ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 23 กึ๋นการต่อสู้
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 23 กึ๋นการต่อสู้
ตอนที่ 23 กึ๋นการต่อสู้
ลูเมี่ยนมุ่งมั่นจดจ่ออย่างเต็มที่
พอเอาเข้าจริง เด็กหนุ่มกลับไม่รู้สึกกลัวเหมือนก่อนหน้านี้ แม้ว่าร่างกายจะยังสั่น แต่อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองใกล้สติแตก
“เราควรจะตายไปตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว ขอบคุณโอลัวร์ที่ช่วยให้ยังมีชีวิตอยู่…ได้อยู่นานกว่าที่ควรจะเป็นถึงห้าปี ยังมีอะไรให้ต้องกลัวอีก?” ลูเมี่ยนกัดฟันปลุกใจตัวเองเงียบๆ
วินาทีถัดมา บนหน้าดินที่คลุมกับดักจุดแรกไว้ เด็กหนุ่มพบว่าแสงสว่างที่มืดมัวอยู่แล้ว ยิ่งมืดลงไปจากเดิม
เงาของบางสิ่งกำลังขยับเข้ามาจากด้านข้างกับดักนั้น บดบังแสงบางส่วนที่แหวกผ่านหมอกหนาลงมา
เจ้าของเงาคือสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์ สะพายปืนลูกซอง ดวงตาแดงก่ำคล้ายเลือดกำลังก้มมองพื้น สองขาที่ดูคล้ายขาหลังสัตว์สี่เท้าย่อลงเล็กน้อย
หนึ่งลมหายใจถัดมา สัตว์ที่สวมเสื้อแจ็กเกตสีเข้มและกางเกงยาวเปรอะโคลน วางปืนล่าสัตว์ลงแล้วกระโดด ควบคุมความสูงให้ข้ามกับดักในคราวเดียว ลงจอดบนพื้นแข็งๆ ที่มีรอยแยก
แทบจะในเวลาเดียวกัน มันหันศีรษะที่ดกดำด้วยเส้นผมมันเยิ้ม มองไปยังทิศทางที่มีเสียงเล็กๆ ดังเล็ดลอดออกมา
สัตว์ประหลาดเห็นลูเมี่ยนเจ้าของใบหน้าหวาดผวา กำลังลุกขึ้นอย่างลนลาน พยายามหนีไปหลบหลังกำแพง
ท่ามกลางเสียงคำรามเบาๆ สัตว์ประหลาดกระโดดสูงอีกครั้ง หวังโจมตีเป้าหมายให้ดับดิ้น
จุดตกอยู่แถวๆ ตำแหน่งเดิมของลูเมี่ยน แต่เยื้องเฉียงเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ฝ่ายตรงข้ามหันกลับมาสวน ระหว่างที่ตัวเองยังยืนไม่มั่นคง จนอาจถูกโจมตีถึงตายในคราวเดียว
ลูเมี่ยนรีบกระโดดไต่กำแพงไปหลบอีกฟากหนึ่ง
เมื่อเท้าของสัตว์ประหลาดสัมผัสพื้น ดินใต้ฝ่าเท้าไม่อาจทนรับน้ำหนักจนต้องจมลึกลงไป
พอไม่มีพื้นให้ค้ำยัน ร่างของมันร่วงหล่นพร้อมกับหน้าดินและตาข่าย ตกลงไปในหลุมลึกที่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมี
ตุบ!
เกิดเสียงของวัตถุหนักๆ ตกกระทบพื้น ผสมปนเปกับเสียงคล้ายเสียงหนูกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ได้เห็นภาพดังกล่าว ลูเมี่ยนที่หลบอยู่หลังกำแพง บังเกิดความยินดีปรีดาอย่างไม่อาจอดกลั้น
ขั้นแรกผ่านฉลุย!
