ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 77 การเปลี่ยนแปลง
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 77 การเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 77 การเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้ ลูเมี่ยนเคยเล่าให้พวกไรอันฟังแล้วว่า กิโยม·เบเนต์มีลักษณ์หนามสีดำโดดเด่นบนหน้าอก ซึ่งเจ้าของสัญลักษณ์คือองค์ซ่อนเร้นที่มีพระนามเต็มเกี่ยวข้องกับ ‘ชะตากรรม’ โดยมีวัตถุดิบที่สอดคล้องกันก็คือ อำพันสีเทา ทิวลิป กานพลู และมัสก์ เด็กหนุ่มเพียงเล่าคร่าวๆ โดยโบ้ยว่าเป็นเรื่องของหลวงพ่อ ไม่ใช่ตัวเอง
ตอนนี้ เมื่อได้ยินคำเตือนของลูเมี่ยน ลีอา ไรอัน และวาเลนไทน์พลันตื่นตัว ในหัวเริ่มคาดเดาคล้ายๆ กัน
“สถานที่จัดพิธีกรรม?” ไรอันพึมพำกับตัวเอง
ขณะที่เขาพูด ทุกคนมองเข้าไปในห้องใต้ดิน
อาศัยแสงสว่างไม่มากนักที่สาดลงมาจากบันได ทั้งสี่มองเห็นภายในได้คร่าวๆ
พื้นที่ใต้โบสถ์กว้างกว่าชั้นล่างของบ้านลูเมี่ยนเล็กน้อย พื้นปูด้วยแผ่นหินสีเทาขาว สภาพแวดล้อมดูมืดมนเพราะแสงส่องไม่ทั่วถึง ใจกลางมีแท่นหินสูงประมาณครึ่งคนตั้งตระหง่าน
บนยอดแท่นหินมีรอยยุบลงไป คล้ายกับไว้ซุกซ่อนบางสิ่ง แต่มองเห็นได้ไม่ชัด
ขณะลูเมี่ยนกำลังครุ่นคิด ก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบา
“นี่คงเป็นห้องที่หลวงพ่อใช้ขอ ‘พร’ จากเทพมาร” ลูเมี่ยนกล่าว
“พวกมันบังอาจสร้างแท่นบูชาเทพมารไว้ใต้โบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์!” วาเลนไทน์โกรธจนแทบจะคลั่ง ลูเมี่ยนถึงกับกลัวว่า ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า วาเลนไทน์อาจเผาตัวเองกลายเป็นแสงสว่างอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพื่อชำระล้างทุกสิ่งภายในนี้
“ใจเย็น” ไรอันตบบ่าวาเลนไทน์ “เตรียมจุดไฟได้แล้ว”
จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือบอกให้ลีอาไปสอดแนม
ลีอายังคงยิ้มแย้ม ฟุดฟิดกลิ่นด้วยจมูกที่เชิดขึ้น
“องค์ซ่อนเร้นผู้มีคำว่า ‘ชะตากรรม’ อยู่ในพระนาม คงชอบกลิ่นหอมมาก…”
ขณะที่เธอพูด ก็เดินเข้าไปในห้องใต้ดิน ปากขยับมุบมิบคล้ายกำลังท่องคาถาเงียบๆ
กระดิ่งเงินสี่ลูกดังขึ้นอีกครั้ง บ้างก็ดังเกรียวกราว บ้างก็แผ่วเบา
หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว… ลีอาหันกลับมาพูดกับพวกไรอัน
ไรอัน ลูเมี่ยน และวาเลนไทน์จึงเดินผ่านประตูไม้สีน้ำตาลบานเก่า เข้ามาในห้องใต้ดินตรงจุดที่ลีอากำลังยืน
หญิงสาวยังคงเดินต่อไป
แต่เพียงไม่กี่ก้าว กระดิ่งเงินที่แขวนบนหมวกคลุมหน้ากับรองเท้าบูต เริ่มสั่นแรงขึ้น
กรุ๊งกรุ๊งกริ๊งกริ๊ง!
