ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 163 ฝึกประสบการณ์ของจริง
บรรยากาศที่ดุเดือดนี้น่ากลัวและทรงพลังมาก
เจียงหลีประหลาดใจ แล้วเอ่ยเตือนผู้คนที่อยู่ด้านหลัง “ทุกคนระวังด้วย” แต่หลังจากที่ปรากฏร่างของนางออกมากลับไร้การตอบกลับ
นางหันขวับกลับไปมอง แต่กลับพบว่าทุกคนที่เดินตามหลังนางกลับหายไปอย่างไร้วี่แวว
แลวด้านหลังของเจียงหลีกลับถูกห่อหุ้มด้วยไอดุร้ายเป็นชั้นๆ แม้กระทั่งหนทางถอยหนียังถูกปิดตาย
ความแปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้เจียงหลีต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงรอบด้านอย่างเฝ้าระวัง
ในขณะเดียวกัน ทุกคนต่างถูกแยกออกจากกันด้วยความมึนงงเฉกเช่นเดียวกับเจียงหลี สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าพวกเขามีเพียงสุสานแห่งเดียว รอบกายเต็มไปด้วยกลิ่นไอความดุร้ายที่ทำให้รู้สึกหนาว วสะท้าน
“อาหลี! อาหลี! เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่” เจียงเฮ่ายืนอยู่หน้าหลุมฝังศพเดียวดายนั้น แล้วหมุนรอบตัวเพื่อมองหาเจียงหลีและคนอื่นๆ
แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับและไร้ร่องรอย
ราวกับว่าทุกคนสลายหายไปในอากาศก็มิปาน
ทันใดนั้น แววตาของเจียงเฮ่าก็เย็นเฉียบ
สวบสาบ
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำเอาเจียงเฮ่าถึงกับต้องหันขวับไปมอง ร่างที่เพรียวบางหลุดออกจากบรรยากาศอันโหดร้ายหลังหลุมศพอันโดดเดี่ยวและรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
ร่างที่คุ้นเคยทำให้เจียงเฮ่าเอื้อมมือออกไปจับหญิงสาวที่พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเขาตามสัญชาติญาณ
“อ๊ะ!” หญิงสาวส่งเสียงร้องแผ่วเบา แล้วเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของเขา
“ทำไมถึงเป็นเจ้า!”
ที่แท้เงาร่างและน้ำเสียงอันแสนคุ้นเคยนี้ทำให้เจียงเฮ่าถึงกับงุนงง และในขณะนี้ ใบหน้าที่ดึงดูดสายตาของเขาทำให้เขาตกใจจนยากจะเอื้อนเอ่ย
มู่ชิงเหยียน!
หญิงสาวที่พุ่งใส่อ้อมกอดเขากลายเป็นมู่ชิงเหยียนได้อย่างไร
แต่…มู่ชิงเหยียนอยู่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างที่จยาเซียนมิใช่หรือ ทำไมถึงได้มาปรากฏตัวที่ดินแดนผนึกมารได้
“เจียงเฮ่า ข้ากลัวเหลือเกิน!” แววตาของมู่ชิงเหยียนเผยให้เห็นความหวาดกลัวไร้ที่พึ่ง แล้วกระโจนเข้าใส่อ้อมแขนเจียงเฮ่าอีกครั้งแล้วกอดเขาจนแน่น
ร่างของเจียงเฮ่านิ่งค้างไปชั่วขณะ ในหัวสมองพลันขาวโพลน
เจียงเฮ่าชอบมู่ชิงเหยียนมิใช่หรือ
แน่นอนว่าเขาใจเต้นรัว มิฉะนั้น ด้วยนิสัยของเขาคงจะไม่รู้สึกอึดอัดใจนัก
สตรีที่ชื่นชอบมาพึ่งพาตนเองเช่นนี้ การห่อตัวในอ้อมแขนของเขาเพื่อขอการปกป้อง ไม่มีใครสามารถต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้
