ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 210 เชิญไปร่วมงานเลี้ยงเหล่าเซียน
“ศิษย์น้องเล็ก…” เสียงของซีไหลดังขึ้น
เจียงหลีหันกลับไป มองเห็นเงาคนตรงมาทางนางด้วยความรวดเร็ว ช่างบังเอิญเสียจริง! ดวงตาคู่นั้นของเจียงหลีหรี่ลงเหมือนครุ่นคิดแผนการขึ้นมาได้
“ไป” เจียงหลีหันไปออกคำสั่งกับอัศวินเกราะทอง
ตูม!
อัศวินเกราะทองไร้ซึ่งความลังเลก้าวไปด้านหน้า ร่างกายแข็งแรงกำยำ กระโดดลอยตัวออกมา ยกดาบขึ้นและชี้ไปทางซีไหล
ซีไหลแววตาเป็นประกาย ท่าทีของอัศวินเกราะทองและเจียงหลีที่ยืนยิ้มอยู่ที่เดิมนั้น ทำให้เขาเข้าใจในความคิดของนาง
รอยยิ้มจางๆ แสดงว่าซีไหลนั้นให้ความร่วมมือกับการต่อสู้กับอัศวินเกราะทอง
ความเข้าใจในทักษะการต่อสู้ของซีไหลยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ให้เขามาทดสอบพละกำลังการต่อสู้ของอัศวินเกราะทองเหมาะสมเป็นที่สุด
เจียงหลีเดินไปอีกด้านหนึ่งเพื่อมองทั้งฝ่ายต่อสู้กัน สายตาแสดงออกถึงความสำเร็จไม่หยุด
เงาของซีไหลวูบไหวและหายไปจากตำแหน่งที่เคยยืนอยู่ ขณะที่ดาบขนาดใหญ่ของอัศวินเกราะทองฟันลงมา จึงทำได้เพียงฟันลงมาตรงร่างลวงของเขา
การโจมตีที่สูญเปล่า ทำให้เงาของอัศวินเกราะทองวูบไหวเช่นกันและได้เร่งระดับความเร็วขึ้น
ท่าร่างต่างๆ ที่นำมาใช้ มาจากทักษะการต่อสู้ท่าร่างเทพอำพรางที่เจียงหลีได้รับมาจากหนานอู๋เฮิ่น
เทพอำพรางมีที่มาจากฮวงเสิน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ซีไหลมองเพียงแวบเดียวก็มองได้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
ร่างของเขาทั้งสอง วูบไหวไปมาไม่หยุดเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ เร็วจนถึงขั้นไร้ซึ่งร่องรอย
ทันใดนั้น อัศวินเกราะทองได้หยุดลง
ปัง!
อัศวินเกราะทองขยับไปด้านหน้าอีกครั้งและหยุดยื่นนิ่งไม่เคลื่อนไหว เจียงหลีที่ยืนมองการต่อสู้อยู่อีกด้านหนึ่งหรี่ตาลงและไม่ได้รีบร้อน นางอยากดูว่าจากนี้ไปอัศวินเกราะทองจะ ะทำเช่นไรต่อ
คล้ายกับว่ามันกำลังหลอกล่อให้ศิษย์พี่รองปรากฏตัว ในชั่วเวลาพริบตา เจียงหลีก็รับรู้ถึงแผนการของอัศวินเกราะทอง
เป็นไปอย่างที่คาดคิดไว้ ขณะที่ซีไหลปรากฏตัว อัศวินเกราะทองได้หายตัวไปอีกครั้งและเมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มันก็มาถึงข้างๆ ซีไหลแล้ว ดาบขนาดใหญ่สีทองฟันไปทางซีไหลอย่างรวดเร ร็ว แม่นยำและโหดร้าย
วิธีการใช้ดาบ เจียงหลีเรียนรู้มาจากวิญญาณร้ายที่อยู่ในดินแดนผนึกมาร
ฟันลงไปเพียงครั้งเดียว ระหว่างเขาสองคนก็เสียงระเบิดสนั่นขึ้น เกิดคลื่นแรงสั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ ดาบขนาดใหญ่ที่ฟันไปยังซีไหลกลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้น ร่างกายของซีไหลที่โดนฟันจนระเบิดแยกออกจากกันและจางหายไป
ร่างปลอม เจียงหลีอมยิ้ม แววตายังคงนิ่งเฉยคงเดิม
ร่างของซีไหล ปรากฏอยู่ด้านขวาของอัศวินเกราะทอง
ฟึบ!
พอเขาปรากฏตัว อัศวินเกราะทองโจมตีเขาอีกครั้งหนึ่ง ดาบใหญ่สีทองแวววาว คมมีดนั้นเมื่อฟันลงจะมีแสงสว่างไสว สามารถทะลุทะลวงสรรพสิ่ง และดาบนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าของซีไหลแล้ว
เพียงชั่วพริบตา ก็สามารถฟันซีไหลออกเป็นสองท่อน
แต่ทว่า นิ้วทั้งสองของซีไหลขนาบคมดาบที่พุ่งมาทางเขาได้อย่างอยู่หมัด
เพล้ง!
