ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 200 สังหารไอ้สารเลวสองคนนั้น
“กลัวอะไรเล่า! แย่งสิ!” คุนอู๋เอ่ยอย่างฮึกเหิม
เจียงหลีเบิกตากว้าง มองเขาอย่างชื่นชม “ศิษย์พี่สาม ข้าชอบความกล้าหาญของท่านเสียจริง!
คุนอู๋ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย สีหน้าพอใจยิ่งนัก
“ปัญหาคือจะแย่งมาอย่างไร” เจียงหลียิ้มหรี่ตามองเขา
เวลานั้น สถานที่ห่างไกล ข้างล่าง เห็นชัดเจนว่าเป็นคนที่มีพลังขั้นเดียวกัน กำลังห้อมล้อมเทียน
หยาอยู่ อีกทั้งยังใกล้จะสำเร็จแล้ว
เทียนหยา! เทียนหยา!
สายตาของเจียงหลี มองจ้องเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนั้นที่ไม่ยอมแพ้ ในใจตื่นเต้นขึ้นมา
หน้ามังกร ร่างเสือดาว หางมังกร สี่กรงเล็บดั่งกรงเล็บเหยี่ยว ส่วนหลังยังมีเกล็ดย้อนเป็นแถว สง่าผ่าเผย ดุร้ายไร้ความปรานี เทียนหยาอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย แต่กลับให้ความสำคัญกับมิตร รภาพมาก แบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจน ความแค้นเพียงเล็กน้อยก็ต้องชำระ
อุปนิสัยเช่นนี้ คล้ายกับเจียงหลีอยู่มาก
ที่สำคัญคือ เทียนหยาเป็นสัตว์ที่ดุร้ายที่จัดอยู่ในลำดับที่หนึ่ง ระดับความดุร้ายสามารถสังเกตได้
“สามสิบคนห้อมล้อมเทียนหยา หลิงหวงห้าคน หลิงหวังสิบคน ที่เหลือนั้นล้วนเป็นหลิงจงขั้นสูง กลุ่มที่อำมหิตเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าหลิงหวงจะถูกเทียนหยาสังหารไปได้สองคน หล ลิงหวังห้าคน หลิงจงสิบคน เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนกระเจิดกระเจิงอยู่นี้ ยังคงไม่สามารถปราบเทียนหยาได้ พลังการต่อสู้ของเทียนหยา ทำให้คนไชโยโห่ร้องได้”
คุนอู๋ร้อง เห้ยๆ สองที เอ่ยอย่างตกใจ
กำลังถูกการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้ดึงดูด พวกเขาเพิ่งจะหนีออกมา มองเห็นคนพวกนี้ต้องการจะกำราบเทียนหยา พวกเขาก็เห็นกับตาว่าเทียนหยาสังหารคนพวกนั้นอย่างไร
แน่นอนว่า คนที่ถูกสังหารพวกนั้น ไม่ได้ตายจริงๆ แต่ทว่า สำหรับร่างกายที่แท้จริงภายนอกพวกเขานั้น กลับได้รับบาดเจ็บหนัก ยิ่งไปกว่านั้นบาดแผลหนักบางแผลไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิ มได้
ดังนั้น เพื่อไล่ล่าเทียนหยา พลังขั้นนี้สามารถขนามนามว่ามิอาจประเมินค่าได้
“เป็นกลุ่มอำนาจระดับไหนหรือ ถึงสามารถคิดการใหญ่เช่นนั้น” เจียงหลีถามอย่างสงสัย
คุนอู๋มองอย่างพินิจ ตอบอย่างมั่นใจ “คงจะไม่ใช่กลุ่มอำนาจจากซีฮวงหรอก”
ไม่ใช่ซีฮวงหรือ
เจียงหลีตกตะลึง คุนอู๋ปฏิเสธว่าไม่ใช่ซีฮวง แต่ที่แน่ๆ ต้องไม่ใช่จากหนานฮวง หรือว่า… “เป็นกลุ่มอำนาจจากตงฮวงหรือ” คุนอู๋พยักหน้าเบาๆ
“ตงฮวง ดินแดนทางตะวันออกแข็งแกร่งกว่าซีฮวงดินแดนทางตะวันตกจริงหรือ” เจียงหลีเก็บความประหลาดใจไว้ไม่อยู่จึงเอ่ยถาม
ผลสุดท้าย หลิงหวงและหลิงหวังของกลุ่มอำนาจที่ลงมือนี้ เกือบทั้งหมดเทียบได้กับครึ่งหนึ่งของกลุ่มอำนาจซีฮวงขั้นหนึ่ง สามารถวางแผนการใหญ่ได้เช่นนี้ ก็หมายความว่า พลังพวกนี เทียบอะไรกับพลังอำนาจนั้นไม่ได้เลย
ฟืด!
