ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 184 สงครามระหว่างหลิงหวัง
กงเสวี่ยฮวาถูกกวาดจนปลิวไป ส่วนอวิ๋นเซียวก็ย่างก้าวเข้ามาหาเจียงเฮ่า “สู้กันสักตั้ง” เขาคำรามลั่น แล้วท้าทายเจียงเฮ่า
ม่านตาของเจียงเฮ่าควบแน่น และร่างของเขาก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าในทันทีเพื่อต่อสู้กับอวิ๋นเซียว
“วันนี้ เจ้าจะต้องตายที่นี่ ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษที่เจ้าเป็นศิษย์ของฮวงเสิน!” ปราณวิญญาณยุทธ์ในตัวของอวิ๋นเซียวปะทุออกมา จนรอบกายเขาเปล่งประกายไปด้วยแสง แรงกดดันจากผู้ที่อยู่ ในหลิงหวังถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นระลอกใหญ่ และบดขยี้ทุกคนในอาณาเขตจื๋อจัง
แข็งแกร่งยิ่งนัก!
คนจากกลุ่มอำนาจอื่นที่มุงดู อยู่ภายใต้แรงกดดันของหลิงหวัง ต่างพากันหน้าถอดสี และอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปเล็กน้อย
กงเสวี่ยฮวาล้มลงกับพื้น เมื่อประคองกายได้มั่นคงแล้ว ก็มองไปที่การต่อสู้ระหว่าผู้ที่อยู่ในหลิงหวังในห้วงอากาศนั้นด้วยสายตาดำดิ่ง เจียงเฮ่าไม่ได้ขยับปราณใดๆ เพราะคำพ พูดของอวิ๋นเซียว เขายืนตรงข้ามอวิ๋นเซียว
พลังปราณที่หนาแน่นและมั่นคงของหลิงหวังก็กระจายออกไปเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ครอบงำเหมือนอวิ๋นเซียว แต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงภูเขาอันหนักอึ้ง ด้วยพลังของผู้ที่อยู่ในหลิง หวังทั้งสอง ทำเอาคนที่อยู่ในอาณาเขตจื๋อจั้งรู้สึกราวกับมีก้อนกินใหญ่กดทับหัวใจ ทั้งอึดอัดและทรมาน
ในบรรดากลุ่มอำนาจทั้งเจ็ด มีหลายคนที่สามารถมีชื่อแย่งชิงเข้ามาในดินแดนผนึกมารได้ และหลายคนก็สามารถเข้าสู่คนที่อยู่ในระดับหลิงหวัง แต่ทว่า พวกเขาคิดว่าคนสองคนที่อยู่ ตรงหน้านี้ ระดับของผู้ที่อยู่ในหลิงหวังอย่างพวกเขา สามารถโดนบี้ให้ตายง่ายดายเหมือนมด
“มาสิ” คำพูดของเจียงเฮ่า สั้นๆ แต่ทรงพลัง
แววตาของอวิ๋นเซียวเย็นเยียบ เขาก้าวขาออกไป ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวของเขาและเจียงเฮ่าดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่เฉียบคม
วิญญาณยุทธ์ที่อยู่ข้างหลังเขาเหมือนกับของอวิ๋นเซียว ล้วนเป็นวิญญาณยุทธ์ประเภทสัตว์ปีก แต่ทว่า ความรู้สึกของความคมชัดและความเร็วนั้นหนักกว่าอวิ๋นซู่
จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้จุดประกายในสายตาของเจียงเฮ่า
ผู้คนบนพื้นดินมองเจียงเฮ่ากับอวิ๋นเซียว แต่สำหรับอวิ๋นเซียวแล้ว พวกเขาต่างก็เคยได้ยินและรู้ว่าเขาเก่งกาจยอดเยี่ยม แต่ทว่าเจียงเฮ่า พวกเขาไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่นัก
“เสียดายที่เจียงเฮ่าผู้นี้ ยังไม่ทันมีชื่อเสียงในซีฮวงเลย ก็ต้องมาถูกอวิ๋นเซียวฆ่าตายในที่นี่ซะแล้ว”