ซีไหลตะโกนเสียงเบาและกลืนแสงอันแหลมคมที่แตกสลายอย่างสง่าผ่าเผย
หุ่นอัศวินเกราะทองที่ถือดาบอยู่โดนแรงสั่นสะเทือนจนถอยหลังสามก้าว
แต่ทว่า เขากลับไม่ท้อถอย ยังคงยกดาบ ก้าวยาวเพื่อโจมตีซีไหลอีกครั้ง
ปัง!
หมัดของซีไหลต่อยไปที่ร่างกายของอัศวินเกราะทอง แต่มันไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขา มีความงงงวยปรากฏขึ้น แต่จิตวิญญาณแห่งนักสู้กลับแกร่งกล้ามากขึ้น
“การป้องกันทำได้ไม่เลว” ในขณะที่เจียงหลียืนมองการต่อสู้อยู่ ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยชมข้อดีของอัศวินเกราะทอง “แต่ทักษะการต่อสู้ยังด้อยอยู่บ้างต้องเพิ่มเติมอีกนิดและต้องฝึกฝนการ รต่อสู้อีกมาก”
อัศวินเกราะทองและซีไหลปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง ต่างฝ่ายต่างโจมตีกันไปมา
เจียงหลีจ้องมองด้วยความสนอกสนใจเป็นอย่างมากและพึมพำกับตัวเอง “ต้องเพิ่มจำนวนปลุกเสกเพื่อเอาไปไว้ที่จยาเซียน ให้ทำหน้าที่ป้องกันและเป็นคู่ฝึกของลูกศิษย์ เช่นนี้ ในขณะทีข้ าฝึกฝนในฮวงเสินหรือออกไปฝึกต่างสถานที่ก็จะวางใจได้มากขึ้น ในอนาคตยังสามารถปลุกเสกขึ้นมาส่วนหนึ่ง แล้วนำไปที่หนานฮวง ถือว่าเป็นการเพิ่มกำลังการป้องกันของหนานฮวงให้แข็งแกร ร่งขึ้น”
เมื่อปะทะกันซึ่งๆ หน้า ซีไหลรับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของอัศวินเกราะทอง นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ได้เปรียบเลย!
หากวัดกันที่พละกำลังเพียงด้านเดียว ซีไหลยอมรับว่าเขาไม่อาจสู้อัศวินเกราะทองนี้ได้
แต่ทว่า ตัวเขาเองก็ยังไม่ได้แสดงความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา แม้แต่วิญญาณยุทธ์ก็ยังไม่ได้ปลดปล่อย พลังที่เห็นทั้งหมดนี้ล้วนมาจากพละกำลังในร่างกายของเขาเท่านั้น
ฟิ้ว!
อัศวินเกราะทองใช้วิชาดาบอีกครั้ง เงาดาบนับไม่ถ้วนปรากฏด้านซ้ายขวาของซีไหล
แสงสะท้อนของดาบเคลื่อนที่ไปมา แสดงให้เห็นส่วนแหลมคมของอาวุธ
ซีไหลเหลือบตามองไปยังเงาของดาบนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมอยู่รอบตัวของตนคล้ายกับว่ายากที่จะทะลวงให้แตกสลายได้ “ฝีมือในการใช้ดาบยอดเยี่ยม!” เขาเอ่ยชมขึ้นมา
ทันใดนั้น เขาทะลวงและพุ่งออกจากเงาดาบที่ล้อมตัวเขาแล้วออกมาอยู่ด้านนอก บริเวณเสื้อโดนดาบฟันฉีกขาดอยู่หลายส่วน
เมื่อเขาหันหลังกลับ อัศวินเกราะทองก็โจมตีเขาอีกครั้ง
“หยุด” ในที่สุดเจียงหลีก็ส่งเสียง
เมื่ออัศวินเกราะทองได้ยินเสียงจึงหยุดลงและยืนอยู่กับที่ เอามือที่ถือดาบลง แนบไว้ข้างลำตัว
แววตาของซีไหลแสดงออกถึงความชื่นชม มองไปทางหุ่นเชิดที่เจียงหลีปลุกเสกขึ้น แล้วเอ่ยชม “ช่างเป็นวิชาหุ่นเชิดที่งดงามเสียจริง ศิษย์น้องเล็ก เจ้าไปศึกษามาจากที่ใดกัน”
“ได้มาตอนที่ถูกขังอยู่ในดินแดนผนึกมารเป็นเวลาหลายปี” เจียงหลีไม่ได้ปิดบัง แต่ก็ไม่ได้อธิบายอย่างละเอียด
