ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 193 นี่คือสุราที่เขาหมักเองหรือ
เจียงหลีมิสามารถคว้ามันเอาไว้ได้ทัน ก็มองเห็นไหสุราลอยไปถึงมือของเสิ่นฉงแล้ว
นางอ้าปากแล้วปิดปากเงียบ
“วิเศษ! วิเศษ! วิเศษ! วิเศษมาก! ไหสุรานี้ถูกวาดได้อย่างประณีตวิจิตรยิ่งนัก” เสิ่นฉงถือไหสุราไว้ในมือ มองอย่างละเอียด และร้องอุทานโดยมิอาจควบคุมตัวเองได้
“ศิษย์น้องเล็ก ไหสุรานี้เจ้าได้มาจากไหนหรือ” เสิ่นฉงถามเจียงหลีอย่างสงสัย
เจียงหลีมองเห็นความปรารถนาในดวงตาของเขา เพียงแต่…หากเป็นเพียงไหสุราธรรมดา นางคงมอบให้เสิ่นฉงไปแล้ว แต่ปัญหาคือมีวิญญาณร้ายเว่ยจี๋อยู่ในไหสุราใบนี้น่ะสิ!
“ข้าก็ได้มาโดยบังเอิญ เห็นว่ามันสวยดี จึงเก็บไว้ข้างกาย” เจียงหลีอธิบายด้วยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” เสิ่นฉงพยักหน้า
เขาดูมันอีกครั้งเพราะชอบมากจนไม่อยากส่งคืน แต่ก็ส่งให้กับเจียงหลีอย่างไม่เต็มใจ “ปัญญาชนจักไม่แย่งชิงสิ่งที่เป็นที่รักของคนอื่น แต่ทว่า ศิษย์น้องเล็กต้องรักษามันไว้ให้ดี”
เจียงหลีรีบรับไหสุราและพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
เสิ่นฉงพูดกับทุกคนว่า “ไปกันเถอะ”
เจียงหลีมองไปที่ฉินเทียนอีและกงเสวี่ยฮวา รวมถึงไหวปี้
ไหวปี้ยิ้ม “ข้าแอบหนีออกมา ต้องรีบกลับไป สองปีมานี้ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของสำนักหลีหุนจงและของข้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“ข้าก็ต้องกลับไปที่วังเทียนอู่กงก่อน” กงเสวี่ยฮวาพูดขึ้นเช่นกัน
ฉินเทียนอีจ้องมองไปที่เจียงหลีและยิ้มอย่างโล่งใจ “เจ้าปลอดภัย ข้าก็สบายใจ ห่างหายจากสำนักตัวเองหลายปี คงต้องกลับไปก่อน มิเช่นนั้น พวกเขาคงคิดว่าข้าตายอยู่ข้างนอกแล้ว”
เจียงหลียิ้มเล็กน้อยและพูดกับทั้งสามคน “ทุกคนดูแลตัวเองด้วย แล้วพบกันใหม่”
จากนั้น นางมองไปที่คุนอู๋อีกครั้ง
ซึ่งความหมายนั้นชัดเจนมาก คุนอู๋หัวเราะลั่น และหยิบกระสวยเวลาออกมาสามลำอย่างใจกว้าง แล้วมอบให้กับพวกเขาทั้งสาม ด้วยวิธีนี้ ทั้งสามจึงกลับไปยังสำนักของตนได้เร็วที่สุด และไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดข้อผิดพลาดระหว่างทางหรือไม่
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เจียงหลีถึงจะกลับฮวงเสินพร้อมกับศิษย์ของฮวงเสินทุกคน
จากกันเสียนาน เมื่อนางกลับถึงตำหนักของตนในตำหนักเย่า ที่ฮวงเสิน กลับมีความรู้สึกเหมือนเมื่อวาน
“ศิษย์น้องเล็กพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยเข้าพบซือจุน” เสิ่นฉงยิ้มให้เจียงหลี
ซีไหลก็กล่าวว่า “อืม พักผ่อนให้เต็มที่ก่อน แล้วเราค่อยมาทดสอบการฝึกฝนของเจ้า ดูว่าหลายปีมานี้เจ้าละทิ้งการฝึกฝนไปหรือไม่”
“ได้!” เจียงหลีตอบรับทันที