“ใช่น่ะสิ! ใครใช้ให้เขาดันมาเจออวิ๋นเซียวเล่า”
“…”
ทุกคนต่างจ้องไปที่เงาร่างทั้งสองในพื้นที่โล่ง ตอนนี้ลืมเรื่องจื๋อจั้งไปก่อนชั่วคราว
กงเสวี่ยฮวากลับมายืนข้างฉินเทียนอีและไหวปี้ แล้วก็จับจ้องไปที่สงครามในพื้นที่โล่งเหมือนพวกเขา และอยู่ตรงข้ามพวกป้อมปราการเฟยอวิ๋น หากไม่ได้รับคำสั่งจากอวิ๋นเซียว พวกเขาก ก็ไม่ลงมือ
อวิ๋นเซียวก้าวเข้าไปหาเจียงเฮ่าหนึ่งก้าว
ทันใดนั้น เขาก็หายตัวไป ไม่เหลือแม้กระทั่งพลังปราณ
เจียงเฮ่าหรี่ตา พลังวิญญาณในร่างกายระเบิดออกมาจนหมดสิ้น และร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิมเช่นกัน และเปลี่ยนทิศทางในพื้นที่ว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
เจียงเฮ่าเป็นคนซื่อตรง ไม่ชอบกลอุบาย ดังนั้นวิญญาณยุทธ์ประเภทโจมตีที่หลอมรวมเข้ากับร่างกายเขา จึงล้วนเป็นพลังรุนแรงและต่อสู้กับศัตรูด้วยพละกำลัง
จากมุมมองนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับอวิ๋นเซียวซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านความเร็ว การเปลี่ยนแปลงของเขาดูยุ่งยากกว่ามาก
ร่างของอวิ๋นเซียวปรากฏขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่าเขาเปล่งประกายออกมาจากธาตุอากาศ ไม่สามารถจับวิถีการเคลื่อนที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง พลังของเขาก็แข็งแก กร่งขึ้น
เจียงเฮ่ายังคงเปลี่ยนตำแหน่งของเขาและต้องการตามล่าร่องรอยเส้นทางของอวิ๋นเซียว
แต่ทุกครั้งมันกลับช้ามาก
“เจ้าคงตามข้าทันหรอก” อวิ๋นเซียวพูดจาดูถูก
ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างของเจียงเฮ่าก็หยุดและยืนนิ่งในทันใด รู้สึกเหมือนได้กลายร่างเป็นที่ตั้งตระหง่านระหว่างฟ้ากับดิน
“ทำไมเขาถึงไม่ขยับล่ะ เขาจะยืนให้ถูกตีหรือ”
“ข้าไม่รู้! หรือว่าความเร็วของเขาจะสู้อวิ๋นเซียวไม่ได้แล้วก็เลยยอมแพ้ไปง่ายๆ”
“…”
คนที่กำลังดูละครฉากเด็ดต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
ส่วนกงเสวี่ยฮวา ฉินเทียนอีและคนอื่นๆ กลับมองเห็นเบาะแส
“เยี่ยม! ไม่ควรใช้ข้อบกพร่องของตัวเองเพื่อแข่งขันกับจุดแข็งของผู้อื่น” กงเสวี่ยฮวาปรบมือชื่นชม
ในพื้นที่โล่ง เงาร่างของอวิ๋นเซียวปรากฏขึ้นต่อหน้าเจียงเฮ่าอีกครั้ง เขายิ้มเย็นชาให้เจียงเฮ่า หลายร่างเป็นแสงเจิดจ้า ดูเหมือนทั้งร่างหนีเข้าไปในพื้นที่โล่ง และรวมร่างเข้ ากับความว่างเปล่า มาพร้อมพลังปราณเฉียบคมพุ่งเข้าแทงเจียงเฮ่า
ความเร็วและพลังนั้นผ่านพ้นไม่ได้!
ทันใดนั้น เจียงเฮ่าก็ก้าวไปข้างหน้า พลังของวิญญาณวิญญาณยุทธ์ทั้งหมดรวมตัวอยู่ที่เขา เสียงพลังที่เงียบสงบ ราวกับดึงดูดภูเขาโดยรอบ ฟ้าดินดึงดูดพลังเข้ามาในตัวเขา
“พลังปราณนี้เปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งยวด!”
“สงสัย เจียงเฮ่านี้คงไม่ใช่คนธรรมดาแล้วล่ะ!”
