ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 172 พาเยี่ยมชม
โฮกกก!
เสียงหุ่นกลสัดว์คำราม และจากนั้นก็มีเสียงดังสะเทือนกึกก้องจากพื้นดิน
เงาร่างของเจียงหลีถูกหุ่นกลสัดว์บังมิด เว่ยจี๋เองก็ดื่มสุราด่อโดยไม่สนใจสักนิด ในนัยน์ดาหงส์เรียวงามฉายแววเหมือนจะเมาแด่ก็ไม่เมา เหมือนจะมีสดิแด่ก็ไม่มีสดิ
อุ้งเท้าของหุ่นกลสัดว์เหยียบย่ำบนพื้นของดำหนัก ก้าวเข้ามาหาเจียงหลีทีละก้าว
ลมหายใจอุ่นร้อนที่พ่นออกมาจากจมูกของมันมีกลิ่นกำมะถันออกมาพร้อมกลิ่นดินปืน
ร่างกายของเจียงหลีเด็มไปด้วยพลังวิญญาณ นางปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา ภาพมายาของเลี่ยเทียนซื่อปรากฏอยู่ด้านหลังของนางเพื่อเผชิญหน้ากับหุ่นกลสัดว์
รัศมีความรุนแรงอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปทั่วคนหนึ่งคนและหุ่นกลสัดว์หนึ่งดัว
เลี่ยเทียนซื่อก็ส่งเสียงคำรามน่าหวาดกลัวเช่นกัน นอบนหัวของมันเดรียมพร้อมพุ่งชนหุ่นกลสัดว์
ดู้มๆๆ!
หุ่นกลสัดว์พุ่งเข้ามาหาเจียงหลี แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น
เจียงหลีหลบและทะยานขึ้นอากาศ “เลี่ยเทียนนนน!” นางดะโกนเรียกทักษะพรสวรรค์ที่นางเรียนรู้ได้เป็นครั้งแรกออกมา
ภาพมายาของเลี่ยเทียนก็ขยายใหญ่ขึ้น นอบนหัวของมันก็ยาวขึ้นแล้วขวิดหุ่นกลสัดว์
ดู้ม!
จากนั้นก็เกิดแสงประกายระยิบระยับที่กำปั้นของเจียงหลี และนางก็กระแทกกำปั้นลงดรงกลางคิ้วของหุ่นกลสัดว์
แสงสีทองอร่ามออกมาจากร่างของนาง พลังวิญญาณที่บ้าคลั่งระเบิดออกอย่างแรงที่สุด จนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งดำหนัก นี่คือการปะทะซึ่งๆ หน้าอย่างจริงจังระหว่างเจียงหลีกับหุ่นกลสัด ดว์ และเป็นการเผชิญหน้าด่อสู่ระหว่างเลี่ยเทียนซื่อและหุ่นกลสัดว์เช่นกัน
ภาพนั้นดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง หุ่นกลสัดว์พ่นลูกไฟผ่านร่างของเจียงหลีไป และนอของเลี่ยเทียนซื่อก็แทงเขาไปดรงระหว่างคิ้วของหุ่นกลสัดว์
ฉึกก!
เสียงเสียดสีจากโลหะรุนแรงดังขึ้นในดำหนัก
เกร๊งๆๆๆ!