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางอยู่ในหมวดหมู่ที่กึ่งศึกษาด้วยตัวเอง มีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับศาสตร์ลับและทักษะการต่อสู้มากมาย อยากจะแลกเปลี่ยนกับศิษย์พี่ทั้งสามคน
“ศิษย์พี่ใหญ่ โปรดรอสักครู่”
เมื่อทั้งสามกำลังจะเดินจากไป เจียงหลีเรียกเสิ่นฉงไว้ทันที
เสิ่นฉงหันหลังกลับมา ขณะที่คุนอู๋และซีไหลกลับไปก่อน
“มีอะไรหรือ” รอยยิ้มของเสิ่นฉงนั้นนุ่มนวลและสง่างามเหมือนเช่นเคย และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพราะ ‘ความไม่รู้กาลเทศะ’ ของเจียงหลีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม เจียงหลียังคงรู้สึกผิดไม่น้อย
นิสัยของนางเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร หากใครร้ายมา นางยิ่งร้ายกลับ แต่หากใครดีกับนาง นางก็ยิ่งดีตอบ ไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบ แต่จะปล่อยให้คนอื่นเป็นทุกข์แทน
เสิ่นฉงดีกับนางเสมอมา นางไม่ยอมให้ไหสุราเพียงใบเดียว ทำให้ศิษย์พี่ต้องเสียใจ
“ศิษย์พี่ใหญ่ รอข้าสักครู่” เจียงหลียิ้มเอ่ย
เสิ่นฉงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับคำ
เจียงหลีอุ้มเจ้าเปี๊ยกเดินไปที่ตำหนักด้านในพร้อมกับไหสุรา และเข้าไปในห้องนอนของตน จากนั้น เจียงหลีวางเจ้าเปี๊ยกไว้บนเตียง แล้วจึงเขย่าไหสุราและพูดว่า “ออกมา”
ควันสีเขียวจางๆ ลอยออกมาจากปากขวด แล้วตกลงบนพื้น ค่อยๆ ก่อตัวเป็นร่างขี้เกียจที่สูงและสง่างาม
“ถึงแล้วหรือ” เว่ยจี๋เหยียดตัวอย่างเกียจคร้าน ใบหน้าอันขาวนวลและงดงาม ชวนมองยิ่งนัก
โดยเฉพาะเสื้อทรงหลวม ทำให้ความขาวโพลนดุจหิมะนั้น มองเห็นไม่ค่อยชัดเจน
แม้ว่าเจียงหลีจะใช้ชีวิตร่วมกับเขามาหลายปี แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกับความงดงามของเขาได้ แน่นอนว่านางชื่นชมเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ โธ่เอ๊ย!
เก็บความรู้สึกและนิ่งเข้าไว้ เจียงหลีเตือนตัวเองในใจ
นางไม่ลืมว่ามีสัตว์เดรัจฉานจ้องมองอยู่!
แน่นอนว่าเดรัจฉานบางตัวขี้เกียจยุ่งแล้ว ชายาของตนชอบมองสิ่งสวยงาม แต่จะให้ควักลูกตาของชายาตนออกมาก็ไม่ได้
หัวใจนางเป็นของข้า เดรัจฉานตัวน้อยหลับตาและหลับใหล ปลอบใจตัวเองในใจ
“อ่ะแฮ่มๆ” เจียงหลีกระแอมไอเสียงเบา กล่าวโทษด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เว่ยจี๋ สนใจภาพลักษณ์ของเจ้าหน่อย”
“กลัวอะไร ที่นี่ไม่มีใครเห็นข้านอกจากเจ้าสักหน่อย” เว่ยจี๋ไม่สนใจ นั่งมือเท้าคางบนเก้าอี้ทันที เผยให้เห็นแขนสีขาวผ่องที่กำลังเล่นถ้วยเปล่าบนโต๊ะอยู่
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ” เจียงหลีถามด้วยความประหลาดใจ
เว่ยจี๋หัวเราะเบาๆ “จะทำตัวกระต่ายตื่นตูมไปทำไม ข้าเป็นแค่เศษเสี้ยวของกิเลส เมื่อออกจากดินแดนผนึกมาร ใครก็มองไม่เห็นข้า แต่สำหรับเจ้า เพราะเจ้าพาข้าออกมา ฉะนั้นจึงสามารถมองเห็นข้าได้”
