของตน
เดินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ก้าว เขาหยุดแล้วเคาะประตูห้องฝั่งขวามือ
“เว้นนานสองครั้ง เว้นสั้นหนึ่งครั้ง แล้วเว้นนานอีกหนึ่งครั้ง…” ลูเมี่ยนสังเกตพฤติกรรมของออสตา·ทรูเอลด้วยสายตาของนักล่า
ผ่านไปได้สักสองอึดใจ ประตูไม้ที่ทาสีแดงเข้มก็ค่อยๆ เปิดออก
สิ่งแรกที่สะดุดตาลูเมี่ยนคือพรมหนาๆ สีเหลืองอ่อน ถัดมาเป็นเครื่องเรือนสไตล์โบราณ เช่นโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา และชั้นวางของ
มีร่างของบุคคลหนึ่ง กำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน โดยเงามืดที่เกิดจากโคมไฟแก๊สติดผนังสาดทับลงบนตัว
เฉกเช่นออสตา·ทรูเอล อีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมยาวสีดำยังกับพวกพ่อมดโบราณ ฮู้ดใหญ่มาก จนลูเมี่ยนอดคิดไม่ได้ว่า:
แต่งตัวแบบนี้ จะมองเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าชัดหรือ?
“มิสเตอร์ K ชาร์ลมาแล้วครับ” ออสตาเดินเข้าไปก่อน แล้วกล่าวกับบุคคลที่สูงเกือบหนึ่งเมตรแปดด้วยความสำรวม
ลูเมี่ยนตามเข้าไปไม่ห่างนัก
ทันใดนั้น ประตูด้านหลังพวกเขาปิดเองด้วยเสียงดัง ‘ปึง’
มิสเตอร์ K หันหลังกลับมา มองหน้าลูเมี่ยนพร้อมกับพูด
“ทำไมถึงอยากเข้าร่วมชุมนุมของเราล่ะ”
น้ำเสียงของอีกฝ่าย ทั้งต่ำทั้งแตกพร่า
“เพื่อสูตรโอสถ เพื่อตะกอนพลัง เพื่อสมบัติวิเศษ เพื่อภูมิปัญญาศาสตร์เร้นลับไง… ไม่มีทางเข้าร่วมเพราะความรักหรือโชคชะตาอยู่แล้วนี่?” ลูเมี่ยนจงใจตอบกลับด้วยน้ำเสียงถากถาง
แล้วจึงหัวเราะตามเบาๆ
“ผมรู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากฟัง… ไม่เป็นไร ทางนี้ก็ไม่รังเกียจที่ต้องเล่าเรื่องตัวเองหรอกนะ”
เสียงของลูเมี่ยนเปลี่ยนเป็นทุ้มต่ำทันที
“ในภัยพิบัติที่พลังวิเศษนำพามา… ผมสูญเสียญาติพี่น้องไปทั้งหมด”
“เรื่องนี้ไม่เพียงทำให้ผมทุกข์ทรมานแสนสาหัส แต่ยังช่วยให้ผมเข้าใจเรื่องหนึ่ง… เหล่าเทพที่ถูกเรียกว่า ‘เทพในจารีต’ น่ะ ความจริงแล้วไม่สามารถช่วยเหลือพวกเราได้!”
“นับตั้งแต่นั้นมา ผมเริ่มตามหาพลังวิเศษ ตามหาวิธีลืมความเจ็บปวดทั้งหมด ผมอยากกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งเพียงพอ อยากให้คนที่ทำให้ผมเป็นทุกข์ ได้ลิ้มรสความทรมานทั้งหมดนี้บ้าง”
มิสเตอร์ K ในฮู้ดใหญ่ เอาแต่ยืนมองลูเมี่ยนโดยไม่ขัดจังหวะการเล่า ส่วนออสตา·ทรูเอลกำลังตกตะลึงอย่างยิ่ง — คำพูดของชาร์ลแฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่เก็บซ่อนไม่มิด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ความปรารถนาที่เขามีต่อบ่อน้ำสตรีซามาเรียไม่ใช่เรื่องโกหก!
ฟังลูเมี่ยนพูดจบ มิสเตอร์ K พยักหน้าเบาๆ คล้ายกับเห็นพ้อง
“ชุมนุมของเรามีกฎอยู่สองข้อ”
“หนึ่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามใช้กำลังโดยตรงภายในการชุมนุมเด็ดขาด”
“สอง อย่าได้คิดสะกดรอยตามผู้ร่วมชุมนุมคนอื่นเด็ดขาด”
มีแค่สองข้อ? ลูเมี่ยนคาดไม่ถึงว่าข้อจำกัดจะน้อยเพียงนี้
โดยไม่ต้องคิดให้ลึก เขาก็สามารถหาช่องโหว่ได้หลายเรื่องทันที
“ถ้าห้ามใช้กำลังโดยตรง… สามารถใช้ ‘พลังยั่วยุ’ ทำให้อีกฝ่ายโกรธจนตายได้ไหม?”
“ห้ามสะกดรอย… แปลว่าไม่ได้ห้ามการกระทำอย่างอื่น…?”
“การขายวัตถุดิบปลอม สูตรปลอม ตะกอนพลังปลอม สมบัติวิเศษปลอม ก็ล้วนอยู่ในขอบเขตที่กระทำได้?”
ลูเมี่ยนข่มอารมณ์ที่อยากจะต่อปากต่อคำ เพียงพยักหน้ารับเบาๆ
“ไม่มีปัญหา”
ขณะตอบ เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนสายตาของมิสเตอร์ K กำลังกวาดไปทั่วร่างกายตน ประหนึ่งทุกอณูผิวหนังกำลังถูกตรวจสอบ
ผ่านไปไม่กี่วินาที มิสเตอร์ K กล่าวต่อ
“ถ้าคุณไม่อยากเปิดเผยว่าตัวเองมีอะไร หรืออยากได้อะไร สามารถเขียนธุรกรรมที่คุณกำลังมองหาลงบนกระดาษไว้ล่วงหน้า คนรับใช้ของผมจะคัดลอกไปเขียนบนกระดานติดล้อให้ แล้วนำไปแสดงต่อหน้าผู้ร่วมชุมนุมทุกคน หรือถ้ามองว่าไม่เป็นปัญหาอะไร คุณจะตะโกนแจ้งความประสงค์ระหว่างชุมนุมเลยก็ได้”
“ในทำนองเดียวกัน ระหว่างการชุมนุม คุณสามารถทำธุรกรรมผ่านคนรับใช้ของผม หรือจะออกหน้าด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน”
“ได้โปรดจำใส่ใจเอาไว้ว่า ทุกธุรกรรมมีความเสี่ยง ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าสินค้า วัตถุดิบ และคำตอบจะเป็นของจริงทั้งหมด แน่นอน คุณยังมีตัวเลือกในการจ่ายเงินเพื่อให้ผมช่วยรับรอง ซึ่งจะลดความเสี่ยงลงได้มาก”
ความสามารถของ ‘ผู้รับรอง’ ? ลูเมี่ยนนึกถึงเนื้อหาในสมุดบันทึกเวทมนตร์ของโอลัวร์
‘ผู้รับรอง’ ลำดับ 6 แห่งเส้นทางสุริยัน เส้นทางที่ผู้วิเศษแทบทุกคนสังกัดศาสนจักรสุริยันเจิดจรัส
อาศัยหลักการข้างต้น ลูเมี่ยนสงสัยว่ามิสเตอร์ K อาจไม่ใช่ ‘ผู้รับรอง’ ตัวจริง แต่น่าจะมีสมบัติวิเศษในขอบเขตดังกล่าวมากกว่า
เด็กหนุ่มสลัดความคิดฟุ้งซ่าน แล้วกล่าวกับมิสเตอร์ K
“ผมเขียนความต้องการลงไปเลยได้ไหม?”
มิสเตอร์ K ‘อืม’ หนึ่งคำ ชี้ไปทางโต๊ะหนังสือฝั่งขวามือของห้อง
“เขียนที่นั่นได้เลย คนรับใช้ของผมจะมาเก็บไปในภายหลัง”
ลูเมี่ยนเดินไปยังโต๊ะอ่านหนังสือสีน้ำตาลที่มีนิตยสารวางอยู่หลายหัว เช่น ‘สื่อวิญญาณ’ ‘ดอกบัว’ ‘อุปนิษัท’ พลางเปิดกระดาษจดหมายที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ หยิบปากกาหมึกซึมสีแดงเข้มขึ้นมาบรรจงเขียนอย่างรอบคอบ
“1. ผมมีอาวุธวิเศษที่ชำรุด ตามหาคนซ่อมแซมมัน ราคาต่อรองได้”
“2. ต้องการซื้อข้อมูลของสิ่งมีชีวิตพิสดาร: ลักษณะน่าจะเป็นวิญญาณ ภายนอกดูคล้ายสตรี มีผมสีเขียวอมฟ้ายาวห่อหุ้มร่างกาย แผ่เสน่ห์ความเย้ายวนอย่างเหลือล้น มีอำนาจทำให้ผู้คนเกิดความฝันวาบหวิวโดยมีเธอเป็นตัวเอก รายละเอียดอื่นยังไม่แน่ชัด ค่าตอบแทนขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูล ตั้งแต่ 10 ถึง 100 เฟลคิน”
