ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 24 เก็บเกี่ยว
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 24 เก็บเกี่ยว
ตอนที่ 24 เก็บเกี่ยว
ลูเมี่ยนไม่กล้าพักนานเกินไป ด้วยเกรงว่าอาจมีสัตว์ประหลาดอื่นมาใกล้ หลังจากพักเหนื่อยครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มกัดฟันทนความเจ็บปวดที่คอและหลัง รวมถึงชอกช้ำภายในร่างกาย รีบคุกเข่าลงข้างศพสัตว์ประหลาดตัวนั้น
เขายังคงจับขวานในมือขวา เพราะเกรงว่าศัตรูอาจยังตายไม่สนิท อาจดีดตัวขึ้นมาเหมือนสัตว์ประหลาดที่ไม่มีหนังหุ้ม
เด็กหนุ่มใช้มือซ้ายคลำตามร่างกายสัตว์ประหลาด พบเหรียญทองแดงห้าโกเปต์สามเหรียญที่เรียกว่า ‘ริกต์’ กับถุงผ้าว่างเปล่า
“แค่นี้…?” ลูเมี่ยนมิได้ผิดหวังที่ได้เงินน้อย แต่เป็นเพราะไม่พบวัตถุที่เกี่ยวข้องกับพลังวิเศษ
ถ้าไม่ใช่เพื่อหาสิ่งนั้น ตนจะเสียเวลาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดไปเพื่ออะไร?
หากไม่ใช่ว่าตนมี ‘ความพิเศษ’ บางอย่างในโลกความฝัน ป่านนี้คงได้กลายเป็นอาหารสัตว์ประหลาดไปแล้ว
ลูเมี่ยนลุกขึ้นยืน มองไปยังหัวของสัตว์ประหลาดที่กลิ้งไปอีกฝั่งหนึ่ง โดยหวังว่าจะค้นพบสิ่งที่ตนต้องการ
ทันใดนั้น เขาเห็นแสงสีแดงเข้ม ส่องออกจากผิวหนังที่เต็มไปด้วยแผลของสัตว์ประหลาด
แสงเหล่านั้นดูคล้ายหิ่งห้อย บินไปในทิศทางเดียวกันอย่างช้าๆ โดยไม่อาจหยุดยั้ง
มองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ใจของลูเมี่ยนเริ่มท่วมท้นไปด้วยความร่าเริง
ปรากฏการณ์นี้ต้องเกี่ยวข้องกับพลังวิเศษอย่างแน่นอน!
ไม่นานนัก บนหน้าอกของสัตว์ประหลาดปรากฏจุดสีแดงเข้มเหนียวๆ โดยไม่มีจุดแสงอื่นเหลืออยู่แล้ว
ลูเมี่ยนโค้งตัวอย่างระมัดระวัง ยื่นมือไปคว้าสิ่งนั้น
มันลื่นมาก จนเผลอทำหล่นไปสองสามหนก่อนจะคว้าได้สำเร็จ แล้วจึงนำมาวางบนมือเพื่อกะเกณฑ์น้ำหนัก
เบามาก…มีผิวสัมผัส ยืดหยุ่น ผิวเรียบลื่นสุดๆ …
“มันคืออะไรกันนะ…” ลูเมี่ยนตระหนักอีกครั้งว่าตนไม่มีความรู้เชิงศาสตร์เร้นลับแม้แต่กระผีกเดียว