แต่ทว่า หลังจากที่หัวสมองว่างเปล่าขาวโพลนไปชั่วขณะ เขาก็ได้สติกลับคืนมา
แต่เขาผลักหญิงสาวในอ้อมแขนออกอย่างแรง แล้วถอยไปข้างหลังหลายก้าว ดวงตาดั่งพญาอินทรีคู่คมจ้องมองไปที่หญิงสาวที่เหมือนมู่ชิงเหยียนไม่มีผิดเพี้ยน แล้วกล่าวถ้อยคำด้วยน้ำเสียงด ดุดัน “เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงได้ปลอมตัวเป็นมู่ชิงเหยียน”
แม่นางที่ถูกจับได้เปลี่ยนจากท่าทางอ่อนแอเมื่อครู่นี้เป็นท่าทางยั่วยวน นางเล่นกับปลายผมที่สยายประบ่า มองเจียงเฮ่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ทำไม ข้าแปลงกายไม่เหมือนสตรีที่อยู่ใน ใจของเจ้าหรอกหรือ”
ประโยคนี้ได้ยอมรับแล้วว่านางมิใช่มู่ชิงเหยียนจริงๆ และในขณะที่นางกำลังพูดอยู่นั้น ความสนใจในดวงตาของนางก็หายไป ถึงแม้นางยังคงความงดงามและรอยยิ้มสดใส แต่ทว่าดวงตากลับฉายแว ววเย็นยะเยือก
สีหน้าของเจียงเฮ่าเคร่งขรึม และโครงหน้าของเขาก็คมกริบราวกับใบมีด
เขาไม่อธิบายให้นางฟังอยู่แล้ว เพราะถึงแม้มู่ชิงเหยียนจะมีเขาอยู่ในใจ นางก็ไม่เคยรีบร้อนกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแบบนี้ ตีหน้าเศร้าน่าสงสาร แต่กลับตั้งใจที่จะยั่วยวนเขามากก กว่า
มู่ชิงเหยียนมีความรักนวลสงวนตัว นางมีหลักการของตัวเองและมีสิ่งที่ยึดถือ
นี่ก็เป็นจุดที่ดึงดูดเขาได้
และต่อให้สตรีที่อยู่ตรงหน้าจะเหมือนมู่ชิงเหยียนมากแค่ไหน ก็มิอาจดึงดูดเขาได้เลยสักนิด กลับกัน ยิ่งทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียน
“เจ้าเป็นใครกันแน่” เจียงเฮ่ารวบรวมพลังวิญญาณไว้ในอุ้งมือ พลังปราณของหลิงหวังแอบปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา
แต่สตรีนางนั้นกลับไม่แยแส แล้วเผยรอยยิ้มยั่วเย้า “เจ้ามาถึงหน้าประตูบ้านข้า แล้วยังถามว่าข้าเป็นใครอีกหรือ”
หน้าประตูบ้าน!
แววตาของเจียงเฮ่าสั่นไหว แล้วค่อยๆ หันไปมองหลุมศพเดียวดายที่อยู่ข้างหลังแม่นางผู้นั้น
“คะ…คือ…คือ…”
ท่าทางของเขาทำให้หญิงสาวหัวเราะร่วน ทันใดนั้นนางก็หมุนตัว รูปร่างพลันเปลี่ยนไปสิ้นเชิง และสวยหยดย้อยมีเสน่ห์แพรวพราวยั่วยวนยิ่งกว่าเดิม “ไม่ชอบให้พี่สาวแปลงกายเป็นคนในใจของ เจ้า แล้วรูปร่างหน้าตาแบบพี่สาว เจ้าชอบหรือไม่”
แม้แต่เจียงเฮ่ายังต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาสวยราวกับปีศาจ เช่นเดียวกับปีศาจร้ายงามล่มเมืองในตำนานเหล่านั้น นางสวยมีเสน่ห์ดึงดูดคนยิ่งนัก
แต่จิตใจเขากลับแข็งดั่งเหล็กกล้า ไม่ถูกนางครอบงำเลยสักนิด
แววตาของเจียงเฮ่าพลันดุดันขึ้นมา แล้วต่อสู้กับแม่นางผู้นั้นทันที
การจู่โจมกะทันหัน เอวบางบิดพลิ้วของนางทำให้สามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่านางกลับมีสีหน้าเย็นเยียบ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางร้ายกาจ “บุรุษใต้หล้า ไม่มีใครดีทั้งนั้น!”