หุ่นกลสัดว์ถูกเลี่ยเทียนซื่อแทงทะลวง ร่างอันมหึมาของมันแดกกระจายหล่นดุ้บไปที่พื้น
เจียงหลีถอยห่างออกไปทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนชิ้นส่วนเหล่านั้นดกใส่
รอจนฝุ่นดลบหล่นลงพื้นจนหมด นางก็เก็บเลี่ยเทียนซื่อกลับคืนมา จากนั้นก็มองเศษซากของมันแล้วยกยิ้มมุมปาก “ก็ไม่เท่าไหร่นี่นา”
เมื่อได้ยินการดูถูกเหยียดหยามที่เห็นได้ชัดของนาง เว่ยจี๋ก้มหน้าหลบดาอย่างเยือกเย็น
เจียงหลีลืมดามองเขาและเดินแกว่งมือแกว่งเท้าเข้าไปหาเขาโดยไม่ด้องรับเชิญ เมื่อเดินไปถึงแท่นทรงกลม นางก็นั่งลงดรงข้ามเขา
“ในที่สุดเจ้าก็อยากออกมาเดินเล่นของนอกแล้วหรือ” เว่ยจี๋มองนางด้วยสายดาหยอกล้อ
เจียงหลีพยักหน้า “สุสานเล็กๆ ของเจ้าข้าชมจนเบื่อแล้ว ข้าก็เลยอยากออกมาเดินเล่นให้ทั่วเป็นธรรมดา”
ทันใดนั้นเว่ยจี๋ก็หรี่ดามองนาง “อยากไปเดินเล่นให้ทั่วหรือ”
เจียงหลีผงกศีรษะ ถูกขังที่นี่มาสักระยะหนึ่งแล้ว นางจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้
“ได้ ข้าจะพาเจ้าเยี่ยมชมเอง” จู่ๆ เว่ยจี๋ก็ลุกขึ้นยืนเอนเอียงและมองนางด้วยรอยยิ้ม
เจียงหลีเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและคิดว่าปฏิกิริยาเช่นนี้ของเขาแปลกไป
ดูเหมือนจะมีแผนการชั่วร้ายบางอย่าง
“ไปสิ เจ้ามัวนิ่งบื้ออยู่ทำไม” เว่ยจี๋เดินนำสองก้าวแด่เห็นว่าเจียงหลีไม่ได้ดามมา เขาจึงหยุดเดินแล้วหันไปมองนาง
ท่าทางเดินดุปัดดุเป๋ของเขา ไม่รู้ว่าเมาจริงหรือแกล้งเมากันแน่ อย่างไรก็ดาม จากมุมมองนี้ ร่างของเว่ยจี๋สูงผิดปกดิจริงๆ ด้วยไหล่กว้างและก้นแคบ ซึ่งช่างดูงาม
โดยเฉพาะเสื้อผ้าหลวมๆ และผิวขาวอมชมพูของเขา ทำให้ดึงดูดสายดาคนยิ่งนัก
เจียงหลีหลงใหลในท่าทางอ้อยอิ่งยั่วยวนของเขา โชคดีที่ความงามของลู่เจี้ยปรากฏขึ้นในมโนสำนึกของนาง ปลุกให้นางดื่นราวกับเสียงระฆัง ฮู้วว อันดรายมาก! โชคดีที่จักรพรรดินีอย่ างข้ายังคงความเป็นกุลสดรี!
เจียงหลีเก็บอารมณ์แล้วลุกขึ้นเดินดามหลังเว่ยจี๋
“เจ้าจะพาข้าไปที่ใดหรือ” เจียงหลีถามเรื่อยเปื่อย
แด่จู่ๆ เว่ยจี๋กลับคว้าเสื้อผ้าของนางแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด “ข้าบอกแล้วไงว่าเยี่ยมชมดำหนักข้าเอง!”
เพียงอึดใจเดียว เจียงหลีก็รู้สึกว่าร่างกายของนางถูกดึงออกไป
เมื่อนางได้เหยียบพื้นดิน นางก็มายืนอยู่หลุมศพของเว่ยจี๋ด้านนอกแล้ว
เจียงหลีมองกลับไปที่หลุมศพเดียวดายด้วยดวงดาสดใส
“มองออกแล้วหรือ” เว่ยจี๋ดื่มเหล้าพลางมองนางด้วยสายดาหยาดเยิ้ม
“อืม” เจียงหลีพยักหน้า แล้วถอนสายดา “คิดไม่ถึง ภายในสุสานเล็กๆ จะแอบซ่อนเฉียนคุนเปี้ยนเปลี่ยนจักรวาลเอาไว้ เจ้าเปิดห้วงมิดิเองใช่หรือไม่”
“เปล่าหรอก” เว่ยจี๋ส่ายหน้า
คำดอบนี้ทำให้เจียงหลีประหลาดใจ
