ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 21 แผนรับมือ
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 21 แผนรับมือ
ตอนที่ 21 แผนรับมือ
เมื่อมองไปยังจดหมายขอความช่วยเหลือที่ถูกจำลองขึ้น ลูเมี่ยนจมอยู่ในอยู่ความเงียบเป็นเวลานาน
แม้ว่านี่อาจไม่ใช่เนื้อหาของจดหมายฉบับนั้นจริงๆ เพราะหากไม่ใส่ใจกับไวยากรณ์ คำพวกนี้สามารถนำไปเรียงเป็นอย่างอื่นได้ เช่น ‘คนรอบข้างต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน เราเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว’ แต่ลูเมี่ยนยังคงไม่สบายใจ ราวกับมีบางสิ่งคอยกดทับหัวใจไว้
หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจคิดว่าผู้ส่งจดหมายคงแกล้งอำ แต่ตอนนี้ที่หมู่บ้านกอร์ตู สิ่งผิดปกติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนั่นยังเป็นแค่ส่วนที่เด็กหนุ่มค้นพบ
“จะทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ได้…”
“พี่เคยสอนว่า ถ้าเป็นคนสติดีก็ต้องรู้จักเลี่ยงอันตราย ไม่ไปยืนใต้กำแพงที่ใกล้ถล่ม…”
ลูเมี่ยนรวบรวมความคิด ไม่นานก็ได้ข้อสรุปให้ตัวเอง
ต้องรีบออกจากหมู่บ้านกอร์ตูโดยเร็ว หนีไปพร้อมกับพี่สาว!
ส่วนความผิดปกติที่นี่ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการไป ชาวบ้านก็คงได้รับความคุ้มครองจากพวกเขา ลูเมี่ยนไม่มีหน้าที่ ไม่มีความสามารถที่จะรับผิดชอบในส่วนนี้
“นอกจากนั้น เราต้องเร่งมือสำรวจซากปรักหักพังในความฝัน รีบครอบครองพลังวิเศษ เพื่อเผชิญหน้ากับเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างหลบหนีออกจากหมู่บ้าน…” ลูเมี่ยนกลับมาเยือกเย็น แต่หัวใจกำลังร้อนรุ่ม
สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือ ตัวเองกับพี่สาวยังไม่ทันได้ออกจากหมู่บ้านกอร์ตู ความผิดปกติก็ชิงตัดหน้าปะทุขึ้นเสียก่อน หากเป็นเช่นนั้น อย่างน้อยๆ เด็กหนุ่มก็อยากแน่ใจว่าตนจะไม่เป็นภาระของพี่สาว นั่นคือเหตุผลในการไขว่คว้าพลัง
คิดถึงตรงนี้ ลูเมี่ยนเก็บหนังสือเล็กปกฟ้ากลับคืนที่เดิม ถือกระดาษทดสีขาวไว้ในมือแล้วรีบลงบันได
เขาเดินไปหน้าเตาผิง โยนกระดาษใส่กองไฟ
เมื่อออกจากบ้าน ลูเมี่ยนตรงไปยังร้านเหล้าคร่ำครึ
ประตูร้านปิดสนิท เจ้าของร้านและบาร์เทนเดอร์—มอริส·เบเนต์—คงไปร่วมพิธีฝังศพนาโรคาแล้ว
อย่างไรก็ดี เนื่องจากร้านเหล้าแห่งนี้ยังมีธุรกิจเสริมเป็นโรงแรม ย่อมไม่มีทางปิดตายทุกประตูในเวลากลางวัน จนแขกไม่อาจผ่านเข้าออก
ลูเมี่ยนเดินอ้อมไปยังเส้นทางแคบๆ และผลักประตูหลังร้านเข้าไป
เมื่อเดินมาถึงหน้าทางขึ้นบันได เด็กหนุ่มเหลียวกลับไปมองที่โถงใหญ่ ไม่เห็นเงาคนแม้แต่หนึ่งชีวิต
ย่ำเท้าเสียงดัง ลูเมี่ยนเดินขึ้นชั้นสอง หยุดอยู่หน้าห้องของสตรีลึกลับคนนั้น
เมื่อไม่เห็นป้าย ‘กำลังพักผ่อน ห้ามรบกวน’ แขวนอยู่ที่มือจับประตู ลูเมี่ยนหายใจเข้าลึกๆ แล้วบรรจงพ่นออก ตามด้วยงอนิ้ว เคาะประตูไม้เบาๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เด็กหนุ่มเคาะประตูสามครั้งรวด แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากด้านใน
ตึง! ตึง! ตึง! ลูเมี่ยนเพิ่มแรงในการเคาะ แต่ก็ยังไม่มีใครตอบ
จึงลองเคาะอีกหลายหน แต่ภายในห้องยังคงเงียบสงัด
“ไม่อยู่?” ลูเมี่ยนย่นคิ้วชนกัน “หรือจะไปดูพิธีฝังศพนาโรคา?”