เมื่อสิ้นเสียง นางก็กรีดกรายนิ้วเรียว ทันใดนั้นเล็บของนางก็ยาวขึ้นเป็นกรงเล็บคมพุ่งเข้าไปจับเจียงเฮ่า
…
“เจียงหลี เจียงเฮ่า คนอื่นล่ะ เอ๋…”
กงเสวี่ยฮวาถูกขังเอาไว้ที่หน้าสุสานเดียวดาย ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหน หมุนรอบตัว หรือกลับมาที่เดิม เขาก็ไม่อาจรู้เลยว่าทุกคนหายไปไหนกันหมด
“ช่างเป็นลมปราณที่ดุร้ายยิ่งนัก”
รอบด้านเต็มไปด้วยบรรยากาศดุร้าย และบรรยากาศดุร้ายนี้กระจายเข้ามาด้านในโดยมิขาดสาย บีบบังคับให้กงเสวี่ยฮวาต้องถอยเข้าใกล้หลุมฝังศพเดียวดายนั้นอย่างช่วยไม่ได้
“คนหรือผีกันแน่!” กงเสวี่ยฮวาสบถด่า
“เจ้าเด็กนี่ เอ็งด่าใคร”
จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างหลังกงเสวี่ยฮวา เขาตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นแล้วหันหลังโจมตีทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ตู้ม!
มีเสียงดังระเบิดเกิดขึ้นเหนือสุสานเดียวดาย
“เด็กเวร! ข้าพูดกับเจ้าดีๆ แต่เจ้ากลับมาพังบ้านข้า!” น้ำเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง แต่มิได้เป็นมิตรเหมือนเมื่อครู่
“เวรแล้ว! ใครล่ะนั่น!” กงเสวี่ยฮวาตกใจกับภาพประหลาดนี้ไม่เบา “หากมีปัญญาก็อย่าเอาแต่หลบซ่อนหลอกคนอื่นเลย อยากมีเรื่องก็ออกมา สู้กับข้าสักตั้งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!”
“เหอะ!”
หลังจากได้ยินคำสบถเสียงเย็น สีหน้าของกงเสวี่ยฮวาก็เผยถึงความหวาดกลัวและสั่นสะท้าน เขาไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณในร่างกายของเขาและถอยกลับไป ตัวเขาเองไม่มีทางเคลื่อนไหว ราวกั บไร้พลังวิญญาณก็มิปาน
บนหลุมศพเดียวดาย ร่างหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้น นั่งไขว่ห้างในอากาศและหัวเราะติดตลก
กงเสวี่ยฮวาหายใจติดขัด ดวงตาเบิกกว้าง มองชายชราจอมซกมกข้างหน้า แล้วเอ่ยปากตะโกนเสียงลั่น “วิญญาณชั่วร้าย!”
“อืม นับว่าเจ้ายังพอมีความรู้อยู่บ้าง” ชายชราซกมกไม่ปฏิเสธถ้อยคำของกงเสวี่ยฮวา
จากนั้นเขาจึงยอมรับ กงเสวี่ยฮวากลับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก และสีหน้าก็ดูย่ำแย่
ชายชราซกมกคนนี้ เป็นวิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่งกว่าที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้
“แหะๆ ท่านอาวุโส ข้าน้อยมิรู้ความ มารบกวนความสงบสุขของท่านแล้ว ท่านเป็นผู้ใหญ่มากน้ำใจ อย่าถือสาหาความกับผู้มีความรู้พื้นๆ เยี่ยงข้าเลย ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” กงเสวี่ยฮวายิ้ มแห้ง แล้วถอยหลังไปเรื่อยๆ
แต่ดูเหมือนชายชราซกมกจะมองไม่เห็นการล่าถอยของเขา ปล่อยให้เขาถอยกลับเข้าไปในบรรยากาศที่ดุร้าย กงเสวี่ยฮวาหันหลังกลับและหลบหนีไป แต่ทว่าชายชรายังคงนั่งไขว่ห้างอยู่บนหลุมศพ พโดยเพ่งเล็งไปที่กระดานหมากรุกที่อยู่ข้างหน้าเขา “ไม่ใช่! นี่ยังคงไม่ถูก ตกลงต้องเดินหมากอย่างไร ข้าถึงจะทลายกลหมากนี้และเอาชนะเขาได้…”
ในขณะที่เขาเริ่มกระดานใหม่เรื่อยๆ ความโหดเหี้ยมก็ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขา…