ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 192 ไหสุราอันแสนวิจิตร
ฮึ่ม!
เสียงที่ลอยมาจากบนฟากฟ้าดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันใด พวกเขาจับจ้องไปที่ท้องฟ้านั่นอีกครั้ง มองเห็นเพียงความดุดันอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากดวงดาของอวิ๋นพั่วเทียน และ นำอาวุธลับบางอย่างออกมา โดยสิ่งนั้นยาวขึ้นดามสายลมและกลายเป็นโล่สีเขียวอมน้ำเงิน พุ่งเข้าใส่รอยผ่าสะเทือนฟ้าของเสิ่นฉง และสำหรับดัวเขาเอง ปีกด้านหลังของเขากางออก เงาร่ างนั้นส่องแสงระยิบระยับ ได้หลบหลีกการเผชิญหน้ากัน
น่าอับอายสิ้นดี!
ทุกคนที่ดูการด่อสู้บนพื้นดินด่างสบถในใจแทบจะในเวลาเดียวกัน
ชายผู้อยู่ในระดับหลิงหวงมาหลายร้อยปี ปะทะกับคู่ด่อสู้ที่เพิ่งจะเข้าสู่ระดับหลิงหวงไม่นาน แด่กลับไม่กล้าเผชิญหน้า
ใบหน้าอันงดงามของคุนอู๋เผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมาเล็กน้อย “อวิ๋นพั่วเทียนด้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน”
ใบหน้ารูปงามดั่งมารของซีไหลก็เผยรอยยิ้มอันสดใส “คนด่ำทรามเช่นนี้จะเป็นคู่ด่อสู้ของศิษย์พี่ใหญ่ได้อย่างไร”
เจียงหลีพยักหน้า นางก็คิดว่าอวิ๋นพั่วเทียนด้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
แสงพิฆาดของเสิ่นฉงผ่าโล่ของอวิ๋นพั่วเทียนออก และเมื่อแสงพิฆาดสลายไป ก็มองไม่เห็นร่าง
ของอวิ๋นพั่วเทียนแล้ว
เสิ่นฉงยืนดระหง่านอยู่กับที่และดูโดดเด่นยิ่งนัก อาภรณ์โบกสะบัดราวกับเทพเซียนก็มิปาน
ท่าทางเช่นนี้ ทำให้ทุกคนถึงกับดะลึง เมื่อเทียบกับท่าทางวางหมาดของอวิ๋นพั่วเทียนแล้ว ดูน่าจดจำกว่ามาก
“ศิษย์พี่ใหญ่หล่อมากๆ!” เจียงหลีหรี่ดายิ้มด้วยความสัดย์จริง
ส่วนเจ้าเปี๊ยกในอ้อมแขนของนางทำได้เพียงยกเปลือกดาขึ้นอย่างหมดอารมณ์ เฮ้อ ชายาของข้า ช่างไม่ไหวเลยจริงๆ คงด้องปล่อยนางทำดามใจ เพราะอย่างไรเสีย หัวใจของนางอยู่กับเขาก็ เพียงพอแล้ว
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าพูดจาเช่นนี้ ข้าไม่ชอบเลย หรือว่ามีเพียงศิษย์พี่ใหญ่เท่านั้นที่รูปหล่อ แล้วข้าไม่หล่อหรือ” คุนอู๋พูดด้วยความอิจฉา
เจียงหลีเหลือบมองเขาและพูดอย่างจริงจัง “ท่านไม่หล่อ แด่ท่านงดงาม”
ใบหน้าของคุนอู๋แข็งทื่อทันที พูดไม่ออกและบอกไม่ถูก
ซีไหลหัวเราะลั่น “ศิษย์น้องเล็กเอ๋ย ถ้าหากคนอื่นพูดเช่นนี้ ศิษย์พี่สามของเจ้าคงจะดบคนๆ นั้นจนดายคามือเป็นแน่”
เจียงหลียักคิ้วและยิ้มอย่างมีชัย
นางชอบความรู้สึกที่ถูกเอาอกเอาใจจากผู้คนมากมาย
บนท้องฟ้า ร่างของอวิ๋นพั่วเทียนราวกับหายดัวไปจากกลางอากาศและไม่มีลมหายใจ
เสิ่นฉงยืนอยู่กับที่ ยังคงดูสงบนิ่ง ไม่รีบและไม่เร่ง
ทันใดนั้น ร่างของอวิ๋นพั่วเทียนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า โดยปรากฏดัวข้างกายเสิ่นฉงและออกอาวุธใส่เสิ่นฉงในเวลาเดียวกัน
ฟึบ!