เขาไม่มัวเสียเวลาต่อ ลงจากชั้นสอง ออกจากร้านเหล้า และตรงไปยังสุสานข้างโบสถ์ทันที
ระหว่างทาง เด็กหนุ่มผ่านบ้านของนาโรคา
ตอนนี้ชาวบ้านที่มาร่วมอำลาศพนอกบ้าน ทยอยแยกย้ายไปหมดแล้ว ทุกคนกำลังรวมตัวที่สุสาน
ลูเมี่ยนมองเข้าไปจากระยะไกล พอดีเห็นน้องชายของหลวงพ่ออธิการโบสถ์ ปงส์·เบเนต์กำลังออกมาจากบ้าน
“นี่มัน…” เด็กหนุ่มประหลาดใจเล็กๆ ร่างกายอิงแอบบ้านข้างๆ ตามความเคยชิน ซ่อนตัวอยู่หลังกำบัง
ในช่วงจัดพิธีศพ ไม่ใช่ว่าห้ามเข้าบ้านคนตาย เพื่อไม่ให้กระทบกับราศีจนพรากโชคลาภไปหรอกหรือ?
ปงส์·เบเนต์หยุดอยู่หน้าบ้านของนาโรคา พูดคุยกับชายวัยกลางคน ลูกชายคนเล็กของหญิงชราผู้มีนามว่า อาร์โนลด์·อังเดร
เมื่อปงส์·เบเนต์จากไป อาร์โนลด์ล็อกประตูใหญ่แล้วเดินไปทางสุสาน
“การตายของนาโรคามีกลิ่นแปลกๆ …” ลูเมี่ยนย่นคิ้วพลางพึมพำ
ตอนนี้เขารู้สึกว่า ความตายของนาโรคาอาจไม่ได้เกิดจากนกฮูกนั่น แต่อาจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ ของหลวงพ่อกับลิ่วล้อ
นกฮูกตัวนั้นอาจเพียงทำหน้าที่ของตน บินมายังหมู่บ้านกอร์ตูเพื่อนำวิญญาณคนตายไป ระหว่างทางก็หยุดพักและหันมามองลูเมี่ยน
แน่นอน ลูเมี่ยนยังมีอีกหนึ่งทฤษฎีที่น่าพรั่นพรึง
อธิการโบสถ์กับลิ่วล้อ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับนกฮูกตัวนั้น!
พฤติกรรมแปลกๆ และสิ่งที่พวกมันซุ่มทำ ต้นตอแรกสุดอาจเกี่ยวข้องกับมรดกที่จอมเวทคนดังกล่าวทิ้งไว้
“ก่อนจะออกจากหมู่บ้านกอร์ตู เราควรหาโอกาสบอก ‘คำเดา’ กับพวกไรอันและลีอา พวกเขาจะได้ค้นพบความจริงเร็วๆ และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที” ลูเมี่ยนถอนสายตากลับ พึมพำความคิดขณะเดินไปยังโบสถ์สุริยันเจิดจรัส
ตลอดพิธีศพ ลูเมี่ยนคล้ายดูเงียบสงบและเคร่งขรึม แต่ในความเป็นจริง เด็กหนุ่มคอยสังเกตชาวบ้านทุกคน หวังจะเห็นความผิดปกติเล็กๆ จากสีหน้าแววตาพวกเขา
น่าเสียดาย เขาไม่พบอะไรทั้งสิ้น
แต่จากข้อมูลดังกล่าว เด็กหนุ่มตระหนักได้เรื่องหนึ่ง
ใครบางคนในหมู่บ้านกำลังสวมหน้ากาก…
และสตรีลึกลับที่ยกไพ่ทาโรต์ให้ตน ก็ได้ไม่โผล่หน้ามาที่สุสาน
…
เมื่อใกล้เย็น ภายในบ้านสองชั้นครึ่งรวมใต้ดิน
“ไหนกระดาษคำตอบที่นายเขียน” โอลัวร์มองน้องชายที่เดินเข้ามา เอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ “ขอดูหน่อย”
ลูเมี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันมีเรื่องจะบอก”
สายตาโอลัวร์สำรวจผ่านใบหน้าเด็กหนุ่ม
“สัตว์ป่าในหมู่บ้านขโมยกระดาษคำตอบของนายอีกแล้วหรือไง?”