“เช่นนี้นี่เอง” ซีไหลพยักศีรษะ
เจียงหลีเอ่ยถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่รอง ศักยภาพของมันเป็นอย่างไรบ้าง”
ซีไหลครุ่นคิดอย่างจริงใจ แล้วจึงให้คำตอบกับเจียงหลี “หากคู่ต่อสู้เป็นเพียงหลิงหวังธรรมดาที่อยู่ต่ำกว่าขั้นสองลงมา ก็ไม่ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ของมัน”
ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
ใบหน้าของเจียงหลีปรากฎรอยยิ้มอย่างสดใส แสดงออกถึงความพอใจอย่างที่สุด
ผลของการปลุกเสกครั้งแรกดีกว่าที่นางคาดคิดไว้ แน่นอนว่าก่อนที่จะทำสำเร็จเช่นนี้ นางแทบจะใช้วัสดุที่สะสมมาจนหมด สิ่งเดียวที่ทำให้นางรู้สึกเสียดายคือในทุกครั้งที่ต่อสู้ พลัง ของอัศวินเกราะทองจะค่อยๆ ลดลง
“ศิษย์น้องเล็ก ปลุกเสกหุ่นเชิดเหน็ดเหนื่อยหรือไม่” ซีไหลเอ่ยถาม
เจียงหลีตอบตามจริง “หากฝึกจนคุ้นชินแล้ว ก็ไม่น่าจะเหนื่อยมาก แต่ว่าตอนนี้ข้าเพิ่งจะเริ่มคุ้นชิน ดังนั้น เวลาและวัสดุที่สูญเสียไปก็จะมากขึ้น”
“ไม่เป็นไร หากเจ้าว่าง ช่วยเสกให้ข้าตัวหนึ่ง” ซีไหลเอ่ย
เจียงหลีมองไปทางข้าอย่างประหลาดใจ “ศิษย์พี่รองอยากได้หรือ”
ซีไหลพยักหน้า “ข้าพบว่ามันเหมาะสมกับการศึกษาทักษะการต่อสู้ในวันปกติ”
พรวด!
เจียงหลีพยักหน้า กลั้นหัวเราะไม่อยู่
หากหุ่นเชิดไม่มีปัญหาอะไรมากนัก จึงเป็นธรรมดาที่เจียงหลีจะไม่ไปหาเว่ยจี๋ เพราะนางกำลังสนใจมันเป็นอย่างมาก อยากจะกลับไปศึกษาและปลุกเสกมันขึ้นมาอีก
ซีไหลเป็นคนที่พึ่งพาได้เลยที่เดียว เขาให้คนไปไปรวบรวมวัสดุในการปลุกเสกอัศวินเกราะทองมาส่งที่ตำหนักของเจียงหลี
เพียงชั่วพริบตา เวลาได้ล่วงเลยไปสามเดือนแล้ว
ในวันนี้ เจียงหลีที่กำลังเตรียมตัวพักผ่อน ได้ยินเสียงของมู่ชิงเหยียนดังขึ้นมา
มู่ชิงเหยียนแจ้งนางว่างานเลี้ยงเหล่าเซียนจะเริ่มขึ้นแล้ว ในปีนี้ มีกลุ่มอำนาจระดับต่ำหลายกลุ่ม มายั่วยุหลายครั้ง เพื่อหยั่งเชิงจยาเซียน และเกรงว่าพวกนั้นจะลงมือกับจยาเซียน นในงานเลี้ยงเหล่าเซียน จึงหวังว่าประมุขเซียนอย่างนางจะกลับมาช่วยเสริมทัพ
หลังเจียงหลีได้รับสาสน์ที่ส่งมาถึง ไตร่ตรองชั่วครู่ จึงให้คนไปส่งสาสน์สองฉบับแก่วังเทียนอู่กง ในขณะเดียวกัน ก็ติดต่อไปยังพี่ใหญ่ของตน
เวลาที่หลงเหลืออยู่ นางก็ปิดประตูไม่รับแขก แม้นนอกตำหนักของนางจะมีเสียงเคาะดังอยู่บ่อยครั้ง
หลังจากผ่านไปสองเดือน ขณะที่เจียงหลีปรากฏตัว ก็ตรงไปยังห้องกลั่นสุราของเสิ่นฉง นำไหสุราใบนั้นกลับไปด้วย ไม่สนการขัดขืนของเว่ยจี๋
หลังรวมตัวกับเจียงเฮ่า ทั้งสองใช้กระสวยเวลาปรากฏตัวที่จยาเซียน
ในเวลานี้ เจียงหลีสามารถสร้างกระสวยเวลาได้แล้ว จึงทำให้สะดวกสบายขึ้น
“ไม่รู้ว่ากระสวยเวลาลำนี้ จะสามารถพาไปถึงหนานฮวงได้ไหม”
ขณะที่เงามู่ชิงเหยียนปรากฏตัว จู่ๆ เจียงเฮ่าก็เอ่ยขึ้นมา