ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 186 ฉีกทึ้งพวกเขา!
หลังจากที่แสงขาวจ้าแสบตาสลายหายไป อาณาเขตจื๋อจั้งก็ได้หายไปพร้อมกันด้วย
ผู้ที่ถูกมารเข้าแทรกจิตใจก็ได้สติฟื้นกลับคืนมา และยังคงมีความกลัวที่ค้างคาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“ใครกันที่ช่วยพวกเราไว้”
คำถามนี้ผุดขึ้นในใจของทุกคนเกือบจะในเวลาเดียวกัน
ในเวลานี้ พวกเขาสังเกตเห็นว่ามีอีกคนหนึ่งเข้ามาในกลุ่ม
นางสวมใส่อาภรณ์คลุมยาวสีทองดูสูงศักดิ์มิมีใครเปรียบ นางยืนหันหลังให้กับทุกคน นางดูสวยสง่างาม และทำให้ผู้คนสงสัยว่าใบหน้าของนางจะน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิมหรือไม่
นางเป็นใคร
นี่เป็นคำถามที่สองที่เกิดขึ้นในใจของทุกคน
“อาหลี…” เจียงเฮ่ามองไปยังบุคคลที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างตื่นเต้น แม้จะเผชิญกับการโจมตีอันทรงพลังของอวิ๋นเซียว แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนสี และการแสดงออกของความปีติยิน นดีก็ปรากฏขึ้น
“เจียงหลี!”
“เจียงหลี!”
กงเสวี่ยฮวาและฉินเทียนอีตะโกนขึ้นพร้อมกันด้วยความดีใจ
นางไม่เป็นไรจริงๆ ด้วย เมื่อเห็นเจียงหลีปรากฏตัวตรงหน้า ไหวปี้ก็สบายใจ แต่ว่านางไม่ได้ตื่นเต้นตูมตามเหมือนอย่างกงเสวี่ยฮวาและฉินเทียนอีแบบนั้น นางเพียงแค่มองเจียงหลีอย่ างละเอียดด้วยสีหน้าทั้งยินดีและซับซ้อน
ช่วงเวลาหลายปี นางถูกขังอยู่ในดินแดนผนึกมาร นางดูผอมลงหรือไม่
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของทั้งสี่ ร่างกายของเจียงหลีถูกโอบล้อมด้วยความหนาวเย็น ดวงตาของนางเย็นชาอย่างยิ่ง เมื่อเห็นบาดแผลลึกเข้ากระดูกที่แขนของเจียงเฮ่า
“อาหลี พี่ไม่เป็นไร” เมื่อสังเกตเห็นความรู้สึกของน้องสาว เจียงเฮ่าจึงรีบเอ่ยปลอบ
“นี่ยังเรียกว่าไม่เป็นไรอีกหรือ” เจียงหลีเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธเคือง หากแผลนี้ลึกเข้าไปอีกนิด แขนทั้งสองข้างของเจียงเฮ่าคงพิการไปแล้ว
เมื่อถูกน้องสาวตำหนิ เจียงเฮ่าก็เผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
“อย่าขยับ ข้าจะรักษาให้พี่ใหญ่” เจียงหลีเอ่ยขึ้นกับเจียงเฮ่า
เจียงเฮ่ากำลังจะพูดบางอย่าง แต่กลับมีสีหน้าสั่นสะท้านเมื่อเห็นด้านหลังของเจียงหลี ความตื่นตัวในดวงตาของเขานั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกัน ฉินเทียนอีและกงเสวี่ยฮวาก็ปกป้อง งเจียงหลีข้างซ้ายและข้างขวา แม้ว่าไหวปี้จะไม่ขยับ แต่นางอยู่ในสถานะพร้อมสำหรับการต่อสู้
“นางเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้รับความสำคัญจากคนมากมายขนาดนี้”
“เจียงหลีหรือ เจียงเฮ่าหรือ พวกเขาสองคนเป็นพี่น้องกันหรือ”
“พวกเจ้ามองชุดคลุมของนางให้ละเอียดสิ…”
“ดูเหมือนว่านางคือ…”
“ชุดเกียรติยศจากตำหนักเย่าแห่งฮวงเสินอย่างไรเล่า!”
“หา!”
“…”
ขณะนี้ ทุกคนรับรู้ถึงสถานะของเจียงหลีกันหมดแล้ว ที่แท้นางเป็นลูกศิษย์ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งใหม่ของตำหนักเย่าแห่งฮวงเสิน ซึ่งลือกระฉ่อนไปถึงข้างนอก
เจียงหลีค่อยๆ หันกลับมาเผยโฉมหน้าที่แท้จริง ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย
ผิวเนื้อเย็นสีหยก สวยมีเสน่ห์ไร้ที่เปรียบ หน้าตาสวยงามยั่วยวน ตราตรึงใจ หากได้พลัดพรากเหมือนหัวใจได้หายไปด้วย
งามมาก!
จะมีสตรีที่สวยงามเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร
“นางช่างสวยสูงส่งมิอาจเอื้อม ดั่งเทพธิดาในหอฉยงเซียน ทั้งงดงามมีเสน่ห์ยั่วยวน ราวกับโฉมสะคราญแห่งวังเวิ่นฉิง”
“ข้าว่า ชื่อของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งซีฮวงกำลังจะเปลี่ยนไป”
“ถูกต้อง! เทพธิดาเหยาอวี๋แห่งหอฉยงเซียน เพราะศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง ทั้งสวยสง่างาม จึงถูกขนานนามว่าเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งซีฮวง แต่ เมื่อแม่นางคนนี้ปรากฏกาย ก็ไม่รู้ว่าเทพธิด ดาเหยาอวี๋ดูจืดจางลงไปกี่ส่วน”
“แม่นางผู้นี้ช่างสง่างาม!”
“…”
ผู้คนจากกลุ่มอำนาจอื่นต่างตกตะลึงกับรูปร่างหน้าตาของเจียงหลี เมื่ออวิ๋นเซียวหันกลับมาเห็นเจียงหลี ดวงตาของเขาก็หรี่ลงทันที
ในใจของเขาก็มีความคิดเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
จะมีสตรีที่สวยงามเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร!
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนความคิดของคนอื่นก็คือ ก่อนเขาจะมา เขาเคยเหยเจียงหลีผ่านภาพวาดมาแล้ว และตอนนั้นเมื่อเขาเห็นภาพวาดของนาง เขายังเคยเย้ยหยันช่างวาดภาพ เพราะคิดว่าเขาวาด ดเจียงหลีสวยเกินจริง วันนี้เขาได้เห็นเองกับตา เขาถึงได้รู้ว่าเจียงหลีในภาพวาดผืนนั้น ยังสวยไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนของตัวจริง
“เจียงหลี” อวิ๋นเซียวตะโกนเรียกชื่อของเจียงหลี
คนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นก็มารวมตัวอยู่ที่ข้างหลังของอวิ๋นเซียว
จะเริ่มต่อสู้กันอีกแล้วใช่หรือไม่
หัวใจของคนในกลุ่มอำนาจอื่นๆ กำลังเต้นโครมคราม
เจียงหลีเหลือบมองเสื้อผ้าบนร่างกายของพวกเขาและพูดด้วยท่าทางเย็นชา “คนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นนี่เอง”
อวิ๋นเซียวหรี่ตา กิริยาท่าทางของเจียงหลีทำให้เขาอยากพิชิตใจ สตรีเช่นนี้ เขามีความคิดลังเลที่จะฆ่านางให้ตายในทันที
“เหอะ” เสียงหัวเราะเยาะดังมาจากริมฝีปากของเจียงหลี “ทำไม ยังถูกข้าฆ่าไม่พออีกเหรอ ถึงได้ส่งคนมาให้ข้าฝึกฝีมืออีกตั้งหลายคน”
ซี๊ดดดด!
ผู้คนจากกลุ่มอำนาจอื่นได้สูดลมหายใจเข้า นางรู้หรือไม่ ว่าประโยคที่นางเอ่ยออกมามันหมายความถึงอะไร
ไม่เพียงแต่กลุ่มอำนาจอื่นๆ เท่านั้น แม้แต่พวกของเจียงเฮ่าก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีเช่นกัน
เรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนผนึกมารในปีนั้น หลายปีมานี้พวกเขาต่างก็ปิดปากเงียบสนิทเหมือนปิดฝาขวดแน่น เพราะไม่อยากนำพาความเดือดร้อนมาให้เจียงหลี
แต่ทว่า…
อวิ๋นเซียวมีสีหน้าดำดิ่ง แล้วเอ่ยเสียงขรึม “พูดเช่นนี้ หมายความว่าเจ้ายอมรับแล้วว่าเป็นคนฆ่าพวกของอวิ๋นซู่ทั้งห้าคน”
นัยน์ตาของเจียงหลีแฝงความประชดประชัน “พวกเจ้าคงเพิ่งมารู้เอาตอนนี้หรอกกระมัง”
สีหน้าของคนในป้อมปราการเฟยอวิ๋นเริ่มบูดบึ้งขึ้นมา
พวกเขาสงสัยเจียงหลีแต่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ครั้งนี้ก็เข้ามาอยากจะตามฆ่าเจียงหลี ก็มาพร้อมกับความคิดที่อาจฆ่าคนผิดตัว อีกทั้งเจียงหลียังเป็นศิษย์ตำหนักเย่าแห่งฮวงเสิน งา านปาฐกถาเจ้าครองนครกำลังใกล้เข้ามา การที่เขาฆ่านางก็ถือเป็นการจุดชนวนสงครามกับฮวงเสิน
ส่วนเจียงหลีก็มองออกว่าพวกป้อมปราการเฟยอวิ๋นมีความคิดที่จะสังหารนาง จึงขี้เกียจปิดบังเรื่องจริงที่นางเป็นคนฆ่าพวกอวิ๋นซู่
“ยอมรับแล้วก็ดี” แววตาอวิ๋นเซียวย้อมไปด้วยแสงเย็นวาบ
เจียงหลีกลับหัวเราะเยาะ “ก็แค่คนไร้ความสามารถตายระหว่างฝึกประสบการณ์เท่านั้น แต่ผ่านไปตั้งหลายปีแล้วยังคิดจะแก้แค้นอีกหรือ ก็ดี นี่ก็ทำให้ข้าได้เห็นน้ำใจของพวกป้อมปราการ เฟยอวิ๋นชัดเจนเช่นกัน”
แววตาของอวิ๋นเซียววูบไหวไปด้วยความอาฆาต
“เจ้าเป็นคนทำร้ายพี่ใหญ่ข้าหรือ” รอยยิ้มของเจียงหลีพลันหายไป ความงามไร้ที่เปรียบก็กลายเป็นเย็นชาทันที
อวิ๋นเซียวยกยิ้มมุมปาก ยิ้มโลกละลาย “ถูกต้อง”
“ยอมรับแล้วก็ดี” เจียงหลียิ้มล้อเลียน แล้วนำเอาประโยคที่อวิ๋นเซียวเพิ่งเอ่ยไปเมื่อครู่นี้ กลับมาพูดขึ้นอีกครั้ง มีบางอย่างแปลกๆ ในรอยยิ้มของนาง ซึ่งทำให้อวิ๋นเซียวรู้สึกตื นตัว และคนอื่นๆ ก็ถูกเจียงหลีทำให้มึนงงสับสน ไม่รู้ว่านางหมายความว่าอย่างไร หรือว่าเจียงเฮ่าที่อยู่ในระดับหลิงหวังเช่นกันนั้นจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา และเจียงหลีที่เป็นเ เพียงหลิงจงจะชนะเขาได้หรือ
สติฟั่นเฟือนหรือเปล่า!
ทุกคนหัวเราะเยาะให้กับการตอบโต้ของเจียงหลี
แต่ทว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ ทำให้พวกเขาหัวเราะไม่ออก...
“ฉีกทึ้งพวกเขา!” แววตาของเจียงหลีพลันเคร่งขรึม แล้วออกคำสั่งเสียงเย็นเยียบ
ฉีกทึ้งพวกเขาอย่างนั้นหรือ
พวกใคร
ใครเป็นคนฉีกทึ้ง
ในขณะที่ทุกคนกำลังมึนงงสงสัย จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดหมุนมาจากรอบทิศทาง
“ฮ่าๆๆๆ…ฉีกทึ้งพวกเขา ข้าชอบยิ่งนัก นานแล้วที่ข้าไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย”
“เรื่องที่แม่นางน้อยสั่ง พวกเราต้องทำให้สำเร็จ!”
“…”
ทันใดนั้น สายลมแห่งความชั่วร้าย พุ่งเข้าสู่ร่างของคนพวกนั้นจากป้อมปราการเฟยอวิ๋นอย่างรุนแรงโดยไม่ทันคาดคิด
อ๊ากกก!
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ทุกคนเห็นเพียงพวกของป้อมปราการเฟยอวิ๋นแปดคน ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ใบหน้าสยดสยอง พวกเขาก็เริ่มฉีกทึ้งกันด้วยวิธีดั้งเดิมที่หยาบคายที่สุด