ราชาบลัดเอลฟ์ - ตอนที่ 8 บลัดเอลฟ์

หลังจากทะยานลงสู่พื้นแล้ว อัศวินอวกาศเผชิญหน้ากับพวกออร์ก พลทหารถูกล้อมรอบด้วยพยุหะของพวกออร์ก แต่นั่นไม่ได้ทำให้กัปตันซิกฟรีดเกรงกลัวแต่อย่างใด

กัปตัน และพลทหารได้รับภารกิจมาแล้วหลายร้อยภารกิจ ทำให้ทีมของพวกเขาเป็นหนึ่งในกองกำลังชั้นยอดของอัศวินอวกาศ และไม่เคยยอมแพ้ต่อภารกิจใด แม้แต่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังที่สุด ความหวังทั้งหมดดูเหมือนสูญสิ้นไป ในทางกลับกันพวกเขายังคงตั้งใจ และจดจ่อกับภารกิจนั้นอยู่เสมอ

ในครั้งนี้กัปตันรู้สึกถึงสัญญาณของความน่ากลัว เขาเห็นร่างของเอลฟ์ค่อยๆ ก้าวออกจากท่อที่เต็มไปด้วยเลือด ความรู้สึกนั้นท่วมท้นอย่างรวดเร็ว เขาสัมผัสได้ว่าร่างที่อยู่ข้างหน้าพวกเขานั้นอันตรายมาก ซิกฟรีดมักมั่นใจในสัญชาตญาณที่ช่วยเขามาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน

เอลฟ์มีผมยาวสีขาวเป็นมันเงาจรดหลัง รูปร่างเรียวบาง ภายใต้เสื้อผ้าสีดำรัดรูปที่มันสวมอยู่นั้นสามารถมองเห็นได้ชัดว่าร่างของมันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกระชับทั่วร่างกาย

เคอร์แซค นักวิทยาศาสต์ก็อบลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางเดินเข้ามาหาเหล่าเอลฟ์ข้างหน้าเขา

“ ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่คงเป็นการแสดงที่สนุกมาก! “ เคอร์แซคพูดพลางจ้องไปที่อัศวินอวกาศ

“ เอลฟ์เลือด! แกว่งดาบของเจ้าแล้วฆ่าพวกมันให้หมด! ทำตัวเจ้าให้สง่าด้วยเลือดของมนุษย์พวกนั้นซะ! “

ร่างนั้นค่อยๆ ดึงดาบยักษ์ออกจากมือของก็อบลิน มันเคลื่อนตัวออกไปข้างหน้าค่อยๆ เข้าใกล้กัปตันซิกฟรีด และอัศวินอวกาศ

“ เตรียมพร้อม! “

พลทหารรีบตั้งท่าอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำสั่ง กัปตันยกมือขึ้นพลางชี้ไปที่พลทหารคนหนึ่งของเขา เมื่อเห็นสัญญาณพลทหารที่ถูกเลือกยิงอาวุธขึ้นในทันที

ปัง!

กระสุนพลังงานเสริมแม่เหล็กไฟฟ้าพุ่งเข้าหาเอลฟ์ในทันที มันกระแทกกลางหน้าอกของเอลฟ์เข้าอย่างจัง

บูม!

พลังกระสุนผลักเอลฟ์ให้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว นั่นทำให้มันหยุดการเคลื่อนไหวชั่วขณะ หลังจากนั้นเพียงครู่หนึ่ง มันลุกขึ้นพร้อมลากดาบยักษ์มาข้างหลังราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างที่ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่ได้รับดาเมจจากกระสุนพลังงาน ทำให้กระสุนอีกนัดถูกยิงออกไปในทันที แต่คราวนี้มันสามารถขยับตัวเพื่อเลี่ยงทิศทางของกระสุนได้เป็นอย่างดี

“ ฟังคำสั่งของผม พลทหาร! เพื่ออาณาจักร!” กัปตันซิกฟรีดตะโกน พร้อมนำทหารทั้งหมดของเขาเข้าโจมตีเอลฟ์พร้อมๆ กันทันที

กระสุนจำนวนมากปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ปะทะเข้ากับร่างของเอลฟ์อย่างนับไม่ถ้วน

แต่มันไม่สามารถหยุดเอลฟ์ตนนั้นได้ มันเคลื่อนที่หลบกระสุนส่วนใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และจัดการกระสุนที่เหลือได้อย่างง่ายดาย

ทหารคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งอย่างเสียงดังเมื่อเห็นว่ามันเคลื่อนที่ไปทางซ้าย และขวาราวกับปีศาจ หลบ และปิดกั้นกระสุนได้อย่างง่ายดาย “ ให้ตายสิ มันเคลื่อนที่ได้เร็วเกินไป! “

“ ผู้กอง! ” กัปตันตะโกนเรียกผู้กองเมื่อเห็นเอลฟ์ตนนั้นกำลังเคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆ

ผู้กองหยิบอาวุธขนาดยักษ์ออกจากวงแหวนทันทีที่ได้ยินกัปตันเรียกเขา และเล็งเป้าหมายที่เขาต้องการ

“ เล็ง! “

“ ไฟ! “ กัปตันซิกฟรีดกล่าวเมื่ออาวุธยักษ์สามารถล็อคเป้าหมายได้

บูม!

ขีปนาวุธยาวหนึ่งเมตรพุ่งทะลุอากาศไปทางร่างผอม เอลฟ์พยายามขยับ และหลบขีปนาวุธเช่นเดียวกับกระสุน น่าเสียดายที่มิสไซล์สามารถตามการเคลื่อนที่ และไล่ตามร่างของมันได้ในทันที

บูม!!!.