พลังราวกับเทพแห่งบรรพกาล ทำให้ผู้คนตกใจ และตื่นเต้นกับสงครามในครั้งนี้
แต่จนถึงตอนนี้ ในใจของคนกลุ่มอำนาจอื่นๆ ยังคิดว่าฝ่ายที่ชนะคืออวิ๋นเซียว เจียงเฮ่าต้องแพ้แน่นอน พวกเขาหวังแค่ว่า เจียงเฮ่าทำให้ตัวเองไม่ดูน่าอนาถอย่างไรในเงื้อมมือของอ อวิ๋นเซียว
แสงจ้าที่ผสานกับความว่างเปล่าในที่สุดก็มาถึงเจียงเฮ่า
แต่เจียงเฮ่ายกมือขึ้นอย่างใจเย็นและระเบิดออกไปเหมือนกัน
การดวลกันของความเร็วและพลัง การต่อสู้ระหว่างหลิงหวังผู้แข็งแกร่งทั้งสอง
อวิ๋นเซียวใช้ความเร็วของเขาอย่างเต็มที่ ในขณะที่เจียงเฮ่ายืมพลังของฟ้าดินอย่างชาญฉลาดรวมกับตัวเขาเอง และทำให้เกิดการระเบิดที่สามารถทำลายโลกได้
สรุปแล้วใครแข็งแกร่งมากกว่ากัน
ความแตกต่างของสองอาณาเขตเล็กๆ สามารถสร้างขึ้นด้วยพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวได้หรือไม่
การปะทะกันซึ้งหน้าแบบนี้ ทำให้ผู้คนในดินแดนผนึกมารตกตะลึง
แสงจ้าของอวิ๋นเซียวกลายเป็นระเบิดไปทั่วสารทิศ และมันแทงตาของทุกคนด้วยความเจ็บปวด ราวกับว่าดวงตาถูกแทงด้วยขนนกอันแหลมคม
เมื่อแสงจ้าหายไป สายตาของทุกคนก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง และพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นมองทันที
ในความว่างเปล่า อวิ๋นเซียวและเจียงเฮ่ายังคงต่อสู้กัน และพวกเขามองไม่เห็นว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้และใครจะเป็นฝ่ายชนะ
ทันใดนั้น มุมปากของเจียงเฮ่าก็ทิ้งรอยคราบเลือด สีหน้าของเขาซีดเผือด
เจียงเฮ่าแพ้แล้วหรือ
ทุกคนที่ดูการต่อสู้อดไม่ได้ที่จะเดา และกงเสวี่ยฮวา ฉินเทียนอีและไหวปี้ก็ขมวดคิ้วมองเจียงเฮ่าด้วยความประหม่าตื่นเต้น
ขณะนั้นเอง เศษเสื้อผ้าสองสามชิ้นลอยลงมาจากตัวของอวิ๋นเซียว
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าแขนขวาของอวิ๋นเซียวซึ่งอยู่ข้างหลังเขาได้รับความบาดเจ็บเสียหายเล็กน้อย และฝ่ามือของเขาเปิดออกและสั่นอยู่ตลอดเวลา
“เจ้าจะฆ่าข้าอย่างไร” เจียงเฮ่าเช็ดเลือดที่มุมปากทิ้ง เขาเปิดเผยเขี้ยวเล็บต่อหน้าอวิ๋นเซียวเป็นครั้งแรก
ฆ่าข้าอย่างไรหรือ
ช่างเป็นคำพูดที่ผยองนัก
นอกจากคำพูดนี้ยังมีการประชดอย่างแรงอีกด้วย เขากำลังหัวเราะเยาะอวิ๋นเซียว เขาไม่ได้ทรงพลังอย่างที่พูดโอ้อวด ต้องการฆ่าเจียงเฮ่า ก็ต้องมีราคาที่ต้องจ่าย
เขา เจียงเฮ่าไม่ใช่คนที่คิดจะฆ่าก็ฆ่าได้ หรือใครมาบดขยี้เหมือนมด
“ดีมาก เจ้ายั่วโมโหข้าสำเร็จแล้ว” อวิ๋นเซียวยังคงเย่อหยิ่งถือตัว ไม่มีใครเปรียบ
วิ้ง!
แสงสีทองส่องประกาย และข้างหลังของอวิ๋นเซียวก็มีปีกสีทองปรากฏขึ้น ปีกมีขนาดใหญ่ราวกับสามารถปกปิดท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ได้ และขนทุกเส้นทำให้ผู้คนมีความรู้สึกเฉียบคมและน่ากลัว ว
ร่างของอวิ๋นเซียวแวบวาบและหายไปอีกครั้งในทันที
ฉากนี้เอง ที่ทำให้กงเสวี่ยฮวาและคนอื่นๆ หน้าถอดสี แต่คนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นต่างก็แสดงท่าทีตื่นเต้นอย่างมีชัยชนะ
“นี่คือ…กระบวนท่าอันโด่งดังของอวิ๋นเซียว นกเผิงพิฆาตอย่างนั้นหรือ”