ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 35 ความต่าง
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 35 ความต่าง
ตอนที่ 35 ความต่าง
“แข็งแกร่งพอๆ กับ ‘ครั้งก่อน’ …”
ลูเมี่ยนมองศพสัตว์ประหลาดไร้หนัง พลางพึมพำแผ่วเบา
ก่อนจะย้อนเวลา การต่อสู้ระหว่างตนกับอีกฝ่ายเป็นไปอย่างสูสี ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์และไหวพริบเพื่อทำให้ดูเหมือนจัดการมันได้ง่าย
แต่ตอนนี้กลับจบลงในขวานเดียว
จริงอยู่ เขาเคยมี ‘ประสบการณ์’ มาแล้ว จึงทราบถึงการลอบจู่โจมเป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้
แต่ถึงอย่างนั้น ความแตกต่างระหว่าง ‘ก่อนและหลัง’ การมีพลังวิเศษ ก็ยังชัดเจนไม่แปรเปลี่ยน
ลูเมี่ยนครุ่นคิดราวๆ สองวินาที ก่อนจะย้ายศพสัตว์ประหลาดไร้หนังกับหัวของมันไปไว้ตรงมุมห้อง แต่ไม่ได้ฝังด้วยหิน ไม้ หรือดิน เพื่อปกปิดเหมือนคราวก่อน เพียงวางศพไว้กับบ่อเลือดอย่าอ้าซ่า
ถัดมา เด็กหนุ่มเริ่มรื้อค้นซากอาคารจนพบเงิน 197 เฟลคินกับ 25 โกเปต์พอดิบพอดี แล้วจึงแยกใส่ในช่องกระเป๋าที่แตกต่างกัน
เขาลองเปิดดูหนังสือเล็กปกฟ้า แต่ก็ไม่พบความผิดปกติ
จัดการทั้งหมดเสร็จ ลูเมี่ยนตรงเข้าไปในซากปรักหักพัง แต่หลังจากผ่านได้ราวๆ ยี่สิบถึงสามสิบเมตร เด็กหนุ่มอ้อมกลับมายังจุดเดิม ปีนป่ายหลังคาซากบ้านอย่างชำนาญ ไปตามเส้นทางที่สัตว์ประหลาดไร้หนังเคยใช้ระหว่างยังมีชีวิต
หลังจากเตรียมการเสร็จ เขาซ่อนตัว
นาทีแล้วนาทีเล่าผ่านไป ลูเมี่ยนอดทนรออย่างใจเย็น เฉกเช่นนักล่าเฝ้ารอเหยื่อ
ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ ร่างหนึ่งเคลื่อนที่เข้ามาใกล้จากฝั่งซากปรักหักพัง
ดูคล้ายครึ่งคนครึ่งสัตว์ป่า เข่าย่อมาด้านหน้าเหมือนขาหลังสัตว์สี่เท้า ผมสีดำมันแผล็บทิ้งตัวยาวลงมา บนหลังสะพายปืนล่าสัตว์ เป็นตัวเดียวกับสัตว์ประหลาดที่ลูเมี่ยนได้รับตะกอนพลัง ‘นักล่า’ ใน ‘คราวก่อน’
สัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์เดินอย่างรอบคอบ ราวกับกำลังลาดตระเวนประจำวัน
ทันใดนั้น จมูกของมันฟุดฟิด ประหนึ่งได้กลิ่นเลือดคาวๆ จากระยะไกล
มันรีบเปลี่ยนทิศทันที ขยับเข้าใกล้ซากบ้านที่พังเพราะถูกไฟไหม้
ไล่ตามรอยเลือดไป สัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์พบศพและหัวของสัตว์ประหลาดไร้หนัง
มันนั่งยองลงแล้วตรวจสอบอย่างละเอียด
จากบนหลังคาที่พังไปกว่าครึ่ง ลูเมี่ยนส่ายหน้าให้กับภาพดังกล่าว พลางรำพันเงียบงันกับตัวเอง
“ใกล้ขนาดนี้ยังไม่ได้กลิ่นเราอีกหรือไง?”
“ถึงจะถูกกลิ่นเลือดกลบก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ควรได้กลิ่นกันบ้าง!”
เด็กหนุ่มพึมพำขณะยกขวาน แล้วฟันใส่รอยแยกหินข้างๆ เต็มแรง ซึ่งเป็นรอยแยกที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า
โครม!