ทีแรกลูเมี่ยนตั้งใจจะเขียนเพิ่มไปว่า “3. สรุปประสบการณ์ในการ ‘สวมบทบาทเป็นนักยั่วยุ’” แต่หลังจากไตร่ตรองสักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจปัดตก
เด็กหนุ่มยังไม่ลืม ในฝันร้ายนั่น โอลัวร์ได้กล่าวว่าความรู้เชิงศาสตร์เร้นลับจำพวก ‘การสวมบทบาท’ หรือ ‘กฎการอนุรักษ์ตะกอนพลัง’ ล้วนมีมูลค่ามหาศาล มิใช่สิ่งที่ผู้วิเศษทั่วไปจะเข้าถึง และตอนนี้เขากำลังปลอมตัวเป็น ‘หน้าใหม่’ ที่เพิ่งเข้าสู่โลกเหนือธรรมชาติเพราะภัยพิบัติ กำลังศึกษาหาความรู้และรวบรวมทรัพยากรเพิ่มเติม
หากคนแบบนี้สามารถเขียนคำว่า ‘สวมบทบาท’ ลงไป ไม่มีทางที่มิสเตอร์ K จะไม่สงสัย
แน่นอน ลูเมี่ยนไม่ได้มองว่าตนกำลัง ‘ปลอมตัว’ เพราะต้องไม่ลืมว่า เขาคือหน้าใหม่ตัวจริงเสียงจริง ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกเหนือธรรมชาติเพราะภัยพิบัติ ตอนนี้กำลังไขว่คว้าหาความรู้กับทรัพยากรเพิ่มเติม เพียงแต่ภัยพิบัติที่ได้พานพบมานั้น มีระดับสูงล้ำเหนือพรรณนา ช่วยให้เขาได้พานพบบุคคลทรงพลังอย่างมาดามเมจิกเชี่ยน จนลงเอยด้วย เขาได้รับความรู้ระดับสูงมาหลายเรื่อง แต่ก็ยังขาดสามัญสำนึกและความรู้พื้นฐานอีกมาก ต้องชดเชยด้วยการอ่านบันทึกจอมเวทของโอลัวร์
วางปากกากับกระดาษจดหมายลง ลูเมี่ยนเดินตามออสตาออกจากห้อง ตรงเข้าไปในห้องที่อยู่สุดทางเดิน
ห้องนี้ดูเหมือนเอาไว้จัดซาลอนอยู่แล้ว มีทั้งโต๊ะกลม โซฟา เก้าอี้ และเก้าอี้สูงวางเรียงรายอย่างไม่เป็นระเบียบ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและดูง่ายๆ
เวลานี้มีผู้ร่วมชุมนุมมาถึงแล้วบางส่วน บางคนแต่งชุดคลุมดำ สวมฮู้ดใหญ่ที่เกือบจะปิดใบหน้า บางคนก็แต่งหน้าเป็นตัวตลกหรือปีศาจ หลายคนสวมหน้ากาก มีทั้งหยาบและประณีต มีทั้งครึ่งหน้าและเต็มหน้า
ชั่วขณะหนึ่ง ลูเมี่ยนนึกว่าตนหลงเข้ามาในงานเลี้ยงหน้ากาก
เขากับออสตา·ทรูเอลเดินไม่พร้อมกัน ต่างคนต่างแยกกันหาที่นั่ง
ลูเมี่ยนเลือกนั่งบนเก้าอี้สูง ขาดแต่เพียงหยิบแก้วอัปแซ็งต์มาถือเท่านั้น
ผ่านไปสักพัก มิสเตอร์ K เดินเข้ามานั่งบนโซฟาเดี่ยวที่เป็นตำแหน่งของผู้จัดงาน บรรดาคนรับใช้ของเขาที่สวมหน้ากากกับถุงมือ กุลีกุจอช่วยกันเข็นกระดานติดล้อเข้ามา บนนั้นเต็มไปด้วยข้อความธุรกรรมของสมาชิก
เด็กหนุ่มมองปราดไปบนกระดานดำ สิ่งแรกที่เห็นคือธุรกรรมที่ประสงค์จะซื้อตะกอนพลัง
“รับซื้อตะกอนพลังของลำดับ 8 กลาดิเอเตอร์แห่งเส้นทางนักรบ… 1 หมื่น 5 พันเฟลคิน ต่อรองได้”
ตะกอนพลังลำดับ 8 สามารถขายได้หมื่นห้า หรือแม้แต่สูงกว่า? ลูเมี่ยนผงะเล็กน้อยในตอนต้น ก่อนจะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอย่างยิ่ง เสียใจเสียจนอยากดื่มน้ำจากบ่อน้ำแห่งการลืม
มาร์โกต์ที่เพิ่งถูกตนล่าไป คือลำดับ 8 ‘นักยั่วยุ’ แห่งเส้นทางนักล่า!