เสียงดังกล่าวดังกังวานไปทุกทิศ
อนุภาคแสงรุ่งอรุณรายล้อมร่างกายไรอันทันที ก่อนจะประกอบเข้าด้วยกันเป็นชุดเกราะเต็มอัตราศึกสีเงินวาว
ขณะเดียวกัน ดาบแสงเล่มใหญ่สว่างขึ้นจากฝ่ามือ
ส่วนวาเลนไทน์กางแขนออกครึ่งท่า ปล่อยให้เปลวไฟมายาสีทองเผาไหม้สิ่งรอบข้าง
หนึ่งในเปลวไฟขยายกว้างพร้อมกับยืดยาว ไม่กี่อึดใจถัดมา ลีอาก็เดินออกมาจากมัน
เธอกลับจากตำแหน่งใกล้กับแท่นบูชา มายังจุดที่พวกลูเมี่ยนยืนอยู่ในพริบตา
น่าทึ่งชะมัด… เป็นอีกครั้งที่ลูเมี่ยนทึ่งกับ ‘การแสดง’ ของลีอา
พลังของเธอดูแปลกประหลาดและมหัศจรรย์ยิ่งกว่าเส้นทาง ‘สุริยัน’ ที่สามารถทำความเข้าใจและจินตนาการได้ ยิ่งกว่าเส้นทางสายต่อสู้เป็นหลักของไรอัน โดยเฉพาะความสามารถที่สำแดงให้เห็นเมื่อวาน—การย้ายบาดแผลจากต้นขาไปยังริมน่อง ยังคงติดตราตรึงใจลูเมี่ยนจนถึงตอนนี้
เผชิญหน้ากับ ‘สัญญาณเตือน’ กะทันหัน ลูเมี่ยนพยายามป้องกันตัวเท่าที่ทำได้
ชักขวานเหล็กสีดำออกมา เด็กหนุ่มย่อตัวหลบหลังไรอันที่ร่างกายใหญ่โตขึ้น
ระหว่างนี้ เขาเฝ้าสังเกตรอบตัวอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ผิดปกติ
ต้องไม่ลืมว่า ตอนนี้กำลังเปิดเนตรวิญญาณอยู่
แน่นอน ลูเมี่ยนค้นพบบางอย่าง — อาศัยแสงจากเปลวไฟสีทอง เขาเห็นกองกระดูกมนุษย์ที่ริมขอบห้องใต้ดิน บางส่วนยังคลุมด้วยหนังแกะสีอ่อน
พวกนี้คือเหยื่อสังเวยครั้งก่อน? หลวงพ่อแอบประกอบพิธีกรรมนอกรีตที่นี่ไม่ต่ำกว่าครึ่งปี แต่เรากับโอลัวร์ไม่เคยเอะใจ… ลูเมี่ยนเค้นสมองขบคิด และเป็นอีกครั้งที่รู้สึกว่าชีวิตในหมู่บ้านกอร์ตูช่างพิลึกพิลั่นเหนือพรรณนา ที่นี่เริ่มผิดปกติตั้งแต่เมื่อใด? บางทีอาจไม่ปกติมาตั้งแต่แรกต้น
“ยังไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม” ไรอันถามลีอา พลางจ้องมองแท่นบูชาด้วยความระแวดระวัง
ลีอาส่ายหน้า
“ไม่รู้สึกถึงปัญหา แต่มีสัญญาณอันตราย”
“แปลก…” ลูเมี่ยนเพียงหันหน้าไปมองลีอาก็หยุดพูดกะทันหัน
เขาเห็นใบหน้าของหญิงงามรายนี้กลายเป็นกึ่งโปร่งใส ใต้ผิวหนังคล้ายกับมีฝูงหนอนแมลงกำลังดีดดิ้นชอนไช ภาพรวมของเธอดูพิสดารและชั่วร้ายยิ่งกว่าวิญญาณมารในตำนาน ทำเอาหนังหัวเด็กหนุ่มถึงกับชาพร่า หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
สิ่งนี้เกินกว่าจินตนาการของลูเมี่ยนไปไกล และเชื่อว่าตนคงฝันร้ายเกี่ยวกับมันไปอีกนาน!
“หน้า… ใบหน้าของคุณ!” เด็กหนุ่มเตือนลีอาด้วยอารามตกใจที่มิอาจเก็บซ่อน
ลีอาใช้มือขวาจับใบหน้าตัวเองตามสัญชาตญาณ แล้วแววตาก็เปลี่ยนไปทันที
แต่ไม่ว่าหญิงสาวจะแสดงสีหน้าแบบใด ลูเมี่ยนก็มองเห็นเพียงหนอนแมลงโปร่งใสและบิดเบี้ยว
ลีอารีบมองหลังมือตัวเอง ผิวหนังในบริเวณดังกล่าวก็กลายเป็นกึ่งโปร่งใสเช่นกัน คล้ายกับเนื้อใต้ผิวหนังล้วนกลายเป็นหนอนแมลงแปลกประหลาด
“เธอกำลังจะคลุ้มคลั่ง!” วาเลนไทน์ก็สังเกตเห็นอาการของลีอา
หญิงสาวพึมพำด้วยความสงสัย
“แต่จิตใจของฉันปกติ…”
“อันดับแรก รีบยืนยันว่านี่ไม่ใช่ภาพหลอนของพวกคุณ” ไรอันเอียงคอมาเตือน
ขณะเดียวกัน ลูเมี่ยนพบว่านักรบร่างใหญ่รายนี้ ร่างกายพลันหดเล็กลง ชุดเกราะเต็มอัตราศึกสีเงินวาวกับดาบแสงเล่มใหญ่ในมือ ต่างก็ทยอยสลายไป
ภายในไม่กี่อึดใจ ไรอันกลายเป็นชายร่างเล็กสูงเพียงหนึ่งเมตรห้า เสื้อสีน้ำตาลกับกางเกงขายาวสีเหลืองอ่อน ต่างก็ดูใหญ่และยาว
เขาก็กลายพันธุ์เหมือนกัน? มีแค่เรากับวาเลนไทน์ที่ปกติ… ลูเมี่ยนหันไปมองวาเลนไทน์ตามจิตใต้สำนึก ทันใดนั้นก็ต้องเบิกตากว้าง
“ไรอัน นายตัวเล็กลง!” วาเลนไทน์ที่กลายเป็นแสงสว่างบริสุทธิ์ไปแล้ว ร้องเตือนเพื่อนร่วมงาน
“…” ลูเมี่ยนผู้เกือบตาบอดเพราะแสงจ้า รีบหันไปถามลีอา “ฉันเปลี่ยนไปบ้างไหม”
ลีอาพูดด้วยผิวกายเต็มไปด้วยหนอนแมลงสีใสที่พยายามชอนไชแต่ออกจากผิวหนังไม่ได้
“เธอปกติ…”
“แต่ในสถานการณ์แบบนี้ การปกติอาจผิดปกติมากที่สุด”
เราปกติ? หรือว่าสัญลักษณ์หนามสีดำคอยปกป้องเราอยู่ ช่วยให้ ‘อันตราย’ ที่นี่คิดว่าเราเป็นพวกเดียวกัน? ลูเมี่ยนผุดความคิดกะทันหัน
ขณะนี้ ไรอันตรวจสอบร่างกายของตัวเองเสร็จแล้ว จึงพูดในท่าเตรียม
“ฉันไม่ได้ตัวหด แต่กลับไปสู่รูปลักษณ์เดิม กระทั่งพลังวิเศษก็หายไปด้วย”
“รูปลักษณ์เดิม?” ลูเมี่ยนโพล่งถาม
เขาเริ่มคาดคะเนบางสิ่งในใจ
ไรอันพยักหน้ารับ
“ใช่… ฉันเกิดมาตัวเล็ก สำหรับผู้ชายแล้ว นี่เป็นความโชคร้ายอย่างสุดซึ้ง ดังนั้นพอมีโอกาสได้เลือกโอสถ ฉันเจาะจงเลือก ‘นักรบ’ ที่สามารถเพิ่มความสูง”
“ไม่แน่ใจว่าโชคดีหรือร้าย แต่ในช่วงห้าหกปีหลัง รอบตัวฉันมักเกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติหรือสัตว์ประหลาดที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางนักรบ ช่วยให้ไม่ต้องกังวลกับวัตถุดิบเลื่อนลำดับ”
ฟังคำพูดไรอันจบ ลูเมี่ยนเริ่มเข้าใจที่มาของการกลายพันธุ์
“คุณกลับไปสู่อดีต!”
“เท่าที่ฉันทราบ อำนาจขององค์ซ่อนเร้นนั่นเกี่ยวข้องกับอดีต…”
กล่าวจบ เด็กหนุ่มเลียนแบบจังหวะการพูดของมาดามลึกลับ เว้นวรรคครู่หนึ่งจึงค่อยเสริม
“และยังกับเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน แล้วก็ เอ่อ… เอ่อ… อนาคต”
แม้ตอนนี้จะใช้ภาษาอินทิส แต่เขายังคงระวังการเอ่ยถึงพระนามเต็ม
ลีอารีบโพล่งกลับ
“ส่วนฉันคือปัจจุบัน?” ลูเมี่ยนยืนยันสมมติฐานของลีอาด้วยการย้อนถาม
ทันใดนั้น เขานึกถึง ‘สัตว์ประหลาดสามหน้า’ ที่พบในซากปรักหักพังความฝัน
สัตว์ประหลาดดังกล่าวมีเศียรเพียงหนึ่ง แต่มีสามใบหน้า หนึ่งหน้าแก่ หนึ่งวัยรุ่น และหนึ่งหน้าเด็ก
