ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 168 เจ้ากอดข้าทำไม
“เจ้าอยากพูดสิ่งใด” โฉมสะคราญขมวดคิ้ว
เจียงเฮ่านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ผู้อาวุโส ข้าพูดไม่ค่อยเก่ง ข้าแค่อยากบอกว่า บางทีบุรุษที่ผู้อาวุโสเคยพบพานล้วนเป็นดั่งที่ท่านพูด แต่ทว่า พวกเขาไม่สามารถเป็น นดั่งตัวแทนบุรุษทั้งโลกได้ ผู้อาวุโสเกิดกิเลสก็เพราะคนที่ทำให้ท่านเจ็บแค้น เช่นนี้คู่ควรแล้วหรือ”
คู่ควรหรือ
คำสามคำทะลุไปถึงหัวใจของสตรีโฉมสะคราญ ทำให้นางเกิดความสับสนและว่างเปล่าในจิตใจทันที “คู่ควรหรือ เหอะๆ…”
นางช่างหัวเราะได้เจ็บปวดเหลือเกิน
ทันใดนั้นนางก็เผยสี่หน้าดุร้ายใส่เจียงเฮ่า “เจ้าจะเข้าใจอะไร เจ้าเคยผ่านอะไรมาบ้าง เจ้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ แล้วยังมีหน้ามาสั่งสอนข้าอีกหรือ”
“ผู้อาวุโสเคยถูกคนรักทรยศใช่หรือไม่” เจียงเฮ่าเอ่ยถามอย่างมิกลัวตาย
แม่นางโฉมสะคราญชะงักงัน ดวงตาของนางสื่อแววความทรงจำอันแสนเจ็บปวด
“ก็เพราะเจอคนทรยศ ดังนั้นผู้อาวุโสถึงได้โกรธแค้นบุรุษทั้งใต้หล้า จนกระทั่งเกิดกิเลสในใจ” เจียงเฮ่าค่อยๆ พูด
สตรีโฉมสะคราญเก็บซ่อนอารมณ์ในแววตาและกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ นางหัวเราะเยือกเย็น มองเจียงเฮ่าด้วยสายตาเย้ยหยัน “บุรุษใต้หล้าก็คือพวกจิ้งจอก ทำได้แค่ให้ความหวังสต ตรี”
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น” เจียงเฮ่าส่ายหน้า ปฏิเสธทัศนคติของนาง
“เจ้าเป็นบุรุษ เจ้าก็ต้องพูดแทนบุรุษเป็นธรรมดา” โฉมสะคราญยิ้มเย็นเฉียบ “แต่เจ้ายังถือว่ามีจิตใจแข็งแกร่งอยู่บ้าง ไม่ทำให้ข้ารู้สึกขยะแขยง มิฉะนั้นเจ้าคงตายไปนานแล้ว”
“ข้าไม่ได้พูดแทนบุรุษสักหน่อย แล้วประสบการณ์ที่ข้าเคยผ่านมานั้นมันทำให้ข้ารู้ว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสพูด ไม่ได้เป็นความจริงเสียทีเดียว” เจียงเฮ่าโต้วาที
“เจ้าเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง จะมีประสบการณ์อะไรได้” หญิงสาวรูปงามยิ่งเย้ยหยันมากขึ้น
เจียงเฮ่าไม่นึกโกรธ และยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “แม้ข้าจะอายุไม่มาก แต่ก็ผ่านเรื่องราวมาบ้าง หากผู้อาวุโสเห็นด้วย ข้าก็จะเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ท่านฟัง ท่านช่วยข้าพิจารณาด ด้วย ว่าบุรุษในเรื่องพวกนี้ ทรยศผู้อาวุโสหรือไม่”
“ได้ เจ้าพูดมาสิ ข้าจะฟัง” แววตาของนางเป็นประกายวูบหนึ่ง
เจียงเฮ่าเรียบเรียงความคิดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงนำเรื่องระหว่างเจียงหลีกับลู่เจี้ย และยังมีเรื่องของหรงจิ่งออกมาเล่าให้ฟัง ชายหนุ่มรูปงามสง่าไร้ที่เปรียบทั้งสองคนต่างสละชีวิต ตเพื่อผู้หญิงที่ตนรัก จะไม่ให้รู้สึกซาบซึ้งได้อย่างไร
แม้แต่เขาก็ยังซาบซึ้งเรื่องความรักของน้องสาว
ส่วนเรื่องของหรงจิ่ง แม้เขาจะไม่ได้เห็นกับตา แต่พอได้ยินที่ท่านอาจารย์หนานเล่าให้ฟัง หลังจากรู้เรื่องที่หรงจิ่งทำให้กับเจียงหลี เจียงเฮ่าก็ทั้งรู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกผิด เพราะเขาทราบดีว่าในใจของน้องสาวมีเพียงลู่เจี้ยคนเดียวเท่านั้น การเสียสละของหรงจิ่งนั้นช่างเปล่าประโยชน์