ขณะกระซิบกระซาบกับตัวเองอย่างไร้เสียง เขาได้กลิ่นคาวเลือดโชยจากก้อนประหลาดสีแดงเข้มนี้ จิตใจเริ่มไม่สงบ ความรู้สึกขุ่นมัวและอารมณ์ด้านลบเริ่มบ่มเพาะภายในร่างกาย
ชั่วขณะหนึ่ง ลูเมี่ยนอยากจะยกขวานขึ้นมาสับศพสัตว์ประหลาดอีกหลายๆ ครั้งเพื่อปลดปล่อยอารมณ์รุนแรงในใจ
โชคดีที่โอลัวร์เน้นย้ำเสมอว่า การไล่ตามพลังวิเศษคือเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เด็กหนุ่มจึงมีภูมิคุ้มกันล่วงหน้า คอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้ความปีติทำให้ใจเผลอไผล จนสังเกตเห็นความผิดปกติได้ทันเวลา
“มันส่งอิทธิพลกับสภาพจิตใจของเรา?” ลูเมี่ยนโยนก้อนสีแดงเข้มเข้าไปในถุงผ้าที่นำมาจากศพสัตว์ประหลาด
เมื่อไม่ได้สัมผัสโดยตรง เด็กหนุ่มรู้สึกสงบสุข คล้ายกับเมื่อครั้งเพิ่งเสร็จการต่อสู้ที่เดิมพันช่วยชีวิต เจือจางความตื่นเต้นอย่างบางเบา
ร่างกายของเขายังคงสั่น
“นึกแล้วเชียว!” ลูเมี่ยนดีใจจนกระซิบเบาๆ หลังจากพบว่าจิตใจของตนกลับเป็นปกติ
เด็กหนุ่มรัดถุงผ้านั่นให้แน่น ห้อยมันไว้ในห่วงเข็มขัด
แต่หลังจากลองคิดดูใหม่ ลูเมี่ยนถอดถุงผ้าออกมาใส่กระเป๋าแจ็กเกตหนัง
การทำแบบนี้จะไม่หล่นหายง่ายๆ แถมยังช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัยขึ้น!
เมื่อคลายเสื้อออก หนังสือเล่มหนึ่งที่ลูเมี่ยนมัดติดกับหลัง พลันหล่นลงพื้นด้วยเสียงอันดัง
หน้าปกมีรอยบุ๋มและรอยขาด
นี่คือหนังสือแบบฝึกหัดที่โอลัวร์เตรียมไว้ให้ลูเมี่ยน ชื่อของมันคือ ‘ชุดแบบฝึกหัดเตรียมสอบอุดมศึกษาส่วนกลาง’ เป็นหนังสือปกอ่อน แผ่นกระดาษค่อนข้างใหญ่ เหมาะแก่การใช้เป็นชุดเกราะภายนอกที่สามารถสอดใส่ในช่องว่างๆ
ในช่วงเวลาสำคัญ หนังสือเล่มนี้ช่วยเบี่ยงกระสุนปืนล่าสัตว์ที่ยิ่งใส่ลูเมี่ยน
แน่นอนว่าไม่ใช่ความดีความชอบของหนังสืออย่างเดียว
ลูเมี่ยนหยิบหนังสือแบบฝึกหัดขึ้นมา กลับไปยังศพของสัตว์ประหลาด เย้ยหยันศพที่ไร้ชีวิต
“เห็นหรือยังล่ะ…ความรู้คือพลัง!”
พูดจบ ลูเมี่ยนตั้งใจจะโยนหนังสือแบบฝึกหัดใส่หน้าสัตว์ประหลาด แต่ฉุกคิดได้ว่านี่คือหนังสือที่พี่สาวตั้งใจเตรียมไว้ให้ เขาจึงไม่กล้าทำ
เด็กหนุ่มหันหลังกลับ สอดหนังสือไว้ในเข็มขัดด้านหลัง จากนั้นก้มตัวลง ลากศพของสัตว์ประหลาดไปที่กับดัก โยนมันลงหลุม และเตะหัวที่หลุดตามลงไป
หลังจากทำความสะอาดสนามรบเบื้องต้น ลูเมี่ยนกลั้นความเจ็บปวดและความไม่สบายกาย สะพายขวานเข้าที่ หยิบปืนลูกซองไร้กระสุน หยิบส้อมเหล็กกับพลั่ว แล้วเดินถอยกลับไปยังพื้นที่รกร้าง
ตลอดทาง เขาเดินไปพลางระวังหลังอย่างรอบคอบ ไม่ประมาทแม้แต่วินาทีเดียว
ในที่สุด เด็กหนุ่มเดินผ่านพื้นที่รกร้างกลับมาถึงบ้านตน ขึ้นไปที่ชั้นสองแล้วเข้าห้องนอน
จนถึงตอนนี้ ลูเมี่ยนเพิ่งจะได้คลายความกังวล ความเจ็บปวด และความไม่สบายใจอย่างแท้จริง แต่ความเหนื่อยล้าอันหนักหน่วงก็ปะทุขึ้นพร้อมกัน
เขานั่งลงตรงขอบเตียง ใช้เวลาสักพักจึงค่อยกลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติ แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนออกจากความฝัน เพียงเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บหนังสือ และเดินไปหน้ากระจกเต็มตัวที่ติดกับตู้เสื้อผ้า เพื่อสำรวจบาดแผล
ลำคอบวมเป่ง ท่ามกลางรอยเขียวคล้ำมีรอยมือห้านิ้วสีแดง แผ่นหลังมีรอยฟกช้ำที่เด่นชัดหลายจุด ยังไม่นับแผลถลอกและรอยช้ำเล็กๆ อีกประปราย
“ช้ำในตามที่โอลัวร์บอกจริงๆ …คราวหน้าที่กลับเข้ามา มันจะหายไหมนะ?” ลูเมี่ยนอดไม่ได้ที่นึกทบทวนการต่อสู้ครั้งล่าสุด แล้วจึงประเมินผลงานตัวเอง “ไม่ผ่าน แต่ก็ไม่แย่”
อันที่จริง ในครึ่งแรกของการต่อสู้ เด็กหนุ่มสมควรได้รับคะแนนสูงๆ เพราะไม่เพียงจะใช้ประโยชน์จากความฉลาดครึ่งๆ กลางๆ ของสัตว์ประหลาด หลอกล่อมันจนตกหลุมพรางกับดัก แต่ยังทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ยื้อยุดกับเป้าหมายได้เป็นเวลานานโดยแทบไม่มีข้อบกพร่อง บั่นทอนสุขภาพของอีกฝ่ายจนเข้าสู่วิกฤติ จุดตำหนิเพียงเรื่องเดียวคือการที่ยังขาดประสบการณ์ เลือกใช้ส้อมยาวแทงสัตว์ประหลาดที่ก้นหลุม แทนที่จะหาหินหนักๆ มาทุ่มลงไป
ในครึ่งหลังของการต่อสู้ ความปีติที่ใกล้จะคว้าชัย ประสบการณ์ที่ยังอ่อนหัด และการประมาทกึ๋นของสัตว์ประหลาด ทำให้เด็กหนุ่มตกเป็นเหยื่อความเจ้าเล่ห์จนเกือบถูกฆ่า
แน่นอนว่ายังไม่ผ่านการประเมิน แต่โชคดีที่ความสำเร็จในช่วงต้น ทำให้สัตว์ประหลาดใกล้ถึงขีดจำกัด ไม่อาจสังหารเขาได้รวดเร็วนัก เปิดโอกาสให้ทำสมาธิเพื่อเรียก ‘ความพิเศษ’ ออกมาช่วย
ด้วยความสัตย์จริง ก่อนหน้านี้ลูเมี่ยนไม่เคยคิดว่า ‘ความพิเศษ’ จะส่งผลมากมายเพียงนี้ สามารถทำให้สัตว์ประหลาดจมอยู่กับความกลัวอย่างไม่อาจหลุดพ้น แม้กระทั่งในยามถูกตัดคอ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยกังวลว่าการเรียกความพิเศษ อาจนำพาตัวเองไปสู่ภาวะปางตายจนถูกศัตรูปลิดชีพได้ง่ายขึ้น
‘พิเศษสมชื่อจริงๆ …’ ขณะถอนหายใจ ลูเมี่ยนบังเกิดความคิด
เหตุผลที่สัตว์ประหลาดเหล่านั้นไม่กล้าเข้ามาในบ้านของตน จนที่นี่กลายเป็น ‘เขตปลอดภัย’ อาจเพราะในบ้านมีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า ยกตัวอย่างเช่น เจ้าของเสียงลึกลับขณะตนเรียกความพิเศษออกมา!
ฮึ่ย~ คิดมาถึงตรงนี้ ลูเมี่ยนอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ อย่างอกสั่นขวัญแขวน
ทีแรกเด็กหนุ่มคิดจะรื้อค้นทุกซอกมุมของบ้านเพื่อตามหาสิ่งที่น่ากลัวนั่น แต่ไม่นานก็ละทิ้งความตั้งใจ
กับแค่สัตว์ประหลาดสะพายลูกซอง ตนยังเอาชนะไม่ได้ ย่อมไม่ควรไปตอแยสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า จนสัตว์ประหลาดสะพายลูกซองเสียขวัญจนไม่กล้าต่อต้าน!
ในบ้านสงบสุขก็ดีแล้ว ไม่ควรไปขุดคุ้ยจนสถานการณ์ยุ่งเหยิง พยายามรักษาความเป็นเขตปลอดภัยเอาไว้ก่อนดีกว่า
การยังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปได้ แม้แต่วันเดียวก็ถือเป็นโชคดี
ส่วนอันตรายในอนาคต ไว้ค่อยรับมือในอนาคต
“ไม่สิ ไม่ใช่ในอนาคต ไว้เรากลายเป็นผู้วิเศษที่แข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง” ลูเมี่ยนหันไปมองถุงผ้าในมือซ้ายของตน
แม้ในยามเปลือยกายเพื่อสำรวจบาดแผลหน้ากระจก เด็กหนุ่มก็ไม่อยากปล่อยให้แหล่งพลังวิเศษที่ได้มาอย่างยากลำบาก หลุดพ้นไปจากเงื้อมมือ
“แล้วต้องใช้มันยังไง…” ลูเมี่ยนเปิดถุงผ้า ตาก้มมองก้อนสีแดงเข้ม
มันนอนนิ่งอยู่ก้นถุง รูปร่างไม่แน่นอน แต่ชัดเจนว่าไม่มีชีวิต
ลูเมี่ยนที่ขาดความรู้ในศาสตร์เร้นลับ ไม่แน่ใจว่าตนควรกินมันเข้าไปตรงๆ ประกอบพิธีกรรมเพื่อรวมก้อนสีแดงเข้ากับตัวเอง หรือนำไปสังเวยให้กับตัวตนลึกลับ
วิธีที่สองและสามได้มาจากการอ่านนิตยสาร ‘ผ้าคลุมหน้าอำพราง’ หากไม่ใช่เพราะหนังสือเล่มดังกล่าว ในหัวเด็กหนุ่มคงมีเพียงวิธีเดียว
“กิน!”