ลูเมี่ยนสงสัยว่านี่คือ ‘พร’ ระดับสูงจากเจ้าของสัญลักษณ์หนามดำ แต่ผู้รับพรอาจรับมือกับพลังไม่ไหว หรือไม่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดสามหน้า
ลีอาพยักหน้าเบาๆ
“คงทำนองนั้น แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลต่อจิตใจของฉัน ไม่รู้สึกว่าใกล้จะคลุ้มคลั่งเลย”
“ฉันก็ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกเผาไหม้” วาเลนไทน์ช่วยเสริม
ไรอันคิดสักพักแล้วพูด
“ในทำนองเดียวกัน ฉันก็ไม่ได้สูญเสียความทรงจำ…”
“บางที นี่อาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวพลังที่หลงเหลือ จึงไม่ส่งผลต่อจิตใจ ความคิด และความทรงจำ แต่หากอยู่ในสภาพนี้นานเข้า ฉันไม่แน่ใจว่าจะส่งผลเสียร้ายแรงหรือไม่…”
“ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แย่สุดก็กลับไปดื่มโอสถใหม่ เลื่อนลำดับกันใหม่ แต่สำหรับพวกนาย อนาคตอาจมีหลากหลาย แต่ตอนนี้อนาคตถูกกำหนดไว้แล้ว คนหนึ่งต้องคลุ้มคลั่ง อีกคนต้องกลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ นี่มัน… อา… ฉันเริ่มเข้าใจความหมายของ ‘ชะตากรรม’ แล้ว”
“น่ากลัวจริงๆ …” ลีอาพูดยิ้มๆ “โชคดีที่เรายังสามารถเริ่มวัฏจักรใหม่ และยังมีโอกาสหาทางกลับ ‘ปัจจุบัน’ ได้อยู่”
เมื่อลูเมี่ยนเห็นว่าไม่มีสัตว์ประหลาดโจมตีเข้ามา จึงลองเสนอ
“ลองถอยกลับไปดูไหม? บางทีอาจกลับเป็นปกติได้…”
“ระหว่างทาง เราอาจได้เจอกับพลังที่ช่วยพากลับ ‘ปัจจุบัน’”
ไรอันไม่คัดค้าน
“ลองดูก็ไม่เสียหาย”
ตอนนี้เขากลายเป็นคนธรรมดาไปแล้ว การดันทุรังมุ่งหน้ามีแต่จะยิ่งอันตราย
“ฉันกลัวว่าการ ‘เปลี่ยนสถานะ’ อีกแค่ครั้งเดียว อาจทำให้พวกเราคลุ้มคลั่ง” ลีอากล่าวอย่างรอบคอบ
แน่นอนว่าการพบกับ ‘ปัจจุบัน’ คือเรื่องดี แต่ถ้าเจอกับ ‘อดีต’ ก็จะยิ่งยุ่งยาก หรือถ้าทับ ‘อนาคต’ เข้าไปอีกชั้น ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ลูเมี่ยนเป็นฝ่ายเอ่ยปากเสนอ
“ฉันจะสำรวจเส้นทางให้ก่อน… น่าจะยังมีโอกาส ‘เปลี่ยนสถานะ’ ได้อีกครั้ง”
เด็กหนุ่มต้องการทดสอบว่า เป็นเพราะตนโชคดีเจอ ‘ปัจจุบัน’ หรือเพราะว่ามีสัญลักษณ์หนามดำบนหน้าอกคอยปกป้องกันแน่
“ระวังตัวด้วย” ไรอันไม่ห้ามเขา เพียงตักเตือน ส่วนลีอาก็ผงกหัวตาม
วาเลนไทน์มองลูเมี่ยนด้วยสายตาที่เย็นชาน้อยลง
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่า
เด็กหนุ่มคนนี้มีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละ อีกทั้งยังเป็นสาวกผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ หากวัฏจักรนี้สิ้นสุดลงเมื่อไร เขาจะลองหาวิธีขจัดมลพิษในตัวลูเมี่ยน แล้วชักชวนมาเข้าร่วมทีม
เมื่อเห็นว่าลูเมี่ยนเตรียมจะเดิน วาเลนไทน์ที่กลับมาเยือกเย็น ลองเสนอแนะ
“ฉันขอลองทดสอบดูก่อน ว่าสามารถใช้พลังขจัดสภาวะนี้ได้หรือไม่”
ไม่มีใครคัดค้าน รวมถึงลูเมี่ยนด้วย เพราะเขาอยู่ในสถานะ ‘ปัจจุบัน’ ซึ่งไม่ต้องเข้ารับการบำบัด ‘สถานะด้านลบ’ หรือชำระล้างร่างกาย
แต่ในวินาทีถัดมา เด็กหนุ่มพบว่าตัวเองคิดผิด
วาเลนไทน์มิได้สร้างน้ำมนต์แล้วราดลงบนหัวไรอันกับลีอาทีละคน แต่เลือกใช้ ‘สุริยันทรงกลด’
เมื่อแสงสีทองเหลือบดำส่องประกายแวบวาบ พลังที่มองไม่เห็นพลันแผ่ซ่านไปทุกทิศ
……………………………………………………..