แต่ก็อย่างที่เขาพูด เขาไม่ต้องการให้วันหนึ่งสูญเสียการควบคุมความรู้สึก ทำร้ายตัวเอง และทำร้ายเจียงหลี เขาไม่ต้องการที่จะเป็นหนามตำใจของเจียงหลี ดังนั้นเขาจึงถอนตัวออกมาเอ อง
“บนโลกนี้ มีการอุทิศตนโดยไม่หวังผลตอบแทนเช่นนี้จริงๆ งั้นหรือ หึ ข้าไม่เชื่อ” เมื่อฟังเรื่องของเจียงเฮ่าจนจบ แม่นางโฉมสะคราญแอบเผยให้เห็นแววตาซาบซึ้ง แต่นางกลับส่ายหน้าปฏ ฏิเสธ
เจียงเฮ่ามองนางด้วยแววตาจริงใจ “ผู้อาวุโส ท่านคิดว่าข้าแต่งเรื่องได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ”
หญิงสาวตกตะลึง สายตาเฉียบคมจ้องไปที่เจียงเฮ่าเขม็งอยู่นาน จากนั้นนางจึงยิ้มอ่อนและส่ายหน้า “สมองขี้เลื่อยอย่างเจ้า แต่งเรื่องน้ำเน่าไม่เป็นแน่นอน”
เจียงเฮ่าพยักหน้าและถอนหายใจ “ผู้หญิงในเรื่องนี้ คือน้องสาวแท้ๆ ของข้าเอง นายน้อยจากโลกนี้ไปตั้งนานแล้ว แต่นางก็ยังเชื่อมั่นว่าต้องมีสักวันที่นายน้อยกลับมา ข้าเคยเตือ อนสติให้นางลืมเลือนอดีตเสีย แนะนำผู้ชายเพียบพร้อมให้นาง แล้วอย่าพลาดความสุขในปัจจุบันตรงหน้า แต่ทว่านางกลับปฏิเสธ นางบอกว่า หัวใจของนางจะเป็นของนายน้อยทุกชาติภพ ส่วนหนี ชีวิตของคุณชายจิ่ง นางก็ต้องแลกด้วยชีวิตเท่านั้น”
“น้องสาวของเจ้า ช่างโชคดีจริงๆ” ดวงตาของโฉมสะคราญเผยให้เห็นถึงความอิจฉา
รอยยิ้มของเจียงเฮ่าเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู “ใช่น่ะสิ นางช่างโชคดีจริงๆ แต่ทว่า นางต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง และคนทั่วไปก็มิอาจเข้าใจนางได้ ท่านอาวุโส…” เขามองไป ปที่นาง รอจนกว่านางจะหันมาสบตาเขา เขาจึงจะพูดต่อ “แม้ข้าไม่รู้ว่าผู้อาวุโสเคยถูกกระทำเยี่ยงไรมา แต่ในเมื่อไม่แยแสแล้ว ผู้อาวุโสก็ควรจะปล่อยวาง อย่าให้เขาเข้ามามีอิทธิพลต่ อหัวใจอีก แล้วใช้ชีวิตของตัวเองอย่างสง่าผ่าเผย จะไปวุ่นวายให้ใจเกิดกิเลสเพราะคนไร้หัวใจไปทำไม”
ฉากความทรงจำนับไม่ถ้วนฉายขึ้นต่อหน้าต่อตาของหญิงสาวผู้มีเสน่ห์ และเหตุการณ์ในอดีตทุกอย่างก็เกิดขึ้นซ้ำๆ ต่อหน้าต่อตานาง
นางเคยเจ็บปวด นางเคยร้องไห้ เคยผิดหวัง เคยเกลียดแค้นชิงชัง แต่นางก็เคยรัก…
“ฮ่าๆๆๆ…” ทันใดนั้นนางก็แหงนหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะลั่น เสียงหัวเราะช่างดูบ้าคลั่ง แม้กระทั่งตอนหัวเราะยังมีน้ำตาไหลริน “ข้าคิดไปเองว่า ชีวิตของข้าจะดำเนินไปอย่างมีความสุข บุญคุณ ความแค้น รักโลภโกรธหลงมีขึ้นมีลง แต่สุดท้ายกลับไม่เข้าใจคำว่าปล่อยวาง จิตใจเกิดกิเลสกลายเป็นกรงขังตัวเองคนเดียวยังไม่พอ ข้ายังถูกขังอยู่ในดินแดนผนึกมารแห่งนี้ไปตราบชั่ วนิรันดร์อีกด้วย”
“ผู้อาวุโส…” เจียงเฮ่ากังวลเล็กน้อย
แม่นางผู้นี้ยังคงหัวเราะให้กับตัวเอง “ถือขึ้นมาได้ แต่วางไม่ลง นี่ก็คือกิเลสของข้า บางที สิ่งที่ใจข้ารอคอยมาตลอดก็คือวันหนึ่งเขาจะกลับมา แต่เสียดาย นี่เป็นเพียงความปรา ารถนาของข้าฝ่ายเดียวเท่านั้น”
“ผู้อาวุโส ท่าน...”
“เจ้าไปเถอะ ขอบใจเจ้ามาก เจียงเฮ่า” แม่นางโฉมสะคราญไม่รอให้เจียงเฮ่าพูดจบ ระหว่างที่นางสะบัดมือ เจียงเฮ่าก็เหาะขึ้นและเข้าไปในท่ามกลางหมอกควัน
…
เพี๊ยะ
ทันทีที่หมากตัวหนึ่งล้มลง กงเสวี่ยฮวาก็มองไปที่ผู้เฒ่าซกมกที่อยู่ตรงข้ามอย่าหวาดระแวง
ผู้เฒ่าคนนี้ สามารถสอนเขาเล่นหมากกระดานได้จริงๆ แล้วทั้งสองก็เล่นหมากรุกกันทั้งวัน และในบางครั้ง ท่านผู้เฒ่าก็สอนเขาให้ฝึกฝนผ่านการละเล่นหมากรุกนี้
“ชะ…ชนะหรือยังขอรับ” แววตากงเสวี่ยฮวาสั่นระริก
ตอนที่เขาวางหมากบนกระดาน ผู้เฒ่าซกมกราวกับถูกถอดวิชาท่าร่าง เขาไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด
กงเสวี่ยฮวาตรวจสอบกระดานหมากอย่างถี่ถ้วน อืม…ตามที่เขาได้เรียนมาในระยะนี้ ผนวกกับความเข้าใจที่มีต่อหมากกระดาน ดูเหมือนว่าเขาจะ…ชนะแล้ว!
แต่ทว่า ปฏิกิริยาของท่านผู้เฒ่า ทำให้เขาเกิดความลังเลสงสัยอีกครั้ง
“แก้ได้แล้ว! แก้ได้แล้ว! ฮ่าๆๆๆๆๆ! ในที่สุดข้าก็รู้จนได้ว่าจบหมากกระดานนี้อย่างไร” จู่ๆ ผู้เฒ่าซกมกก็ตะโกนหัวเราะเสียงดังลั่น จนกงเสวี่ยฮวาตกอกตกใจ
“ผู้…ผู้อาวุโส…”
กงเสวี่ยฮวาลองเอ่ยเรียก
“หมากกระดานนี้สามารถแก้ได้แล้ว เจ้าก็ไสหัวไปได้แล้ว!” ผู้เฒ่าจอมซกมกเอาแต่จ้องหมากบนกระดาน โดยไม่มองเขาแม้แต่หางตา
เขาโบกมือหยอยๆ ราวกับไล่ยุง จากนั้นก็โยนกงเสวี่ยฮวาเข้าไปในเมฆหมอก
อ๊ากกกก! การตกลงไปในอากาศอย่างอิสระทำให้กงเสวี่ยฮวาร้องโหวกเหวกแล้วก่นด่าทันที “ไอ้แก่สมควรตาย พอได้ผลประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง ข้าช่วยเจ้าแก้หมากกระดาน เจ้ากลับทำกับข้าแ แบบนี้ ข้าๆๆ…”
ปัง!
เสียงกระแทกพื้นดังสนั่น
“เอ๊ะ ไม่เจ็บนี่นา” กงเสวี่ยฮวาบ่นพึมพำด้วยความสงสัย
“เจ้าไม่เจ็บแน่นอน” เสียงดังกะทันหันทำให้เขาตกอกตกใจ โดยเฉพาะใบหน้าของเจียงเฮ่าที่อยู่ใกล้กับหน้า ทำให้เขาตื่นตกใตมากจนกระโดดลงจากตัวเจียงเฮ่าและถอยออกไปให้ไกล
เจียงเฮ่าค่อยๆ ชักแขนเขากลับมาแล้วมองไปที่กงเสวี่ยฮวา
“เจ้าๆๆๆ…ข้าๆๆๆ…ทำไมเจ้าถึงกอดข้าไว้!” กงเสวี่ยฮวาตกตะลึงจนพูดไม่เป็นคำ