ความกลัวที่ยังคงค้างในใจหายไปกว่าครึ่งทันที เด็กหนุ่มหยิบส้อมเหล็กที่วางอยู่ข้างตัวแล้ววิ่งไปทางกับดัก
ความทนทายาดของสัตว์ประหลาดไร้ผิวหนังตัวนั้น ยังคงติดตราตรึงใจเด็กหนุ่ม กอปรกับเป้าหมายตัวนี้มีปืนล่าสัตว์ ลูเมี่ยนต้องระวังมิให้ร่างกายโผล่ขึ้นเหนือปากหลุม จึงต้องยืนห่างๆ แล้วใช้ส้อมแทงลงไปแทน
แต่จู่ๆ ส้อมก็หนัก ไม่ยอมกระดุกกระดิก
ทันทีหลังจากนั้น พลังลึกลับแล่นผ่านด้ามส้อมมาถึงมือลูเมี่ยน พยายามดึงเขาลงไปในกับดัก
ลูเมี่ยนตกใจจนไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกกระชากจนขยับไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
เด็กหนุ่มไม่คิดจะชะโงกลงไปมองในหลุม เพียงรีบโยนส้อมทิ้ง หันหลังกระโดดไปข้างๆ ของผนังที่ยังไม่พัง
ปัง!
แผ่นหลังพลันรู้สึกหนักอึ้ง ยังกับว่าถูกฟาดด้วยค้อนยักษ์เต็มเหนี่ยว
ลูเมี่ยนหวานคอทันที รับรู้ถึงรสชาติของสนิมเหล็กที่กำลังเอ่อล้น
ตุบ! เด็กหนุ่มตกลงพื้นอย่างไร้สมดุล กลิ้งไปหลายตลบก่อนจะกลับมาควบคุมร่างกายได้ใหม่ แล้วจึงค่อยๆ คลานขึ้นมายืน
แทบจะในเวลาเดียวกัน เขาเห็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ป่ากระโดดออกจากหลุมลึก
ในมือถือปืนล่าสัตว์ลำกล้องเดี่ยว แจ็กเกตตรงหน้าอกและท้องขาดวิ่น เผยให้เห็นแผลเจาะทะลุหลายแห่ง เลือดสีแดงเข้มผสมกับของเหลวสีเหลืองอ่อนไหลออกมาไม่หยุด อวัยวะภายในโผล่ออกมาชิ้นสองชิ้น
ชัดเจนว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้บาดเจ็บสาหัสเพราะกับดักของลูเมี่ยน แต่ยังไม่ถึงกับต่อสู้ไม่ได้
ระหว่างที่ตกลงไปในก้นหลุมลึก มันคงจัดระเบียบร่างกายได้ทันเวลา สามารถหลีกเลี่ยงจุดสำคัญอย่างศีรษะและหน้าอก รวมถึงไม่ทำให้แขนขาบาดเจ็บหนัก ไม่อย่างนั้นคงกระโดดออกจากกับดักไม่ไหว
เมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่าย ลูเมี่ยนรีบวิ่งเข้าไปในซากอาคารข้างๆ โดยไม่ลังเล
นี่มิใช่การตัดสินใจชั่ววูบ แต่เป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้า
เขาเผื่อใจไว้แล้วว่าสัตว์ประหลาดอาจไม่ติดกับดัก หรือต่อให้ตกลงไป ก็ยังไม่มั่นใจว่ากับดักจะเล่นงานอีกฝ่ายจนสู้ต่อไม่ไหว
ถึงจะไม่สำเร็จ แต่ถ้าศัตรูบาดเจ็บหนัก แผนของลูเมี่ยนคือการเล่น ‘ซ่อนแอบ’
กล่าวคือ อาศัยสภาพแวดล้อมทำให้เป้าหมายอ่อนแรง พยายามยื้อเวลาให้นานที่สุด จนกระทั่งความเจ็บปวดเล่นงานร่างกายสัตว์ประหลาด พละกำลังและปฏิกิริยาตอบสนองถูกบั่นทอนลง
เมื่อถึงตอนนั้น โอกาสก็จะเปิดกว้าง
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ลูกปรายสาดมายังตำแหน่งของลูเมี่ยนจนเศษดินกระเด็นเป็นฝอยเล็กๆ
เด็กหนุ่มที่หลบหลังซากผนังซึ่งถล่มไปกว่าครึ่ง ไม่ได้นิ่งนอนใจ ใช้มือเท้าคลานพาตัวเองผ่านช่องว่างระหว่างซากอาคารไปยังอีกด้านหนึ่ง