ลูเมี่ยนไม่รีบตัดสินใจ ขอไปปรึกษากับสตรีลึกลับในร้านเหล้าคร่ำครึก่อน
เขารู้สึกว่าเธอน่าจะมีคำแนะนำ เกี่ยวกับวิธีครอบครองพลังวิเศษผ่านก้อนสีแดงเข้ม
ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจ ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงยินดีช่วย แต่สัญชาตญาณของลูเมี่ยนบอกมาแบบนั้น
หรือถ้าไม่ได้เรื่องจริงๆ ก็ยังมีพี่สาว
ลูเมี่ยนสวมเสื้อผ้าอย่างไม่เร่งรีบ ยัดถุงก้อนสีแดงเข้มกับเหรียญที่เพิ่งได้มา เข้าไปในกระเป๋าด้านใน
จัดการทั้งหมดเสร็จ เขาทิ้งตัวนอนลงบนเตียง
ความอ่อนเพลียอย่างแรงกล้าเอาชนะความเจ็บปวดที่คอ หลัง และอาการช้ำใน ไม่นานจึงผล็อยหลับไป
…
เมื่อลูเมี่ยนเลิกเปลือกตา แสงแดดจากภายนอกส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา มอบความสว่างไปทั่วห้อง
เด็กหนุ่มบรรจงลุกนั่ง ร่างกายปวดแปลบไปทุกส่วน ราวกับถูกทุบตีมาอย่างหนักในความฝัน
ก็ถูกทุบตีมาจริงๆ นั่นแหละ…การเจ็บตัวในความฝันสะท้อนออกมายังความจริง เพียงแค่ตัดทอนความรุนแรงลง…ลูเมี่ยนลองขยับร่างกาย นอกจากความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ เขาไม่รู้สึกถึงผลกระทบในแง่อื่น
สิ่งนี้ทำให้เขาใจชื้น
ถัดมา เด็กหนุ่มรื้อค้นทุกช่องกระเป๋าในตัว
“ไม่มี…ไม่มี!” ลูเมี่ยนหาก้อนสีแดงไม่พบ
ใบหน้าพลันเคร่งขรึม คิ้วขมวด ไปต่อไม่ถูก
ทั้งที่เป็นวัตถุเชิงพลังวิเศษ แต่ก้อนสีแดงเข้มกลับไม่ยอมติดตัวออกมายังโลกความจริง ซึ่งไม่ตรงกับที่หญิงสาวในร้านเหล้าบอกไว้!
ลูเมี่ยนสงบสติ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้อง
ประตูห้องน้ำเปิดอยู่ โอลัวร์กำลังยืนหันหน้าเข้าหากระจก แปรงฟังอย่างเอาจริงเอาจัง
“อรุณสวัสดิ์” ลูเมี่ยนทักทาย
“ไม่เช้าแล้ว นายตื่นสายนะ…” โอลัวร์พูดแทบฟังไม่ได้ศัพท์
โกลกโกลก พร้อมกันกับผมหางม้าสีบลอนด์ที่ปัดไปมา โอลัวร์คายน้ำยาบ้วนปาก
จากนั้น หญิงสาวหันมามองลูเมี่ยน
“เมื่อคืนแอบออกไปทำอะไรไม่ดีมาหรือเปล่า?”
“นกฮูกนั่นอยู่ข้างนอก ฉันจะกล้าออกไปได้ยังไง” ลูเมี่ยนตอบอย่างสงบ
“ก็จริง…” โอลัวร์ไม่ต่อความยาวสาวความยืด เพียงเปลี่ยนไปพูดว่า “อย่าลืมนำเงินห้าเฟลคินไปจ่ายที่สำนักงานเจ้าหน้าที่ปกครองเพื่อส่งโทรเลขด้วยล่ะ”
ลูเมี่ยนพยักหน้ารับ
สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญที่อาจช่วยให้เขากับโอลัวร์หนีออกจากหมู่บ้านกอร์ตู เด็กหนุ่มย่อมไม่ลืมแม้แต่วินาทีเดียว
จัดการมื้อเช้าเสร็จ ลูเมี่ยนรีบไปที่ลานจัตุรัสหมู่บ้านทันที สำนักงานของเจ้าหน้าที่ปกครองตั้งอยู่ในอาคารสองชั้นแถวนั้น
เมื่อไปถึง บีโอส เจ้าหน้าที่ปกครองยังไม่มา แต่เจ้าหน้าที่คนอื่นเริ่มทำงานในวันใหม่แล้ว
หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมและส่งโทรเลข เขาหันหลังแล้วมุ่งหน้าไปยังร้านเหล้าคร่ำครึทันที
แม้จะยังไม่ถึงเวลาตื่นนอนของสตรีลึกลับ แต่เขาก็ยินดีรอ
ระหว่างการไล่ตามพลังวิเศษ เขาอดทนรอมานานแล้ว จึงไม่รังเกียจที่จะรอต่ออีกสักนิดสักหน่อย
…………………………………………………….