“นี่…” เจียงหลีคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้
แต่ทว่า นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก เจียงหลีเดินเข้ามาหาเขา “ข้าถามเจ้าหน่อย มีไหสุราแบบนี้อีกไหม”
“ไม่มี ใบนี้ข้าทำด้วยตัวเอง เดิมทีข้าตั้งใจจะใส่สุราที่หมักเอง แต่เจ้าก็รู้ว่าข้าหมักสุราไม่เป็น ฉะนั้น ไหสุราใบนี้จึงว่างเปล่ามาโดยตลอด” เว่ยจี๋อธิบาย
ความผิดหวังกวาดผ่านดวงตาของเจียงหลี
หลังจากครุ่นคิด นางถามขึ้นอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น…เจ้าอยู่ที่อื่นได้หรือไม่”
“ไม่ได้” คำตอบของเว่ยจี๋ยังคงยืนกราน
เจียงหลีขมวดคิ้ว
เว่ยจี๋เอ่ย “กิเลสสามารถเป็นกาฝากได้เฉพาะกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกิเลสเท่านั้น และต้องเป็นของๆ ตัวเองเท่านั้นด้วย”
“…” เจียงหลีนิ่งเงียบ
เดรัจฉานตัวหนึ่งนั่งฟังบทสนทนาอยู่บนเตียง รอยยิ้มที่ดูแคลนปรากฏขึ้นตรงมุมปากของเขา เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น กลับทำให้หลีเอ๋อร์ของเขาต้องลำบากใจเช่นนี้ได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถอะ ปล่อยให้หลีเอ๋อร์คิดหาทางออกเอง ถือว่าเป็นการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ สำหรับความหลงใหลเผลอไผลในความงามของนางก็แล้วกัน
“นี่เจ้าถามเช่นนี้ คิดจะทำอะไรหรือ” เว่ยจี๋ยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกผิดปกติ
เจียงหลียิ้มถามอย่างมีเลศนัย “ถ้า…ข้าแค่สมมตินะ ถ้าข้ามอบไหสุราของเจ้าให้กับคนอื่น ข้ายังจะเรียกหาเจ้าได้ตลอดเวลาหรือไม่”
“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ” เว่ยจี๋ยิ้มเยาะ
มอบเขาให้กับคนอื่นหรือ ไม่สิ มอบไหสุราของเขาให้กับคนอื่นหรือ เขาอยากจะบีบคอสตรีนางนี้ให้ตายเสียจริงเชียว!
“ดูเหมือนจะ…ไม่ได้นะ” เจียงหลียิ้มอย่างเลศนัย
ใบหน้าของเว่ยจี๋ตึงเครียด “ในเมื่อเจ้าพาข้าออกมา เจ้าก็ต้องรับผิดชอบข้า ยังจะมามอบไหสุราของข้าให้กับคนอื่นอีก!”
“อย่าโกรธกันเลย ไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย” เจียงหลีรู้ตัวว่าเสียเปรียบ จึงทำได้เพียงกัดฟันอธิบาย
เว่ยจี๋ยิ้มเยาะ “ไม่ใช่คนอื่นหรือ แล้วเป็นใคร”
“ศิษย์พี่ใหญ่ของข้า!” เจียงหลีพูดตามความสัตย์จริง “ข้าก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะชอบไหสุราของเจ้าตั้งแต่แรกเห็น! เขาดีกับข้ามาก ไม่เพียงแต่สอนศาสตร์ลับให้กับข้า แต่ยังคอยปกป้องและช่วยเหลือข้า ซึ่งแม้แต่สุราอวี้ลู่เนี่ยงหรือสุราหยกน้ำค้างนั่นก็เป็นเขาที่มอบให้ข้า ข้ามิอาจทำให้เขาเสียใจเพียงเพราะไหสุราใบเดียวหรอกนะ…”
“ช้าก่อน!” เดิมทีเว่ยจี๋อยากจะเยาะเย้ย แต่จู่ๆ กลับเปลี่ยนคำพูด
“หา!” เจียงหลีมองเขาด้วยความมึนงง