แต่ยังไม่ทันที่ลูเมี่ยนจะลุกขึ้น เสียงสายลมพลันดังแว่ว
สัตว์ประหลาดกำลังกระโจนเข้าใส่
ลูเมี่ยนรีบม้วนตัวกลับ คลานไปตามช่องว่างเดิม กลับไปด้านหลังกำแพงที่ถล่มไปกว่าครึ่งเช่นเดิม
อาศัยประโยชน์จากลักษณะพิเศษของซากอาคาร เด็กหนุ่มบ้างก็ซ่อนตัว บ้างก็วิ่งหนี บ้างก็อ้อมหลัง ไม่เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโดยตรง เอาแต่หลบการโจมตีที่เกิดขึ้น
‘ซ่อนแอบ’ ถือเป็นจุดแข็งของลูเมี่ยน
หลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านี้ หลังจากเล่นพิเรนทร์ในหมู่บ้าน เขามักจะใช้พรสวรรค์ด้านซ่อนแอบเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกรุมกระทืบ ณ ตรงนั้น
ท่ามกลางการไล่ล่าและหลบหนี การโจมตีและการหลบหลีก เวลาไหลไปอย่างรวดเร็ว ลูเมี่ยนเริ่มหายใจหอบขึ้นมาบ้าง เช่นเดียวกับสัตว์ประหลาดที่ทั้งความเร็วในการวิ่ง ความสูงในการกระโดด พละกำลังและปฏิกิริยาล้วนลดลงชัดเจน
“รออีกนิด…ขออีกนิด ตอนนี้เรายังสู้กับมันไม่ไหว…” ลูเมี่ยนคลานกลับตำแหน่งเดิม หลังพิงกำแพงที่พังลงมากว่าครึ่ง พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้บุ่มบ่ามตอบโต้
โครม! หลังของเขาเจ็บแปลบอีกครั้ง ร่างกายกระเด็นไปข้างหน้า
กำแพงครึ่งซีกที่ลูเมี่ยนเคยใช้หลังพิง เกิดหินกระจายพร้อมกับพังถล่มทั้งแผ่น
คราวนี้สัตว์ประหลาดไม่คิดจะเล่นไล่จับ แต่หันข้างแล้วพุ่งชนสิ่งกีดขวางเต็มแรง
ทว่า นั่นทำให้สัตว์ประหลาดยิ่งหลั่งเลือด พื้นดินเปื้อนเปรอะของเหลวสีแดงเข้ม
ลูเมี่ยนไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะถูก ‘ชน’ ในลักษณะนี้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงอะไร อีกทั้งยังตอบสนองได้รวดเร็ว ปล่อยร่างกายกลิ้งไปตามแรงกระแทก แล้วคลานไปซ่อนหลังกองหินในซากอาคาร
ปัง!
ตามมาด้วยกระสุนปืนล่าสัตว์ที่ช้าไปหนึ่งก้าว
หลังจากสัตว์ประหลาดนั่นเอาตัวชนกำแพง มันใช้เวลาจัดระเบียบร่างกายนานขึ้นกว่าเดิม
สัตว์ประหลาดจับกระเป๋าผ้าที่ห้อยตรงเอว เมื่อพบว่าไม่เหลือกระสุน จึงโยนปืนล่าสัตว์ทิ้งแล้วกระโจนใส่ตำแหน่งของลูเมี่ยน
เด็กหนุ่มรีบเปลี่ยนจุดซ่อนตัว กลับมาเล่นเกมซ่อนแอบอีกครั้ง
แน่นอน เขาไม่กล้าเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนอีกฝ่ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวแล้วล้มลงไปเอง เหตุผลแรก ลูเมี่ยนกลัวว่ามันอาจตัดสินใจหนีหากเริ่มรู้ตัวเองว่าไม่ไหว เหตุผลที่สอง เขากลัวว่าถ้าใช้เวลานานเกินไป สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ อาจไล่ตามเสียงมา
หลังจากวกวนอีกราวๆ สองสามรอบ ลูเมี่ยนสังเกตเห็นว่าสัตว์ประหลาดเริ่มขาดความคล่องตัว
“โอกาส!”