“ไม่ใช่” ลูเมี่ยนพูดเสียงต่ำ “ฉันได้ยินข้อมูลมาจากพวกคนต่างถิ่น…”
โอลัวร์ระงับยิ้ม ผงกหัวเป็นนัยให้พูดต่อ
ลูเมี่ยนเริ่มเล่าจากจุดที่พวกไรอันตามหาคนส่งจดหมายขอความช่วยเหลือ เล่าถึงความผิดปกติของหนังสือเล็กปกฟ้าที่บ้าน เล่าถึงความสงสัยที่มีต่อคุณนายปัวริส เล่าถึงการยืมหนังสือเล็กปกฟ้ามาจากบ้านแรมงด์ รวมถึงการคาดเดาเนื้อหาของจดหมาย
“พวกเราต้องรีบหนีออกจากหมู่บ้านนี้ไปดาลีแอช…ไม่สิ…ไปบีกอร์ดีกว่า แล้วอาศัยอยู่ที่นั่นสักระยะ”
โอลัวร์ไม่ตอบในทันที แต่ไตร่ตรองสักพักแล้วจึงพูด
“ฟังดูเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดจริงๆ นั่นแหละ”
“แต่ติดปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง…ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวน เราที่รีบร้อนออกจากกอร์ตูกะทันหัน อาจจะตกเป็นเป้าสงสัยของพวกเขาจนถูกตามมาสกัดไว้ จากนั้นก็ถูกสอบปากคำอย่างดุเดือด”
“ถ้าฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ เรื่องนี้ก็ไม่น่าห่วง แต่ฉันเป็นผู้วิเศษที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้กับทางการ…เป็นพวกที่จะถูกศาลจับไปชำระล้างน่ะ”
ลูเมี่ยนยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ จึงไม่เคยคำนึงถึงปัญหานี้มาก่อน ทำเอาพูดไม่ออกไปพักใหญ่
ผ่านไปสักพัก เขาเอ่ยขึ้นมา
“ตีฝ่าวงล้อมออกไป…แล้วซ่อนตัวในเมืองอื่น หรือประเทศอื่นได้ไหม?”
“ประเมินฉันสูงไปมั้ง?” โอลัวร์ขำแห้ง “จากเท่าที่ดู ชาวต่างถิ่นสามคนนั้นคงแข็งแกร่งเอาเรื่อง หากมีแค่คนเดียว ฉันอาจรับมือไหว แต่นี่มีถึงสาม และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่านอกหมู่บ้านมีกองกำลังดักซุ่มอยู่หรือไม่ เพื่อรอจับตัวผู้ต้องสงสัยที่แตกตื่นจนคิดหนีออกจากหมู่บ้าน”
ลูเมี่ยนถูกทำให้เงียบไปอีกครั้ง
เขาจำใจต้องยอมรับว่า เมื่อเทียบกับพี่สาว ตนยังเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสา
“นายน่ะ ยังห่ามเกินไป” โอลัวร์แสดงความเห็น “แต่ก็เป็นเรื่องปกติ มีวัยรุ่นที่ไหนไม่เลือดร้อนด้วยหรือ?”
หญิงสาวเว้นวรรคแล้วพูดต่อ
“พรุ่งนี้เช้า ไปหาเจ้าหน้าที่ปกครองให้หน่อย ช่วยฉันส่งโทรเลขถึง ‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ ถามเกี่ยวกับการจัดสัมมนานักเขียนที่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้”
โอลัวร์เป็นนักเขียนคอลัมน์ลง ‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักอ่าน
ในหมู่บ้านกอร์ตู มีเพียงเจ้าหน้าที่ปกครองกับอธิการโบสถ์เท่านั้นที่มีเครื่องโทรเลข ใช้สำหรับติดต่อฉุกเฉินกับภายนอก ชาวบ้านก็สามารถใช้ได้ เพียงแต่ต้องจ่ายเฟลคินให้ถึง
เมื่อเห็นลูเมี่ยนแสดงภาษากายไม่เข้าใจ โอลัวร์ยิ้มพร้อมกับอธิบายง่ายๆ
“‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ อยากชวนฉันไปทำกิจกรรมที่เมืองทรีอาร์มาตลอด แต่ฉันตอบปฏิเสธไปทุกครั้ง รวมถึงการสัมมนานักเขียนครั้งล่าสุด”
“ถ้าฉันเป็นฝ่ายถามกลับไปแบบนี้ พวกเขาคงกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเชิญไปให้ได้แน่ อาจถึงขั้นออกค่าตั๋วรถไฟไอน้ำไป-กลับให้ด้วยซ้ำ”
“ด้วยวิธีนี้ การออกจากกอร์ตูของเราก็จะดูเป็นธรรมชาติ ต่อให้ตอนนี้ถูกแอบจับตามองอยู่ ก็จะไม่มีใครคิดว่าเป็นผู้ต้องสงสัย”
“เมื่อถึงตอนนั้น ฉันมีวิธีตบตาพวกเขาได้ชั่วคราว ตราบใดที่เราสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดปกติในหมู่บ้าน ก็คงออกจากกอร์ตูได้อย่างราบรื่น”
“เจ๋ง…” ลูเมี่ยนไม่อาจกลั้นความโล่งใจ
ไม่กี่วินาทีถัดมา เขาถามเสียงฉงน
“โอลัวร์ เอ่อ…พี่…‘ผู้วิเศษ’ หมายถึงคนที่มีพลังวิเศษใช่ไหม”
“ใช่” โอลัวร์ตอบโดยไม่ขยายความ
เธอเปลี่ยนเรื่องแล้วยิ้ม
“นายยอมทิ้งเพื่อนๆ และหนีออกจากกอร์ตูได้จริงหรือ”
“ความเป็นความตายของคนอื่นสำคัญอะไรกับฉัน?” ลูเมี่ยน ‘หึ’ อย่างไม่แยแส
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การรับรองความปลอดภัยให้พี่สาว!
โอลัวร์หัวเราะพร้อมกับเดาะลิ้น
“ไม่เอาน่า ไหนลองพูดให้ชัดๆ ใหม่อีกรอบซิ”
“คิดว่านายพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว? แต่ทุกครั้ง ถ้าไม่แอบช่วยเหลือพวกเขาลับๆ ก็จะแกล้งทำเป็นแนะนำอ้อมๆ”
“ก็นั่นมันเรื่องจิ๊บจ๊อยนี่นา” ลูเมี่ยนแก้ต่าง
แต่ตอนนี้ เหตุการณ์ผิดปกติกำลังคุกคามพี่สาว
“จ้า จ้า” โอลัวร์แลดูไม่อยากเถียงกับเด็ก “ได้เวลาเตรียมมื้อเย็นแล้ว วันนี้เป็นเวรของนาย”
ลูเมี่ยน ‘อืม’ หนึ่งคำแล้วเดินไปที่เตา
…
ในค่ำคืนอันมืดมิด ดวงจันทร์สีแดงกำลังถูกหมู่เมฆบดบัง
ลูเมี่ยนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ แล้วนอนลงบนเตียง
ใบหน้าของเด็กหนุ่มค่อยๆ เผยความกังวล
แผนของโอลัวร์ก็น่าสนใจดี แต่ลูเมี่ยนเป็นห่วงว่า ระหว่างรอการตอบกลับจาก ‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ เหตุการณ์ผิดปกติในหมู่บ้านอาจชิงปะทุขึ้นเสียก่อน
ด้วยเหตุนี้ เขารู้สึกว่าตนจำเป็นต้องเพิ่มพลัง และการได้รับพลังวิเศษจากซากปรักหักพังในฝัน คือเส้นทางที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด
เรื่องที่น่าเสียดายก็คือ วันนี้เขาหาสตรีลึกลับที่มอบไพ่ทาโรต์ให้ตนไม่พบ จึงไม่อาจขอคำแนะนำใหม่ๆ จำใจต้องลองด้วยตัวเองไปก่อน
สำหรับเขา สถานการณ์ปัจจุบันเปรียบดังลูกธนูที่ถูกขึ้นสาย มีแต่ต้องยิงออกไปเท่านั้น
โดยไม่มัวลังเล ลูเมี่ยนเรียบเรียงความคิดในหัว ค่อยๆ ส่งตัวเองเข้าสู่ภาวะหลับใหล
…………………………………………………….