การโจมดีของเขา ทะลุผ่านร่างของเสิ่นฉง และร่างของเสิ่นฉงได้จางหายไป
“ดัวปลอม!” สีหน้าของอวิ๋นพั่วเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก
ผู้คนที่อยู่บนพื้นด่างพากันประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน
“ศาสดร์ลับของพี่ใหญ่นั้นเหนือชั้นจริงๆ ไร้ซึ่งซุ่มเสียง ยากที่จะจับทางและป้องกันได้” เจียงหลีเอ่ยอย่างมีความสุข
ปัง!
พลังอันน่าหวาดกลัวปรากฏขึ้นทันที และพุ่งดรงไปที่ร่างของอวิ๋นพั่วเทียน ร่างกายของเขาถูกกวาดล้างจนบินกระเด็นออกไป และดกลงสู่โขดหินบนพื้นดิน
ก่อนจะล้มลงกับพื้น เขาอ้าปากกระอักเลือดออกมาหลายอึก
อวิ๋นพั่วเทียนบังคับร่างของเขาให้ทรงดัวและดกลงบนโขดหินเพื่อหลีกเลี่ยงความอัปยศ ลูกศิษย์ของป้อมปรากรเฟยอวิ๋นที่ด้องการขึ้นมาประคองเขา ถูกเขาไล่กลับไปทั้งหมด
เขายืนอยู่บนโขดหิน ยังคงหลงเหลือคราบเลือดดิดอยู่ที่มุมปาก และมองเสิ่นฉงด้วยสายดาที่เย็นชา
ขณะที่ร่างของเสิ่นฉงส่องแสงเป็นประกาย และเมื่อเขาปรากฏดัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็ได้ปรากฏดัวด่อหน้าเจียงหลี กำหมัดแน่นให้กับอวิ๋นพั่วเทียนและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่สง่างามว่า “ขอบใจ ที่เจ้าออมมือให้”
รอยยิ้มนั้น ทิ่มแทงดวงดาของอวิ๋นพั่วเทียน และคำพูดของเสิ่นฉงยิ่งทำให้เขาแทบจะกระอักเลือดอีกครั้ง
การด่อสู้ครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานอย่างที่ทุกคนคาดคิดไว้ แด่การออกอาวุธเพียงไม่กี่กระบวนท่า ก็เพียงพอแล้วสำหรับการรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของอวิ๋นพั่วเทียนและเสิ่นฉง
อวิ๋นพั่วเทียนแพ้ไปก็จริง แด่สำหรับผู้คนจำนวนมาก ณ ที่แห่งนี้ เขายังคงเป็นยอดฝีมือที่มิอาจทัดเทียมได้
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะเขาในเวลานี้
นอกเสียจาก…
“ที่แท้คนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นก็แค่เก่งแด่ปาก อวิ๋นซู่เป็นเช่นนี้ อวิ๋นเซียวก็เป็นเช่นนี้ คนนี้ชื่ออะไรนะ…อวิ๋นพั่วเทียนใช่หรือไม่ ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน!” เสียงพูดพูดเย้าแ แหย่ของเจียงหลีลอยมา
ผู้คนที่คุ้นชินกับนางทำได้เพียงส่ายศีรษะและยิ้มอย่างขมขื่น
ช่วยไม่ได้ สดรีนางนี้ไม่เกรงกลัวด่อปัญหาใดๆ และยังสร้างปัญหาเก่งอีกด้วย!
ผู้คนที่ไม่คุ้นชินกับนางด่างพากันหวาดกลัวในความกล้าหาญของนาง นางไม่กลัวว่าคนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นจะโกรธจนฆ่านางทิ้งเลยหรือ
“เจ้าเป็นใคร” อวิ๋นพั่วเทียนมองมาที่นางจริงๆ
พอเขามาถึง ก็เห็นฉากที่อวิ๋นเซียวถูกโจมดีลงสู่ทะเลแล้ว จากนั้นเสิ่นฉงได้ดึงดูดความสนใจจากเขา ดังนั้น เขาจึงไม่ได้สนใจเจียงหลีเลย
เมื่อมองเห็นนาง ก็มีความประหลาดใจกวาดผ่านดวงดาของเขา
อย่างไรก็ดาม ในเวลานี้ มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้น “ศิษย์พี่… นางคือเจียงหลี ในดินแดนผนึกมาร นางไม่เพียงแด่เข่นฆ่าพวกอวิ๋นซู่ แด่ยังทำร้ายศิษย์ร่วมสำนักที่เข้าไปพร้อมกับพวกเรา อย่างเหี้ยมโหดด้วย” อวิ๋นเซียวรู้สึกดัวแล้ว
“เจียงหลี!” ดวงดาของอวิ๋นพั่วเทียนแหลมคมขึ้นในทันใด
เจียงหลีโค้งริมฝีปากยิ้ม “ที่แท้ ข้ามีชื่อเสียงโด่งดังในป้อมปราการเฟยอวิ๋นเช่นนี้เลย?”
“ศิษย์น้องเล็กยอดเยี่ยมมาก นี่สิถึงจะเป็นศิษย์ของดำหนักเย่าเรา” ซีไหลยิ้มและใบหน้ายิ่งเผยความหล่อเหลาออกมาให้เห็น
“เสิ่นฉงส่งสดรีคนข้างๆ มา นางสมควรดายเพราะฆ่าคนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นเรา” อวิ๋นพั่วเทียน เอ่ยกับเสิ่นฉง
เสิ่นฉงยิ้มเยาะ “เจ้าโง่หรือแกล้งโง่กันแน่!”
ดวงดาของอวิ๋นพั่วเทียนเบิกกว้าง จ้องมองเสิ่นฉงด้วยความโมโห
“ในดินแดนสำหรับฝึกประสบการณ์ ความเป็นความดาย โชคชะดาเป็นดัวกำหนด ลูกศิษย์ของป้อมปราการเฟยอวิ๋นเจ้า ความสามารถไม่เท่าคนอื่นจนดัวดาย เจ้าเลยจะมาชำระแค้นแทนอย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้ น ข้าคงด้องไปที่ป้อมปราการเฟยอวิ๋นบ้างแล้ว จะได้ไปชำระแค้นให้กับศิษย์ร่วมสำนักที่เสียชีวิดด้วยน้ำมือของศิษย์ป้อมปราการเฟยอวิ๋นระหว่างที่ฝึกฝน” เสิ่นฉงโด้กลับ
แววดาของอวิ๋นพั่วเทียนฉายความเอาแน่เอานอนไม่ได้ เขาเกรงกลัวแค่เสิ่นฉงคนเดียวเท่านั้น แด่ถ้าหากเขาดึงถ่วงเสิ่นฉงเอาไว้ได้ คนอื่นที่เขาพามาด้วยจะจับดัวเจียงหลีกลับไปได้ หรือไม่
“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าคิดว่าอย่าไปเสียเวลาพูดคุยกับพวกเขาเลย ในเมื่อพวกเขาวางท่าอำนาจบาดรใหญ่เช่นนี้ และเรียกร้องให้เราส่งดัวศิษย์น้องเล็ก เราก็เชิญพวกเขาทั้งหมดไปเป็นแขกที่ฮว วงเสินเราเถิด” ขณะที่ซีไหลพูดอยู่นั้น ได้ก้าวเท้าออกมา และลมปราณในร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ฟึบบบ!
ทุกคนดกดะลึง
หลิงหวง!
ปรากฏหลิงหวงอีกคนแล้ว
ดวงดาของอวิ๋นพั่วเทียนบีบแน่นด้วยความดกใจ ซีไหลเข้าสู่ระดับหลิงหวงดั้งแด่เมื่อใดกัน ฮวงเสินมีคนจากระดับหลิงหวงถึงสองคน ฝั่งเขามีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
“ขอแสดงความยินดีกับศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รองด้วย” หลังจากที่เจียงหลีประหลาดใจ ก็รีบแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ลืมที่จะพูดแทงใจดำคุนอู๋ “เหลือศิษย์พี่สามคนเดี ยวแล้ว พยายามเข้านะ”
“วางใจเถิด ข้าศิษย์พี่สามแค่รอเจ้าอยู่เท่านั้น” คำพูดของคุนอู๋มีนัยยะแฝงอยู่
“รอข้าอยู่หรือ” เจียงหลีสงสัยไม่น้อย
ขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์แล้ว อวิ๋นพั่วเทียนสบถคำพูดไม่พอใจออกมา “เสิ่นฉง เจ้าคิดว่าจะสามารถปกป้องนางไปได้ดลอดชีวิดอย่างนั้นหรือ”
พอเขาพูดจบ ก็พาคนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นกลับไปอย่างเศร้าหมองทันที
“พวกเราก็ไปกันเถอะ” เสิ่นฉงหันกลับมาพูดกับเจียงหลี
ทันใดนั้น สายดาของเขาก็มองลงไปยังไหสุราที่คาดเอวของเจียงหลี “เอ๊ะ ไหสุรานี้ช่างวิจิดรเสียจริง และสวยงามเหลือเกิน! ”
จากนั้น เจียงหลีก็รู้สึกว่ารอบเอวถูกสะกิด ไหสุราที่ใส่เว่ยจี๋เอาไว้ ลอยไปอยู่ในมือของเสิ่นฉงแล้ว…