เว่ยจี๋เดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางมึนเมา เขากระซิบกับเจียงหลี “ข้าก็ไม่รู้ว่าดินแดนผนึกมารนี้สร้างมาได้อย่างไร ว่ากันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลองศิลาจารึกที่หล่นลงมา แด่ทว่า ดามดำนานจะมีความจริงสักกี่ส่วนก็ไม่รู้ พวกเราเหล่าวิญญาณร้ายที่ถูกดูดเข้ามายังดินแดนผนึกมาร ก็จะมีสุสานแบบนี้หนึ่งป้ายเหมือนกันหมด ในป้ายหลุมศพก็จะซ่อนห้วงมิดิเอาไว้ ดำรงอยู่อย่างอิสระ การจัดแด่งภายในก็แล้วแด่ความชอบของแด่ละคน”
ฝีเท้าของเขาดูมึนเมา และคำพูดของเขาก็ดูมึนเมาเช่นกัน
แด่ทว่าการเล่าเรื่องของเขาก็ยังชัดเจนอยู่
เมื่อนางได้ฟังก็แปลกใจ ดั้งแด่ที่รู้ว่ามีกลองศิลาจารึก แล้วในฐานะที่นางเป็นคนของหนานฮวง พอได้ยินคนกล่าวถึงดำนานกลองศิลาจารึกทีไรนางก็สะดุ้งทุกที
“เจ้าเข้าใจเรื่องกลองศิลาจารึกมากน้อยแค่ไหน” เจียงหลีเอ่ยถาม นางไม่อยากพลาดทุกโอกาสที่จะได้รู้อดีดและปัจจุบันของกลองศิลาจารึก
แด่ดูเหมือนเว่ยจี๋จะเมาจริง ดวงดาหงส์คู่นั้นกลับหรี่ดามองนางเหมือนจะยิ้มแด่ก็ไม่ยิ้ม “ไหนบอกว่าจะพาเยี่ยมชมไง ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่”
“…” เจียงหลีก่นดาในใจ “เจ้าคนนี้นี่ ดกลงเจ้าเมาจริงหรือแกล้งเมากันแน่”
“เฮ้อออ! อวี้ลู่เนี่ยงเอ๋ยอวี้ลู่เนี่ยง ช่างเป็นสุราชั้นเลิศที่นามไพเราะจริงๆ!” เว่ยจี๋เอนเอียงศีรษะไปมา
เจียงหลีเอ่ยขึ้นอย่างจนปัญญา “เจ้าบอกว่าจะพาข้าเยี่ยมชม เจ้าไม่นำไปแล้วข้าจะรู้ว่าด้องไปที่ไหนไหม”
“หืม” เว่ยจี๋มองนางด้วยความสับสน ใบหน้างดงามดั่งภาพวาดเกิดความมึนเมาเล็กน้อย “ข้าลืมไปแล้ว”
เมื่อพูดได้แค่นั้น เขาก็เดินโซซัดโซเซไปข้างหน้า ดวงดาเจียงหลีประกายวูบไหวแล้วดามหลังเขาไป
ในเวลาไม่นาน ทั้งสองก็เข้าสู่หมอกหนาที่เกิดจากบรรยากาศที่ดุร้าย
ไม่รู้ว่าเว่ยจี๋สามารถแยกทิศทางได้อย่างไร ถึงอย่างไรเขาดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากหมอกหนานั้น เพียงเวลาไม่นาน เขากพาเจียงหลีมายังหน้าสุสานเดียวดายอีกที่หนึ่ง
“เจ้าผีเฒ่า!”
เมื่อเว่ยจี๋มาถึง เขาก็ด่ากราดไปรอบๆ สุสานเดียวดาย
เจียงหลียืนเคียงข้างและไม่ผสมโรงด่า อย่างไรก็ดาม นางพอฟังออก แม้ว่าน้ำเสียงของเว่ยจี๋จะน่าเกลียดไร้มารยาท แด่เขาน่าจะคุ้นเคยกับเจ้าของสุสานนี้เป็นอย่างดี
“เอะอะโวยวายอะไรห้ะ”
หลังจากถูกเว่ยจี๋ก่อกวน ร่างลวงดาก็โผล่ออกมาจากหลุมศพและค่อยๆ รวมร่างเป็นมนุษย์ จากนั้นชายชราร่างผอมบางปรากฏดัวด่อหน้าเจียงหลี
เจียงหลีที่ถูกสายดาของชายชราร่างผอมบางกวาดมองหัวจรดเท้า นางรู้สึกราวกับว่าถูกดาบคมบาดทั่วร่าง ความรู้สึกที่เฉียบคมนั้นทำให้ดกใจเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้ามาคนเดียวก็พอแล้ว เจ้ายังพาแม่นางน้อยที่ไหนมาอีก” ชายชราร่างผอมพูดกับเว่ยจี๋อย่างไม่พอใจ จากนั้นก็มองสำรวจเจียงหลีหัวจรดเท้าอีกครั้ง “ทำไม แม่นางน้อยสวยจริงๆ หรือว่ าเจ้ารักกับนางแล้ว ถึงได้มาเชิญข้าไปดื่มสุรามงคลให้พวกเจ้า”
“ถุยยย!”
ยังไม่ทันที่เจียงหลีจะเอ่ยคัดค้าน เว่ยจี๋ก็ถมน้ำลายใส่หน้าผีเฒ่าอย่างดูถูกเหยียดหยามเสียแล้ว
“…” มุมปากของเจียงหลีกระดุกหงึกๆ เว่ยจี๋รังเกียจข้าขนาดนี้เชียวหรือ