เมื่อความคิดผุดในใจ เด็กหนุ่มทำทีเป็นหนีไปทางด้านข้างของซากอาคาร
จากนั้น เขายืนปักหลัก ชักขวานที่สะพายหลังมาถือพลางปรับลมหายใจ
ผ่านไปเพียงหนึ่งกะพริบตา สัตว์ประหลาดตัวนั้นหักเลี้ยวมาอยู่ตรงหน้าลูเมี่ยน
เด็กหนุ่มคิดไวทำไว ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามยังตามสถานการณ์ไม่ทัน เขาง้างขวานไปด้านหลัง
สืบเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว บิดร่างกายไปด้านข้างเล็กน้อย เตรียมใช้เทคนิค ‘กระแทก’ ที่พี่สาวสอน เพื่อผลักสัตว์ประหลาดให้ถอยหลัง แล้วตามสับขวานซ้ำใส่ลำคอ
ปึก!
ลูเมี่ยนมุดเข้าไประหว่างสองแขนของสัตว์ประหลาด แล้วชนเข้าเต็มแรงใส่หน้าอกของมัน
แต่ผลการชนกลับไม่ตรงตามที่จินตนาการ มันรู้สึกคล้ายชนเข้ากับผนังหิน ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว!
ในวินาทีดังกล่าว มือของสัตว์ประหลาดพุ่งใส่อย่างว่องไวปานสายฟ้า คว้าคอเด็กหนุ่มไว้แนบแน่น
ท่าทีราวกับไม่เคยมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว!
“บัดซบ…เราโดนต้ม!” ลูเมี่ยนที่กำลังเจ็บคอ ถูกสัตว์ประหลาดยกลอยในท่าห้อยโตงเตงอยู่กลางอากาศ
เสียงกระดูกกรอบแกรบดังตามมา พริบตาเดียวก็รู้สึกเวียนหัว
การเหวี่ยงขวานส่งเดชของเขาไม่เพียงจะพลาดเป้า แต่ยังถูกปัดทิ้งไปข้างๆ
ในที่สุดลูเมี่ยนก็เข้าใจ ว่าตนตกเป็นเหยื่อเล่ห์เหลี่ยมของสัตว์ประหลาด
อันที่จริงอีกฝ่ายก็ร่อแร่เต็มที แต่พอยังเหลือเรี่ยวแรงสำหรับต่อสู้ มันจึงแสร้งทำตัวอ่อนแอเพื่อล่อลวงให้เหยื่อเลิกซ่อนตัวแล้วเข้าไปโจมตี
เด็กหนุ่มดูแคลนกึ๋นการต่อสู้ของมัน ไม่เคยคำนึงถึงเล่ห์เหลี่ยม จนต้องตกอยู่ในสถานการณ์เจียนอยู่เจียนไป
สัตว์ประหลาดก็ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน จนหักคอลูเมี่ยนพลาดไป แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์โดยรวม แค่ยืดชะตากรรมเดิมให้นานขึ้น
คอใกล้จะหัก หายใจไม่ต่อเนื่อง ในความทุกข์ทรมานเหล่านี้ หัวของลูเมี่ยนเริ่มชาและว่างเปล่า
ว่างเปล่า
ขณะเจียนอยู่เจียนไปเต็มที ลูเมี่ยนพลันนึกถึงคำพูดของสตรีลึกลับ
เธอบอกให้ตนใช้ประโยชน์จาก ‘ความพิเศษ’ ในฐานะเจ้าของความฝัน
ความวิเศษ…ขณะที่สมองใกล้ขาวโพลน แทบไม่หลงเหลือความคิดอื่น ลูเมี่ยนรีบเข้าฌาน
พระอาทิตย์สีแดงสดใสปรากฏอยู่ภายในใจอย่างแจ่มชัด
แตกต่างจากการเข้าฌานครั้งก่อนที่หวังผลแค่สงบจิต ซึ่งลูเมี่ยนรีบออกฌานทันทีที่ร่างภาพดวงอาทิตย์เสร็จ คราวนี้เขาพยายามรักษาภาพพระอาทิตย์ไว้ให้ได้นานที่สุด
เพียงพริบตา เสียงที่คล้ายดังมาจากตำแหน่งสูงอนันต์ แต่ก็ราวกับกระซิบอยู่ข้างหู เจาะทะลวงเข้ามาในหัวลูเมี่ยน
ตามมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส หัวใจคล้ายจะหลุดออกจากอก ความรู้สึกอันน่าพรั่นพรึงเหล่านี้ทำให้ลูเมี่ยนแทบลืมว่า ตนกำลังถูกสัตว์ประหลาดบีบคอจนกระดูกใกล้หัก ลืมไปว่าหายใจติดขัดจนสมองเริ่มขาดออกซิเจน
ตุบ! เขาล้มไปกองกับพื้น
การเข้าฌานถูกขัดจังหวะ เสียงประหลาดที่อธิบายไม่ได้พลันเลือนหาย
แต่ลูเมี่ยนยังคงทุกข์ทรมาน ไม่อาจสำรวจร่างกายตัวเองหรือยืนยันสภาพแวดล้อม
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่อาจทราบได้ ในที่สุดลูเมี่ยนก็ฟื้นจากประสบการณ์เฉียดตาย
เด็กหนุ่มไม่สนใจจะตรวจสอบคอ เพียงใช้สองมือยันร่างขึ้น ยกหัวมองไปข้างหน้า
สัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์กำลังคุกเข่าหมอบอยู่ไม่ห่าง สองมือยันพื้น ศีรษะก้มต่ำ
แผลเจาะทะลุตรงหน้าอกและท้องของมันยังคงมีเลือดสีเข้มปนของเหลวสีเหลืองอ่อนไหลออกมา ร่างกายสั่นระริกรุนแรง
เกิดอะไรขึ้น? โดน ‘ความพิเศษ’ ของเราเล่นงานจนเสียขวัญไปแล้ว? ลูเมี่ยนพยายามไตร่ตรอง พลางหยิบขวานที่ตกข้างๆ ขึ้นมาและสืบเท้าเข้าไปหา
โดยไม่เปิดโอกาสให้สัตว์ประหลาดฟื้นตัว เด็กหนุ่มใช้สองมือจับขวาน สับลงไปที่ท้ายทอยเต็มแรง
เฉาะ! ขวานฝังลึกเข้าไปในกล้ามเนื้อ แต่ติดอยู่ที่กระดูก
ลูเมี่ยนเกร็งมือดึงขวานออก แล้วสับลงไปใหม่
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง หัวของสัตว์ประหลาดขาดกลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้น เลือดสดพุ่งกระเซ็น
ร่างของมันค้างท่าเดิมราวๆ หนึ่งวินาทีก่อนจะล้มฟุบลง
ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีสัญญาณการขัดขืนแม้แต่น้อย เพียงสั่นระริกจนตัวตาย
วินาทีถัดมา ลูเมี่ยนโน้มตัวไปข้างหน้า ทิ้งสองแขนตามธรรมชาติ ปล่อยให้เลือดบนขวานหยดติ๋งๆ
แฮ่ก…แฮ่ก…แฮ่ก…ในที่สุดเขาก็ปล่อยลมหายใจแห่งความโล่งอกออกมา
…………………………………………………….