เจียงหลีสูดอากาศเย็นเข้าไป รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
“จะพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก” คุนอู๋ตอบกลับ
หืม
เจียงหลีมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
คุนอู๋ยิ้มร้าย มองลงไปยังคนข้างล่างกดน้ำเสียงต่ำเอ่ย “ใช้โอกาสที่พวกเขาใช้วรยุทธ์กับเทียนหยา ข้าก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตงฮวงให้ฟัง”
เจียงหลีเบนสายตาในใจก็รู้แล้วว่าคุนอู๋มีความคิดเอาแต่จ้องจะแก้แค้นโดยมิใส่ใจว่าตนเองก็จะถูกผู้อื่นแก้แค้นคืนเช่นกัน
เจียงหลีพยักหน้าพลางยกยิ้มขึ้น
“พูดถึงพลังทั้งหมดแล้ว ซีฮวงกับตงฮวงไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ระบบของตงฮวงกับซีฮวงนั้นไม่เหมือนกัน ตงฮวงล้วนเป็นการปกครองแบบตระกูล ตระกูลใหญ่ปกครองตระกูลเล็ก อีกทั้ง อาณาเขตของตงฮวงไม่กว้างใหญ่มากเท่าซีฮวง ดังนั้น พวกเขาตอนนี้ยืนอยู่ที่ตระกูลที่ปกครองระดับสูง มีเพียงสี่ตระกูล แต่ทว่า ถึงแม้จำนวนจะน้อย กลับมิอาจดูถูกพลังได้ พวกเขาสี่ตระก กูล สุ่มเลือกมาตระกูลหนึ่ง ล้วนสามารถข่มกลุ่มอำนาจระดับสูงแห่งซีฮวงได้” คุนอู๋เอ่ย
“ชาติตระกูล สายเลือดสืบทอดมาหรือ” เจียงหลีถามขึ้นมา
“อืม” คุนอู๋พยักหน้าเล็กน้อย “มีตำนานกล่าวว่า ตระกูลแห่งตงฮวง ล้วนมีสายเลือดเทพเจ้าทั้งหมด พวกเขาจะมีพลังในสายเลือด ฝึกฝนวิชาสวรรค์แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป”
“สายเลือดแห่งเทพ พลังในสายเลือด! ” เจียงหลีเบิกตาโพลงขึ้นทันที
คำพูดของคุนอู๋ ทำให้นางนึกหลายสิ่งหลายอย่างขึ้นมา อาทิ พลังในสายเลือดของตระกูลลู่ สิ่งนั้นสามารถใช้ยามคับขันได้ ยกระดับการต่อสู้กับอาณาเขต แล้วในภายหลังยังสามารถฝึกฝนสายเ เลือดที่ดุร้ายลดลง อาทิ กลุ่มเทพประทานนั่นที่เกี่ยวกับกับมารดาของนาง อาจเป็นพี่น้องของพวกเขาก็ได้
“ใช่ ดังนั้นภายนอกตระกูลที่มาจากตงฮวงให้ความสำคัญกับสายเลือดมาก น้อยมากที่พวกเขาจะแต่งงานกับคนภายนอก ก็คือเพื่อที่จะปกป้องสายเลือดบริสุทธิ์ แน่นอนว่า ก็มีเหตุสุดวิสัย มีบางต ตระกูลที่สายเลือดแข็งแกร่ง ก็จะอยากใช้วิธีรวมความแข็งแรงด้วยกัน บางทีสามารถให้กำเนิดทายาทรุ่นที่แข็งแกร่งกว่าอีกรุ่นมาได้ แต่ทว่า พวกเขาจะไม่แต่งงานกับคนที่สายเลือดเดียวกัน ถ ถึงแม้คนๆ นั้นจะแข็งแกร่งกว่า เพราะว่าการแต่งงานเช่นนี้ อาจจะสืบทอดสายเลือดของพวกเขาได้ แต่ก็สามารถทำให้สายเลือดพวกเขาสาบสูญได้เช่นกัน ความเสี่ยงนี้ ผู้นำในตระกูลตงฮวงแต่ละ รุ่น จะไม่มีทางเสี่ยงเป็นแน่” คุนอู๋เอ่ยอย่างจริงจัง
เจียงหลีถามขึ้นมาทันที “ข้าได้ยินมาว่า ที่ซีฮวงมีตระกูลเทพประทาน”
