ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 389 เรียกเจ้าว่าหลิวหลีก็แล้วกัน
ล้อเล่นน่า!
เขาตามหานางอย่างยากลำบากเพื่ออยู่เคียงข้างกายนางตั้งแต่เริ่มต้น จวบจนวันนี้กว่าจะรวมตัวกันได้นั้นไม่ง่ายเลย แล้วเขาจะจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร
ถึงอย่างไรชาตินี้เขาก็เป็นเด็กกำพร้าไม่มีบิดามารดา!
“รีบไปซะ ไม่ต้องตามข้าอีกแล้ว” เจียงหลีเอ่ยเร่งเร้า
แต่ทว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อยกลับดื้อดึงไม่ไปไหน
เจียงหลีถอนหายใจอย่างจนปัญญา “เจ้าดูข้าสิ ข้าพลัดหลงเข้ามาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ ข้าอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอกนะ ข้าต้องหาวิธีออกไปให้ได้ เจ้าเกาะติดข้าแจเยี่ยงนี้ หรือว่าจะรอจากไปพร้อมกับข้า”
เดิมทีเจียงหลีก็ไม่รู้จะพูดเช่นไรอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อเจ้าสัตว์ประหลาดน้อยได้ยินที่นางพูดกลับพยักหน้าหงึกหงักเสียอย่างนั้น
เฮ้อ… เจียงหลีชะงักงัน
นางคิดไม่ถึงเลยว่าการชักนำของนางด้วยความเพียรพยายามจะมีผลลัพธ์เช่นนี้ “เอ่อนั่น…ไม่ใช่…เจ้าติดตามข้าไม่สะดวกหรอกนะ”
สีหน้าของเจียงหลีเหยเกเล็กน้อย
นางมีชีวิตมาสองชาติภพแล้วแต่ไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาก่อน ถ้าเกิดไม่ระวังเผลอทำเจ้าก้อนน่ารักตายคามือล่ะก็จะทำเยี่ยงไรเล่า
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ วิญญาณของเจียงหลีก็ปั่นป่วนแล้วก่อนจะเอ่ยเตือนเจ้าสัตว์น้อยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เพื่อชีวิตน้อยๆ ของเจ้า อย่าตามเกาะแกะข้าอีกจะดีกว่า”
ฟ่อออ!
เมื่อถูกปฏิเสธอีกครั้งเจ้าก้อนก็แยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ ราวกับว่ากำลังข่มขู่เจียงหลี
แต่ลักษณะก้อนขนอ้วนพองของมันที่ทำท่าขู่ดุกลับดูไม่รู้สึกน่ากลัวเลยสักนิด ทั้งยังดูน่ารักน่าหยิกอีกด้วย
“ไม่ต้องมาล่อลวงข้าเลยนะ!” เจียงหลีพยายามหักห้ามใจ แต่ก็อดอุ้มมันขึ้นมาในอ้อมกอดไม่ได้
“ก็ได้ ข้าอยู่ต่ออีกหนึ่งคืนก็ได้ แต่พรุ่งนี้เจ้าต้องไปให้พ้นเลยนะ” เจียงหลีอุ้มเจ้าก้อนลุกขึ้นและแอบยกธงขาวยอมแพ้ในใจ
ถึงอย่างไรวันนี้ก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้วเลี้ยงเจ้าสักวันจะเป็นไรไป
เจียงหลีอุทานในใจ
แม้ว่าคำตอบนี้จะไม่เป็นที่พอใจสำหรับเจ้าสัตว์น้อยนัก แต่เมื่อหลังจากได้ยินนางยอมอ่อนให้แล้วก็สงบลงมาบ้างเช่นกัน
เพียงแต่ในดวงตาเงาใสคู่นั้นกลับปรากฏแสงวาววับที่หาไม่ได้ง่ายๆ
…
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตะวันกำลังจะตกดินลับภูเขาเจียงหลีก็พาเจ้าก้อนกลับมาที่ถ้ำที่นางพักพิงชั่วคราว ระหว่างทางยังเด็ดผลหมากรากไม้ริมทางกลับมาอีกด้วย
นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าก้อนรู้จักผลไม้พวกนี้หรือไม่ เพราะตอนเดินผ่านมาเจ้าก้อนก็ใช้ฟันกัดเสื้อผ้านางกระตุกดึงเพื่อสื่อให้นางเด็ดลงมา
“เอ้า กินซะ” เจียงหลีปูใบตองบนพื้นแล้ววางผลไม้ที่ล้างสะอาดบนนั้นก่อนจะเอ่ยกับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อย
เจ้าก้อนก้มหน้ากินอย่างมีความสุขโดยไม่เกรงใจสักนิด
เมื่อเห็นมันก้มหัวลงและจดจ่ออยู่กับการแทะผลไม้ เมื่อเห็นหางเล็กๆ ของมันส่ายกระดุกกระดิกไปมาข้างหลังโดยไม่รู้ตัวเจียงหลีก็หัวเราะออกมา
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดีของนาง เจ้าก้อนก็เงยหน้าขึ้นมามองเจียงหลีด้วยแววตาสงสัย มุมปากยังมีคราบน้ำผลไม้เปรอะเปื้อนช่างดูน่ารักน่าชังจริงเชียว
“ไม่มีอะไร เจ้ากินของเจ้าเถอะ” เจียงหลีเอ่ยยิ้ม
เช่นนั้นเจ้าก้อนถึงจะก้มหน้าลงไปกินผลไม้ต่อ
เจียงหลีมองท่าทางของมันที่กินอย่างตะกละตะกลามแล้วก็ทำให้รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาบ้างจึงหยิบผลไม้ขึ้นมางับเข้าปากบ้าง
ผลไม้บนเกาะแห่งนี้รสชาติสดชื่นหวานฉ่ำ
เมื่อกัดเข้าไปแล้วนอกจากความสดหวานยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ หลังจากที่กินเข้าไปแล้วก็สามารถฟื้นฟูพลังกายได้อย่างรวดเร็วและพลังเต็มอิ่ม
ระหว่างที่กำลังกินผลไม้เจียงหลีก็พิจารณาถึงสิ่งที่ได้รับในวันนี้ไปด้วย
หากพูดอย่างจริงจังล่ะก็ วันนี้ไม่ได้อะไรกลับมาสักอย่าง
วันนี้นอกจากหลงป่าแล้วยังไม่พบสิ่ง ทั้งยังถูกซัดมาเกยฝั่งบนชายหาดและนางก็เดินเลาะตามริมหาดเป็นเวลานาน
ในท้ายที่สุดนางก็ยังไม่เห็นเงาของหนานอู๋เฮิ่นอยู่ดี จึงสรุปได้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ถูกคลื่นพัดมาบนเกาะแห่งนี้ และใกล้เกาะเล็กๆ แห่งนี้นอกจากทะเลอันกว้างใหญ่แล้วไม่เห็นสิ่งใดอีก นางไม่รู้ว่ามันอยู่ห่างจากซีฮวงแค่ไหนและจากทิศทางใดที่จะออกไปถึงดินแดนตะวันตกซีฮวงได้
ไม่มีเรือ ไม่มีแผนที่เดินทะเลและไร้ซึ่งหินวิญญาณ…
ตอนนี้นางแทบไม่มีอะไรติดตัวนอกจากสิ่งของบางอย่าง สัมภาระทั้งหมดถูกฝังไว้ในทะเลพร้อมกับเรือ
“เฮ้อ ข้าชักคิดถึงบัลลังก์จักรพรรดินีที่ดินแดนหนานฮวงเสียแล้วสิ นึกไม่ถึงว่าจะมาตกระกำลำบากในที่เช่นนี้” เจียงหลีโยนเม็ดผลไม้ที่กินหมดแล้วออกไปนอกถ้ำพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อเจ้าก้อนได้ยินคำพูดของนางก็ปราดตามองแล้วก้มหน้าลงไปกินต่อ
วันนี้การสำรวจยังไม่เสร็จสิ้น พรุ่งนี้ค่อยสำรวจต่อก็ได้ หากยังไม่เจออะไรจริงๆ ล่ะก็คงทำได้แค่ใช้วัสดุที่พบเจอสร้างแพไม้ไผ่และลองเสี่ยงโชคดูก็แล้วกัน ดวงตาของเจียงหลีจมดิ่งและวางแผนในใจ
แต่เมื่อเป็นเช่นนี้นางอาจจะต้องอยู่บนเกาะเป็นเวลาหลายวัน
…
กองไฟลุกโชติช่วงในตอนกลางคืน
หลังจากฝึกฝนเสร็จเจียงหลีก็พบว่าเจ้าก้อนที่กินดื่มจนอิ่มพุงกาง ไม่รู้ว่าปีนขึ้นไปนอนขดตัวบนตักของนางเข้าสู่ห้วงนิทราตั้งแต่เมื่อไหร่