หลังคาที่จะพังแหล่มิพังแหล่เริ่มสั่นคลาน ก่อนที่หินหนักจะถล่มลงพร้อมกับเสียงโครมคราม
สัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์ตอบสนองได้รวดเร็ว รีบบิดเอวและถีบขาทั้งสองข้าง กระโดดไปยังจุดที่ยังไม่ถล่ม
ลูเมี่ยนหัวเราะ
เด็กหนุ่มพุ่งลงจากหลังคาที่ยังไม่พัง คล้ายอินทรีร่อนถลาโฉบเหยื่อกลางอากาศ
ท่ามกลางเสียงลมแหวก ลูเมี่ยนและสัตว์ประหลาดลูกซองพบกันกลางอากาศ คนหนึ่งยกแขนเงื้อขวานด้วยหนึ่งมือ อีกตัวกำลังหันหน้าลงพื้น พยายามหมุนตัวเพื่อหันกลับมาป้องกัน
ลูเมี่ยนกำหมัดซ้ายแล้วชกลงไป เมื่อสัตว์ประหลาดยื่นแขนออกมากัน เด็กหนุ่มที่รออยู่แล้วรีบแบบมือออก ชะลอความเร็วในการชก แล้วใช้ฝ่ามือจับคว้าไว้แทน
เมื่อลูเมี่ยนดึงมือซ้ายกลับ ขวานในมือขวาก็สับใส่ศัตรูเต็มแรง
ท่ามกลางเสียง ‘ฉึก’ พร้อมกับเลือดที่กระเซ็น หนึ่งมนุษย์หนึ่งสัตว์ประหลาดต่างก็ตกถึงพื้นพร้อมเพรียงกัน
ลูเมี่ยนที่มี ‘เบาะรอง’ ย่อมไม่บาดเจ็บ เพียงยกมือขึ้นแล้วใช้ขวานจามใส่อีกครั้ง
ศีรษะของสัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องหลุดออกจากบ่า กลิ้งหลุนๆ ไปสองรอบ
ลูเมี่ยนลุกขึ้นยืน มองไปทางสัตว์ประหลาด พึมพำด้วยเสียงเย้ยหยัน
“อ่อนแอลงนี่หว่า!”
เขาที่กลายเป็น ‘นักล่า’ มั่นใจมากว่าตนจะจัดการกับสัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์ได้แน่ แต่ไม่คิดว่าจะง่ายดายเช่นนี้
มองศพบนพื้น ลูเมี่ยนอดทนรอให้ตะกอนพลังแยกตัวออกมา
แต่รอนานเท่าไรก็ไม่เห็นจุดสีแดงเข้มเสียที
“ไม่มี?” ลูเมี่ยนพึมพำด้วยความสงสัย
แต่ก็มิได้ประหลาดใจขนาดนั้น
เพราะตะกอนพลังของสัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์ ตนเคยได้รับไปแล้วใน ‘ครั้งก่อน’ กลายเป็นโอสถที่เข้าสู่ร่างกาย
นั่นสินะ ในเมื่อการย้อนเวลาไม่ได้ทำให้เรากลับเป็นคนปกติ ไม่ทำให้ตะกอนพลังในตัวหายไป หมายความว่าตะกอนพลัง ‘นักล่า’ ในความฝันก็ต้องหายไปหนึ่งก้อนด้วยเช่นกัน สัตว์ประหลาดปืนล่าสัตว์ต้องกลับไปเป็นสิ่งมีชีวิตปกติ แต่ไม่มีแก่นสารคอยค้ำจุน…ปัญหาตอนนี้คือ ทำไมเราถึงยังอยู่ในสภาพเดียวกับก่อนย้อนเวลา? ลูเมี่ยนคิดเท่าไรก็ไม่พบคำตอบ จึงได้แต่เก็บเหรียญทองแดงบนตัวสัตว์ประหลาด แล้วเดินออกไปยังซากปรักหักพังด้านนอก
…
หลังจากรุ่งสาง ลูเมี่ยนไม่ได้แกล้งทำเป็นปวดหัวต่อหน้าพี่สาวเหมือนในวันที่ 30 มีนาคมครั้งก่อน ไม่ได้เริ่มชวนคุยเรื่องเหนือธรรมชาติ เพียงตื่นนอนแต่เช้าเพื่อลงเตรียมอาหาร
ขนมปังปิ้ง ไข่ดาวไข่แดงเยิ้ม เบคอนหั่นแผ่น ถูกวางลงบนโต๊ะอาหารตามลำดับ
“อะไรเข้าสิงเนี่ย?” โอลัวร์ทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นภาพดังกล่าวขณะเดินลงบันได “เมื่อวานนายดื่มเหล้าไปขนาดนั้น นึกว่าจะลุกไม่ขึ้นแล้วเสียอีก”
ลูเมี่ยนตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
“แค่ไซเดอร์หนึ่งแก้ว อัปแซ็งต์หนึ่งแก้ว มันเยอะตรงไหน?”
