ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 185 ใครกัน ช่างเก่งกาจถึงเพียงนี้
“นกเผิงพิฆาต!”
เสียงของกงเสวี่ยฮวาหนักแน่นขึ้น
“อวิ๋นเซียวมีชื่อเสียงในด้านทักษะเฉพาะตัวของเขา ว่ากันว่าภายใต้นกเผิงพิฆาตของเขา ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้” ดวงตาของฉินเทียนอีก็เคร่งขรึมเช่นกัน
“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี” ไหวปี้เอ่ยขึ้นด้วยความหวั่นวิตก
“…”
คำถามนี้ กลับทำให้ทั้งสองยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่
ทำอย่างไรดี ยังจะทำอะไรได้อีกหรือ
“ทุกอย่าง ทำได้เพียงรอดูความสามารถของเจียงเฮ่าแล้วล่ะ” กงเสวี่ยฮวาถอนหายใจ
ในความว่างเปล่า เมื่ออวิ๋นเซียวเคลื่อนไหว พลังวิญญาณของเจียงเฮ่าก็เร่งตัวขึ้น เขารู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและยังรู้สึกถึงพลังของการเคลื่อนไหวของอวิ๋นเซียว
เขาควรจะทะลวงมันอย่างไรดี
สำหรับเจียงเฮ่าการป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตี ดังนั้นแม้ในวิกฤตเช่นนี้ เขายังไม่เลือกที่จะหลบเลี่ยงการป้องกัน แต่เลือกที่จะใช้ความคิดริเริ่มในการโจมตี
อ๊ากก! เจียงเฮ่าตะโกนลั่น ทักษะการต่อสู้นับไม่ถ้วนระเบิดออกมา โจมตีคู่ต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต
แต่ในขณะนั้นเอง อวิ๋นเซียวปรากฏตัวพร้อมแสงสีทอง เข้าปะทะการโจมตีของเจียงเฮ่าได้อย่างง่ายดาย เพียงอึดใจเดียว ก็มาอยู่ตรงหน้าเจียงเฮ่าแล้ว
ตู้มต้าม!
เสียงดังอย่างกับฟ้าร้องก็ดังขึ้นบนท้องฟ้า
“ไปตายซะ!” อวิ๋นเซียวตะโกนเสียงเย็นยะเยือก มือของเขากลายเป็นกรงเล็บคมกริบ แล้วตะครุบไปที่หัวใจของเจียงเฮ่า
ภาพมายาของกรงเล็บแหลมคมนั้น ราวกับไม้ไผ่ ราวกับว่าไม่มีอะไรในโลกนี้หยุดมันได้
แคว่ก!
กรงเล็บที่แหลมคมจับการโจมตีของเจียงเฮ่าได้อย่างง่ายดาย และรัศมีอันทรงพลังก็สลายไปในพริบตา ตอนแรกเขากำลังจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าเลือดเนื้อของเขา เพื่อควักหัวใจออกมา
คลื่นอากาศที่น่าสะพรึงกลัวพัดผ่านสิ่งกีดขวางทั้งหมด ทุกคนเห็นเพียงร่างของเจียงเฮ่าที่ปลิวไปและอวิ๋นเซียวที่อาศัยความแข็งแกร่งเพื่อไล่ตามเขา
“เจียงเฮ่า!”
ฉินเทียนอีตะโกนเรียกเสียงดังลั่น
และพุ่งเข้าไปในพื้นที่ว่างเปล่าพร้อมกับกงเสวี่ยฮวาและไหวปี้
แต่เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหว คนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นก็เคลื่อไหวเช่นกัน คนที่มากกว่าพวกเขาหลายเท่ามาหยุดบังพวกเขาทีละคน ต่อสู้กันเพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขาช่วยเจียงเฮ่า
“จะจบแล้วใช่ไหม”
“ภายใต้นกเผิงพิฆาต มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยังไม่ตาย”
“หากเขารอดจริงๆ ต่อให้แพ้ แต่ก็คงภาคภูมิใจพอ ถึงอย่างไร ยังไม่เคยมีใครรอดจากนกเผิงพิฆาตของอวิ๋นเซียว”
“…”
ในพื้นที่ว่างเปล่า กรงเล็บที่แหลมคมเข้ามาประชิดใกล้เจียงเฮ่า
อวิ๋นเซียวเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและเย็นชา แสงแห่งความดูถูกในดวงตาของเขาก็ชัดเจนมากขึ้น
ทันใดนั้นในขณะที่เขากำลังจะควักหัวใจของเจียงเฮ่า เจียงเฮ่าก็ยกแขนขึ้นและบังกรงเล็บที่แหลมคม
ฉึกกกก!
แสงที่แหลมคมส่องประกายและมีบาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวบนแขนของเจียงเฮ่า บาดแผลนั้นดูลึกมากและมีเลือดไหล และร่างกายของเขา ก็หยิบยืมพลังของอวิ๋นเซียวระเบิดลงกับพื้น ทิ้งระยะห่างที่อันตรายระหว่างคนทั้งสอง
หืม
แววตาของอวิ๋นเซียวคมกริบ “ภายใต้การจับให้อยู่หมัดของนกเผิงพิฆาต เจ้ายังขยับได้อีกหรือ” สมควรตาย เจียงเฮ่ารอดจากเงื้อมมือนกเผิงพิฆาตของเขา
แม้ว่าเจียงเฮ่าจะถูกเขาโจมตีให้เข้าไปในพื้นที่โล่ง แต่เขาไม่ตาย นี่ถือเป็นการตบหน้าอวิ๋นเซียว
ฟุ้บ!
ร่างของเจียงเฮ่าล้มกองกับพื้น เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ลมหายใจของเขาผะแผ่ว และอาการบาดเจ็บที่แขนของเขาก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก
แต่…เขายังไม่ตาย!
เมื่อเห็นว่าเจียงเฮ่าล้มไปกับพื้น พวกกงเสวี่ยฮวาสามคนก็หยุดต่อสู้ ทยอยออกมาจากการต่อสู้แล้วกลับมายืนข้างเจียงเฮ่า
“เจียงเฮ่า เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“แผลของเจ้า…”
นางค่อยๆ ประคองเจียงเฮ่าขึ้นมาจากพื้นอย่างระมัดระวัง บาดแผลที่แขนของเจียงเฮ่าทำให้หญิงสาวอย่างไหวปี้ขนหัวลุก
“ไม่ตายหรือ”
“ยังไม่ตายจริงๆ ด้วย!”
“เขากลายเป็นคนแรกที่มีชีวิตรอดจากนกเผิงพิฆาต!”
“อวิ๋นเซียวผู้นี้ช่างขายหน้าจริงๆ ปากก็บอกว่าจะฆ่าเขาให้ตาย พอปล่อยนกเผิงพิฆาตออกมา กลับฆ่าไม่ตายเสียอย่างนั้น”
“ชู่ว! เบาเสียงหน่อยสิ เจ้าอยากตายหรือไง อย่าทำให้พวกเราพลอยเดือดร้อนไปด้วยสิ”
“…”
ผลสรุปของสงครามระหว่าผู้ที่อยู่ในระดับหลิงหวังทำให้พวกเขาตกตะลึง แล้วก็ทำให้คนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นประหลาดใจเช่นกัน
ส่วนอวิ๋นเซียว เขายังอยู่พื้นที่โล่ง แต่ปีกสีทองบนหลังของเขายังไม่ถูกหดกลับไป ราวกับเทพเจ้าก็มิปาน และเขามองไปที่เจียงเฮ่าด้วยเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง
เจียงเฮ่ารู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาของเขาจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“พวกเจ้าถอยออกไปก่อน” เจียงเฮ่าเอ่ยขึ้นกับสามคนนั้นด้วยเสียงแหบต่ำ
เขายังคงรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าของอวิ๋นเซียวที่ครอบคลุมเขาไว้ และไม่ยอมแพ้ที่จะฆ่าเขา
“สภาพเจ้าเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะสู้อีกรึ” กงเสวี่ยฮวาเอ่ยขึ้น
ไหวปี้หันไปมองฉินเทียนอี “คราวก่อนพวกเจ้าออกไปก่อนได้อย่างไร พวกเราหาวิธีออกไปจากอาณาเขตจื๋อจั้งก่อน มีอาณาเขตจื๋อจั้งเป็นอุปสรรค แม้อวิ๋นเซียวอยากฆ่าคน แต่ก็ไม่มีความสามารถด้านนั้น
ฉินเทียนอีหัวเราะขมขื่น “สิ่งนั้น อยู่ในมือของหลัวอวี่” เรื่องที่เหนือคาดหมายก็คือ เขาเองก็อับจนหนทาง
“แล้วจะทำอย่างไร ถึงอยากหนีก็หนีออกจากอาณาเขตจื๋อจั้งไม่ได้ อวิ๋นเซียวไม่มีวันรามือแน่” แววตาไหวปี้ฉายแววกังวล
“ลำบากพวกเจ้าแล้ว” เจียงเฮ่าเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด
แต่กงเสวี่ยฮวากลับเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “เราเป็นพี่น้องกัน อย่าพูดแบบนี้อีก”
“หึ เจียงเฮ่า เจ้าทำให้ข้ารู้สึกชื่นชมจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีชีวิตรอดจากนกเผิงพิฆาตของข้า แต่ก็ไม่มีอะไร ไม่ว่าใคร ไม่ว่าเรื่องไหน ก็ไม่มีทางแก้ไขจุดจบของเจ้าที่จะต้องตายในวันนี้ได้หรอก” เสียงของอวิ๋นเซียวดังมาจากพื้นที่โล่งนั้น
จากนั้น ทันทีที่เสียงของเขาขาดหายไป เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างรุนแรง
“เจ้า…”
คนที่ส่งเสียงกรีดร้องหันไปมองศิษย์สำนักเดียวกันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความตกตะลึง ดูเหมือนไม่ชัดเจนว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้ลงมือกะทันหัน จนทำให้คนล้มตาย
และคนนั้นที่เป็นผู้ลงมือ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ปรากฏความบ้าคลั่ง ส่งเสียงคำรามกรีดร้องและพุ่งเข้าโจมตีคนอื่น
เริ่มต้นแล้ว!
พวกของเจียงเฮ่าผู้ซึ่งเคยประสบพบเจอกับฉากนี้ หัวใจของพวกเขาจมดิ่งลงในเวลาเดียวกัน
เมื่อกิเลสครอบงำ จิตใจเข้าสู่การเป็นมาร เป็นทั้งวิกฤติ และก็เป็นทั้งโอกาส
การเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้อวิ๋นเซียวขมวดคิ้ว
“อ๊ากกก! เจ้าบ้าไปแล้วหรือถึงได้ลงมือกับข้า!”
ในสำนักของป้อมปราการเฟยอวิ๋นก็เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นในอาณาเขตจื๋อจั้ง คนจำนวนไม่น้อยเกิดอาการคลุ้มคลั่งและลงมือสังหารคนข้างกาย เหตุนี้จึงทำให้การต่อสู้ระหว่างอวิ๋นเซียวและเจียงเฮ่าที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งต้องหยุดชะงักลง
ดวงตาของอวิ๋นเซียวสั่นไหว เขามองดูภาพความโกลาหล ลูกศิษย์ของป้อมปราการเฟยอวิ๋นก็เริ่มฆ่ากันเองและยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดที่จะลบล้างความปรารถนาของเขาที่จะฆ่าเจียงเฮ่าได้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจียงเฮ่าต้องถูกฆ่าตายเพราะเขาไม่ใช่แค่เป็นลูกศิษย์ของฮวงเสิน แต่ยังเป็นพี่ชายของเจียงหลีด้วย ตอนนี้มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาต้องฆ่าเจียงเฮ่า ซึ่งเขาไม่อนุญาตให้มีข้อยกเว้น!
ฆ่า!
ด้วยเจตนาฆ่า อวิ๋นเซียวจึงเพิกเฉยต่อการฆ่ากันเองในสำนักเดียวกัน และหันไปใช้กระบวนท่านกเผิงพิฆาตกับเจียงเฮ่า
แสงสีทองกะพริบมาเยือนเจียงเฮ่าทันที
ความรวดเร็วนั้นเร็วมากจนทำให้ใครก็ตอบโต้ไม่ทัน
ทันใดนั้นเอง ลำแสงสีขาวก็พุ่งชนด้านนอกอาณาเขตจื๋อจั้ง คลื่นอากาศที่น่าสยดสยองก่อให้เกิดลมมหึมาซึ่งทำลายอวิ๋นเซียวผู้ซึ่งโจมตีเจียงเฮ่าอีกครั้ง
กรอบแกรบๆ!
เสียงแตกหักดังขึ้น รอยร้าวเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนอาณาเขตจื๋อจั้งที่แข็งแรงทนทาน และก็พังทลายลงในทันที
แสงสีขาวส่องสว่างไปทั่วพื้นที่ทันที ทำให้สายตาของทุกคนพร่ามัว
หลังจากที่แสงสีขาวนั้นหายไป ก็ปรากฏร่างของคนผู้หนึ่งตรงหน้าพวกของเจียงเฮ่าทั้งสี่คน…