เพื่อความปลอดภัย ลูเมี่ยนไม่กล้ายื้อมาร์โกต์ไว้จนกระทั่งวิญญาณมงต์ซูรีเล่นงาน แต่รีบหนีออกจากสังเวียนไปก่อน
แม้ว่าต่อมาเขาจะได้รับเงินมากกว่าหนึ่งพันเฟลคินจากการแลกเปลี่ยนชะตากรรมกับมาร์โกต์ แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าของตะกอนพลัง ‘นักยั่วยุ’ มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน
ผ่านไปไม่กี่วินาที เด็กหนุ่มปรับอารมณ์ปรับความคิดเสียใหม่
ตอนนั้นเขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ถ้ามัวแต่ยื้อยุดกับอีกฝ่าย อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรืออาจตกเป็นเป้าสายตาของทางการ ในกรณีดังกล่าว มาร์โกต์ยังคงตายเหมือนเดิม ส่วนลูเมี่ยนอาจถูกลากเข้าไปพัวพันกับวิกฤติอื่นแทน
เด็กหนุ่มกวาดสายตาอ่านธุรกรรมอื่นอย่างรีบๆ
“ใบไม้เงาเอลฟ์หนึ่งใบ 180 เฟลคิน”
“ไดอารีจักรพรรดิโรซายล์สองหน้า 300 เฟลคิน”
“ต้องการสูตรโอสถลำดับ 6 ‘บารอนเน่าเปื่อย’ 6 หมื่น 5 พันเฟลคิน”
“…”
เมื่อลูเมี่ยนได้เห็นภาพรวม ก็เริ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงเหตุผลที่พี่สาวของตนผลาญเงินดุจดังสายน้ำไหล
“เริ่มได้เลย” มิสเตอร์ K มองไปรอบๆ ก่อนจะเปล่งเสียงแหบพร่า
คนรับใช้ของเขาตะโกนอ่านธุรกรรมไปทีละหนึ่ง บางอันไม่มีใครตอบสนอง บางอันก็แลกเปลี่ยนกันผ่านคนรับใช้
ลูเมี่ยนเฝ้ามองอย่างสงบ โดยมุ่งเน้นไปที่การปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึงซุ่มเก็บข้อมูล
เมื่อการชุมนุมดำเนินไปจนถึงช่วงท้าย คนรับใช้ข้างๆ กระดานติดล้อ ได้คิวอ่านความประสงค์แรกของลูเมี่ยน
บรรยากาศกลับกลายเป็นเงียบสนิท
ผ่านไปราวๆ สิบวินาที ชายคนหนึ่งที่นั่งตรงมุมโซฟายาว หัวเราะเสียงต่ำพร้อมกับกล่าว
“พวกที่ถนัดการซ่อมแซมสมบัติวิเศษกับอาวุธวิเศษน่ะ ส่วนใหญ่อยู่ที่วิหารเทพจักรกลไอน้ำไม่ใช่หรือไง ไปหาพวกเขาที่นั่นสิ”
ใบหน้าของผู้พูดถูกทาสีไว้ คล้ายกับปลอมตัวเป็นคนป่าพื้นเมืองบนทวีปใต้
ไม่มีใครสนใจมุกตลกที่ไม่ตลกนี้ ทางคนรับใช้สองมิสเตอร์ K ก็เริ่มอ่านความประสงค์ที่สองของลูเมี่ยน
ผู้ร่วมชุมนุมต่างมองหน้ากันและกันด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับเพิ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตพิสดารตัวนี้
อย่างที่คิด สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้วิเศษลำดับต่ำที่ยังมีประสบการณ์ไม่มาก… ลูเมี่ยนผิดหวังอยู่หลายส่วน จึงรำพันจิกกัดในใจ
ทันใดนั้น ชายที่เพิ่งเล่นมุกเมื่อสักครู่ กล่าวด้วยความปรารถนาดีที่จะแบ่งปัน
“ได้ยินแล้วก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาเลย… ฮะฮะ! จะเล่าให้ฟังฟรีๆ ก็แล้วกัน”
“แถวๆ ตอนล่างของแม่น้ำเซอเรนโซ่ จุดตัดกับแม่น้ำไรอัน มีเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่าอูเนต์… พวกชนชั้นกลางของทรีอาร์ชอบไปเล่นเรือใบหรือว่ายน้ำแถวนั้น”
“ช่วงต้นปีก่อนหรือนานกว่านั้น เกิดคดีการตายของหญิงสาวสามคดีรวด สาเหตุการเสียชีวิตของทุกคนเกิดจากการคึกคะนองเกินเหตุจนร่างกายอ่อนแอ พวกเธอไม่มีคู่ครองทั้งในทางเปิดเผยและทางลับ เบาะแสเพียงหนึ่งเดียวก็คือ พวกเธอเคยเล่าให้เพื่อนฟังก่อนตายว่า มักจะฝันวาบหวิวอยู่บ่อยครั้ง”
……………………………………………………..