เจ้าก้อนขนตัวเล็กๆ ทำให้เจียงหลีรู้สึกชอบใจลึกๆ เพียงแต่นางก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน เมื่อก่อนนางไม่เคยชอบสัตว์ที่มีขนน่ารักๆ เยี่ยงนี้เลยสักนิด แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อได้สัมผัสเข้าใกล้มันจึงทำให้นางรู้สึกรักจนไม่อยากวางลงเลยล่ะ
“เจ้าตัวเล็ก นี่เจ้ากอดข้าเองนะ เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจเจ้าแล้ว” นางค่อยๆ กอดเจ้าก้อนที่หลับใหลเข้ามาในอ้อมกอดของนาง
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันทำให้เจ้าก้อนขยับไปมาในอ้อมกอดของนาง
เจียงหลีรีบเอานิ้วมือลูบขนของมันเบาๆ แล้วกระซิบข้างหูมันว่า “เด็กดี นอนซะนะ มีข้าอยู่นี่ เจ้าไม่ต้องกลัว”
ดูเหมือนว่าหลังจากได้ยินเสียงของนางสัตว์ร้ายตัวน้อยก็นิ่งลงมาก
เจียงหลีกอดเจ้าก้อนแล้วค่อยๆ ปิดเปลือกตา
ก่อนที่นางจะรู้ตัว นางฝันอีกครั้งโดยยังคงฝันถึงคนที่นางคิดถึงมากที่สุดและยังคงผูกพันอยู่ในความฝันของนาง เมื่อนางขึ้นมาก็ตระหนักว่าฉากที่เหมือนจริงยังคงเป็นเพียงแค่ความฝันของนาง
เช้าวันใหม่ เจียงหลีทำการสำรวจเกาะเล็กนี่อีกครั้ง
เมื่อใกล้คล้อยบ่าย นางก็ไล่เจ้าก้อนไปอีก คราวนี้เจ้าก้อนไม่ดื้ออีก เพียงแต่มองนางครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังเข้าไปในโพรงหญ้า
“…” เจียงหลีชะงักค้างมองเงาหลังของมันที่หายไป ก่อนที่นางจะตะโกนออกไป “เจ้าตัวเล็กนี่ใจดำจริงๆ ให้ข้าเลี้ยงดูตั้งสองวัน เมื่อวานยังไม่ยอมไป พอมาวันนี้กลับยอมจากไปง่ายๆ เสียอย่างนั้น”
เมื่อพูดจบ นางก็หันหลังเดินไปอีกทางอย่างสง่าผ่าเผย
ค่ำคืนนี้นางนอนไม่หลับกระสับกระส่ายแล้วก็ไม่ฝันอีกแต่กลับนอนหลับไม่ลง เมื่อนางลืมตาขึ้นในเวลารุ่งสาง เมื่อมองปากถ้ำที่เต็มไปด้วยแสงแดดก็รู้สึกใจหาย
เจียงหลีฝืนตื่นขึ้นมาแล้วเดินออกไปนอกถ้ำ เมื่อเจ้าก้อนขนที่เฝ้าอยู่นอกถ้ำก็ถึงกับผงะ
“เจ้ายังไม่ไปอีกหรือ” นางนั่งยองๆ หน้าเจ้าสัตว์ร้ายตัวน้อยที่ย้อนกลับมาด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้เพราะเหตุใดนางถึงดีใจมากที่เจ้าก้อนขนมาปรากฏตัวอีกครั้ง
ราวกับว่าส่วนที่ขาดหายในใจกลับคืนมา
“เจ้าจะตามติดข้าไปใช่หรือไม่” เจียงหลียิ้มตาหยีแล้วอุ้มมันลุกขึ้นยืน
ด้วยการกระทำเยี่ยงนี้จึงทำให้อุ้งเท้าหน้าขนยาวสีชมพูและอ่อนโยนของเจ้าก้อนขนสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์และภูเขาอันน่าภาคภูมิใจของนางพอดิบพอดี
สัมผัสใต้กรงเล็บของมันทำให้เจ้าสัตว์ร้ายตัวน้อยตกใจและไม่ได้ยินว่าเจียงหลีกำลังพูดสิ่งใดอยู่
“….ในเมื่อเจ้ายืนยันว่าจะติดตามข้า หากพ่อแม่เจ้าจะมาเอาเจ้าคืนไปข้าไม่คืนให้หรอกนะ อืม…ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีกว่า ข้าเรียกเจ้าว่า…หลิวหลีก็แล้วกัน”