“มันน่าภูมิใจนักหรือไง? ยกเว้นไวน์ที่สามารถดื่มได้เป็นครั้งคราว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ล้วนไม่ดีต่อสุภาพ มันส่งผลต่อสมอง” โอลัวร์ส่ายศีรษะพลางหัวเราะ “ไม่แปลกใจที่นายเริ่มโง่ลงเรื่อยๆ เจ้าน้องชายขี้เมา!”
ลูเมี่ยนที่ไม่เคยโต้เถียงพี่สาว พูดเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมไวน์ถึงเป็นข้อยกเว้น?”
ลูเมี่ยนหมดคำจะกล่าว
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ เขาไม่รีบออกจากบ้าน แต่เริ่มทำแป้งขนมปัง
ซึ่งนั่นทำให้โอลัวร์ประหลาดใจ
“ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า? เรื่องใหญ่หรือ? ทำตัวดีแปลกๆ นะเนี่ย…”
“เล่ามาเถอะ พี่สาวจะไม่ทุบตีนาย แค่เพิ่มชั่วโมงฝึกต่อสู้เข้าไปอีกหน่อย”
“ไม่มี” ลูเมี่ยนถือโอกาสชวนคุย “ฉันแค่รู้สึกว่าบรรยากาศในหมู่บ้านเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ … บางคนเริ่มทำตัวไม่ปกติ โอลัวร์ พี่รู้สึกแบบนั้นไหม”
ตามการสังเกตของเขา พี่สาวไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ถูกย้อนกลับ แต่ความผิดปกติในหมู่บ้านไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดในวันสองวัน ก่อนวันที่ 29 มีนาคมก็น่าจะมีสัญญาณบางอย่างแล้ว โอลัวร์ที่เป็น ‘ผู้ส่องความลับ’ อาจสังเกตเห็น เพียงแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
โอลัวร์ทำหน้าตาเป็นจริงเป็นจังขึ้น
“แม้แต่นายก็สัมผัสถึงความผิดปกติได้หรือ?”
“ไหนเล่ามาซิ ใครทำให้นายรู้สึกแบบนั้น”
โอลัวร์คงสังเกตเห็นว่าชาวบ้านบางคนมีปัญหา เพียงแต่ไม่คาดว่าปัญหาจะรุนแรงระดับนั้น… ลูเมี่ยนพูดขณะล้างมือด้วยใบหน้าใคร่ครวญ
“คุณนายปัวริส หลวงพ่ออธิการโบสถ์ ปงส์·เบเนต์ และคนเลี้ยงแกะที่กลับหมู่บ้านก่อนกำหนด ปิแยร์·แบรี”
“คุณนายปัวริสมีลับลมคมในจริงๆ นั่นแหละ นับตั้งแต่เธอกับเจ้าหน้าที่ปกครองมาถึงกอร์ตู ฉันก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่คนธรรมดา แต่เธอควบคุมตัวเองได้ดี นอกจากการแอบเล่นชู้ไม่เลือกหน้า ก็ไม่มีเรื่องไหนเข้าข่ายชั่วร้าย” โอลัวร์พูดขณะนึกย้อนกลับไป “ฉันเคยเห็นบางอย่างที่เธอ…”
โอลัวร์หยุดพูด ดูเหมือนไม่อยากให้ลูเมี่ยนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกเหนือธรรมชาติ
แอบเล่นชู้ไม่เลือกหน้า? ก่อนที่ลูเมี่ยนจะพบว่าคุณนายปัวริสแอบเล่นชู้กับหลวงพ่อ เขาคิดมาตลอดว่าอีกฝ่ายเป็นกุลสตรีเรียบร้อย ไม่คิดไม่ฝันว่าหลวงพ่อจะไม่ใช่ชู้รักคนแรก
แน่นอน ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ ‘ภาพจำ’ ที่ลูเมี่ยนมีต่อคุณนายปัวริสในปัจจุบัน
“สำหรับหลวงพ่ออธิการโบสถ์ เขาหิวกระหายพลังวิเศษเหมือนกับนาย แต่ศาสนจักรสุริยันเจิดจรัสกลับไม่เคยเหลียวแล” โอลัวร์พูดพลางคิด “ปงส์·เบเนต์… สมองเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแบบนั้นคงทำอะไรแปลกๆ ไม่ได้หรอก… ส่วนคนเลี้ยงแกะที่เพิ่งกลับมา ปิแยร์·แบรี ดูเหมือนว่าแกะที่เขาพามาจะมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล… แต่ฉันดูไม่ออกว่าผิดปกติตรงไหน และไม่กล้าขุดลึกไปมากกว่านี้…”
สมแล้วที่เป็นลำดับ 7 ของเส้นทางผู้ส่องความลับ…ก่อนจะย้อนเวลา เราคุยเรื่องพวกนี้กับพี่น้อยเกินไป จนละเลยปัญหาเกี่ยวกับคนเลี้ยงแกะ ปิแยร์·แบรี…อา ตอนนั้นเราแทบไม่สงสัยหมอนั่นเลย แค่มองว่ามันแปลกๆ ที่ต้องรีบร้อนกลับมาร่วมเทศกาลมหาพรต…ลูเมี่ยนกำลังจะพูดต่อ แต่เสียง ‘ปิ๊งป่อง’ ดังขึ้นจากหน้าประตู
กริ่งบ้านของพวกเขาถูกกด
“ใครน่ะ?” ลูเมี่ยนถามขณะเดินไป
“มีโทรเลขมาถึงโอลัวร์!” บุคคลด้านนอกตะโกนตอบ
“โทรเลข?” โอลัวร์ดูสับสน “ใครส่งโทรเลขมาถึงฉัน? ช่วงนี้ไม่มีอะไรสำคัญๆ สักหน่อย…”
ลูเมี่ยนเองก็งงงวย
ก่อนจะย้อนเวลา ในวันที่ 30 มีนาคม บ้านเราไม่ได้รับโทรเลข!
ไม่สิ ในวันที่ 30 มีนาคม เราไปรอแรมงด์ที่จัตุรัสตั้งแต่เช้า บางทีพี่อาจได้รับโทรเลขแต่ไม่ยอมบอก… ลูเมี่ยนไตร่ตรองหาความเป็นไปได้ พลางเปิดประตูออก
ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ด้านนอกประตูคือแบร์ตรองด์ ลูกน้องของเจ้าหน้าที่ปกครองซึ่งรับผิดชอบด้านโทรเลข อีกฝ่ายยื่นกระดาษให้ลูเมี่ยนพร้อมกับพูด
“หนึ่งเฟลคิน”
แบร์ตรองด์ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล ไม่ใช่ชาวหมู่บ้านกอร์ตู เพียงติดตามเจ้าหน้าที่ปกครองมาจากดาลีแอช เป็นหนุ่มที่ภายนอกดูเป็นมิตร แต่ภายในโลภเป็นจริงเป็นจัง
ลูเมี่ยนหยิบเหรียญเงินหนึ่งเฟลคินออกมาให้แบร์ตรองด์ แล้วเริ่มอ่านโทรเลข
เนื้อหาของโทรเลขไม่ซับซ้อน เด็กหนุ่มอ่านเร็วๆ จนจบ
“งานสังสรรค์นักเขียนที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้ จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน หากนางสาวโอลัวร์สนใจ ตอนนี้ท่านสามารถเริ่มเดินทางมายังทรีอาร์ได้เลย เผื่อเวลาสำหรับท่องเที่ยวเอาไว้สักหน่อย เรารับประกันว่านี่จะเป็นการเดินทางที่งดงามยิ่ง”
ตรงลายเซ็นเขียนว่า ‘แผนกบรรณาธิการของบันเทิงคดีรายสัปดาห์’
นี่มัน… ดวงตาของลูเมี่ยนพลันกระตุก
นี่คือโทรเลขตอบกลับจาก ‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ ?
“ฉันบอกตอนไหนว่าจะไปร่วมงานชุมนุมนักเขียน?” โอลัวร์เดินเข้ามาดู มองผ่านๆ ไม่กี่วินาที “แผนกบรรณาธิการของ ‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ เสียสติไปแล้วหรือไง? ฉันไม่ชอบพบปะผู้คน! มันน่ารำคาญ!”
ตอนนี้แบร์ตรองด์เดินไปไกลจากประตูแล้ว
ได้ยินคำพูดโอลัวร์ ผสานกับเนื้อหาของโทรเลข ลูเมี่ยนซึ่งทำหน้ามึนงง ลองคาดเดาอย่างอาจหาญ
โทรเลขในมือคือคำตอบของ ‘บันเทิงคดีรายสัปดาห์’ นั่นแหละ… เพียงแต่มันเขียนตอบกลับโทรเลขที่ลูเมี่ยนจะต้องส่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า!
หรือพูดให้ชัดเจนกว่านั้น โทรเลขที่ลูเมี่ยนส่งออกไปก่อนจะย้อนเวลา คำตอบของมันถูกส่งกลับมาหลังจากเวลาถูกย้อนแล้ว ในสภาพแวดล้อมที่ยังไม่เคยส่งโทรเลขแรกออกไป!
…………………………………………………….