เอลฟ์ถูกเหวี่ยงออกไปหลายฟุตขณะที่ขีปนาวุธตกลงบนร่างของมัน ร่างนั้นกลิ้งไปบนพื้นหลายเมตร ก่อนที่มันจะหยุด และนอนราบกับพื้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน การระเบิดครั้งนี้ ทำให้มีควัน และฝุ่น กระจายและปกคลุมไปทั่วพื้นที่ บดบังทัศนวิสัยทั้งหมด

“ เยี่ยม!!!! ” พลทหารคนหนึ่งสบถออกมาเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเขา

พลทหารสี่คนนำอาวุธระยะประชิดขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อม ในขณะที่อีกสามคนจ้องไปที่พวกออร์กซึ่งยังคงล้อมรอบพวกเขาในระยะไกล ทั้งสี่คนพุ่งตัวเข้าไปในกลุ่มควัน มทำให้พวกเขาสามารถเข้าใกล้พวกมันได้มากขึ้น พวกเขาสังเกตเห็นร่างของเอลฟ์ผมขาวมีบาดแผลทั่วร่าง ร่างของมันเซอย่างหนัก และพยายามที่จะยืนขึ้น

“ มันยังมีชีวิตอยู่!? เป็นไปไม่ได้! ”

“ มันควรตายสิว่ะ! ” พลทหารคนหนึ่งพูดพลางยกหอกขึ้น เพื่อเตรียมพุ่งเข้าหาเอลฟ์

อัศวินอวกาศพุ่งไปข้างหน้า หอกแทงทะลุไหล่ของมันในทันที ทำให้มันชะงักการเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง

“ ผมทำได้ “ พลทหารนายหนึ่งพูดอย่างดีใจ ในระหว่างที่เขาไม่ทันตั้งตัว เอลฟ์หยิบดาบขึ้นมา และขว้างเข้ามาหาเขาอย่างจัง

ดาบยักษ์พุ่งเข้าหาเขา ชายผู้นั้นทำได้เพียงมองดูร่างกายของเขาซึ่งถูกหุ้มด้วยเกราะพลัง ถูกฟันผ่าครึ่งด้วยดาบจากเอลฟ์

กรี๊ดด!!

“ ไอ้เวรนั่นฆ่าไพรเวทรัสกี้! “

ร่างเพื่อนของพวกเขาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน เลือดไหลออกมาจากร่างนั้นในทันที ไม่นานพื้นบริเวณนั้นก็กลายเป็นทะเลเลือด

“ นั่นอะไรน่ะ!? “

“ มันยังไม่ตายหรือไง! ”

อัศวินอวกาศอีกสามคนพุ่งเข้าไปโจมตีพวกมันพร้อมกัน

• เสียงดังลั่นจากการต่อสู้  –

พวกเอลฟ์ปัดป้อง และตอบโต้การโจมตีของพลทหารด้วยดาบยักษ์ มันเหวี่ยงดาบที่ดูหนักอึ้งไปรอบๆ อย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันเป็นขนนกแทนที่จะเป็นโลหะชิ้นใหญ่ ในอีกทางหนึ่งพลทหารอีกสามคนพยายามดิ้นรนเพื่อโจมตีต่อไป

ผลกระทบของการปะทะกันระหว่างเอลฟ์กับอัศวินอวกาศ ทำให้ควัน และฝุ่นห่อหุ้มพื้นที่อย่างกระจายไปทั่ว ฝ่ายของกัปตันซิกฟรีดและคนอื่นๆ ได้สังเกตการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะสมดุลนี้อยู่ไม่ไกล

เมื่อมองไปที่ร่างของรัสกี้ที่แยกเป็นสองส่วน และเต็มไปด้วยเลือด

สีหน้าของซิกฟรีดูสลดกับภาพตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความแค้นและความเกลียดชังต่อการตายของไพรเวทรัสกี้ ซิกฟรีดยังคงกังวลกับการปรากฏตัวของเอลฟ์ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

ถัดจากเขา อัศวินอวกาศหญิงที่สวมชุดเกราะบางกว่า สาวกฝึกหัดแห่งอวกาศ บางอย่างกำลังปรากฎขึ้นจากสายรัดข้อมือของเธอ

[เอลฟ์เลือด]

[สาขาที่อันตรายที่สุดของเอลฟ์โบราณ]

[ลำดับความสำคัญระดับอัลฟาอัตโนมัติ]

[รายงานส่งแล้ว]

[วัตถุประสงค์หลักใหม่]

[ปิดการใช้งานและจับภาพตัวอย่าง]

ข้อมูลที่กัปตันซิกฟรีดเห็นทำให้เขารู้สึกกังวลมากขึ้น ในชีวิตของเขาไม่เคยเห็นระบบแจ้งเตือนเช่นนี้มาก่อน ในเวลาเดียวกันเมื่อเขาอ่านข้อมูลที่ปรากฎบนจอแสดงผลแล้ว เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากอัศวินอวกาศคนหนึ่ง เขาถูกดาบยักษ์ฟันผ่าร่างออกเป็นสองส่วน

“ กัปตัน คำสั่งของคุณคืออะไร ? “ พลทหารอีกคนเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กำลังดิ่งลงเหว

“ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำลายไอ้พวกนี้ให้หมด! “ กัปตันตอบหลังครุ่นคิดอยู่เพียงครู่หนึ่ง

จบคำสั่งซิกฟรีนำค้อนกลยักษ์ออกมา และพุ่งตัวออกไปข้างหน้าอย่างไม่กลัวตาย