“ถูกต้อง เห็นว่า ตระกูลเทพประทานรุ่นที่หนึ่ง มาจากตงฮวง เพียงแต่ เวลาผ่านมานาน ไม่มีคนไปทดสอบแล้ว แต่ทว่าคนที่อยู่ในตระกูลเทพประทาน มีคุณสมบัติที่พิเศษจริงๆ พวกเขาก็ไม่แต่ งงานกับตระกูลอื่น ในตงฮวงล้วนเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเงียบแต่ลึกลับ น้อยมากที่จะติดต่อกับโลกภายนอก” คำพูดของคุนอู๋ ก็ยืนยันการคาดเดาของเจียงหลีน่าเชื่อถือไม่มากก็น้อย
อีกอย่าง ต้องหาเวลา สำรวจสถานการณ์ของตระกูลเทพประทานสักหน่อย ก็ไม่รู้ว่าทางด้านพี่ใหญ่นั้น สำรวจอะไรมาได้บ้างหรือไม่ เจียงหลีเอ่ยเงียบๆ ในใจ
“ศิษย์พี่สาม หอคอยจิ่วฮวงอยู่ที่ใดหรือ” เจียงหลีจู่ๆ เอ่ยถามขึ้น
คุนอู๋เอ่ย “มันยังเร็วไป หากเจ้าเข้าในอาณาเขตหวัง และขึ้นเป็นหลิงหวังแล้ว ก็ไม่ต้องรีบร้อนไปอาณาเขตใต้การควบคุมของชนกลุ่มอื่น เจ้าต้องรู้ไว้บ้าง สามารถเข้าออกได้อย่าง อิสระมีคนสามกลุ่มที่เป็นแนวกั้น คนที่ฝึกฝนต่ำที่สุดล้วนเป็นหลิงหวัง รอให้เจ้าอยู่ในระดับหวังได้นานหน่อย ค่อยพูดถึงหอคอยจิ่วฮวงกัน”
เจียงหลีพยักหน้า ไม่ได้ถามอีก
นางถามถึงหอคอยจิ่วฮวงจุดประสงค์คือการปรากฏตัวของปีศาจวิหคในดินแดนผนึกมารครานั้น ทำให้นางรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเผ่าปีศาจ
“พวกเขาใกล้จะทำสำเร็จแล้ว หวังว่าเทียนหยาสามารถต่อสู้ได้ สังหารได้อีกสักสองคน พวกเราจัดการข้างหลังก็ง่ายขึ้นแล้ว” คุนอู๋ยิ้มเอ่ย
เจียงหลีดูต่อไป นั่นคงเป็นกลุ่มคนของกลุ่มอำนาจตงฮวง ครานี้เหลือเพียงแค่หลิงหวงสองคนเท่านั้น หลิงหวังทั้งห้า ส่วนหลิงจงทั้งหมดถูกจำกัดหมดแล้ว
เจ็ดคน!
สามสิบคน เหลือเพียงเจ็ดคน สมเป็นพลังการต่อสู้ของเทียนหยา
“เจ้าปีศาจ!”
ข้างล่าง มีเสียงคำรามด้วยความโกรธของหลิงหวงดังขึ้นมา อาณาเขตหวงรอบกายเขากดดันเข้ามาพร้อมทั้งคนอื่น ในขณะเดียวกันก็กดพลังเทียนหยาไว้
ส่วนเทียนหยาที่บาดเจ็บหนัก ยังคงไม่ยอมแพ้ ยังคงดึงดันคำรามเสียงที่น่ากลัวออกมา
หลิงหวงนั้นนำลูกเก็บวิญญาณที่เตรียมไว้ออกมา เล็งไปที่เทียนหยา เอ่ยอย่างดุดันว่า “เจ้าปีศาจ ยังไม่เข้ามาอีก!”
ร่างของเทียนหยาเปล่งประกายแสงสีทองออกมา มันพยายามต่อต้าน กลับไม่สามารถหลุดพ้นโชคชะตาที่กำหนดไว้ได้
ที่แท้ก็เป็น วิญญาณยุทธ์ด้านการต่อสู้!
โฮก!
เทียนหยาเปล่งเสียงคำรามครั้งสุดท้ายออกมา ไม่ยอมถูกดูดวิญญาณเข้าไปในลูกเก็บวิญญาณ
หลิงหวงนั้นปิดลูกเก็บวิญญาณเรียบร้อยจึงยิ้มออกมา
ทันใดนั้น ลูกเก็บวิญญาณในมือของเขาเหมือนกันถูกพลังภายนอกดึงดูดอย่างแรง จึงหลุดออกจากมือของเขาไป ลอยพุ่งออกไปยังที่ห่างไกล ภาพตรงหน้า เกิดขึ้นโดยไม่ทันจะได้ป้องกัน เมื่อค ครู่ที่เสียพลังไปมหาศาล หลายคนเพิ่งจะผ่อนคลายลง จนไม่คิดว่าจะมีคนชิงลงมือเวลานี้
กระทั่งพวกเขารู้สึกตัวขึ้นมา ลูกเก็บวิญญาณที่ใส่เทียนหยาอยู่ ก็ตกลงไปพุ่มไม้ในที่ห่างไกล
แล้วเงาคนสองคนก็กระโดดขึ้นมาจากพุ่มไม้นั้น แล้วจึงหลบหนีไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว